วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 15:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2009, 09:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมได้มีโอกาสไปศึกษาความรู้อีกด้านหนึ่งของพุทธศาสนาที่เป็นองค์ความรู้มาจากประเทศพม่า ผมได้รับรู้ถึงความจริงอย่างหนึ่ง ซึ่งจะสามารถสร้างเหตุปัจจัยให้เราเข้าถึงธรรมที่นำมาเพื่อความหลุดพ้นได้ถึงขนาดไหนจะยังไม่กล่าว ผมจะบอกในสิ่งที่ผมสัมผัสได้และทุกคนสามารถสัมผัสได้จริงไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์อะไรมันเป็นความจริงที่ทุกชาติทุกศาสนาจะรับรู้ในสิ่งเดียวกันนี้ได้ถ้าปฎิบัติเดี๋ยวนี้ เห็นเดี๋ยวนี้ ท่านสอนผมว่าการที่เราเรียนปริยัตินี่ดีนะดีมากๆแต่ต้องขวบคู่กับปฎิบัติด้วยถึงจะสมบูรณ์การเรียนปริยัติอย่างเดียวแล้วเราเอาถกเถียงกันมันเปรียบเหมือนการเล่นการบันเทิงทางปัญญาเท่านั้นมิสามารถลดละกิเลสได้ ท่าบอกว่าเราสามารถถกเถียงกันได้บ้างพอทำความเข้าใจให้ตรง ทีนี้ท่านบอกเกี่ยวกับการปฎิบัตว่าการปฎิบัติที่ไม่ถูกวิธีเท่าที่ควรเป็นก็ไม่สามารถชำระกิเลสในอนุสัยกิเลสได้ แล้วการปฎิบัติท่านเป็นอย่างไร ไม่มีอะไรมากเหมือนกับการสอนสติปัฎฐานสี่ทั่วๆไปนั้นแหละ แตกต่างตรงที่จะต้องเชื่อมโยงรูปกับนามที่สัมพันธ์กันตลอดเวลาให้ลึกที่สุดก่อน คือเราจะต้องรับรู้ถึงความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนที่สุดที่มันเกิดกับร่างกายเราอยู่ในขณะนี้ทั่วร่างกาย สภาวะนี้ทุกคนเข้าถึงได้ทุกคนถ้าใครไม่ปฏิบัติเพื่อเข้าถึงสภาวะนี้ ก็ไม่สามรถชำระกิเลสในส่วนของอนุสัยได้จริง จะชำระจิตได้ก็ในละดับจิตสำนึกเท่านั้น ซึ้งไม่สามารถหลุดพ้นได้ และอะไรเล่าที่จะทำให้เราสามารถที่จะทำได้เช่นนั้น อารย์บอกว่าก็ลมหายใจเรานี่แหละที่จะสะพานไปสู่ความจริง เป็นสิ่งที่ทุกคนมีไม่ว่าเราจะอยู่ศาสนาใดๆ ไม่จำกัดอยู่แค่คนที่นับถือศาสนาพุทธเท่านั้น ลมหายใจที่เป็นของสากล จิตต้องเข้าไปเฝ้าดูลมหายใจอย่างที่มันเป็น ลมหายใจเข้าสั้นก็รู้ ลมหายใจออกสั้นก็รู้ ลมหายใจเข้ายาวก็รู้ ลมหายใจออกยาวก็รู้ บางทีลมหายใจเข้าข้างเดียวก็รู้ หายใจออกข้างเดียวก็รู้ เมื่อจิตเราเริ่มละเอียดเราจะรับรู้ถึงความร้อนของลมหายใจออกที่มันมีอยู่จริงตลอดเวลา แต่จิตเราไม่ละเอียดพอที่จะรับรู้ความรู้สึกเหล่านี้เราได้ รับรู้แต่ความรู้สึกหยาบได้เช่น แข็งตรงนั้น เจ็บตรงนี้ ตรงนั้นอ่อน ซึ้งเป็นความรู้สึกที่หยาบอันนี้ทุกคนไม่ต้องฝึกก็รับรู้ได้ พอเรารับรู้ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนได้ เท่ากับความจริงเริ่มปรากฎ เราจะรับรู้ความรู้สึกได้ที่บริเวณปลายจมูกซึ้งปกติมันจะเกิดอยู่แล้วแต่จิตเราไม่ละเอียดก็เลยไม่สามารถรับรู้ได้ เมื่อจิตเรารับรู้แล้วทีนี้ก็เริ่มกำหนดจิตไปที่ส่วนอื่นของร่างกายตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า เราจะรับรู้ความรู้สึกละเอียดอ่อนทั่วร่างกาย เป็นอะไรที่เราไม่เคยรับรู้มาก่อนทั้งๆมันเกิดขึ้นตลอดทั่วร่างกายเราอยู่แล้ว ทีนี้เราจะรับรู้ได้ตลอดเราจะพิจารณาอะไรก็แล้วแต่แต่ละคนถนัด ท่านอาจารย์บอกว่าอย่างไรเสียเราก็ไม่สามรถหลีกเลี่ยงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในร่างกายนี้ได้ เพราะรูปนามเกิดขึ้นเชื่อมโยงกันสัมพันธ์ตลอด และอาจารย์ยังบอกว่าไม่ว่าความรู้สึกใดๆในร่างกายเราที่มันเกิดขึ้นไม่ต้องไปยินดียินร้ายมันทั้งนั้นไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ให้วางใจเป็นอุเบกขา พิจารณาอย่างเดียวก็จะเข้าใจในธรรมนั้น สัมปชัญญะความรู้ตัวทั่วพร้อมนี้สติที่เข้าไปรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นปัญญาที่เกิดขึ้นในขณะที่เรารับรู้ความรู้สึกนั้นจะเป็นภวนามยปัญญาอย่างแท้จริง มิใช่อ่านเอา คิดเอา และยังเป็นปัญญาที่มีกำลังอีกด้วย และอาจารย์ยังกล่าวว่าเรามิได้โจมตีวิธีอื่นๆที่เขาทำกัน ท่านอาจารย์บอกว่าแต่ละวิธีก็น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติได้บ้าง แต่อารย์บอกว่าวิธีนี้เป็นการปฏิบัติที่สืบต่อกันมาวิธีหนึ่งซึ้งผู้สนใจธรรมที่แท้จริงไม่น่ามองข้าม ให้ผลแก่ผู้ปฎิบัติมาแล้วทั่วโลก ผมจึงนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านที่ชอบแสวงหาธรรมะ โลกกว้างไกลเมื่อก่อนผมก็คิดว่าเรารู้เยอะแต่แล้วมีสิ่งอื่นที่เราไม่เคยรู้มีอีกมากมาย ผู้ปฎิบัติธรรมย่อมไม่ปิดกั้นตัวเอง ถ้าท่านสนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่http://www.thai.dhamma.org นี่เป็นการแชร์ประสบการณ์ในการศึกษาปฏิบัติธรรมะมิได้ขัดแย้งกับผู้ใดทั้งสิน

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2009, 11:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 16:10
โพสต์: 298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะที่นำเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กันฟัง :b20: :b20:

อนุโมทนาบุญจร้า :b8: :b8: :b8:

:b43: :b54: :b43: :b54: :b43: :b54: :b43: :b54: :b43: :b54: :b43: :b54: :b43: :b54:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2009, 12:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ............... :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2009, 13:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 22:19
โพสต์: 271

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


น่าสนใจดีครับ สาธุๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ค. 2009, 05:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโพสต์ คห.ไว้ที่

http://larndham.net/index.php?showtopic=35446

ด้วยนี่ขอรับ ที่นั่นต้องผ่านคุณเฉลิมศักดิ์ก่อน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ค. 2009, 06:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ด้วยนี่ขอรับ ที่นั่นต้องผ่านคุณเฉลิมศักดิ์ก่อน


ก็คุยกันบ้างครับ

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ค. 2009, 06:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมโพสต์หลายที่ครับเพื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้พบเห็นครับ เพราะผมพิสูจน์มานานแล้วรู้ว่าได้ผลดีจริงครับ

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 47 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร