วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 21:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 12:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เรามีแต่ความคิดเห็นว่า เราต้องพูด เราต้องพูด เราต้องพูด
เพื่อประโยชน์ เราต้องพูด เราต้องพูด

แต่ว่าปัญญาไม่มี น้อยไปหรือไงไม่ทราบ
เลยพูดแบบ (ขอโทษนะ) "พูดแบบดิรัจฉาน" คือพูดเพราะโทสะ
อาการโทสะเป็นภาวะของเดรัจฉานวิสัย

แม้จะพูดรักษาประโยชน์ แต่ว่าเราพูดถึงความบกพร่องของคน
ไปๆ มาๆ มันก็คือการด่า เพราะเราไปพูดถึงความไม่น่ารักของคน

ผมนี่แหละมิจฉาทิฐิของแท้เลย
เพราะเห็นโทษดีกว่าประโยชน์
จึงทำโทษเพื่อเอาประโยชน์
จะไม่เรียกว่ามิจฉาทิฐิได้อย่างไร

ศีลที่รักษายากที่สุดเป็นจะเป็นศีลวจีสุจริตนี่แหละ
รักษายากที่สุดเลย
แต่เห็นคนอื่นเขาทำแล้วกลับง่าย
เพราะเพียงแต่ไม่พูด ก็จบ

ดีชั่วก็ไม่ต้องพูด สู้รบกับดีชั่วในตัวดีกว่า
เป็นการฝึกอุเบกขาบารมี

เห็นแล้วรู้สึกว่า ธรรมทั้งปวงมันบรรจบกันเป็นเนื้อเดียวกัน
น่าอนุโมทนาในความเงียบอันนั้น
เพราะเป็นความเงียบที่ธรรมะก้องกังวานอยู่ในใจผู้เงียบ

เงียบบารมี
เอาใจช่วยผมด้วยก็แล้วกันครับ เบื่อด่าคนคน มีให้ด่าไม่รู้จบ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 13:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b51: :b52: :b46: รูปภาพ
:b46: ขออนุโมทนา เอาใจช่วยค่ะ :b45:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 13:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Bwitch เขียน:
:b51: :b52: :b46: รูปภาพ
:b46: ขออนุโมทนา เอาใจช่วยค่ะ :b45:

งั้นผมด้วย

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 15:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนบางคนที่เขาไม่พูด..... เพราะเขาไม่รู้จะพูดอะไร

บางคนที่เขาไม่พูด.......แม้ เขารู้ว่าจะพูดอะไร แต่ไม่มีปัญญาอธิบายได้ดังที่ใจอยากจะพูด
เขาจึงไม่พูด

คนบางคนที่เขาไม่พูด..........เพราะกลัวว่า ถ้าพูดออกไป แล้วใครต่อใคร จะเห็นความไม่รู้ของตน

คนบางคนที่เขาไม่พูด......เพราะกลัวว่า ถ้าพูดออกไป แล้วใครต่อใคร จะรู้ว่าแท้จริง
ตัวตนของเขาคือผู้รู้

คนบางคนที่เขาไม่พูด........เพราะเขามีนิสัยไม่ชอบพูด ถึงแม้รู้ก็ไม่อยากพูด

คนบางคนที่เขาไม่พูด........เพราะรู้ว่า การพูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์
ถึงแม้ว่าจะตรง ถูกต้อง ถ้าพูดแล้วคนไม่สามารถเข้าใจได้ เขาก็ไม่อยากพูด

คนบางคนที่เขาไม่พูด.........เพราะคิดว่า มีผู้อื่นพูดกันไว้ดีแล้ว
จึงไม่จำเป็นที่ตนจะต้องพูดอะไรอีก

คนบางคนที่เขาไม่พูด........เพราะ ไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอให้ใครต่อใครหมดสนุก

คนบางคนที่เขาไม่พูด....เพราะ......ไม่มีอารมณ์จะพูด ต้องรอจังหวะเหมาะๆก่อน
อารมณ์สุนทรีย์บังเกิดเมื่อไร จึงค่อยมีไฟที่จะพูด

คนบางคนที่เขาไม่พูด...........เพราะ เขาพูดมามากแล้ว จึงอิ่มตัว
ปล่อยให้คนที่เพิ่งเริ่มพูด ได้พูดพร่ำกันไป

คนบางคนที่เขาไม่พูด...........เพราะเขาต้องคอยวางมาด เพราะเดี๋ยวเสียการปกครอง

คนบางคนที่เขาไม่พูด......เพราะกลัวท่านชายตามย้อนเกล็ด แล้วเขาไม่มีปัญญาตอบ
แต่เขาอาจจะชอบยามท่านชายตามเชยชิดพิศมัยเขา ด้วยถ้อยคำประหลาดๆ


คนที่เขาไม่พูด.......เพราะจิตใจนึกถึงผู้อื่น ปรารถนาดีต่อผู้อื่น มีน้อยเกินไป

คนที่เขาไม่พูดเพราะ...............ฯลฯ และ เริ่มหมดมุข

ขอเป็นกำลังใจให้ท่านชาย ถ้าท่านเป็นอุเบกขาไปอีกคน สถานธรรมคงเหงาหงอย
เชิญ รื่นเริง บันเทิงในธรรม ตามแบบเดิมๆนั่นหละดีแล้ว

:b4: :b4: :b4: :b53: :b38: :b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 15:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


บัวศกล เขียน:
คนบางคนที่เขาไม่พูด......เพราะกลัวท่านชายตามย้อนเกล็ด แล้วเขาไม่มีปัญญาตอบ
แต่เขาอาจจะชอบยามท่านชายตามเชยชิดพิศมัยเขา ด้วยถ้อยคำประหลาดๆ



555
แหม ปัตจัตตังใช่มั๊ยครับ ที่พูดนี่น่ะ ... ตะเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 09:55
โพสต์: 405


 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ เป็นความคิดเห็นที่ดีแล้วครับ

ผู้ปฏิบัติธรรมควรเป็นผู้พูดน้อย ปฏิบัติให้มาก เพราะพูดมากจิตย่อมฟุ้งซ่าน ห่างจากสมาธิได้ เวลาจะพูดสิ่งใดควรคิดก่อนพูด รู้ทันความอยากจะพูดที่เกิดขึ้นในจิตนั้น และเมื่อเวลาพูดควรพูดแต่ถ้อยคำที่ประกอบไปด้วยวาจาสุภาษิต มีหลักการพูดสรุปมาให้ ๕ ประการคือ

๑. พูดถูกกาละเทศะ (ไม่พูดเพ้อเจ้อ : รู้ว่าควรพูดที่ใด เวลาใด)
๒. พูดออกมาจะต้องเป็นคำจริง (ไม่พูดโกหก : เรื่องที่พูดเป็นเรื่องจริง และพูดด้วยความจริงใจ, พูดได้ทำได้)
๓. เป็นคำที่สุภาพ อ่อนหวาน (ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดใส่อารมณ์ เมื่อโกรธอยู่ยังไม่ควรพูด)
๔. เป็นคำที่เป็นประโยชน์ (ไม่พูดเพ้อเจ้อ : เรื่องงาน, เรื่องธรรมะ, เรื่องตามธรรมเนียม, ไม่พูดเล่น )
๕. เป็นคำที่พูดด้วยเมตตาจิต (พูดด้วยความหวังดี : มุ่งให้บุคคลนั้นมีความสุข พ้นจากความทุกข์)


ข้อคิด...

"เจริญเพราะคารมณ์ ล่มจมเพราะปาก ลำบากเพราะคำพูด"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 16:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 09:55
โพสต์: 405


 ข้อมูลส่วนตัว


การพูดให้นำพุทธพจน์ไปปฏิบัติตามจะเกิดประโยชน์แท้

วาจาที่ประกอบด้วยประโยชน์
[๙๔] สมัยนั้นแล เด็กอ่อนเพียงได้แต่นอน นั่งอยู่บนตักของอภัยราชกุมาร ลำดับนั้น
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะอภัยราชกุมารว่า ดูกรราชกุมาร ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
ถ้ากุมารนี้อาศัยความเผลอของพระองค์ หรือของหญิงพี่เลี้ยง พึงนำไม้หรือก้อนกรวดมาใส่ในปาก
พระองค์จะพึงทำเด็กนั้นอย่างไร?
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันจะพึงนำออกเสีย ถ้าหม่อมฉันไม่อาจจะนำออกได้แต่
ทีแรก หม่อมฉันก็จะเอามือซ้ายประคองศีรษะแล้วงอนิ้วมือขวาควักไม้หรือก้อนกรวดแม้พร้อม
ด้วยเลือดออกเสีย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะหม่อมฉันมีความเอ็นดูในกุมาร.
ดูกรราชกุมาร ตถาคตก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วย
ประโยชน์ และวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น อนึ่ง
ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่
ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง วาจาที่แท้ และประกอบ
ด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่
จะพยากรณ์วาจานั้น ตถาคตย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้น
เป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ ไม่
ประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่
ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะ
ตถาคตมีความเอ็นดูในสัตว์ทั้งหลาย

ขอให้เจริญในธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 19:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 22:19
โพสต์: 271

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใครๆก็เป็นกันทั้งนั้นเรายังไม่ใช่อรหันต์นี่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 19:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




เพราะตัวผู้รู้มันเยอะงัย เลยทำให้เป็นแบบนี้

แสดงว่าเริ่มเห็นตัวผู้รู้แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าเห็น :b32:

เพราะเหตุอย่างนี้ๆๆๆๆ ผลจึงเป็นเช่นนี้ๆๆๆๆๆ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 20:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 16:38
โพสต์: 81

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ศีลที่รักษายากที่สุดเป็นจะเป็นศีลวจีสุจริตนี่แหละ
รักษายากที่สุดเลย
แต่เห็นคนอื่นเขาทำแล้วกลับง่าย
เพราะเพียงแต่ไม่พูด ก็จบ

ดีชั่วก็ไม่ต้องพูด สู้รบกับดีชั่วในตัวดีกว่า
เป็นการฝึกอุเบกขาบารมี


โชคดีไปที่.. เลิกสมาทานศีล รับศีล มานานแล้ว เลยเป็นคนไม่ศีล :b32: เมื่อไม่มีศีลก็ทำชั่วสบาย ๆ โดยไม่กลัวอะไร .... :b32: อบายก็ไม่กลัว สวรรค์ก็ไม่ไป เอ...เข้าพวกไหนดีหนอ...เพราะมีผู้สอนคำตรัสของพุทธะ ว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ทุกอย่างเกิดแต่ เหตุและปัจจัย....เพราะฉะนั้นคงไม่มีหรอกค่ะ เรื่องนรก สวรรค์ เป็นเรื่องของพวกพราหม์ที่เขาถือกันมานานแล้ว คำตรัสพุทธะ ไม่มีเรื่องนรกสวรรค์ มันเป็นเรื่องหลอกคนโง่....(วาทะอาจารย์สมัยนี้) ดีใจจัง ...จะกลัวทำไม ทำชั่วไปเล้ย..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 20:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


walaiporn เขียน:


เพราะตัวผู้รู้มันเยอะงัย เลยทำให้เป็นแบบนี้

แสดงว่าเริ่มเห็นตัวผู้รู้แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าเห็น :b32:

เพราะเหตุอย่างนี้ๆๆๆๆ ผลจึงเป็นเช่นนี้ๆๆๆๆๆ


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 20:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: :b16: :b16: :b16:
:b12: :b12: :b12: :b12: :b4: :b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


การเขียนโต้ตอบ ในมุมหนึ่งก็เป็นการเรียบเรียงความคิด บางทีข้อมูลเต็มหัว ก็มาเรียบเรียงกันตรงนี้...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 20:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:


เพราะตัวผู้รู้มันเยอะงัย เลยทำให้เป็นแบบนี้

แสดงว่าเริ่มเห็นตัวผู้รู้แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าเห็น :b32:

เพราะเหตุอย่างนี้ๆๆๆๆ ผลจึงเป็นเช่นนี้ๆๆๆๆๆ


:b8: :b8: :b8:

มันมี"ความรู้สึก" มาก่อน"ความคิด"

ด้วยความรวดเร็ว ความคิดมัน"พราง"ว่าความคิดมันประเสริฐกว่าความรู้สึก
"เรา" ก็ไปเชื่อ"ความคิด"
แต่ความรู้สึกมันก็"ฟ้องอยู่ตั้งนาน"ว่ามันไม่ใช่ "ฝ่ายดี"

ความคิดนี่แหละ ไวและร้าย หลอกเรา
ความรู้สึกต่างหาก มันพูดความจริงตลอดเวลา
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2009, 20:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
การเขียนโต้ตอบ ในมุมหนึ่งก็เป็นการเรียบเรียงความคิด บางทีข้อมูลเต็มหัว ก็มาเรียบเรียงกันตรงนี้...


ถะ ถะ ถะ ถู ถู ถูกกกกกต้องนะคร๊าบบบบ

เวลาพูดนี่พูดไม่สวยเลย
สมาธิมันน้อย ปัญญามันก้น้อย พูดแล้วไม่สวย

ผมชอบเวลาเขียน มันได้เจียน ได้แต่ง
จะ undo (CTRL+Z) ได้

แต่พูดนี่นะ undo ไม่ได้
พูดแล้วพูดเลย


คนพูดเก่ง พูดดี พูดตรง ได้ทุกกาลนี่นะคับ
ผมว่าสุดยอดของปัญญาสมาธิ
ส่วนใหญ่ครูบาร์อาจารย์จะเป็นอย่างนั้น
พูดสั้นๆ แต่กินใจความสำคัญไว้ทั้งหมด
ฟังแล้วฟ้าผ่ากลางใจ สว่าง-สไว-สะทก-สะเทือนไปหมด


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 26 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร