วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 15:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 108 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2009, 11:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จำปี-จำปา

จำปี-จำปา
ถิ่นกำเนิด ประเทศอินโดนีเซีย
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด, ตอนกิ่ง
ลักษณะที่แตกต่างระหว่าง จำปี กับ จำปา คือ จำปี จะมีสีขาว กลิ่นหอม เย็น แต่จำปา นั้นมีสีเหลืองและกลิ่นหอมได้ไม่เท่าจำปี
จำปี
รูปภาพ
จำปีเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นใหญ่สูงกว่าจำปาเล็กน้อย ต้นจะแตกพุ่มยอดใบงามกว่าจำปา ใบนั้นเป็นใบเดี่ยว ปลายใบจะแหลม โคนใบมน ดอกเป็นดอกเดี่ยว มีสีขาวคล้ายๆ กับสีของงาช้าง จะมีกลีบอยู่ 8-10 กลีบ ซ้อนกัน กลีบดอกจะเรียวกว่าจำปา ยาวประมาณ 2 นิ้ว ตรงกลางดอกจะมีเกสรเป็นแท่งกลมเล็ก ยอดแหลมคล้ายผักข้าวโพดเล็กๆ ปลูกประมาณ 3 ปี จำปีถึงจะให้ดอก สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี
จำปีเป็นไม้กลางแจ้งต้องการแสงแดดจัด ขึ้นได้ในดินทุกชนิด สามารถปลูกในดินค่อนข้างเหลวได้
แต่ที่ดีที่สุดควรปลูกในดินร่วนซุยมีธาตุอาหารเพียงพอ ต้องการการรดน้ำบ่อยๆ

จำปา
รูปภาพ
จำปา
ชื่อสามัญ : Champaka ชื่อพฤกษศาสตร์ : Michelia champaca Linn.
วงศ์:MAGNOLIACEAE ถิ่นกำเนิด : ประเทศอินเดีย
จำปาเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ควรปลูกในที่ร่มบังแดด ใบมีขนาดใหญ่ยาว กว้าง 5 นิ้ว ยาว 8-10 นิ้ว ดอกมีขนาดใหญ่กว่าดอกจำปี เป็นดอกเดี่ยว สีเหลืองอมส้ม ดอกซ้อนสองชั้น กลีบแข็ง ยาว ดอกมีกลิ่นหอมแต่น้อยกว่าจำปี ดอกมักบาน 02.00-03.00 น. การขยายพันธุ์ โดยการตอนกิ่งหรือไหล

จำปีป่า - อินทิวา - แก้วมหาวัน
รูปภาพ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Magnolia floribunda (Finet & gagnep.) Figlar. วงศ์ : MAGNOLIACEAE
จำปีป่า - อินทิวา - แก้วมหาวัน
ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 8-10 เมตรชอบขึ้นในพื้นที่สูงอากาศหนาวเย็น แตกกิ่งจำนวนมาก
เปลือกต้นค่อนข้างนิ่มมีกลิ่นฉุน ใบเดี่ยวผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านล่างมีนวลสีขาวฉาบอยู่
ออกดอกเดี่ยวตามซอกใบ กาบหุ้มดอกมีขนสีทองคลุมอยู่หนาแน่น มีกลิ่นหอมเย็น
ออกดอกประมาณ เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ส่งกลิ่นหอมช่วงพลบค่ำที่เริ่มแย้มจนถึงช่วงกลางวันจากนั้นกลีบดอกจะร่วงการ ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง ชอบอากาศเย็นทนต่ออากาศหนาวที่พัดรุนแรงได้ดี

เอื้องจำปาน่าน...กล้วยไม้พันธุ์ไทยแท้ๆ
รูปภาพ
Dendrobium sulcatum Lindl.
กล้วยไม้ไทยพันธุ์แท้ที่พบได้น้อยมากๆ ในป่าดิบ แถวๆ จังหวัดน่าน
ด้วยลำลูกกล้วยที่เป็นเอกลักษณ์ ดอกสีเหลืองจำปา มีสัแดงเรื่อแต้มที่กลีบปาก
ออกเป็นช่โค้งห้อยลง ช่อหนึ่งราว 10-15 ดอก ให้ดอกปีละครั้งครับ
ช่วงราวเดือน ก.พ.-มี.ค. ....ที่สำคัญเป็นกล้วยไม้ที่ดอกมีกลิ่นหอม

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


แก้ไขล่าสุดโดย ป่าอ้อ เมื่อ 22 ต.ค. 2009, 13:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2009, 13:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จำปูน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Anaxagorea Javanica Blume
วงศ์ : ANNONACEAE
จำปูน เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดพังงา จำปูนเป็นพันธุ์ไม้วงศ์เดียวกับน้อยหน่าและนมแมว
ชอบขึ้นในที่ร่ม ที่บ้านปลูกไว้ใต้ต้นทุเรียน ได้แดดร่มรำไร พอหน้าฝนก็เริ่มเห็นดอกค่ะ
ดอกเล็กน่ารักแถมมีกลิ่นหอมด้วยน้า
รูปภาพ
จำปูน เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูงประมาณ 10-15 เมตรมักพบอยู่ในเทือกเขาบรรทัด ภาคใต้ของไทย
เป็นไม้ไม่ผลัดใบกิ่งก้านเกลี้ยงลำต้นเปลาตรง เปลือกเรียบสีเทาดำมีกลิ่นฉุน ลำต้นและกิ่งเหนียวมาก
ดอกออกเป็นดอกเดี่ยวมักออกตามยอดหรือโคนก้านใบ ดอกสีขาวเป็นมันคล้ายกระเบื้องเคลือบ มี 3 กลีบลักษณะแข็งๆ เมื่อบานเต็มที่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 2 เซนติเมตร มีกลิ่นหอมแรงและส่งกลิ่นหอมไกล เมื่ออกดอกจะหอมกรุ่นกลิ่นตลบในเวลากลางวัน ออกดอกตลอดปี มีดอกดกในช่วงฤดูฝน
ดอกบานวันเดียวแล้วร่วง ต้นที่อยู่ในที่ร่มและชื้นพอเหมาะจะออกดอกดก
ขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด และตอนกิ่ง ไม้ชนิดนี้ปักชำไม่ขึ้น เพาะเมล็ดดีที่สุด
เพราะความที่หอมมากใครก็อยากปลูก แต่จะปลูกให้งามค่อนข้างยากยิ่งให้ออกดอกดกอย่างใจแล้ว
บางคนสิ้นหวังไปเลย เมื่อก่อนประมาณเกือบสิบปีมาแล้วมีจำปูนขุดล้อม กอใหญ่ๆนำมาขายในตลาดต้นไม้
จตุจักรมากอยู่ขายกอละเป็นเรือนหมื่นก็มี ดอกติดมาเต็ม แต่ก็จะอยู่ได้ระยะหนึ่ง เพราะไม่สามารถปรับสภาพอากาศให้ปริมาณแสงแดดและความชื้น

จำปูนช้าง..หรือยี่หุบ
รูปภาพ
ชื่อสามัญ : Magnolita ชื่อพื้นเมือง : จอมปูน, จำปูนช้าง, ยี่หุบ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Talauma candollii Blume ชื่อวงศ์ : Magnoliaceae
ถิ่นกำเนิด : เอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ประโยชน์ : ใช้แต่งกลิ่น สกัดน้ำมันหอมระเหย
ลักษณะทั่วไป : ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็กสูง 3-8 เมตร ลำต้นมักแตกกิ่งต่ำ
ฤดูการออกดอก : ออกดอกตลอดปี มีกลิ่นหอมดอกหอม : ตอนเย็น - มืด
การขยายพันธุ์ : ขยาย พันธุ์โดยเพาะเมล็ด ตอนกิ่งและทาบกิ่ง การตอนกิ่งจะได้รับความนิยมมาก
เนื่องจากออกรากจำนวนมาก กิ่งตอนแข็งแรงและปลูกเป็นไม้กระถางได้ดี ชอบดินร่วนระบายน้ำดี
มีอินทรียวัตถุสูง ชอบอยู่ในที่ร่มรำไรและดินมีความชื้นสูง
ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบรูปรี แกมขอบขนาน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ใบบางและไม่มีขน
แผ่นใบเป็นคลื่นหรือลอน เส้นใบ 10-12 คู่
ดอกมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 1-4 เซนติเมตร และมีสีตั้งแต่ขาวจนถึงเหลืองครีม พันธุ์ที่ปลูกกันอยู่โดยทั่วไปเป็นพันธุ์ที่คัดเลือกแล้วว่ามีดอกดก ออกดอกตลอดปี ดอกใหญ่และมีกลิ่นหอมมาก ผล กลุ่มผนังเชื่อติดกัน รูปรี มีผลย่อยเรียงอัดติดกันอยู่บนแกนกลางผล 6-15 ผล ผลย่อยมีหนามแข็งเป็นจะงอย ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่สีดำ ผลแก่แล้วแตก มีผลแก่ตลอดปี

มณฑา .. จอมจำปา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Talauma candollei Bl.
วงศ์ : MAGNOLIACEAE
รูปภาพ
มณฑาเป็นไม้ดอกที่มีความหลากหลายทางพันธุกรรมสูงมาก
ดอกเป็น ดอกเดี่ยวขนาดใหญ่สีเหลืองหรือสีเหลืองครีม ออกที่ปลายกิ่งมีกลีบเลี้ยง 3 กลีบ
สีเขียวอ่อนบานและกางคลุมอยู่ ดอกรูปรี ปลายกลีบค่อนข้างแหลม ดอกห้อยลง กลีบดอก 6 กลีบ
ดอกบานเส้นผ่าศูนย์กลาง 3-4 เซนติเมตร ยาว 3-5 เซนติเมตร ส่งกลิ่นหอมตั้งแต่ช่วงเย็น
และมีกลิ่นหอมแรงในตอนเช้าตรู่ กลีบดอกชั้นนอกบานจะคลี่ห่อกันอยู่ แล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล
และร่วงไปทั้งชุด ออกดอกตลอดปี

ดอกนมแมว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rauwenhoffia siamensis Scheff.
วงศ์ : ANNONACEAE
ถิ่นเดิม : ภาคใต้และภาคกลางของไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
รูปภาพ
นมแมวเป็นไม้เถาแต่ไม่ค่อยเลื้อยเหมือนไม้เถาอย่างอื่น พบตามชายป่า ดินแล้งและป่าผลัดใบ
กิ่งมักพันกันเองจนทำให้แลเห็นเป็นต้นไม้พุ่มขนาดไม่สูงเท่าใดนัก มีใบยาวรีคล้ายใบมะดัน
ด้านบนมีสีเขียวเข้ม ใบด้านบนสาก ด้านล่างสีจางกว่า เนื้อใบแข็ง มีขนตามเส้นกลางใบ
ดอกมีขนาดตั้งแต่ 1-2 ซม. ดอกสีแดงอมม่วง กลีบแข็งมากสีเหลืองนวลๆ มีกลิ่นหอมเวลาเย็นๆ
และเวลากลางคืน ออกดอกเดี่ยวๆตรงซอกใบ กลีบดอก 6 กลีบ เรียงเป็นสองชั้น ๆ ละ 3 กลีบ
เมื่อบานเต็มที่ขนาดดอกกว้างไม่เกิน 1.5 ซม. มีดอกเกือบตลอดปี ผลเล็กๆ ออกเป็นพวง
เมื่อสุกสีเหลืองอมส้ม รับประทานได้ พันธุ์ไม้ชนิดนี้เป็นไม้ไทยโดยแท้จริง
มีถิ่นกำเนิดในภาคใต้และภาคกลางของไทย อยู่ในวงศ์เดียวกับ กระดังงา การเวก และสายหยุด
ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่งหรือเพาะเมล็ด ปลูกเลี้ยงได้ไม่ยากนัก
สรรพคุณและส่วนที่นำมาใช้เป็นยา
- ดอก-มีน้ำมันหอมระเหยมีกลิ่นหอมใช้แต่งกลิ่น
- เนื้อไม้และราก-ต้มรับประทานแก้ไข้กลับ ไข้ซ้ำ
- ราก-เป็นยาแก้โรคผอมแห้งของสตรีเนื่องจากคลอดบุตรอยู่ไฟไม่ได้

ลำดวน
รูปภาพ
ลำดวน ชื่อสามัญ:Devil Tree, White Cheesewood
ชื่อวิทยาศาสตร์:Melodorum fruticosum Lour. วงศ์: ANNONACEAE
ถิ่นกำเนิด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชื่ออื่น : ลำดวน (ภาคกลาง), หอมนวล (ภาคเหนือ)
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง 3 – 8 เมตร ลำต้นเรียบ ใบเป็นใบเดี่ยว แผ่นใบยาวรี โคนใบมน
ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย หลังใบเป็นมันสีเขียวเข้ม ท้องใบสีอ่อนกว่า ดอกเป็นดอกเดี่ยว
ออกตามง่ามใบและส่วนยอด สีเหลือง กลิ่นหอม กลีบดอกและกลีบรองดอกคล้ายกัน ดอกหนึ่งจะมีอยู่ 6 กลีบ แบ่งเป็น 2 ชั้นชั้นละ 3 กลีบ กลีบแต่ละกลีบชั้นในจะมีขนาดเล็กกว่าและโค้งกว่าปลายกลีบแหลม ออกดอกช่วงเดือนตุลาคม ผลสีเขียวอ่อน ยาว ปลายมน โคนผลแหลม ผิวเรียบเกลี้ยง
ขยายพันธุ์ โดยการเพาะเมล็ด สภาพที่เหมาะสม ดินทุกชนิด เป็นไม้กลางแจ้ง
หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “ต้นดวน” เป็นไม้คู่เมือง เกี่ยวโยงกับประวัติศาสตร์เมืองศรีสะเกษมาแต่โบราณ “ลำดวน” ปรากฏในชื่อเมืองเดิมของ จ. ศรีสะเกษ คือ เมืองนครลำดวนหรือเมืองศรีนครลำดวน
ซึ่งเป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์แห่งกรุงศรีอยุธยา
เจ้าเมืองศรีนครลำดวนก็ได้รับพระราชทานนามว่า “พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน”
นอกจากนี้ยังปรากฏในชื่อบ้านนามเมืองของ จ. ศรีสะเกษอีกหลายแห่ง
เช่น บ้านดวนใหญ่ บ้านปราสาทสี่เหลี่ยมดงลำดวน ซึ่งล้วนเป็นชุมชนเก่าแก่มาแต่ครั้งสมัยขอม
ลำดวนเป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ที่มีอายุยืนยาวถึง ๓๐๐ ปี ดอกมีสีเหลืองนวล กลีบดอกเล็กแต่หนา
งุ้มเข้าหากัน คล้ายกับดอกนมแมวแต่งามกว่า เริ่มออกดอกในช่วงเดือน ม.ค.
และจะส่งกลิ่นหอมเย็นในช่วงเดือน ก.พ. ไปจนถึงเดือน เม.ย. ของทุกปี
ดอกลำดวนจัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง โดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ วิจัยพบว่า
เมื่อนำดอกลำดวนไปอบให้แห้ง แล้วนำไปบด ชงกับน้ำร้อนดื่ม จะช่วยบำรุงเลือด แก้ไข้ แก้วิงเวียน

ลำดวนดอย
รูปภาพ

ลำดวนเหลือง..ลำดวนกลาย..กล้วยค่าง(Mitrephora keithii)
รูปภาพ

ลำดวนเถา
รูปภาพ
ลำดวนดง
หอมลำดวน.......ยามเย็น.......เช่นกลิ่นทิพย์
ลอยระยิบ.......มาให้ชม.........ดมดอมกลิ่น
กลีบดูหนา.......หอมทุกครา.......เป็นอาจินต์
ไม่เคยสิ้น.......กลิ่นหอมหวน.......ลำดวนดง
รูปภาพ

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


แก้ไขล่าสุดโดย ป่าอ้อ เมื่อ 22 ต.ค. 2009, 14:14, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2009, 13:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

สาธุด้วยครับ

บางดอก บางต้นก็ไม่เคยเห็นเลยครับ

ขอบคุณป่าอ้อครับ ที่นำมาให้รู้จัก


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2009, 14:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม้หอมไม้ป่าหายากของไทย..ส่วนใหญ่พบในเทือกเขาบรรทัดทางภาคใต้ของไทย

ข้าวหลามดง
Goinothalamus laoticus (Finet & Gagnep.) Bana
รูปภาพ

คำหอม
Polyalthia evecta
รูปภาพ

ลำดวนแดง
Melodorum fruticosum Lour.
รูปภาพ

พีพวนน้อย
Uvaria rufa Blume
รูปภาพ

ปาหนันผอม
Goniothalamus umbrosus J. Sinclair
รูปภาพ

กล้วยหมูสังสีนวล
Uvaria grandiflora Roxb. ex Hornem var. flava
รูปภาพ

ส่าเหล้าปัตตานี
Desmos cochinchinensis Lour.
รูปภาพ

แสดสยาม
รูปภาพ

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2009, 15:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มณฑาภูจองนายอย Magnolia sp.

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
มณฑาเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ตระกูลแมกโนเลีย
ลักษณะคล้ายกับดอกลำดวน ดอกเล็กสีเหลืองมีกลิ่นหอมไปไกล
ดอกสีเหลือง...มณฑาทอง ดองสีม่วงแดง..มณฑาแดง

คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นมณฑาไว้ประจำบ้าน จะทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์
เพราะดอกมณฑาเป็นดอกไม้ทิพย์ที่อยู่บนสวรรค์ และได้บันดาลตกลงมาสู่โลกมนุษย์
นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่า บ้านใดปลูกต้นมณฑาไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความงดงาม ชวนมอง
เพราะดอกมณฑาเวลาบานนั้น ดอกมีสีเหลืองนวล หอมได้นานดูแล้วงามแพรวพราวจับใจ
ซึ่งมีลักษณะพิเศษเหมือนกับดอกมณฑาทิพย์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย
ควรปลูกต้นมณฑาไว้ทางทิศตะวัตตกเฉียงเหนือ ผู้ที่ปลูกควรปลูกในวันพุธ
เพราะโบราณเชื่อว่า การปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทางดอกให้ปลูกในวันพุธ
ถ้าจะให้เป็นมงคลมากยิ่งขึ้น ผู้ปลูกควรเป็นผู้ที่เกิดในวันพฤหัสบดีปลูก
เพราะมณฑาเป็นดอกไม้ประจำของนากิริณีเทวี ซึ่งเป็นนางประจำวันพฤหัสบดีในธิดาของพระอินทร์นอก
หากผู้ปลูกเกิดในวันพฤหัสบดี และปลูกในวันพฤหัสด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเป็นสิริมงคลมากยิ่งแก่ผู้อยู่อาศัย

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2009, 16:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2009, 15:36
โพสต์: 435

ที่อยู่: malaysia

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ สาธุ สาธุจ้า คุณป่าอ้อ
บางชนิดเคยได้ยินแต่ชื่อ สวยจริงๆเลยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ คุณป่าอ้อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2009, 20:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความลับ..ของดอกไม้....๑
เบญจมาศ ( Mums)
ดอกเบญจมาศคือ สัญลักษณ์ ของฤดูใบไม้ร่วง ในคติความเชื่อ โบราณของจีน ดอกเบญมาศคือความเป็นหนึ่งเดัยวกับธรรมชาติ ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความมีอาายุยืนและความงามนิรันดร์ การเลือกดอกเบญจมาศเพื่อจัดเป็นช่อดอกไม้วันเกิดนั้น ไม่ยากเลยเพราะดอกไม้เก่าแก่ชนิดนี้มีหลายพันธุ์ หลายสี ละลานตา แต่พึงระวังในการเลือกสีซักนิด เพราะในภาษา ดอกไม้ แต่ละสีของเบญจมาศล้วนมีความหมาย เช่น สีแดง หมายถึง "ฉันรักคุณ" สีเหลือง คือการตัดพ้อว่า ความรักที่คุณให้ฉันนั้นมันเหลือน้อยเต็มที หากของขวัญ วันเกิดจะเปลี่ยนเป็นเบญจมาศกระถาง ก็ถือว่าเป็นของกำนัลที่วิเศษยิ่ง จะเป็นสีเหลือง สีม่วง สีชมพู สีขาว หรือ สีแดง ก็ล้วนสามารถสร้างความประทับใจให้กันผู้รับได้เท่าเทียมกัน
รูปภาพ

สวีทไวโอเล็ต ( Sweet Violet )
ในภาษาดอกไม้สวีทไวโอเล็ต คือสัญลักษณ์ ของความอ่อนโยนและควานอ่อนน้อมถ่อมตน ด้วยกลิ่นหอมที่ไม่เป็นรองใคร และความงาม ขนาดกระทัดรัดของสวีทไวโอเล็ต ทำให้ ดอกไม้ชนิดนี้เหมาะจะเป็นช่อดอกไม้วันเกิด การจัดสวีทไวโอเล็ตเป็นช่อกลมๆเล็กๆ เหมาะสำหรับเป็นของขวัญแด่ผูที่เกิดต้นเดือนเมษายนเป็นอย่างยิ่ง เราสามารถหาดอกไวโอเล็ตได้ ทั่วไปในช่วงนี้ หากจะเปลี่ยนจากช่อดอกไม้มาเป็นกระถางก็คงจะสร้างความประทับใจให้กับผู้รับ ไม่ น้อย หรือจะเปลี่ยนเป็นเมล็ดไวโอเล็ตก็จะเก๋มาก เนื่องจากสามารถทอดความประทับใจให้ไปอีกนาน ภายในฤดูใบไม้ผลิหน้าก็จะได้ชื่นชมสวีทไวโอเล็ตอีกครั้งหนึ่ง
รูปภาพ

เฮเลียโทรฟ ( Heliotrop )
ดอกเฮเลียโทรฟยามผลิบานมีความงามที่น่าพิศวงโดยจะเริ่มบานเป็นสีม่วงลาเวน เดอร์ ก่อนจะกลาย เป็นสีม่วงอ่อนยามที่บานเต็มที่ และเป็นสีขาวอมม่วงเมื่อโรยรา เฮเลียโทรฟมีหลานขนิด ชนิดที่ให้ ดอกสีขาวเป็นชนิดที่มีกลิ่นหอมที่สุด สำหรับของขวัญวันเกิดแด่คนพิเศษซึ่งเกิดในช่วงนี้ จะแนนะนำ ให้เป็นเฮเลียโทรฟกระถางดีกว่าเพราะดอกไม้สีม่วงชนิดนี้ไม่เหมาะต่อการจัด ช่อ สำหรับการจัดกระถาง เฮเลียโทรฟให้แลดูสะดุดตานั้นไม่ยุ่งยาก เพียงแต่ใช้กระดาษสีม่วงห่อกระถางแล้วผูกด้วยริบบิ้นซาติน สีเดียวกัน ก็เป็นอันเสร็จพิธี หรือจะย้ายลงตระกร้าสานเป็นไม้แขวน พร้อมกับประดับไม้อื่นแซม เช่น เวอร์บีน่าสีแดง และพิทูเนียสีขาวก็นับว่าเก๋ไปอีกแบบ เฮเลียโทรฟชอบแสงแดด ตรงกับชื่อซึ่ง หมายถึง ดอกไม้ที่ชอบหันเข้าหาดวงอาทิตย์
รูปภาพ

ลาเวนเดอร์ ( Lavender)
ด้วยกลิ่นหอมแรง และกลิ่มหอมนานของ ลาเวนเดอร์ทำให้ดอกไม้ชนิดนี้ คือนางเอก ของอุตสาหกรรมดอกไม้แห้ง ตามตำรับ พืชสมุนไพรโบราณ กลิ่นลาเวนเดอร์มี ประโยชน์ ในกสรผ่อนคลายความเศร้า ความเหนื่อยหนาย และความเครีดยทุกชนิด ทุกส่วนของลาเวนเดอร์ล้วนมีกลิ่นกหอม ไม่ว่าจะเป็นดอกตูม กิ่งก้าน หรือใบที่เหมือนเข็ม โดยจะติด กลิ่นทนนานเป็นปีๆ ช่อดอกลาเวนเดอร์วัรเกิดจะงดงามน่ารักยิ่งขึ้น หากแซมด้วยกุหลาบขาวดอก เล็กๆและผูกด้วยริ้บบิ้นสีดอกลาเวนเดอร์ ข้อแนะนำสำหรับการเลือกซื้อดอกลาเวนเดอร์คือควรจะ เลือกพันธุ์ อิงลิชลาเวนเดอร์ เพราะให้กลิ่นหอมมากที่สุด
รูปภาพ

ไอริส ( Fragrant Iris )
ไอริสทุกสายพันธุ์ล้วนมีกลื่นหอม ทว่าที่น่าจดจำที่สุดคือกลิ่นหอม ของดอกไอริสเดือนพฤษภาคม เช่น วิคตอรี่ ฟอลส์ เซนท์ น้ำเม็กซึ่ง มีดอกสีน้ำเงิน ไอริสคือดอกไม้ที่แข็งแรงคงทนสง่างาม เป็นสัญลักษณ์มาช้านานฐานะเป็นตัวแทนของความสุข ความเฉลียวฉลาดและความ ราบรื่น ช่อดอกไอริสที่จะประทับใจผู้รับไม่ลืม จะต้องมีแขกรับเชิญเป็น ไม้หอมอื่นๆเสมอ เช่น แดฟโฟดิล นาร์ซิลซัส ทิวลิปสีชมพู และวิลโล แต่อย่าลืมแนบข้อความบอกผู้รับไปด้วยว่า ไอริสจะบานสวยให้ชื่นชม อีกเนิ่นนานออกไปอีก ถ้าปลิดใบทิ้งเสียบ้าง และ จัดลงในแจกันน้ำอุ่น ที่ใส่เคมียืดอายุดอกไม้ไว้
รูปภาพ

สวีทพี
คือดอกไม้ที่สีกลิ่นอมละมุนมากที่สุด ดอกอ่อนนุ่มน้อยคล้ายดอกแอปเปิ้ล ยามบานสะพรั่งอยู่บนเถา ถั่วหวาน ให้ได้ชื่นชมเป็นประจำทุกปีช่วงกลางเดือนพฤษภาคม และในภาษาดอกไม้สวีทพีคือสัญลักษณ์ของความสุขอันละเอียดอ่อน และการจากลา ช่อสวีทพีที่น่ารักไม่จำเป็นต้องพึ่งดอกไม้ชนิดอื่น นอกจากใบเฟิร์นและริบบิ้นซาตินสีสันเข้ากับดอกไม้ สำหรับความ ประทับใจที่ยาวนานกว่าการมอบเมล็ดสวีทพีเป็นของขวัญจะดูดีไม่ น้อย แม้ว่าจะสายไปที่จะปลูกในฤดูนี้เพราะต้องรอไปถึงปีหน้า ซึ่งก็ ไม่เสียเวลาเปล่า เพราะสวีทพีโตเร็วเหลือใจสวีทพีคือดอกไม้ที่สีกลิ่นอมละมุน มากที่สุดของเดือนพฤษภาคม ดอกอ่อนนุ่มน้อยคล้ายดอกแอปเปิ้ล ยามบานสะพรั่งอยู่บนเถา ถั่วหวาน ให้ได้ชื่นชมเป็นประจำทุกปีช่วงกลางเดือนพฤษภาคม และในภาษาดอกไม้สวีทพีคือสัญลักษณ์ของความสุขอันละเอียดอ่อน และการจากลา ช่อสวีทพีที่น่ารักไม่จำเป็นต้องพึ่งดอกไม้ชนิดอื่น นอกจากใบเฟิร์นและริบบิ้นซาตินสีสันเข้ากับดอกไม้ สำหรับความ ประทับใจที่ยาวนานกว่าการมอบเมล็ดสวีทพีเป็นของขวัญจะดูดีไม่ น้อย แม้ว่าจะสายไปที่จะปลูกในฤดูนี้เพราะต้องรอไปถึงปีหน้า ซึ่งก็ ไม่เสียเวลาเปล่าเพราะสวีทพีโตเร็วเหลือใจ
รูปภาพ

วอลล์ฟลาวเวอร์
วอลล์ฟลาวเวอร์ จะอวด กลีบนุ่มราวกำมะหยี่มีทั้งสีแดง สีเหลือง ชมพู ส้ม และขาว ในช่วงสุดท้ายของลมหนาว ต้อนรับแดด อุ่นแห่งฤดูใบไม้ผลิในช่วงนี้ ในภาษาดอกไม้วอลล์ฟลาวเวอร์ คือสัญลักษณ์ของ ความซื่อสัตย์ใน ยามยาก การจัดช่อดอกวอลล์ฟลาวเวอร์วันเกิดให้สดใสประทับใจผู้รับนั้นไม่ยากเลย ถ้าจัดเป็น ช่อกลมๆเล็กๆ โดยมีทิวลิปและฮีทเธอร์สีชมพูสักสองสามดอกแซม ก่อนจะผูกริบบิ้นสีเข้ากัน ส่วนเมล็ดวอลล์ฟลาวเวอร์ก็เป็นอีกทางเลือกที่เก๋ไปอีกแบบ และผู้รับก็มีโอกาสได้ชื่นชมยาวกว่าด้วย
รูปภาพ

ฟรีเซีย ( Freesia )
ความงามอย่างอ่อนช้อย คือคุณสมบัติเด่นของ ฟรีเซีย บวกกับความหอมหวนของมันยิ่งทำให้ ดอกไม้ชนิดนี้เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับเป็นช่อดอกไม้ วันเกิดช่วงวาเลนไทน์ ลักษณะของฟรีเซียเป็น ดอกรูปแตรเรียงโค้งอยู่บนปลายกิ่ง ทำให้มันกลาย เป็นไม้ตัดดอกที่สวยที่สุด หลักเกณฑ์ในการเลือก ฟรีเซียคือ ต้องเลือกกิ่งที่มีดอกบานเพียงดอกเดียว เพราะดอกที่เหลือจะบานที่หลังในเวลาอันรวดเร็ว แล้วจึงจัดช่อโดยใช้ใบเฟิร์นแซมก่อนจะผูกด้วย ริบบิ้น เส้นเล็กๆสีเข้ากับดอก แต่ควรเลือกของขวัญเป็นฟรีเซียกระถางมากกว่า เพราะฟรีเซียก็ เหมือนดอกไม้ ส่วนใหญ่ที่จะหยุดส่งกลิ่นหอมทันทีที่ถูกตัดออกจากต้น
รูปภาพ

ไฮยาซินธ์
คือ สัญลักษณ์แห่ง การเกิดใหม่ ดอกไม้ที่มีรูปร่างคล้ายระฆัง น้อยยามแรกผลิ และมองดูคล้ายดาวห้าแฉกยามบายสะพรั่ง และด้วยคุณสมบัติเด่นของไฮยาซินธ์ คือ กลิ่นอันหอมหวน ทำให้มันเป็นดอกไม้ที่นิยมมากในราชสำนักยุโรป ไฮยาซินธ์จะ กลายเป็นของขวัญวิเศษสุดหากปลูกไม้เก่าแก่ชนิดนี้ในกระถาง ทรงกลมคอดกลาง
แต่อย่าลืมแนบข้อความแนะนำไปด้วยว่า อย่าทิ้งเมื่อไฮยาซินธ์โรยราเพราะมันจะบานให้ชื่นใจอีกครา
ถ้าเพียงแต่ นำหัวของมันไปฝังไว้ในดิน
รูปภาพ

จีเรเนียม ( Scented Geranium )
กลิ่นหอมของจีเรเนียมสดชื่น และสามารถบำบัด โรคได้ด้วยคุณสมบัติเด่นของจีเรเนียม ซึ่งมีสีสัน สวยงาม
และเติบโตง่ายทำให้ไม้ดอกชนิดนี้ ได้รับ ความนิยมอย่างรวดเร็ว จึงไม่น่าแปลกใจที่เห็น จีเรเนียมกระถางอวดดอก ตามริมหน้าต่างกระจก ของบ้านชาวยุโรป การมอบจีเรเนียม ให้เป็น ของขวัญวันเกิด เสมือนว่ามอบความหอมสดชื่น ของสวนสมุนไพรให้แก่คนที่คุณรักเลยทีเดียว มีข้อแม้ ว่าในกระถางนั้น ควรมีจีเรเนียมสูง 3-5 นิ้ว หลายๆสี อย่าลืม แนะนำผู้รับไปด้วยว่า ฤดูหนาว ควรวาง จีเรเนียมไว้ข้างหน้าต่าง เพื่อรับ แสงแดด ส่วนฤดูร้อนอากาศดี จีเรเนียมควรได้ อวดโฉมอย่างเต็มที่
รูปภาพ

มิโมซ่า ( Mimosa )
ในวรรณคดีของฝรั่งเศษ มิโมซ่า คือ สัญลักษณ์ของความรักในฤดูใบไม้ผลิ และความรักที่ต้อง ซ่อนเร้น
นับแต่เดือนกุมภาจนถึงช่วงดอกไม้ร่วงเราสามารถ หามิโมซ่าได้จากร้านดอกไม้ทั่วไป ช่อมิโมซ่า
ซึ่งแซมด้วยใบสีเขียงของมันและกุหลาบสีเหลืองจะเป็นช่อดอกไม้วันเกิดที่สวย ที่สุด แต่ก่อนออกจากร้าน ดอกไม้อย่าลืมห่อช่อดอกด้วยกระดาษ เพราะอุณหภูมิที่สูงและความชื้นที่ต่ำ จะทำให้กลีบมิโมซ่าหลุดร่วงหมด ข้อแนะนำสำหรับการยืดอายุดอกไม้ชนิดนี้ คือ นำไปแช่ในน้ำที่ หยดน้ำมะนาวหรือไวน์ขาวซัก 2-3 หยด 1-2 ช.ม.ก่อนปักแจกัน สำหรับมิโมซ่ากระถางถ้าดูแลอย่าง ดีจะให้ดอกสม่ำเสมอ
รูปภาพ

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


แก้ไขล่าสุดโดย ป่าอ้อ เมื่อ 23 ต.ค. 2009, 21:10, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2009, 21:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความลับ..ของดอกไม้....๒
กุหลาบหนู ( Miniature Rose )
กุหลาบหนูเป็นดอกไม้ขนาดเล็กที่สวยงาม น่ารัก และมีกลิ่นหอมที่น่าพิศวง ทั้งยังเป็น ดอกไม้ สัญลักษณ์แห่งความลับที่แข็งแกร่ง และการหลงเสน่ห์ด้วยความพึงใจ ร้านดอกไม้ มักจะทมกุหลาบหนูประจำร้านอยู่เสมอ แต่ละสีของกุหลาบล้วนมีความหมายที่ต่างกัน เช่นสีแดง หมายถึง ความรัก ส่วนกุหลาบตูมสีแดง หมายถึง คุณช่างบริสุทธิ์และน่ารัก กุหลาบขาว หมายถึง "ฉันนคู่ควรต่อคุณ" แต่ควรหลีกเลี่ยงกุหลาบสีเหลือง เพราะมันแปลว่า "การปฏิเสธรัก และการ แสดงความริษยา" ต้นกุหลาบหนูจะออกดอกมากมายไปถึงฤดูหนาว ดังนั้นจึงน่าจะดีกว่าหากจะมอบ ของขวัญเป็นกุหลาบหนูกระถาง มันจะเติบโตได้ทุกที่ซึ่งมีแดดวันละ 6 ชั่วโมง กระถางกุหลาบหนูสัก ครึ่งโหลวางริมหน้าต่าง จะทำให้โลกสดใสไม่น้อยเลยทีเดียว
รูปภาพ

นางแย้ม ( Glory Bower )
รูปดอกของนางแย้มคล้ายๆกับดอกกุหลาบ สีขาวอมชมพู หรือสีพีชที่รวมอยู่กันเป็ฯช่อ ดอกเล็กๆโดยมีใบสีเขียวคล้ายใบไฮเดรนเยีย เป็นส่วนประกอบช่ออยู่ด้านหลัง เป็นพันธุ์ไม้ ซึ่งรักแสงอาทิตย์ยิ่ง ในอเมริกา นางแย้มจะ เริ่มบานในช่วงฤดูหนาวจนถึงช่วงคริสต์มาส ส่วนในเขตเหนือซึ่งอากาศหนาวเย็น นางแย้ม ถูกจัดเป็นไม้ในร่ม โดยจะเริ่มบานตั่งแต่ต้นฤดูร้อนจนถึงเดือนพฤศจิกายน นางแย้มมีอีกชื่อหนึ่งว่า "แคชเมียร์ บูเกต์" สำหรับนางแย้มวันเกิดแนะนำให้เป็นกระถางดอกไม้หรือกระเช้าแขวน ดีกว่าช่อดอกไม้ เพราะดอกไม้ชนิดนี้ไม่เหมาะต่อการจัดช่อ
รูปภาพ

มหาหงส์ ( Ginger Lily )
กลิ่นของมหาหงส์จะบางเบาในตอนกลางวัน แต่ ทว่าจะหอมชวนพิศวงในตอนกลางคืน มีช่วงบาน ตั่งแต่กลางฤดูร้อนจนถึงฤดูใบไม้ร่วง เป็นต้นไม้ ก้านแข็งเหมือนต้นข้าวโพดผสมกับต้นพุทธรักษา สูงราว 4-7 ฟุต โดยแต่ละหน่อแตกกิ่ง 1 กิ่ง ซึ่ง ประกอบไปด้วยใบที่เรียงกันขึ้นไป ตรงปลายสุดคือดอกสีเหลืองอร่ามรูปกรวย อยู่ร่วมกันเป็นพุ่ม มีเกสวฃราแดงยื่นออกมา ซึ่งเป็นที่มาของกลิ่นหอมอันน่าพิศวง ในช่วงเดือนกันยายนจะสามารถหา ช่อดอกมหาหงส์สวยๆสำหรับวันเกิดได้ไม่ยากนัก โดยส่วนใหญ่จะนิยมจัดร่วมกับใบออคิวบา หากจะ เปลี่ยนจากช่อดอกไม้เป็นมหาหงส์กระถาง ก็จะสร้างความประทับใจให้กับผู้รับยิ่งขึ้น
รูปภาพ

มะลิแคโรไลน่า ( Carolina Jusmine )
ดอกไม้สีเหลืองทองชนิดนี้ คือที่มาของความหอม ซึ่งผสมผสานกันระหว่างมะลิ ไฮยาซินธ์และไวโอเล็ต ช่วงแรกที่มะลิแคโรไลน่าผลิดอก เราจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆเท่านั้น แต่เมื่ออากาศเย็นลงเรื่อยๆ และดอก ขนาดจิ๋วค่อยๆแย้มกลีบจนบานสะพรั่ง กลิ่นหอมจะยิ่งบานทบทวี ดอกไม้วันเกิดของผู้ที่เกิดในปลาย เดือนนี้ดูจะแตกต่างจากดอกไม้ชนิดอื่นพสมควร โดยขั้นแรกหาซื้อมะลิแคโรไลน่ามา 1 ต้นเล็กๆ ดอกกุหลาบสีเหลือง ดอกเล็ก 5 ดอก กระเช้าดอกไม้แบบแขวน ขวดแก้วใส่ดอกไม้ขนาดเล็ก 5 ใบ วิธีทำคือ ปลูกมะลิแคโรไลน่า ลงกระเช้า แล้วจึงนำขวดแก้วเล็กทั้ง 5 ใบที่ใส่นำพร้อม ฝังลงไปในกระถาง รอบๆต้นไม้ ก่อนจะปักกุหลาบสีเหลืองทั้ง 5 ดอกลงในขวดแก้ว ผูกโบว์สีเหลืองที่กระเช้า เป็นอันเสร็จ พิธี อ้อ...อย่าลืมบอกผู้รับด้วยว่า บางส่วนของมะลิแคโรไลน่า...มีพิษ
รูปภาพ

ไซคลาเมน ( Scented Cyclamen )
ดอกไม้นี้คือของขวัญที่สร้างสีสันมากที่สุด ไซคลาเมนมีสีสัน มากมาย ตั่งแต่ สีขาว สีแดง สีชมพู สีส้ม สีม่วง นอกจากนี้ บางพันธุ์ยังมีสองสีในดอกเดียว กันโดยมากจะเป็นไซคลาเมนสีขาว ที่มีสีม่วงตรง โคนกลีบหรือตรงกลีบ ยามที่ดอกเริ่มเ่ยวเฉา กลีบจะม้วนตัวเข้าหากัน และดอกจะควำหน้าลง สำหรับดอกไม้ประจำสัปดาห์แรกของเดือนนี้ แนะนำ ให้เน้นความตระการตา และราคาไม่แพงนั่นคือ ไซคลาเมนกระถางเล็กๆซักจำนวนหนึ่ง สำหรับประดับ หน้าต่างกระจก สีสันหลากหลายของมันจะทำให้ผู้รับประทับใจไปอีกนานทีเดียว
อย่าลืมแนะผู้รับไปด้วย ว่าเมื่อไซคลาเมนหยุดบาน ให้ย้านไปปลูกในที่มีร่มเงา รดน้ำพอชุ่ม
ใบสีเขียวเข้มของมันจะยังคงอยู่และ จะออกดอกบ้างาประปรายในฤดูใบไม้ร่วงปีถัดไป
รูปภาพ

ดาฟเน ( Winter Daphne )
ดาฟเนเป็นไม้ไม่ผลัดใบซึ่งได้ชื่อว่าเป็นไม้ที่มีกลิ่นหอมที่สุดในโลก ดอกตูมของดาฟเนมีสีชมพูปนม่วง
และจะบานเป็นสีขาวครีมส่งกลิ่นกอมอบอวลยิ่งในฤดูหนาว ดอกไม้ซึ่งมีรูปทรงเป็นช่อดอกไม้ขนาดเล็ก
ชนิดนี้ จะบานหลังจากฤดูหนาวผ่านพ้นไปซักระยะหนึ่งแต่ไม่ต้องหวั่นใจว่าจะเสาะหาดาฟเนไม่ทัน
เพราะดาฟเนกระถาง ซึ่งเพาะเลี้ยงในเรือนเพาะชำที่มีการควบคุมอุณหภูมิพิเศษ จะเริ่มบานตั่งแต่เดือนธันวาคมถึงมกราคม สำหรับการจัดช่อดอกดาฟเนวันเกิด แนะนำให้จัดเป็นทรงกลม เพื่อวาง ไว้บนโต๊ะอาหาร โดยใช้กุหลาบก้านยาวสีชมพูหลายๆดอกจัดเข้าช่อด้วยกันกับดาฟเน แล้วผูกด้วย ริบบิ้นสีชมพูที่ม้วนเป็น
เกลียวสวย ส่วนดาฟเนกระถางควรเลือกดาฟเนใบขอบสีเหลืองจะดีที่สุด เพราะหลังจากพ้นช่วงผลิดอกแล้ว
ผู้รับยังได้ชื่นชมใบของมันอีก
รูปภาพ

ไลแล็ค ( Lilac )
ในภาษาดอกไม้ไลแล็คสีม่วง คืออารมณ์รักครั้งแรก ไลแล็คสีขาวหมายถึงความไร้เดียงสาของวัยเยาว์
ขณะที่ไลแล็คป่าคือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน วิธีการจัดช่อดอกไลแล็คให้คนที่คุณรัก ก่อนอื่นต้องปลิดใบ
ออกเกือบหมด เหลือเพียงใบที่อยู่ใกล้ดอกมากที่สุดเพียง 2-3 ใบ ตัดก้านดอกออกครึ่งหนึ่ง แล้วจึง จัดลงกระถางหรือแจกันที่เตรียมไว้ หากผู้รับคือนักปลูกต้นไม้ตัวยง การมอบไลแล็ค กระถางให้ย่อม ถูกใจมากกว่า
ที่สำคัญคือควรเลือกไลแล็คพันธุ์ที่มีกลื่นหอมทน เช่น มาดาม เลอมวง , เอดิธ คาร์เวล, ลาเวนเดอร์ เลดี้
รูปภาพ

ฮันนี่ซัคเคิล ( Honeysuckle )
ฮันนี่ซัคเคิล หรือ สายนำผึ่ง เป็นสัญลักษณ์ ของความรักที่ซื่อสัตย์ และอารมณ์อัน อ่อนหวาน กลิ่นอ่อนๆของมันจะหอมหวน ยิ่งขึ้นในตอนเช้าที่มีหมอกลงจัด และจะทวี ความหอมในตอนย่ำคำทั้งตอนฝนตกใหม่ๆ ในดอกของมันจะมีนำหวานเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่เสน่ห์หาขอเหล่าแมลง มากกว่าดอกไม้ชนิดใดๆ และเป็นที่มาของชื่ออันหอมหวานนี้ด้วย ช่อดอกฮั่นนี่ซัคเคิลวันเกิดไม่ต้องการเครืองตกแต่งมากนัก นอกจากกิ่งฮั่นนี่ซัคเคิลงามๆสัก 2-3 ช่อ และริบบิ้นสีเข้ากับดอก หรือแทนความรักด้วยต้นฮั่นนี่ซัคเคิล สักต้นก็ย่อมได้
รูปภาพ

ฟลอกซ์ ( Phlox )
สันติภาพและความเป็นหนึ่งเดัยวกัน คือ อภินันทนาการจากดอกไม้วันเกิดชนิดนี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ความงามที่หาได้ยากยิ่ง จากสีที่ไล่ต้งแต่ ขาว ชมพู นำเงิน ม่วงเข้ม และม่วงอ่อน ฟลอกซ์เติบโต ได้ดีในแสงแดดอุ่นๆของฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งอากาศเริ่มเย็นลง วิธีจะทำให้ช่อฟลอกซ์สำหรับคนพิเศษมี ความหมายมากยิ่งขึ้น ง่ายนักโดยจัดช่อฟลอกซ์กับตัวประกอบอื่นที่สำคัญ คือ ลาเวนเดอร์ กุหลาบหนู แมรี่โกลด์ และเบอร์กามอท ผูกด้วยริบิ้บผ้าซาติน เท่านี้ก็ซึ้งใจผู้รับแล้ว แต่ถ้าจะยืดความทรงจำเกี่ยว กับของขวัญในโอกาสพิเศษนี้ ควรมอบเมล็ดพันธุ์ฟลอกซ์ อย่าลืมแนะนำผู้รับด้วยว่าให้รีบปลูกเสีย ตั่งแต่วันนี้ เพื่อรอชื่นขมความเบ่งบานสดใสของฟลอกซ์ในฤดูกาลถัดไป
รูปภาพ

แบลลาดอลน่า ลิลลี่ ( Balladonna Lily )
แบลลาดอลน่าเป็นพืชมีหัว โดยแต่ละกอจะ ออกดอกราว 2-4 ดอก ซึ่งส่วนใหญ่จะมี สีชมพู สีแดง และสีขาว ดอกไม้ซึ่งแลดู บอบบางยิ่งชนิดนี้ มีชื่อทางพฤษศาสตร์ว่า Amaryllis balladonna อันมีความหมายว่า "ท่านผู้หญิงอมาริลริสผู้สง่างาม" สำหรับการ จัดช่อดอกนั้น ขอแนะนำให้ใช้ดอกเดลฟีเนียมสีฟ้า ซาลเวีย หรือเปรอสก้า ฟลอกซ์สีขาว และเถาไอวี่ เป็นส่วนประกอบ หรือหากจะเปลี่ยนเป็นกระถางดอกไม้ก็ไม่เลว ทั้งยังไม่เป็นการยุ่งยากเพราะสามารถ หาง่าย ได้ในตลาดดอกไม้ทั่งไปเพียงแต่ต้องเริ่มปลูกตั่งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ
รูปภาพ

ลิลลี่ญี่ปุ่น ( Oriental Lily )
นอกจากจะมีรูปโฉมงดงามแล้ว ลิลลี่ญี่ปุ่นยังมีกลิ่นหอม พิเศษไม่เหมือนใคร กลีบสีครีมนุ่มราวแพรไหม ผสมผสาน ระหว่างกลิ่นหอมเย็นของมะลิ และกลิ่นสดชื่นของดอกส้ม เมอร์และอื่นๆ ลิลลี่ญี่ปุ่นซึ่งเหมาะที่สุดสำหรับเจ้าของวันเกิด ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม คือพันธุ์ "อิมพีเรียล ซิลเวอร์" เป็นลิลลี่สีขาวจุดแดงตามกลีบ วิธีการจัดช่อดอกลิลลี่ ให้สวยงาม ต้องไม่ลืมตัวประกอบสำคัญอย่างสแนปตราก้อน หรือลิ้นมังกรสีแดง สต๊อคสีแดง เดลฟีเนียมสีนำเงินและ ไลแล็ค ข้อแนะนำสำหรับการเลือกซื้อคือ ต้องเลือกกิ่งที่มี ดอกตูมสัก 2 ดอกต้องผลิพอให้เห็นสีของดอกบ้าง ก่อนจัดช่อหรือลงแจกัน ควรตัดใบทิ้งพอสมควร ประการสุดท้ายอย่าลืมเด็ดเกสรทิ้ง เพราะหากเปรอะเปรื้อนเสื้อผ้าจะซักออกยาก ส่วนลิลลี่กระถางเหมาะ กับเจ้าของวันเกิดที่รักการทำสวนเป็นชีวิตจิตใจ
รูปภาพ

กุหลาบพันธุ์ผสม ( Tea Rose )
กุหลาบพันธุ์ผสมหรือ Hybrid Tea Rose คือ กุหลาบหอมที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก กุหลาบพันธุ์นี้จะให้กลิ่นหอมมากถ้าได้รับแสง แดดพอสมควร และเมื่ออยู่บนต้นเป็นพุ่ม ขนาดกลาง จะหอมแรงกว่าตัดออกมาแล้ว ในภาษาดอกไม้ การส่งกุหลาบพันธุ์นี้ไปให้ เสมือนบอกสว่า "ความงามของคุณโฉบเฉี่ยวอยู่เสมอ" ทีโรสเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ทรงโกศ ช่อดอก ตั้งตรง ที่ฤดูออกดอกยาวนาน อันเป็นคุณสมบัติที่สั่งสมมานาน จากกุหลาบเอเฃีย กุหลาบกลิ่น ลาเวนเดอร์คือ กุหลาบพันธุ์ผสมที่มีกลิ่นหอมแรงที่สุด หากมอบกุหลาบอย่าลืมแนบข้อความไปกับช่อ กุหลาบด้วยว่า ควรตัดก้านกุหลาบในนำก่อนจะจัดลงแจกัน หรือจะมอบเป็นกุหลาบกระถางก็เก๋ไม่เบา
รูปภาพ

กุหลาบคริสต์มาส ( Chrismas Rose )
กุหลาบคริสต์มาสคือกุหลาบสีแดงเข้ม ซึ่งชาวยุโรป ใช้เป็นดอกไม้สำคัญในเทศกาลคริสต์มาส สีแดง
ของกุหลาบซึ่งตัดกับสีเขัยวของใบไม้ต่างๆนั้น บ่งบอกถึงความร่าเริงในฤดูหนาวอันแสนนาน ก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาส ปกติแล้วกุหลาบสีแดง หมายถึง ความรัก จึงเหมาะอยางยิ่งจะมอบเป็น ของขวัญแด่คนที่คุณรัก
การจัดช่อกุหลาบสีแดงวันเกิด ไม่ควรพึ่งพาดอกไม้ชนิดอื่น ลำพังความงาม ของมันเองก็เหลือล้นแล้ว
กุหลาบก้านยาว 2-3 ดอก ในกล่องดอกไม้ซึ่งผูกริบบิ้นสีเขียว น่าจะเป็นอีก ทางเลือกหนึ่งในการจัดดอกไม้ หรือหากจะเป็นกุหลาบดอกเดียว ลอยในขวดแก้วใส สำหรับแขวนบน ต้นคริสต์มาส ก็นับว่าเป็นไเดียที่เก๋ไปอีกแบบ เคล็ดลับยืดเวลาของกุหลาบ กลีบกุหลาบที่แห้งแล้ว คือ ส่วนประกอบสำคัญของ "บุหงาแห่งวามทรงจำ" โดยกุหลาบเริ่มเ่ยวเฉาแต่ยังไม่ถึงกับร่วงโรย ให้ปลิดกลีบรวบรวมไว้ และปล่อยให้แห้ง ก่อนจะเก็บไว้ในขวดแก้วสุญญากาศ
รูปภาพ


.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2009, 22:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความลับ..ของดอกไม้....๓
มะลิ ( Jasmine )
มะลิคือหนึ่งในดอกไม้ที่เก่าแก่ครองใจผู้คนมาทุกยุคทุกสมัยด้วย กลิ่นหอมอมตะ ดอกไม้สีขาวแน่งน้อยซึ่งให้กลิ่นหอมบริสุทธิ์นี้มี ประวัติความเป็นมาอันยาวนานนัก มะลิเป็นพุ่มไม้เตี้ยและไม้เลื้อย มีถิ่นกำเนิดอยู่ในอินเดียและเปอร์เซียกลีบดอกคล้ายรูปดาว ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสีขาว หรือบางพันธุ์ก็มีสีชมพูเรื่อๆ มะลิมี คุณสมบัติพอๆกับทิวบ์โรส คือ จะยังคงกลิ่นหอมแรงแม้ว่าตัด ออกมาจากต้นแล้วก็ตาม สำหรับการจัดช่อดอกมะลิวันเกิด ขอแนะนำให้จัดเป็นช่อกลมเล็กๆโดยใช้กุหลาบสีชมพูขนาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางของช่อดอก ก่อนจะมัดด้วยริบบิ้นซาตินสีมพู ส่วนมะลิกระถางวันเกิด ควรเลือกมะลิซักนิด ที่ให้กลิ่นหอมแรง เช่น Jasminum sambac ซึ่งจะบานในช่วงนี้
รูปภาพ

ดอกโบตั๋น ( Peony )
ดอกไม้ซึ่งมีความยั่วยวนอย่างเปิดเผยชนิดนี้ เป็นดอกไม้ที่เก่าแก่ที่สุด และสามารถหาซื้อได้ในช่วงปลายปี ดอกโบตั๋นส่วนใหญ่ จะมีกลิ่นหอมสดชื่น ช่อดอกโบตั๋นจะสร้างความ ตื่นเต้นให้กับผู้รับ แต่ดอกโบตั๋นเพียง
ดอกเดียว ก็โดดเด่นพอที่จะสร้างความปลาบปลื้ม ไอเดียแปลกของการ จัดโบตั๋นคือ หาถ้วยแก้วขนาดย่อม
ใส่น้ำค่อนครึ่ง แล้วลอยดอกโบตั๋นลงไป หรือจะพลิกแพลงโดยการทำเป็นช่อเล็กๆติดที่อกเสื้อก็ได้ ดอกโบตั๋นจะบาน นานกว่าสัปดาห์หากตัดตอนเพิ่งเริ่มบาน ถ้าผูรับรักการทำสวน ต้นโบตั๋นจะเป็นของขวัญ ที่ถูกใจและประทับใจกว่า โบตั๋นจะออกดอกเป็นครั้งแรกเมื่อมีอายุ 2-3 ปี
รูปภาพ

คาร์มีเลีย ( Carmelia )
คาร์มีเลียมีดอกงามที่สุดมีรูปร่างคล้ายดอกกุหลาบขนาดใหญ่ ทว่ากลีบเป็นมันลื่นของมันทำให้คาร์มีเลีย
มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ทั้งยังทนความสดอยู่ได้นานเช่นเดียวกับความสง่างามของมัน คาร์มีเลียจะเป็นช่อดอกไม้ที่สร้างความปลาบปลื้มใจได้ไม่น้อยให้กับผู้รับ หากเลือกพันธุ์ที่มีกลิ่น หอมนาน เช่น บ๊อบ โฮป
ซึ่งมีสีแดง คาร์มีเลียชอบอากาศเย็น เพระฉะนั้นการวางคาร์มีเลียไว้ริมหน้าต่างก็จะดูดีไม่น้อย
รูปภาพ

แมกโนเลีย ( Magnolia )
ดอกแมกโนเลียสีขาวครีมบานสะพรั่งอยู่เหนือ กลุ่มใบสีเขียวขจี ตัดกันโดดเด่นยิ่งนัก ส่วนกลิ่นนั้น หอมยิ่งกว่าหัวนำหอมชั้นยอดเสียอีก แมกโนเลีย คือดอกไม้เก่าแก่ที่สุดของโลก ยิ่งกว่ากุหลาบ หรือ เบจมาศ การจัดข่อดอกแมกโนเลียให้สวยเป็นพิเศษ นั้นมีเทคนิคง่ายๆ คือ ต้องตัดดอกให้ติดใบมาด้วย เลือกดอกที่งามสะพรั่งเท่านั้นก่อนจะผูกด้วยริบบิ้นสีขาว เพียงแค่นี้ก็งามเหลือจะกล่าวแล้ว หากเปลี่ยน มาเป็นแมกโนเลียกระถางก็นับว่าเป็นความคิดที่ไม้เลว ในทุกปีแมกโนเลียจะออกดอกตั้งแต่เดือน พฤษภา หรือไม่ก็มิถุนา และจะบานอยู่จนถึงเดือนกันยายนเลยค่ะ
รูปภาพ

คาร์เนชั่น ( Carnation )
คาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ที่มีความหมายที่ดี และเป็นสิ่งปลอบใจที่สำคัญยิ่งของผู้ป่วยไข้ซึ่ง กำลังต้อง การกำลังใจอย่างแรงกล้า ความอดทน ความสุภาพอ่อนโยน ความกล้าหาญ ความประณีต และความสบายใจ คือคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับเจ้าดอกไม้กลีบหยักย่น แต่อ่อนนุ่มชนิดนี้ ช่อคาร์เนชั่นวันเกิดจะสวยสะดุดตา เมื่อรวมอยู่เป็นช่อ โดยมีใบเฟิร์นประดับแซมช่อคาร์เนชั่น เมล็ดคาร์เนชั่นเพาะ ง่ายโตเร็ว นานนัก
รูปภาพ

ลิลลี่ อีสเตอร์ ( Easter Lilly )
ลิลลี่ถือเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธ์ในศาสนา ลิลลี่สีขาวหมายถึงพระแม่มารี ชาวตะวันตกได้ใช้ ประโยชน์ของลิลลี่ทั้งทางด้านการเป็นเครื่อง ประทินโฉมและการรักษาโรค ช่อดอกลิลลี่ อีสเตอร์ วันเกิด คือความหอมหวนแห่งฤดูร้อนที่มอบแด่ผู้รับ ในช่วงสุดท้ายของฤดูหนาว หรือหากต้องการให้ ลิลลี่วันเกิดหอมหวนประทับใจผู้รับ การมอบลิลลี่ กระถางให้ก็นับว่าเป็นของขวัญที่พิเศษมาก ประโยชน์ของลิลลี่กระถางคือ เมื่อดอกสีขาวบริสุทธิ์ถึง กาล โรยราไม่ได้หมายความว่าต้นของมันตาย เพราะรากของมันสามารถนำไปปลูกได้อีก
รูปภาพ

ลิลลี่ ออฟ เดอะ แวลเลย์ (Lilly of the vally )
ดอกไม้ที่หอมหวนชนิดนี้ ได้รับการเรียก ขานว่า "ลิลลี่แห่งพฤาภาคมที่รักยิ่ง "หรือลูกแกะ แสนสวยแห่งนิทานปรัมปรา ลิลลี่ ออฟ เดอะ แวลเลย์ มีใบเรียวยาวคล้ายต้นหญ้า ส่วนกิ่ง เล็กๆซึ่งทอดขนานไปกับใบนั้นคือกำเนิดแห่ง ดอกรูประฆังสีขาว ซึ่งจะส่งกลิ่นตลบอบอวล ไปทั่วทุ่งหญ้า การจัดช่อดอกลิลลี่ฯนิยมจัด โดยใช้ใบสีเขียวสดของมันเป็นส่วนประกอบสำคัญก่อนจะผูกด้วยริบบิ้นเส้นเล็กๆเพิ่มความน่ารัก เพียงเท่านี้กลิ่นหอมของลิลลี่ ออฟ เดอะ แวลเลย์ จะทำให้วันสำคัญของคนที่เรารักเต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ ไปอีกนานแสนนาน
รูปภาพ

สไปเดอร์ ลิลลี่ (Spider Lilly )
สไปเดอร์ ลิลลี่ หรือดอกพลับพลึงเป็นพืชมีหัว สูงราว 2 ฟุต ดอกของมันจะทยอยบานพร้อมๆ กับการบานของดอกไม้ในวงศ์เดียวกัน คือ มาริรีส รูปดอกของสไปเดอร์ ลิลลี่คล้ายคลึง กับแมงมุม ทั้งยังคล้ายคลึงกับดอกแดฟโฟดิล อีกด้วย กลิ่นของมันค่อนข้างแรง หอมคล้ายกับ มะลิและดอกส้มซึ่งคล้ายกับกลิ่นของดอก นาร์ซิซัส สำหรับช่อดอกไม้วันเกิดแนะนำให้จัดช่อดอกสไปเดอร์ ลิลลี่เพียงแต่ลำพัง โดยไม่ต้องอาศัย ดอกไม้ชนิดอื่นๆ อาจใส่ในกล่องดอกไม้แล้วผูกด้วยริบบิ้นซาตินสีขาวก็เก๋ไม่หยอก หากต้องการมอบ เป็นกระถางแทนช่อดอกไม้ ควรปลูกตั้งแต่ต้นฤดูร้อนเพื่อทันสำหรับการมอบเป็นของขวัญ อย่าลืมพึง จดจำไว้อย่างหนึ่งว่า สไปดอร์ ลิลลี่ ชอบแสงแดด
รูปภาพ

ทิวบ์โรส ( Tuberose )
ทิวบ์โรส หรือดอกซ่อนกลิ่น มีกลีบบางเบาสีครีมและหอมละมุนชนิดนี้เป็น สัญลักษณ์ของความสุขที่เสี่ยงอันตราย กลิ่นหอมของทิวบ์โรส ซึ่งคล้ายกับกลิ่นของดอกมะลิ ทว่าแรงกว่า อาจกลายป็น สิ่งเสพติดไปได้หากเผลอใจชื่นชมมากเกินไป ดอกบานของ ทิวบ์โรสจะคงหอมหวนแม้ว่าจะถูกตัดออกมาจากต้นแล้วก็ตาม ซึ่งนับว่าเป็นคุณสมบัติที่หาไม่ได้ง่ายนักในดอกไม้ชนิดอื่น การจัดช่อดอกทิวบ์โรสวันเกิดให้สวยงามเป็นพิเศษนั้น
จะขาดดอกกุหลาบสีชมพู และเฟริน์แอสปารากัสไปไม่ได้เลย ก่อนจะผูกด้วยริบบิ้นเส้นเล็กๆสีเงินและกุหลาบ การมอบเป็น กระถางให้ก็ดูน่ารักไม่น้อย แต่ต้องเริ่มปลูกด้วยเมล็ดตั่งแต่ช่วงเมษายน และปล่อยให้โดนแสงเป็น ครั้งคราว พอถึงปลายเดือนสิงหาคม ทิวบ์โรสสีครีมจะบานพรึบ พร้อมสำหรับเป็นของขวัญแด่คน ที่คุณรัก
รูปภาพ

ลีลาวดี/ลั่นทม ( Frangipani )
ดอกไม้จากเขตร้อนชนิดนี้คือดาวเด่นสำหรับ พวงมาลัยสำหรับนักระบำงานรื่นเริง และงาน เฉลิมฉลอง กลีบที่เหลือบซ้อนกันอย่าง อ่อนช้อย คือที่มาของกลิ่นหอมเย็นใจ และ ความที่ลั่นทมมักจะอยู่รวมกันเป็นช่อเล็กๆแลดู น่ารัก จึงทำให้ได้รับการเรียกขานอีกชื่อหนึ่งว่า "ต้นดอกไม้ช่อเล็ก" โดยเริ่มตั่งแต่สีขาวครีม สีเหลืองอร่าม
สีชมพูแดงและสีแดงเข้ม บางสายพันธ๋ก็มี สีเหลือบกันภายในกลีบอย่างสวยงาม ดังนั้น หากจะมอบลั่นทมเป็นของขวัญวันเกิดควรเลี่ยงเป็นลั่นทม กระถางจะดีกว่า ซึ่งสามารถปลูกได้เองโดยง่าย สำหรับลั่นทมซึ่งปลูกเมื่อปลายฤดูใบไม้ผลิก็จะออกดอก ให้คุณชื่นใจ และพร้อมจะเป็นของขวัญวันเกิดได้แล้วในช่วงเดือนกันยายน
รูปภาพ

พุดซ้อน ( Gardenia )
ดอกไม้สีขาวครีมกลีบนุ่มราวกำมะหยี่ที่บานสะพรั่งอยู่ ท่ามกลางกลุ่มใบสีเขียวมรกตชนิดนี้ พุดซ้อนทำให้กลิ่นหอม ผสมผสานกันระหว่างกลิ่นมะลิและดอกส้ม ทว่าแรงกว่าและ คงอยู่เสมอ ทั้งยังได้รับการเรียกขานอีกชื่อหนึ่งว่า "มะลิจาก แหลม" เนื่องจากมีกลิ่นคล้ายดอกมะลิ และถูกเข้าใจในช่วง แรกๆว่า มาจากแหลมกู๊ดโฮป ในแอฟริกาใต้ ส่วนช่อดอก พุดซ้อนวันเกิดนั้น ไม่จำเป็นต้องมีดอกไม้อื่นเป็นตัวประกอบ ลำพังความน่ารักของมันเองก็เกินพอแล้ว หากจะเลือกพุดซ้อนกระถาง สำหรับผู้เกิดในช่วงนี้ขอแนะนำพันธุ์ "Prostrata" อย่าลืมบอกความน่ารัก ไปด้วยว่า ควรใส่ก้อนกรวดลงไปในกระถางเพื่อเป็นตัวควบคุมความชื้นให้พอเหมาะ และกาแฟสัก 2-3 ช้อน จะทำให้พุดซ้อนกระถางงามขึ้นผิดหูผิดตาเลยทีเดียว
รูปภาพ

กล้วยไม้แคทลียา ( Cattleya Orchid )
กล้วยไม้ซึ่งมีรูปดอกคล้ายคลึงผีเสื้อแสนสวย ชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ แคทลียา แคทลียาก็เหมือนกล้วยไม้พันธุ์อื่นที่จะงามคงทนอยู่บน ต้นเป็นเวลานาน และแม้ว่าจะตัดออกมาจาก ต้นแล้วก็ยังคงสวยสดชื่นไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรืออาจจะนานถึง 4 สัปดาห์ นักจัด ดอกไม้นิยมจัดช่อ แคทลียาเป็นดอกไม้ติดเสื้อและดอกไม้กลางโต๊ะอาหาร ดังนั้นช่อดอกไม้ วันเกิด ควรจะเป็นหนึ่งในสองแบบนี้ แต่หากต้องการยืดเวลาแห่งความงามออกไปให้เนิ่นนานออกไป แคทลียากระถางน่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับ ผู้รับได้ไม่แพ้กัน
รูปภาพ

พิตทอสโพรัม ( Pittosporum )
พิตทอสโพรัม เป็นสัญลักษณ์ของการอุทิศตน ความจงรักภักดี และ รักนิรันดร์ คุณสมบัติเฉพาะของ
พิตทอสโพรัม คือบานในฤดูหนาว ทำให้ดอกไม้ชนิดนี้นิยมปลูกในบ้าน โดยดอกไม้ชนิดนี้จะมี กลีบดอกสีขาวบริสุทธิ์และหอมมากและจะบานในฤดูใบไม้ผลิ สำหรับช่อดอกพิตทอสโพรัมวันเกิด แนะให้มีทิวลิปสีขาว
เป็นตัวประกอบจะทำให้ช่อดอกไม้พิเศษชนิดนี้งดงามมากขึ้น ส่วนพิตทอสโพรัม กระถางก็นับว่าเป็นของขวัญ
ที่ดี สำหรับผู้รักต้นไม้ พิตทอสโพรัมทนสภาพอากาศร้อนแห้งได้ดีและ สามารถเติบโตได้ใน สภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงสูง
รูปภาพ

แดฟโฟดิล (Daffodill )
การได้โอบกอดช่อดอกแดฟโฟดิลไว้เต็มอ้อนแขนเสมือน หนึ่งได้โอบกอดแสงสุริยันไว้นั่นทีเดียว แดฟโฟดิลทุก สายพันธุ์ล้วนมีกลิ่นหอม แต่แดฟโฟดิลสีเหลืองมีกลิ่น หอมที่สุด มีความหมายพิเศษว่า "เกียรติยศแห่งอัศวิน" หากต้องการมอบกระถางแดฟโฟดิล แทนช่อดอกไม้ใน ช่วงนี้ก็เป็นความคิดที่ดี เพราะผู้รับจะมีโอกาสชื่นชม ความงามแดฟโฟดิลได้นานกว่า เคล็ดไม่ลับ สำหรับการจัดช่อดอกแดฟโฟดิลกับไม้อื่น ควรแช่ก้านแดฟโฟดิล ในนำอุ่นหนึ่งคืน เพราะยาง ของ แดฟโฟดิลนั้นมีพิษ
รูปภาพ

เปเปอร์ไวท์ นาร์ซิสซัส ( Paperwhite Narcissus )
เปเปอร์ไวท์ นาร์ซิสซัส คือ แดฟโฟดิลพันธุ์หนึ่ง ซึ่งมีกลีบสีขาว ร่ำรวยไปด้วยกลิ่นหอมน่าพิศวง และกรุ่นกำจายในทุกหนทุกแห่งที่ปรากฏตัว กลุ่มดอกสีขาวที่มาของกลิ่มหอมนี้ ตั้งอยู่บนยอดกิ่ง และท่ามกลางหมู่ใบสีเขียวคล้ายหญ้า เปเปอร์ไวท์ นสร์ซิสซัส ได้ชื่อว่าเป็นไม้พันธุ์หัวที่นิยมปลูก มากที่สุด เนื่องจากเจริญเติบโตง่าย แม้จะอยู่นอกฤดูของมันก็ตาม สำหรับช่อดอกนาร์ซิสซัสจะงดงามต่างจากดอกอื่นๆ หากมีกุหลาบหนูสีขาวซักสองสามดอกเป็นแขกรับเชิญ และปิดท้ายด้วย ริบบิ้นซาตินสีเดียวกัน เคล็ดลับนาร์ซิสซัส กระเช้าสวยๆคือ เลือกกระเช้ากลมหรือสี่เหลี่ยมความลึกราว 12 นิ้ว จึงลงมือปลูกมัน ณ มุมใดมุมหนึ่ง เหลือพื้นที่บางส่วนเพื่อพันธุ์ไม้ดอกสีสวยชนิดอื่น
รูปภาพ

ดอกแอปเปิ้ล ( Apple Blossoms )
ไม่มีดอกไม้ใดจะงดงามน่ารักเท่าดอกแอปเปิ้ลอีกแล้ว ซึ่งเริ่มตั้งแต่ดอกตูมจนบานสะพรั่ง รับแสงแดด
ไล่สีขาวจากครีมจนถึงชมพูระเรื่อ ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ เช่น อัลมอมนด์และกุหลาบป่า ดอกแอปเปิ้ลจะให้กลิ่นหอมที่สุดในช่วงเช้า การปิคนิค ในสวนแอปเปิ้ลที่อบอวลไปด้วยกลิ่นดอกไม้แสนบอบบางชนิดนี้ การมอบต้นแอปเปิ้ลก็นับว่าเป็น การมองการณ์ไกลเพราะแอปเปิ้ลมีอายุยาวนานนับศตวรรษ ต้นแอปเปิ้ลป่ามีกลิ่นที่หอมมากเช่นกัน และยังขนาดเล็กพอที่จะตั้งไว้ตามระเบียง ข้อแม้ว่า อากาศต้องเย็นพอดอกแอปเปิ้ลจึงจะบานอยู่นาน
รูปภาพ

ดอกส้ม ( Orange Blossoms )
ดอกส้มยามบานสะพรั่ง เป็นสัญลักษณ์เก่าแก่ของความบริสุทธิ์ กลิ่นหอมของดอกส้มคือหนึ่งในกลิ่นยอดนิยมของโลก แม้แต่ใบ และกิ่งของมันยังมีกลิ่นหอม จึงนิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องหอมด้วย และเป็นกลิ่นเดียวที่ใช้บรรยายคุณลักษณะ ของกลิ่นดอกไม้ชนิดอื่น ช่อดอกส้มจะงดงามเป็นพิเศษ หากจัดเป็นช่อเล็กๆผูกด้วยริบบิ้นสีสดใส หรือจะ เป็นกระถางต้นส้มแทนช่อดอกไม้ก็เก๋ไม่เบา วิธีปลูกต้นส้มใน กระถางนั้นไม่ยาก เพียงแต่นำเมล็ดเพาะปลูกลงในกระถางเลย ไม่ต้องลงแปลงเพาะชำแต่อย่างใด
รูปภาพ

ไวเบอร์นัม ( Fragant Viburnum )
ไวเบอร์นัมเป็นไม้ค่อนข้างใหญ่ และนิยมใช้จัดสวน เพิ่งถูกค้นพบเมื่อต้นศตวรรษที่ 19 ในภาคเหนือของจีน
ไวเบอร์นัมจะให้ดอกในช่วงสุดท้ายของฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้ หอมหวนที่สุด กิ่งไวเบอร์นัม ที่ผลิดอก
สีขาวควรจะเป็นนางเอก โดยมีดอกอีสเตอร์และทิวลิปสีขาวรวมทั้งเถาไอวี่ใบเล็กๆ เป็นส่วนประกอบ ไวเบอร์นัมจะผลิดอกระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม โดยจะทยอยบานนานนับสัปดาห์ หรือบางทีก็เป็นเดือนค่ะ
รูปภาพ

โอลีฟ ( Sweet Olive )
ในภาษาดอกไม้ โอลีฟ คือพลังแห่งรักที่ยืนยง แม้ดอกโอลีฟมีขนาดเล็กมากจนแทบจะมองไม่เห็น
เพราะซุกอยู่ท่ามกลางกลุ่มใบอันเขียวขจีของมัน แต่ก็ส่งกลิ่นหอมชื่นใจต่างกับขนาดอย่างสิ้นเชิงโดย
มีกลิ่นคล้ายๆกับผลแอปริคอทและผลพืชสุก ดอกโอลีฟเพียงช่อเดียวก็สามารถทำให้ทั้งบ้านหอมไปด้วย
กลิ่นผลไม้สุก ช่อดอกโอลีฟจะน่ารักมาก หากมีกุหลาบสีชมพูและสนขาวเป็นส่วนประกอบ หรือจะปล่อยให้
โอลีฟอวดโฉมเพียงเดียวดายกับริบบิ้นซาตินสีขาวก็งดงามไปอีกแบบ หรือจะเป็นดอกโอลีฟกระถาง
ซึ่งกำลังออกดอกสะพรั่งก็จะเศษยิ่งขึ้น โอลีฟไม่ชอบ อากาศอับชื้น หรือเย็นจัดยามที่ดอกตูมเริ่มผลิบาน
รูปภาพ

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2009, 21:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ดอกบัวตอง........เหมือนทองทาบ.......อาบเชิงเขา
แนวลำเนา...........เป็นเงางาม...........ยามได้เห็น
เหลืองสะท้อน........อ่อนอร่าม..........เมื่อยามเย็น
มองเดือนเพ็ญ........ดุจแสงทอง..........บัวตองนวล

ดอกบัวตอง

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน สิ่งแรกที่ผุดขึ้นในมโนภาพของหลายๆคนก็คงจะเป็นความงดงาม
ดอกบัวตองสีเหลืองอร่าม ที่พร้อมใจกันผลิบานต้อนรับฤดูหนาว ห่มคลุมดอยแม่อูคอที่อำเภอขุนยวม
และดอยแม่เหาะที่อำเภอแม่สะเรียงทุกวันนี้ แต่หลายคนคงประหลาดใจเมื่อได้ทราบว่าแท้จริงแล้ว
ดอกบัวตอง หาใช่พืชท้องถิ่นของแม่ฮ่องสอนไม่ หากมีแหล่งกำเนิดอยู่ในแถบทวีปอเมริกากลาง
และ หมู่เกาะอินเดียตะวันตกโน่น แต่พอจะอนุมานได้ว่า ดอกบัวตองคงจะเข้ามาแพร่กระจายในดินแดน
แถบนี้เมื่อไม่เกิน 70 ปี มานี้เอง
เพราะก่อนหน้านี้พื้นที่ี่ในบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปกคลุมไปด้วยป่าไม้หนาทึบจวบจนกระทั่ง
บริษัทบอมเบย์ เบอร์ม่า ที่ได้รับสัมปทานป่าในบริเวณ นี้ตัดไม้สักออกขายนั่นแหละ
ป่าที่เคยหนาทึบ จึงกลับกลายเป็นที่โล่ง เปิดทางให้บัวตอง ซึ่งขยายพันธุ์ได้รวดเร็วในภูมิประเทศ
ที่เป็นทุ่งโล่งเข้าเบ่งบานครอบครองพื้นที่จนกลายเป็น เจ้าถิ่นไปในที่สุดดังในปัจจุบัน

บัวตองจัดเป็นวัชพืชวงศ์เดียวกับทานตะวัน ดาวเรือง และต้นสาบเสือ
ด้วยรูปลักษณ์ ที่คล้ายคลึงกับดอกทานตะวันบางครั้งมันจึงถูกเรียกว่า ทานตะวันป่าหรือทานตะวันดอย
แต่หากพิจารณาดูอย่างใกล้ชิด จะพบว่ากระเปาะตรงกลางของดอกทานตะวันนั้นมีขนาดใหญ่
ส่วนกลีบดอกที่ล้อมรอบนั้นมีขนาดสั้น ดอกบัวตองมีกระเปาะตรงกลางขนาดเล็ก แต่มีกลีบดอกที่ยาวกว่า
ว่ากันว่า ผู้ที่นำเมล็ดพันธุ์บัวตองข้ามน้ำข้ามทะเล มาแพร่พันธุ์คือ มิชชันนารีที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์
ในดินแดนแถบนี้ แม้จะไม่มีหลักฐานว่ามิชชันนารีผู้นั้นเป็นใคร

ดอกบัวตองนั้นเปรียบเสมือนสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
โดยดอกบัวตองเป็นดอกไม้ป่าชนิดหนึ่งที่ดอกจะมีสีเหลืองอร่าม
หากใครไม่รู้จักอาจคิดว่ามันคือดอกทานตะวันก็เป็นได้
ซึ่งความคล้ายคลึงจึงทำให้บางครั้งถูกเรียกว่า ทานตะวันป่า หรือ ทานตะวันดอก
ขณะที่ชาวล้านนาเรียก บัวตอง

โดยชื่อสามัญของดอกบัวตองคือ Mexican Sunflower Weed
หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Tithonia diversifolia (Hemsl.) A. Gray.
ซึ่งจริงๆ แล้วดอกบัวตองก็เป็นพืชในตระกูลทานตะวันขนาดเล็ก
มีถิ่นกำเนิดจากประเทศในแถบทวีปอเมริกากลางอย่างเม็กซิโก
แต่ก็ไม่รู้เพราะเหตุใดที่ทำให้ดอกบัวตองมาอยู่ในแถบภาคเหนือของประเทศไทยได้

ทั้งนี้ดอกบัวตองยังแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและมีอายุยืนยาว สามารถสูงได้ถึง 5 เมตร
มีสีเหลืองคล้ายดอกทานตะวัน แต่มีขนาดที่เล็กกว่าดอกทานตะวัน
เป็นลักษณะใบเดี่ยวที่มีขอบหยัก กลีบดอกเรียวมีประมาณ 12-14 กลีบ
ชอบขึ้นในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น จะออกดอกสวยงามที่สุดบนยอดดอยที่สูงกว่า 800 เมตรขึ้นไป
โดยจะออกดอกในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมเท่านั้น
ซึ่งดอกบัวตองบนดอยแม่อูคอจะบานเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่งในพื้นที่เกือบ 1,000 ไร่
บนความสูงราวๆ 1,600 เมตร จากระดับน้ำทะเล
จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวหน้าหนาว ... ทุ่งดอกบัวตอง ที่ แม่ฮ่องสอน

หากคุณเป็นคนที่ชอบ การท่องเที่ยว รับรองไป ท่องเที่ยว ที่นี่แล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน
เมื่อหน้าหนาวมาเยือน ก็ถึงเวลาที่บรรดาดอกไม้นานาพันธุ์จะผลิดอกออกผล
ซึ่งสถานที่ที่เราจะได้เห็นบรรดาดอกไม้ออกดอกได้สาวยงามที่สุด คงไม่พ้นแถบภาคเหนือของประเทศไทย
ที่มีสภาพอากาศที่เย็นกว่าที่อื่น นั่นเอง
เมื่อเอ่ยถึงภาคเหนือแล้ว คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงจังหวัดเชียงใหม่หรือเชียงรายเท่านั้น
แต่ในวันนี้เราจะขอแนะนำจังหวัดแม่ฮ่องสอน หรือที่รู้จักกันในนาม "เมืองสามหมอก"
โดยทุกๆ วันที่ 1 พฤศจิกายน จนถึงเดือนธันวาคม ของทุกปี ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้นจะมีการจัดงาน
"เทศกาลดอกบัวตองบาน" ซึ่งว่ากันว่าช่วงเวลานี้ของแม่ฮ่องสอนนั้นน่าไปเยือนอย่างยิ่ง

ที่ตั้งของดอยแม่อูคอนั้นอยู่ที่ ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
โดยแหล่งดอกบัวตองในจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้นมีอยู่ 2 แห่ง แต่ที่นักท่องเที่ยวนิยมก็คือ
ที่ดอยแม่อูคอนี่แหละ ส่วนอีกแห่งนั้นอยู่ที่ดอยแม่เหาะ เขตอำเภอแม่สะเรียง
แม้ดอกบัวตองที่ดอยแม่เหาะ จะไม่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เท่าที่ดอยแม่อูคอ
แต่สามารถเดินทางไปได้ง่ายกว่า และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะกว่า
ขณะที่ดอยแม่อูคอ คุณสามารถแบกเป้ไปกางเต็นท์ท่ามกลางทุ่งบัวตองได้

การเดินทางไปดอยแม่อูคอนั้น สามารถเดินทางได้จากเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108
จากอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ระยะ ทางราวๆ 200 กิโลเมตร หรือ 67 กิโลเมตร
จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน เลี้ยวสู่ทุ่งบัวตอง 26 กิโลเมตร หรือน้ำตกแม่สุรินทร์ 37 กิโลเมตร
เป็นถนนลาดยางและลูกรัง หรือคุณสามารถใช้เส้นทางจาก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ผ่านดอยอินทนนท์เข้าสู่ทุ่งบัวตองได้

ส่วนทุ่งดอกบัวตอง ที่ดอยแม่เหาะ นั้นห่างจากอำเภอแม่สะเรียงประมาณ 16 กิโลเมตร
อยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 84

ใครชอบแบบไหนก็สามารถเลือกไปกันได้นะจ๊ะ
โพสต์แล้ว...ก็คิดถึงคนที่อยู่ไกลๆ จังเลย :b20:


รูปภาพ

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


แก้ไขล่าสุดโดย ป่าอ้อ เมื่อ 26 ต.ค. 2009, 21:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 05:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว




DSCF0050.JPG
DSCF0050.JPG [ 58.09 KiB | เปิดดู 123768 ครั้ง ]
DSCF0113.JPG
DSCF0113.JPG [ 63.79 KiB | เปิดดู 123724 ครั้ง ]
:b8: :b8: :b8:

ดอกไม้ไทย

สวยสดและงดงามเสมอครับ


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 08:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2009, 15:36
โพสต์: 435

ที่อยู่: malaysia

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
สวัสดีค่ะ คุณป่าอ้อ คุณวรานนท์ และกัลยาณมิตรทุกๆท่าน
สดชื่นยามเช้าเมื่อเข้ามาชม ...มวลพฤกษา...
:b41: ดอกไม้ก็งาม นํ้าใจคนก็งามจ้า :b41:
แล้วดอกนี้ชื่อดอกอะไรค่ะ คุณป่าอ้อ :b6: :b10:
:b48: ขอบคุณมากค่ะ :b48:


แก้ไขล่าสุดโดย jintana63 เมื่อ 29 ต.ค. 2009, 08:44, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 19:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชื่อพื้นเมือง: พุดน้ำบุศย์
ชื่อวิทยาศาสตร์: Gardennia carinata Wallich.
ชื่อสามัญ: Kedah gardenia
วงศ์: Rubiaceae
ถ่ายบริเวณ : คุ้มเจ้าราชบุตร จ. น่าน
ถิ่นกำเนิน ประเทศแถบเอเซีย

พุดน้ำบุษย์
เป็นไม้พุ่มต้นเล็กหรือพุ่มเตี้ยสูงประมาณ 2 – 3 เมตร แตกกิ่งต่ำ ตามข้อของลำต้น ลักษณะใบสวยงาม
เพราะใบมัน หน้าใบสีเขียวเข็ม หลังใบสีเขียวอ่อน เส้นกลางใบสีเทา เป็นลายเห็นเด่นชัดสวยงาม เรียงใบ
เป็นคู่ตรงข้ามกัน ใบรูปรี กว้าง 5 เชนติเมตร ยาว 11 เซนติเมตร ลำต้นแก่สีน้ำตาล กิ่งอ่อนเป็นสีเขียว
ดอกเดี่ยวบริเวณซอกใบใกล้ปลายกิ่ง โคนกลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอดยาว
ความยาวของกลีบดอก 2 เซนติเมตร มี 7 กลีบ คลายรูปช้อน ชูดอกอยู่บนก้าน ดอกบานนาน 7 วัน
เมื่อแรกแย้มบาน มักเป็นสีออกขาวนวลส่งกลิ่นหอมมาก หอมไกล 2 – 3 เมตร
เมื่อบานเข้าวันที่สองสีจะเริ่มออกเหลืองอ่อน ต่อมาค่อยๆ เหลืองเข้มจนกระทั้งเข้มจัด
ฤดูกาลออกดอก ออกดอกตลอดทั้งปี
สภาพการปลูก เติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี แสงแดดจััด
การขยายพันธ ุ์ การปักชำ การตอนกิ่ง

การปลูกและการดูแลรักษา
พุดน้ำบุษย์ปลูกได้ 2 รูปแบบ คือ
ปลูกลงดินกลางแจ้งยกแปลงสูง หรือปลูกลงกระถางขนาดใหญ่ตั้งไว้ในที่มีแสงแดดส่องถึง
เติบโตได้ดีในดินร่วน ระบายน้ำได้ดี แสงแดดจัด ชอบความชื้นแต่ถ้าไม่สามารถหาแดดเต็มวันให้ได้
เเดดครึ่งวัน แดดช่วงเช้าหรือเย็นก็ได้ หลังปลูกบำรุงดินด้วยปุ๋ยมูลสัตว์ประเภทขี้วัวขี้ควายแห้งโรย
กลบฝังดินรอบ โคนต้นหรือรอบขอบกระถางปลูก 15 วันครั้ง รดน้ำให้พอชุ่มทั้งเช้าและเย็น

พุดน้ำบุศย์ บ้านเกิดเมืองนอนอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย แต่เพราะเป็นไม้ที่ปลูกง่าย ไม่เรื่องมาก จึงได้รับความนิยมนำมาปลูกกันอย่างแพร่หลาย ดอกสวย มีกลิ่นหอม ดอกใหม่จะบานเป็นสีขาว แล้วจะค่อยๆ เข้มขึ้นๆๆๆ
จนกลายเป็นสีเหลืองสดใสในที่สุด ...ออกดอกตลอดทั้งปี

หากนำมาแต่งสวนจะมีดอกไม้สีเหลืองสดใส ทั้งสีเหลืองอ่อน สีเหลืองแก่ และสีขาวคละกันไปทั้งต้น ส่งกลิ่นหอมชวนให้อยากเดินเข้าไปทำความรู้จัก ...ช่วงหน้าหนาวดูเหมือนจะออกเยอะเป็นพิเศษ สายลม เสียงเพลงและแสงแดด ปลูกไว้สักต้นสวนหลังบ้านจะหอมสดชื่น ไม่น้อยเลยล่ะคะ..คุณจินตนา

รูปภาพ

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


แก้ไขล่าสุดโดย ป่าอ้อ เมื่อ 29 ต.ค. 2009, 20:11, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 19:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พุดจีบดอกดก ออกดอกตลอดปี แต่กลิ่นแทบไม่มีเลย
ตอนนี้กำลังมีการวิจัยสารสกัดจากพุดจีบที่สามารถควบคุมอาการของโรคสมอง เสื่อม

รูปภาพ

พุดพิชญา มีถิ่นกำเหนิดจากประเทศศรีลังกา
รูปภาพ

พุดแสงอุษา (Tahitian gardenia) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gardenia taitensis DC. อยู่ในวงศ์ Rubiaceae เป็นไม้กลางแจ้ง ที่ต้องการดินที่อุดมสมบูรณ์และมีความชื้นสูง
รูปภาพ

"พุดแสงอุษากลีบซ้อน" ด้วยมีลักษณะใบ และฐานรองดอกเหมือนพุดแสงอุษามาก
ด้วยความแปลกจึงเป็นพุดที่มีราคาขายแพงหลายร้อยบาททีเดียว

รูปภาพ

พุดเศรษฐีบางใหญ่ จะคล้ายพุดซ้อนมาก แต่ดอกใหญ่กว่า ฟอร์มดอกสวยกว่ามาก กลิ่นหอมมากเลย ทรงพุ่มเตี้ยและแผ่กว้างกว่าพุดซ้อน (พุดซ้อนทรงพุ่มจะสูง) และพุดซ้อนจะค่อยๆทยอยให้ดอก แต่พุดเศรษฐีบางใหญ่จะให้ดอกพร้อมๆกันทั้งต้น
รูปภาพ

พุดซ้อน ชื่ออื่นๆ : เคดถวา (เหนือ) พุดจีน พุดใหญ่ (กลาง) พุทธรักษา (ราชบุรี)ถิ่นกำเนิด : ประเทศจีน
รูปภาพ

พุดกุหลาบออสเตเลีย เป็นพุดนอก ดอกไม่ใหญ่นัก แต่ความหอมไม่แพ้พุดอื่นๆ
รูปภาพ

พุดซ้อนแคระ พุดนี้มีถิ่นกำเนิดในแถบยุโรป ต้นเตี้ย สูงไม่เกิน 1 ฟุต
รูปภาพ

พุดเวียดนาม
รูปภาพ

พุดบูรพา หรือ พุดใบเรียว-พุดใบเล็ก อยู่ในสกุลเดียวกับรักนา
รูปภาพ

พุดร้อยมาลัย ชื่ออื่น: พุดตุม พุดฝรั่ง มะลิฝรั่ง
รูปภาพ

พุดตะแคง มีชื่อภาษาอังกฤษอันแสนไพเราะว่า Lady of the Night จัดเป็นไม้พุ่มสูงขนาด 1-1.5 เมตร แตกกิ่งรวดเร็วและโตเร็ว ให้ดอกเดี่ยวออกตามซอกใบและปลายกิ่ง 1-2 ดอก ดอกมีลักษณะเป็นหลอดยาว มี 5 กลีบ ให้ดอกดกตลอดทั้งปี กลิ่นหอมแรง หอมโชยในช่วงเวลาเย็นถึงค่ำ ในช่วงแรกที่ผลิดอกมีสีขาวหลังจากนั้นจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเย็นตา
รูปภาพ

พุดสามสี มีความพิเศษคือ ดอกในต้นเดียวกันจะมีถึง 3 สี คือ ม่วงเข้ม ม่วงอ่อน ขาว
เป็นที่มาของชื่อ Yesterday-Today and Tomorrow เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กสูง 2 เมตร

รูปภาพ

ส่วนดอกนี้คือ พุดสีดาดง จะคล้ายพุดน้ำบุษย์ แต่ดอกพุดสีดาดง-มีสีเหลืองอ่อนจนเข้มไม่มีสีขาวมีกิ่งที่แข็งแรงและสั้นกว่า แต่เรื่องความหอมไม่แตกต่างกัน
รูปภาพ

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 20:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

พุดแตรงอน
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Euclinia longiflora Salisb.
ชื่อสามัญ African Angel Trumpet, Tree Gardenia เป็นไม้ในวงศ์ Rubiaceae
มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาเขตร้อน เข้ามาในประเทศไทยแต่โบราณ จนกลายเป็นไม้ไทยไปแล้ว

พุดแตรงอน เป็นไม้พุ่มเตี้ย กิ่งขนาดเล็กเลื้อยยาวและโน้มลงต่ำกิ่งเปราะหักง่าย
ใบ เป็นใบเดี่ยวขอบใบจะเป็นจักร เนื้อใบนิ่มสีเขียวเข้มมีขนเล็กน้อย ใบจะออกเป็นช่อๆ
แตกออกมาพร้อมๆกับดอก แตกต่างจากพุดซ้อนที่เราท่านคุ้นเคยกันโดยสิ้นเชิง
รูปภาพ
พุดแตรงอน มีดอกที่สวยงามแปลกตา มีกลิ่นหอมออกมาจากปากเกษรตัวเมีย เป็นกลิ่นหอมเย็นชื่นใจ
ซึ่งจะส่งกลิ่นหอมตั้งแต่พลบค่ำไปจนถึงรุ่งเช้า แต่ถ้าไปดมช่วงกลางวันละก็ ฮิๆ... มันจะออกเหม็นเขียวนะ
ดอกของพุดแตรงอนจะมีรูปร่างเหมือนปากแตร งอนยาว โค้งดอกลงต่ำ โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาว 10-15 เซนติเมตร ปลายหลอดขยายใหญ่ขึ้น ปลายกลีบดอกแผ่ออกคล้ายปากแตร
เมื่อดอกบานมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8-10 เซนติเมตร ดอกที่บานเต็มที่ดอกจะห้อยลงและส่งกลิ่นหอม
บานอยู่ได้ 1-2 วัน ยามเมื่อสายลมพัดมาดอกก็จะไหวตามแรงลม น่ารักน่าชมสวยมากๆ
ดอกพุดแตรงอนจะออกเป็นชุดๆตลอดทั้งปี แต่มีดอกดกช่วงปลายฝนต้นหนาว
เคล็ดลับที่ทำให้พุดแตรงอนมีดอกสะพรั่งเต็มต้น ก็คือ ต้องงดให้น้ำระยะหนึ่งก่อน พอทิ้งใบหมด
จึงเริ่มให้น้ำให้ปุ๋ย หลังจากแตกใบใหม่ ก็จะแตกดอกออกมาด้วย ดอกจะออกมาจากกลางตาใบเลย
รูปภาพ
พุดแตรงอน ไม่ชอบแดดจัดมากเกินไป หากถูกแดดแรงๆ ใบจะไหม้ทันที ดอกก็เช่นกัน หากถูกแดดเมื่อไรก็เมื่อนั้น เหี่ยว คอตกทันทีเลยครับ ชอบดินร่วนมีอินทรีย์วัตถุสูง และต้องการน้ำปริมาณมาก ชอบให้ดินชื้นตลอดเวลา
รูปภาพ
ขยาย พันธุ์โดย การปักชำ ทับกิ่ง และตอนกิ่ง เป็นไม้ดอกที่ออกรากง่าย ต้นสูง 2-3 เมตร
แตกกิ่งต่ำจำนวนมาก กิ่งมีขนาดเล็ก เลื้อยยาวและโน้มลงต่ำ เหมาะที่จะปลูกอยู่ในกระถางขนาดใหญ่
ที่ต่อฐานให้กระถางอยู่สูงๆ ปล่อยให้กิ่งโน้มลงมา แล้วออกดอกห้อยคว่ำลง จะดูโดดเด่นและหรูหราเชียวค่ะ ชอบดินชื้นและแสงแดดปานกลาง มีการเจริญเติบโตค่อนข้างรวดเร็ว จึงควรหมั่นตัดแต่งกิ่งเพื่อให้มีทรงพุ่มสวยงาม (หากปลูกลงดินกลางแจ้ง หรือปลูกใต้ร่มไม้อื่น หรือในที่มีแสงแดดน้อย พบว่าไม่ค่อยออกดอก)

รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


แก้ไขล่าสุดโดย ป่าอ้อ เมื่อ 29 ต.ค. 2009, 20:06, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 108 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร