วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 13:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 22:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

พระเทวทัตเสมอกันกับพระโพธิสัตว์ ??
(มิลินทปัญหา)


ถามถึงความไม่เสมอกันและไม่เสมอกันแห่งกุศลและอกุศล

พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ข้าแต่พระนาคเสน วิบากของบุคคลทั้งสอง คือผู้ทำกุศลกับผู้อกุศล มีผลเสมอกันหรือต่างกันอย่างไร?”

พระนาคเสนตอบว่า “ขอถวายพระพร ต่างกัน คือกุศลมีสุขเป็นผล ทำให้ไปเกิดในสวรรค์ อกุศลมีทุกข์เป็นผล ทำให้ไปเกิดในนรก”

พระเจ้ามิลินท์จึงตรัสว่าต่อไปว่า “ข้าแต่พระนาคเสน มีคำกล่าวไว้ว่า พระเทวทัต มีแต่ดำอย่างเดียว ประกอบด้วยความดำอย่างเดียว ส่วน พระโพธิสัตว์ มีแต่ขาวอย่างเดียว ประกอบด้วยของขาวอย่างเดียว


แต่มีกล่าวไว้อีกว่า พระเทวทัตเสมอกันกับพระโพธิสัตว์ ด้วยยศและพรรคพวกในชาตินั้นๆ ก็ยิ่งกว่าก็มี อย่างเช่นคราวหนึ่ง พระเทวทัตได้เกิดเป็นบุตรปุโรหิตของพระเจ้าพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เกิดในตระกูลเทหยากเยื่อ แต่เป็นผู้มีวิชา ร่ายวิชาให้เกิดผลมะม่วงได้นอกฤดูกาลเป็นอันว่า คราวนั้นพระโพธิสัตว์ต่ำกว่าพระเทวทัตด้วยชาติตระกูล

ในคราวหนึ่ง พระเทวทัตเกิดเป็นพระเจ้าแผ่นดิน พระโพธิสัตว์เกิดเป็นช้างของพระเจ้าแผ่นดินองค์นั้น อีกเรื่องหนึ่งพระเทวทัตเกิดเป็นมนุษย์ พระโพธิสัตว์เกิดเป็นวานร อีกเรื่อหนึ่ง พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาช่างฉัททันต์ พระเทวทัติ เกิดเป็นนายพรานฆ่าพญาช้างฉัททันต์นั้นเสีย

อีกเรื่องหนึ่ง พระเทวทัตเกิดเป็นพรานป่า พระโพธิสัตว์เกิดเป็นนกกระทา อีกเรื่องหนึ่งพระเทวทัตเกิดเป็น “พระเจ้ากาสี” ที่พันธุมดีนคร พระโพธิสัตว์เกิดเป็น “ขันติวาทีฤาษี” ถูกพระเจ้ากาสีให้ตัดมือตัดเท้าเสีย เรื่องเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า พระเทวทัตยิ่งกว่าพระโพธิสัตว์ด้วยชาติ ตระกูล ยศ ศักดิ์ บริวารก็มี และยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น

เรื่องพระเทวทัตเกิดเป็นชีเปลือย ชื่อว่า โกรัมภิกะ” พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญานาค ชื่อว่า ปันทรกะ อีกคราวหนึ่ง พระเทวทัตเกิดเป็น ชฏิลดาบท พระโพธิสัตว์เกิดเป็นสุกรใหญ่ อีกชาติหนึ่งพระเทวทัตเกิดเป็นพระราชา ผู้ทรงพระนามว่า อุปริราช” ผู้เที่ยวไปในอากาศได้ พระโพธิสัตว์เกิดเป็น “กบิลพราหมณ์ราชครู”

อีกชาติหนึ่ง พระเทวทัตเกิดเป็นมนุษย์ชื่อว่า “สามะ” พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาเนื้อชื่อ “รุรุ” อีกชาติหนึ่ง พระเทวทัตเกิดเป็นนายพราน ชื่อว่า “สุสามะ” พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาช่างเผือก ถูกพระเทวทัตตามไปเลื่อยงาถึง ๗ ครั้ง

อีกชาติหนึ่ง พระเทวทัตเกิดเป็นพญาสุนัขจิ้งจอง เป็นใหญ่กว่าพระราชาทั้งหลายในชมพูทวีป ส่วนพระโพธิสัตว์เกิดเป็น “วิธุรบัณฑิต” เรื่องเหล่านี้ทั้งสิ้นก็ชี้ให้เห็นว่าพระเทวทัตยิ่งกว่าชาติ ตระกูล ยศ ศักดิ์ บริาร ที่เสมอกันก็มี คือ ชาติหนึ่งพระเทวทัต เกิดเป็นพญาช้างฆ่าลูกในไส้ พระโพธิสัตว์ก็เกิดเป็นพญาช้างอีกฝูงหนึ่งเหมือนกัน คราวหนึ่งพระเทวทัตเกิดเป็นยักษ์ ชื่อว่า “อธรรม” พระโพธิสัตว์ก็เกิดเป็นยักษ์เหมือนกัน ชื่อว่า “สุธรรม”

คราวหนึ่งพระเทวทัตเกิดเป็นนายเรือเป็นใหญ่กว่าตระกูล ๕๐๐ พระโพธิสัตว์ก็เกิดเป็นนายเรือ เป็นใหญ่กว่าตระกูล ๕๐๐ เหมือนกัน อีกคราวหนึ่งพระเทวทัตเกิดเป็นพญาเนื้อชื่อว่า “สาขะ” พระโพธิสัตว์ก็เกิดเป็นพญาเนื้อเหมือนกัน ชื่อว่า “นิโครธะ”

ที่ยิ่งหย่อนกว่ากันก็มี เช่น คราวหนึ่งพระเทวทัตเกิดเป็นปุโรหิต ชื่อว่า กัณฑหาลพราหมณ์” พระโพธิสัตส์เกิดเป็นพระรากุมารชื่อว่า “พระจันทกุมาร” อีกชาติหนึ่ง พระเทวทัตเกิดเป็นหัวหน้าพ่อค้าเกวียน ๕๐๐ พระโพธิสัตว์ก็เกิดเป็นหัวหน้าพ่อค้าเกวียน ๕๐๐ เหมือนกัน ชาติหนึ่งพระเทวทัตเกิดเป็น “อลาตเสนาบดี” พระโพธิสัตว์เกิดเป็น “นารทพรหม”

อีกคราวหนึ่ง พระเทวทัตเกิดเป็นราชากาสี พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพระราชโอรสทรงพระนามว่า “มหาปทุมกุมาร” อีกชาติหนึ่ง พระเทวทัตเกิดเป็นพระราชามหาตปาตะ พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพระราชโอรส ถูกพระราชบิดาให้ตัดมือตัด เท้า และศรีษะเสีย

มาถึงชาติปัจจุบันนี้ บุคคลทั้งสองนั้นก็ได้มาเกิดในตระกูลศากยราชเหมือนกัน แต่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า พระเทวทัตก็ได้ออกบวชสำเร็จฌานโลกีย์

จึงสงสัยว่า ข้อที่ว่า “กุศลให้ผลเป็นสุข ทำให้เกิดในสวรรค์ อกุศลให้ผลเป็นทุกข์ทำให้เกิดในนรก กุศลและอกุศลมีผลไม่เสมอกัน”

แต่เหตุใดบางชาติพระเทวทัตก็ยิ่งกว่า บางชาติก็เสมอกัน บางชาติก็ต่ำกว่า จะว่ามีผลไม่เสมอกันอย่างไร จะว่าต่างกันอย่างไร ถ้าดำกับขาวมีคติเสมอกัน กุศลกับอกุศลก็ต้องมีคติเสมอกัน พระคุณเจ้าข้า”


พระนาคเสนตอบว่า “ขอถวายพระพร กุศลกับอกุศลไม่ใช่มีผลเสมอกัน ไม่ใช่ว่าพระเทวทัตจะทำผิดต่อคนทั้งหลายเสมอไป ส่วนพระโพธิสัตว์ก็ไม่ใช่ว่า ไม่ได้ทำความผิดเลย ผู้ใดทำผิดต่อพระโพธิสัตว์ ผู้นั้นก็ได้รับผลร้าย เวลาพระเทวทัตได้เกิดเป็นพระราชา ก็ได้ปกครองบ้านเมืองดี มีการให้สร้างสะพาน สร้างศาลาและสรงน้ำก็มี ให้ทานแก่สมณพราหมณ์ คนกำพร้า คนขอทานก็มี แล้วเขาก็ได้รับสมบัติในชาตินั้น ด้วยผลแห่งบุญอันนั้น ใครไม่อาจกล่าวได้ว่า พระเทวทัตได้เสวยสมบัติด้วยไม่ได้ให้ทานรักษาศีล ฟังธรรม อบรมจิตใจเลย

ข้อที่มหาบพิตรตรัสว่า พระเทวทัตกับพระโพธิสัตว์พบกันเสมอกันนั้นไม่จริง ตั้งร้อยชาติ พันชาติ แสนชาติก็ไม่พบกัน นานจึงจะได้พบกันสักชาติหนึ่ง เหมือนกับเต่าตาบอดอยู่ในมหาสมุทร โผล่ขึ้นมาตั้งแสนครั้ง ก็ไม่พบขอนไม้สักทีก็มี หรือเปรียบเหมือนกับการที่ จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นของได้แสนยากฉะนั้น

พระสาริบุตรเถระได้เกี่ยวเนื่องกับพระโพธิสัตว์ คือเป็นบิดา เป็นปู่ เป็นอาว์ เป็นพี่ชาย น้องชาย เป็นบุตร เป็นหลาน เป็นมิตรสหายกันกับพระโพธิสัตว์ก็มี

แต่ว่าหลายแสนชาติ กว่าจะได้เกี่ยวเนื่องกันสักชาติกนึ่ง ด้วยเหตุว่า สัตว์ทั้งหลายในวัฏสงสาร ที่ถูกกระแสสงสารพัดไป ย่อมพบกับสิ่งไม่เป็นที่รักก็มี พบกับสิ่งอันเป็นที่รักก็มี เหมือนกับน้ำที่ไหลบ่าไป ย่อมพบของสอาดก็มี ไม่สอาดก็มี ดีก็มี ไม่ดีก็มี ฉะนั้น

พระเทวทัตคราวเกิดเป็น “อธรรมยักษ์” ตัวเองก็ไม่ได้ตั้งอยู่ในธรรม ยังแนะนำผู้อื่นไม่ให้ตั้งอยู่ในธรรมอีก แล้วไปตกนรกใหญ่อยู่ถึง ๕๗ โกฏิ ๖ ล้านปี

ส่วนพระโพธิสัตว์ เมื่อคราวเกิดเป็น “สุธรรมยักษ์” ตัวเองอยู่ในธรรม ยังชักนำบุคคลเหล่าอื่นให้ตั้งอยู่ในธรรมอีก ชาตินั้นได้ขึ้นไปเสวยทิพย์สมบัติอยู่บนสวรรค์ตลอก ๕๗ โกฏิ ๖ ล้านปี

มาชาติปัจจุบันนี้ พระเทวัตก็ไม่เลื่อมใสต่อพระผู้เป็นเจ้า จนถึงกับทำสังฆเภท แล้วจมลงไปในพื้นดิน ส่วนสมเด็จพระชินสีห์ตรัสรู้ธรรมทั้งปวง แล้วดับกิเลสและกองทุกข์ทั้งปวง จึงควรเห็นว่า กุศลกับอกุศลให้ผลต่างกันมาก ขอถวายพระพร”

“สาธุ...พระนาคเสน พระผู้เป็นเจ้าแก้ปัญหาข้อนี้ถูกต้องดีแล้ว”

*-* อธิบาย *-*

ฏีกามิลินท์ ท่านอธิบายข้อที่กล่าวว่า “พระเทวทัตเกิดเป็นพญาสุนัขจิ้งจอก เป็นใหญ่กว่าพระราชาทั้งหลายในชมพูทวีปนั้น” มีแจ้งอยู่ใน สัพพทาฐิกชาดก คือในชาดกนั้นว่า

มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง ได้ยินพราหมณ์คนหนึ่ง ไปนั่งร่ายมนต์ปฐวชัยอยู่ในป่าช้าแห่งหนึ่ง ก็จำเอามนต์นั้นได้ เมื่อเข้าไปร่ายมนต์ในป่าหิมพานต์ สัตว์ทั้งหลายมีพยาราชสีห็เป็นต้น ก็เกรงกลัวอำนาจ ยอมมอบตัวเป็นทาสทั้งสิ้น ตั้งให้สุนัขจิ้งจอกตัวนั้นเป็นพญา เรียกว่า “พญาทาฐิกะ” แปลว่า ผู้เป็นใหญ่กว่าสัตว์มีเขี้ยวมีเล็บทั้งปวง

แล้วพญาทาฐิกะนั้น ก็มีใจกำเริบฮึกเหิมขึ้นนั่งบนหลังพญาราชสีห์กรีฑาทัพสัตว์ป่า เข้าไปล้อมเมื่องพาราณสีไว้ คราวนั้น พระโพธิสัตว์เกิดเป็นราชครูของพระเจ้าพาราณสี มีชื่อว่า วิธุรบัณฑิต ได้ออกความคิดฆ่าพญาสุนัขจิ้งจอกนั้นเสียทั้งบริวาร

เมื่อรู้ว่าพญาสุนัขจิ้งจอกยกกองทัพมาล้อมเมือง จะให้ราชสีห์แผดเสียงให้คนตายหมดทั้งเมือง จึงขอผลัดกับพญาสุนัขจิ้งจอกไว้ ๗ วัน หลังจากนั้นพระโพธิสัตว์จึงประกาศให้ให้ชาวเมืองอุดหูด้วยสำลี เมื่อพญาราชสีแผดเสียงแล้ว พญาสุนัขจิ้งจอกกับบริวาร ซึ่งอยู่ในที่มีประมาณ ๓ โยชน์ ก็มีอันแก้วหูแตกตายสิ้น ดังนี้

ในชาดกไม่ได้กล่าวว่า “พญาสุนัขจิ้งจอกเป็นใหญ่กว่าพระราชาในชมพูทวีปเลย” แต่ในมิลินทปัญหาว่า “พญาสุนัขจิ้งจอกกระทำพระราชาทั้งหลายในชมพูทวีปทั้งสิ้น ให้ยอมเป็นบริวารของตน” เป็นอันผิดจากชาดกไปฉะนั้น ควรถือชาดกเป็นใหญ่ เพราะมีมาก่อนมิลินทปัญหา


*-* เพิ่มเติมจากมิลินทปัญหา *-*

เมื่อพระเทวทัตได้บรรพชาแล้ว กรรมของพระเทวทัตก็จักมีที่สิ้นสุด ในเวลาที่พระเทวทัตจะถึงมรณะ ก็ได้เปล่งวาจานับถือพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งด้วยคำว่า

“ข้าพเจ้าขอนับถือพระพุทธเจ้า ผู้เป็นบุคคลอันล่ำเลิศ ผู้เป็นวิสุทธิเทยยิ่งกว่าเทพยดาทั้งหลาย ผู้ฝึกฝนบุคคลที่ควรฝึกฝน ผู้มีพระจักษุรอบพระองค์ ผู้มีลักษณะแห่งบุญอันคุณด้วย ๑๐๐ ด้วยกระดูกของข้าพระเจ้า ที่ยังมีลมหายใจอยู่อีก” ดังนี้

ดัวยอานิสงส์เพียงเท่านี้

“ขอถวายพระพร กัปที่ยังเหลืออยู่นี้ แบ่งออกเป็น ๖ ส่วน พระเทวทัตได้ทำสังฆเภทในส่วนแรก จักไปตกนรกอยู่ตลอด ๕ ส่วน พ้นจากนรกแล้ว จักได้สำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า “อัฏฐิสสระ”

:b8: :b8: :b8:


:b39: พระยามิลินท์ กษัตริย์กรีกผู้นับถือพระพุทธศาสนา
:: ศาสตราจารย์พิเศษ เสฐียรพงษ์ วรรณปก

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=71&t=50325

:b50: การทำบาปของผู้ที่รู้และไม่รู้ (มิลินทปัญหา)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14385

:b50: กำลังแห่งบุญและบาป (มิลินทปัญหา)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14401

:b50: เรื่องสภาวะแห่งนิพพาน (มิลินทปัญหา)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14582

:b50: ถามเหตุไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นพร้อมกัน ๒ องค์ (มิลินทปัญหา)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=28346

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2009, 12:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


พระเทวทัต มีศักดิ์ เป็น พี่ชาย ของ เจ้าชาย สิทธัตถะ พฤติกรรมของพระเทวทัต ตามตำนาน หรือตามประวัติ จึงกลายเป็น คำคม หรือคำที่โบราณ กล่าวกันไว้ว่า

"พี่ ไม่ฆ่า น้อง" หรือ "พี่ ฆ่าน้องไม่ได้" แต่ "น้องมันฆ่าพี่ได้"

พระเทวทัต จะดำ หรือ ขาว ก็ยากที่เดา เอาว่า ตามประวัติ พระเทวทัต มักคัดค้าน และทำลายพระพุทธองค์ ก็แล้วกันนะขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2009, 14:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ เขียน:
พระเทวทัต มีศักดิ์ เป็น พี่ชาย ของ เจ้าชาย สิทธัตถะ พฤติกรรมของพระเทวทัต ตามตำนาน หรือตามประวัติ จึงกลายเป็น คำคม หรือคำที่โบราณ กล่าวกันไว้ว่า

"พี่ ไม่ฆ่า น้อง" หรือ "พี่ ฆ่าน้องไม่ได้" แต่ "น้องมันฆ่าพี่ได้"

พระเทวทัต จะดำ หรือ ขาว ก็ยากที่เดา เอาว่า ตามประวัติ พระเทวทัต มักคัดค้าน และทำลายพระพุทธองค์ ก็แล้วกันนะขอรับ


อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2009, 17:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ธ.ค. 2009, 16:48
โพสต์: 5

อายุ: 11

 ข้อมูลส่วนตัว


จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ เขียน:
พระเทวทัต มีศักดิ์ เป็น พี่ชาย ของ เจ้าชาย สิทธัตถะ พฤติกรรมของพระเทวทัต ตามตำนาน หรือตามประวัติ จึงกลายเป็น คำคม หรือคำที่โบราณ กล่าวกันไว้ว่า

"พี่ ไม่ฆ่า น้อง" หรือ "พี่ ฆ่าน้องไม่ได้" แต่ "น้องมันฆ่าพี่ได้"

พระเทวทัต จะดำ หรือ ขาว ก็ยากที่เดา เอาว่า ตามประวัติ พระเทวทัต มักคัดค้าน และทำลายพระพุทธองค์ ก็แล้วกันนะขอรับ


อนุโมทนา cool ด้วยครับ

.....................................................
ทำดีได้ดีเสมอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2009, 18:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่มีอะไรเท่ากันค่ะ +5 กับ -5 ต่างกัน ยิ่งต่างภาพต่างชั้นยิ่งต่าง

เทวทัต ไม่ใช่แม้แต่จะเรียกได้ว่าภิกษุ เลวที่สุดของความเป็นคน สัตว์นรกยังสูงกว่าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2015, 23:16 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2876


 ข้อมูลส่วนตัว


Sathu ka :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2016, 12:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาสาธุค่ะ ช่างดีแท้ Kiss :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร