ชวนเสวนา เรื่องนี้ครับ



เวลานี้..วิกฤติน่ะครับ

ข่าวที่ออกทางสื่อต่างๆนั้น บ่อยครั้ง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดไข้หวัดใหญ่2009ว่า
"ติดยากกว่าไข้หวัดใหญ่ประจำปี"
และ
"มีความรุนแรงเท่ากับไข้หวัดใหญ่ประจำปี"

เช่น ออกไปว่า ต้องอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น จึงจะอันตรายจากไข้หวัดใหญ่2009(คล้ายๆ กับ ความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่ประจำปี).
ซึ่งนี่เอง ที่ทำให้ประชาชนคนไทยประมาท และ ไม่ช่วยกันลดการแพร่ระบาด

นักวิชาการไวรัสวิทยาของWHOที่อยู่ในไทยบางท่าน ที่เห็นจุดนี้ ต้องออกมายอมเปลืองตัว ค้านจุดนี้ และ เตือนประชาชน จนเป็นข่าว.


เรื่อง การรณรงค์ใช้หน้ากากอนามัย ก็ไม่ทำกันตั้งแต่ต้น

มัวแต่ "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" .
อนึ่ง ล้างมือ มีประโยชน์มากจริงครับ ช่วยลดการติดเชื้อได้มาก ..... แต่ กินร้อน กับ ช้อนกลาง ต้องถือว่า ไปเน้นจุดไม่สำคัญเข้า .

มารณรงค์หน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นจุดสำคัญ เอาตอนระเบิด(มากกว่าระบาด)ไปทั่วประเทศแล้ว.

ปล...มีคนบอกผมว่า เป็นเพราะฝ่ายการเมืองห่วงภาพลักษณ์การท่องเที่ยว เพราะ ถ้านักท่องเที่ยวเห็นคนไทยใส่หน้ากากอนามัยกันเต็มเมือง เดี๋ยวไม่มาเที่ยวเมืองไทย


ตอนนี้ เรียกว่า การระบาดแทบหากลุ่มเสี่ยงไม่พบ เพราะ มันเสี่ยงกันหมดทุกกลุ่มแล้ว ... ต่างกันว่า จะเสี่ยงมาก เสี่ยงน้อย



ช่วงบ่ายๆ ผมจะมาเสนอประเด็น

1.ความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่2009 จากข้อมูลที่เป็นกลาง.นับตั้งแต่ จุดแรก ที่ระบาดที่เม็กซิโก และ กระจายไปต่ามส่วนต่างๆทั่วโลก

2.สมาธิภาวนา กับ ระบบภูมิคุ้มกัน

3.สมุนไพร กับ ไข้หวัดใหญ่(ผมเองกำลังใช้อยู่ครับ)



ท่านใดจะเสนอแนะ หรือ ถามข้อมูลใด ก็เชิญในกระทู้นี้ได้ตามสบายครับ

อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณหมอ (ขออนุญาตค่ะ)
คนไร้สาระ อยากถามว่า สมุนไพรอะไรช่วยแก้หรือบรรเทาได้บ้างค่ะ
รู้สึกช่วงนี้ไข้หวัดระบาดหนักและอยากทราบการกระจาย
แพร่เชื้อด้วย กราบขอบพระคุณล่วงหน้า

สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...คุณหมอ

ขอบคุณมากค่ะ...สำหรับสาระดีดีที่นำมาฝาก
จะรออ่านต่อนะคะ สนใจมากทุกประเด็นเลยค่ะ
ระวังสุขภาพนะคะทุกท่าน

ธรรมะสวัสดีค่ะ

คุณตรงประเด็น กำลังสงสัยมากอยู่พอดีค่ะ
ขอถามนะคะ พอดีเมื่อวานดูข่าว
ตอนนี้ตามร้านขายยาสมุนไพร ยาฟ้าทะลายโจร,มะรุมอัดเม็ดแบบแคปซูล
มีคนแห่ไปซื้อจนขาดตลาดมากจนขาดตลาด เพราะช่วยป้องกันไข้หวัด 2009 ได้
แต่ก็ต้องรักษา ดูแลตัวเองด้วยนะ
พอดีทานมะรุมอัดเม็ดมาได้อยู่สักเดือน ตั้งแต่มารู้คุณประโยชน์มากมายมะรุมน่ะค่ะ
เลยไม่แน่ใจว่าตัวยาสมุนไพรนี่ช่วยป้องกันไข้หวัด 2009 ได้จริงหรือค่ะ
แล้วที่คุณทานอยู่พอจะบอกได้ไม๊คะว่าอะไร
พอดีทานมะรุมอัดเม็ด เค้าบอกว่า วันละ 3 เม็ดก่อนอาหาร มันมากเกินไปไม๊คะ
ตอนนี้ทานแค่วันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น กลัวจะมีสารตกค้างในร่างกายเดี๋ยวจะเป็นอันตรายหรือเปล่าคะ แล้วหน้ากาก เวลาใส่แล้วอึดอัดน่ะค่ะ เลยไม่ชอบใส่ลูกๆ ก็เป็นค่ะ มีวิธีแนะนำไม๊คะ

ขออภัยครับ
ลืมประเด็นสำคัญ คือ การออกกำลังกาย สามารถช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันได้ชัดเจน


ดังนั้น ขอเพิ่ม-ปรับ ประเด็น เป็นดังนี้

1.ความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่2009 จากข้อมูลที่เป็นกลาง.นับตั้งแต่ จุดแรก ที่ระบาดที่เม็กซิโก และ กระจายไปต่ามส่วนต่างๆทั่วโลก

2.สมาธิภาวนา(ออกกำลังใจ) และ การไม่เครียด กับ ระบบภูมิคุ้มกัน

3.ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ การอยู่ในที่อากาศโปร่ง กับ ระบบภูมิคุ้มกัน

4.สมุนไพร กับ ไข้หวัดใหญ่(ผมเองกำลังใช้อยู่ครับ)

สมุนไพร มีหลายชนิดครับที่ช่วยเรื่องหวัด

ที่นิยมสูงสุด และ มีการกล่าวไว้ชัดเจน ในตำราสมุนไพรทั้งไทย จีน ๆลๆ คือ

ฟ้าทะลายโจร(ผมกำลังใช้อยู่)

ขนาดที่ใช้ คือ 6กรัม/วัน (แบ่ง 3-4ครั้ง หลังอาหาร) ประมาณ3ถึง5วัน
แต่ บางท่านกินขนาดนี้ อาจเวียนหัวได้.... ก็ สามารถลดขนาดลงบ้างก็ได้.

ผมเองใช้อยู่ สังเกตุเห็นว่า ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ลดไข้ ลดอาการแพ้อากาศได้ชัดเจนมาก.
มีจุดดีกว่ายาของฝรั่งตรง มีผล ป้องกันการทำลายตับ(hepato protective)จากยาหรือสารพิษอื่นด้วย. ผลข้างเคียงก็น้อยกว่ายาของฝรั่ง และ มีประโยชน์แม้ใช้ในวันหลังๆของการเจ็บป่วย(ใน ขณะที่ ยาทามิฟลูต้องใช้ใน24ถึง48ชั่วโมงแรกเท่านั้น เพราะ เป็นvirostatic หรือ ยับยั้งไวรัสในระยะแรกเท่านั้น)

เท่าที่ทราบ ฟ้าทะลายโจรไม่ได้ฆ่าไวรัสโดยตรงเช่นกัน แต่ ไปปรับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้จัดการกับไวรัสได้ดีขึ้น

ฟ้าทะลายโจร เป็น ยาที่จัดว่าเย็นมากๆ ดังนั้นการกินขนาดสูงนานๆ อาจมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ยได้เหมือนกัน. จึงไม่ควรกินขนาดสูงนานๆ.(และ อาจต้องกินยาร้อน คือ ขิง ร่วมด้วย เพื่อถ่วงดุลย์)

แต่ ถ้าหากกินนานๆในขนาดต่ำๆ เช่น ที่คนแก่ตามพื้นบ้านเอามาต้ม(ผสมใบเตยเพื่อดับกลิ่น)เป็นน้ำชาจิบกิน ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรน่ะครับ

ทราบมาว่า ในเมืองไทยบางแห่ง ก็มีการใช้ฟ้าทะลายโจรร่วมกับยาทามิฟลูให้ ผป.ที่อาการหนักด้วย

ลูกโป่งก็มีใช้เหมือนกันค่ะ ตอนเป็นหวัด ได้ผลดีทีเดียวค่ะ

ขอบคุณค่ะ...คุณหมอ

รออ่านต่อค่ะ

หากท่านใดอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง ฟ้าทะลายโจรดูที่ LINK นี้ได้ค่ะ

สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สวนจิตรลดา ถ.ราชวิถี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๓
http://www.rspg.or.th/

http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_07_8.htm

ธรรมะสวัสดีค่ะ

คาวตอง ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่มีการกล่าวถึงกันมาก

เป็นพืช คล้ายพลู มีมากในภาคเหนือ ชาวบ้านนิยมมากินเป็นผักคู่กับลาบ หรือ น้ำพริก มานานแล้ว
มีกลิ่นแรง คล้ายคาวปลา (แต่ คนที่ชอบก็บอกหอมดี) จาก น้ำมันหอมระเหย
บางแห่ง เรียก พลูคาว ข้าวตอง ค่าวตอง ๆลๆ
สมุนไพรตัวนี้ ผมไม่เคยเห็นต้นจริงเหมือนกัน

ทราบมาว่า ช่วยยับยั้งต้านไวรัสแบ่งตัวได้ ห้ามเอนไซน์ Neuraminidase (คล้ายๆ กับ ยาทามิฟลู)

ได้ยินมาว่า อาจจะมีการนำมาใช้ร่วมกับฟ้าทะลายโจร

ตัวนี้ลูกโป่งไม่รู้จักเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีค่ะ...รออ่านต่อค่ะ

ตามเข้าไปอ่าน ในกระทู้ที่คุณลูกโป่งทำลิ้งค์ให้น่ะครับ(ใช้ชื่ออื่น)



คาวทอง

http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_19_1.htm





แต่ ถ้าคาวตองถ้าใช้มากไป อาจมีผลเสียร้ายแรงได้ ดังในเว็บนั้นบอก... ซึ่ง ถ้าชาวบ้านไม่รู้ตรงนี้ ก็ต้องคอยเตือนด้วย

และ ผมเองยังไม่เห็น คาวตองเป็นแบบแคปซูลที่ทีขนาดบรรจุแน่นอนวางจำหน่ายที่ตลาดแถวบ้านผม(ใน กทม อาจจะมีก็ได้น่ะ)

ผมจึงรอข้อมูลเพิ่มเติมก่อน สำหรับ การใช้คาวตอง

มี รุ่นพี่ท่านหนึ่ง แนะนำ ขิง

ท่านบอกว่า ฟ้าทะลายโจรเป็นยาเย็นมาก จึง ควรกินน้ำขิง(บำรุงธาตุไฟ)ไปด้วย เพื่อ ถ่วงดลุย์กัน

และ ขิงเอง ก็มีส่วนช่วยเรื่อง หวัด และ ลดอาการไอได้


ที่กำลังพิมพ์อยู่นี้ ก็กำลังจิบน้ำขิงอยู่ครับ

ขอบคุณค่ะ คุณหมอ

ผักคาวทอง
ชื่ออื่น : คาวตอง(ลำปาง,อุดร) คาวทอง(มุกดาหาร,อุตรดิตถ์) ผักก้านตอง

ลูกโป่งเข้าตาม HOMEPAGE ด้านหน้าค่ะ...ขอบคุณค่ะ

สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สวนจิตรลดา ถ.ราชวิถี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๓
http://www.rspg.or.th/

เพิ่มเติม LINK คาวตองค่ะ
คาวตอง

วิจัย "คาวตอง" ต้านหวัดใหญ่
http://www.thaihealth.or.th/node/9267

“คาวตอง”สมุนไพรไทยยาปราบไข้หวัด 2009
http://www.isnhotnews.com/technology/2009/07/19624

คาวตอง - สุดยอดสมุนไพรไทย
http://khowtong.blogspot.com/2007/07/blog-post.html

ธรรมะสวัสดีค่ะ

น้ำขิง อร่อยชื่นใจไหมคะ...คุณหมอ

ขอบคุณค่ะ...รออ่านค่ะ



เพิ่มเติมค่ะ
แคปซูลงวงตาลผสมคาวตองขององค์การเภสัช
(โทร. 02-2038847-9 ลองสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก่อนก็ได้นะคะ ว่ามีคุณสมบัติอย่างไร)

สำหรับผู้ที่สนใจแคปซูลงวงตาลผสมคาวตองขององค์การเภสัช
สำหรับผู้ที่สนใจแคปซูลสมุนไพรงวงตาลผสมคาวตองขององค์การเภสัช
หากไม่สะดวกมาซื้อด้วยตนเอง ลองติดต่อซื้อรายละเิอียดตามนี้นะคะ

1.เราต้องโอนเงินไปให้เค้าที่บัญชีชื่อ องค์การเภสัชกรรม
ธนาคารกรุงไทย สาขา ประดิภัทธ์เอ
เลขที่บัญชี 050 -1-37856-1
ในราคากระปุกละ 240 บาท มี 60 เม็ด

2. เมื่อโอนเงินแล้ว ให้ FAX ใบโอนพร้อมชื่อที่อยู่เรา
ที่จะให้เค้าส่งยามาให้ FAXไปที่เบอร์โทรศัพท์ 02-6446362

3.เมื่อ FAX แล้ว ให้โทรไปยืนยันกับเค้าที่เบอร์ 02-2038847-9
จากนั้นเค้าก็จะดำเนินการส่งให้เราภายในหนึ่งสัปดาห์ค่ะ



เพิ่มเติม LINK เรื่องขิงค่ะ

http://www.panyathai.or.th/wiki/index.p ... 4%E0%B8%87

ธรรมะสวัสดีค่ะ

จุดแรกที่ระเบิด(แรงมาก) ที่เม็กซิโก
ในช่วงแรกๆ ไวรัสตัวนี้มีความร้ายกาจ เข้าข่าย ไวรัสมรณะ(killer virus) เลยทีเดียว
เพราะ อัตราการป่วยหนัก และ ตาย สูงมาก

ผมได้มีโอกาสศึกษาข้อมูลของ ผป.ที่มีการหายใจล้มเหลวจากปอดบวมเพราะไวรัสตัวนี้ 18รายแรกที่เม็กซิโก. ตายไป7ราย... ซึ่ง ในชีวิตเราท่าน(ที่ไม่ทันยุคไข้หวัดใหญ่สเปนระบาดในอดีต)คงไม่เคยเห็นความรุนแรงขนาดนี้กันมาก่อน.

แต่ พอ ไวรัสตัวนี้แพร่ออกไปในวงกว้างแล้ว ดูเหมือน อำนาจการฆ่าของมันจะลดลง

เพราะ ในประเทศอื่นๆที่ไวรัสตัวนี้ระบาดไปถึงในช่วงหลัง หลายประเทศไม่มีคนตาย เช่น ญี่ปุ่น ๆลๆ.
(แต่ บางประเทศที่บอกว่าไม่มีคนตาย ผมคิดว่า อาจจะมีการปกปิดข้อมูลน่ะ ผมยังจำกรณีซารส์ และ ไข้หวัดนก ได้ดี )

ซึ่ง ที่ไวรัสตัวนี้ ลดความรุนแรงลง อาจเป็นเพราะ
1.มีการผสมกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั่วไป แล้ว กลายพันธ์ ทำให้ความรุนแรงลดลง
หรือ
2.สายพันธ์ที่แรงมากจริงๆ เช่น ทำให้คนตายในเวลาอันสั้นๆ อาจจะถูกจำกัดบริเวณโดยอัตโนมัติ เพราะ คนที่ติดสายพันธ์ที่แรงมากๆนี้ จะต้องเข้า รพ.อย่างเร็ว และ อาจจะไม่ได้ออกจาก รพ.ในช่วงที่แพร่เชื้อได้(หรือ ตายไปเลย)
หรือ
3.ๆลๆ



อย่างไร ก็ตาม

ไวรัส2009นี้ ก็ยังคงร้ายแรงกว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ประจำปีอยู่ดี

ณ เวลาปัจจุบัน อัตราตายก็สูงกว่า ประมาณ4เท่า
และ สามารถก่อโรคใน "คนที่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ใช่เด็กเล็ก หรือ คนแก่" ได้ด้วย

ในตอนแรก ที่ระบาดที่เม็กซิโกนั้น มี "คนที่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ใช่เด็กเล็ก หรือ คนแก่"อยู่ ถึง 1ใน3!!!

แต่ ในช่วงหลัง มันลดความรุนแรงลง มันสามารถโจมตี "คนที่ร่างกานแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ใช่เด็กเล็ก หรือ คนแก่" ได้น้อยลง...

แต่ อย่าเข้าใจผิดว่า มันไม่สามารถทำอะไรกับคนแข็งแรงได้ อย่างเด็ดขาด
เพราะ ในไทยเราเอง บางรายที่ตายไปแล้ว หรือ กำลังป่วยหนัก ก็ไม่ใช่ "คนที่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ใช่เด็กเล็ก หรือ คนแก่".... แต่ เป็นผู้ที่แข็งแรงดีๆนี่เอง




กล่าวคือ

ในปัจจุบัน ถึงแม้น อัตราอันตรายต่อ "คนที่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ใช่เด็กเล็ก หรือ คนแก่"จะลดลง เมื่อเทียบกับช่วงแรกที่ระเบิดที่เม็กซิโก ก็จริง

แต่ หาใช่ว่า คนปกติจะปลอดภัย100%น่ะครับ

ดังนั้น ระมัดระวังตัวเอาไว้ดีกว่า

พูดถึง เรื่อง การ "กลายพันธ์ หรือ ผสมข้ามสายพันธ์(ที่ใกล้เคียงกัน)" ของ ไวรัส แล้ว


คือ ถ้ามัน กลายพันธ์ หรือ ผสมข้ามสายพันธ์(ที่ใกล้เคียงกัน) แล้ว ทำให้มันลดความรุนแรงลง หรือ แพร่ระบาดยากขึ้น.... มันก็ดีไป

แต่ ถ้ามัน รุนแรงมากขึ้น หรือ แพร่ระบาดง่ายขึ้น...เรา ก็คงยุ่งยาก

เคยอ่านพบ สมมุติฐานการสูญพันธ์ของไดโนเสาร์ที่อยู่บนบก และ บินในอากาศ ว่า อาจจะมาจากไวรัส.....


ตอนนี้ ที่ ไทยเราจับตาดูอยู่ มี3ตัว คือ

1.ไวรัสไข้หวัดใหญ่2009(H1N1)
2.ไวรัสไข้หวัดนก(H5N1)
3.ไวรัสซารส์

ไวรัสไข้หวัดใหญ่2009(H1N1) ติดต่อง่ายสุด(อาจจะง่ายกว่าไข้หวัดใหญ่ประจำปี).... แต่ อัตราตายต่ำสุด(4ในพัน)

ไวรัสไข้หวัดนก(H5N1) ติดต่อยากสุด เพราะ เกือบทั้งหมดที่เคยทราบ เป็นการติดต่อจากสัตว์ปีกมาสู่คน ไม่ใช่คนต่อคน(มีบางราย ในฮ่องกงที่สงสัยว่า อาจจะติดจากคนสู่คน แต่ ข้อมูลยังไม่เป็นที่สรุป)...ทว่า มีอัตราตายสูงมาก อาจจะถึงประมาณ30%ทีเดียว

ไวรัสซารส์ ติดต่อ คนสู่คนได้... อัตราตายน้อยกว่าไข้หวัดนก แต่มากกว่าไหวัดใหญ่2009มาก



ที่ ต้องเฝ้าดู คือ

ลูกผสม(ที่อาจเกิดขึ้นได้) ระหว่าง ไวรัสไข้หวัดใหญ่2009(H1N1) และ ไวรัสไข้หวัดนก(H5N1)...

คือ
ถ้ามันได้อำนาจการฆ่ามาจากไวรัสไข้หวัดนก(H5N1) และ ได้ความสามารถในการติดต่อมาจากไวรัสไข้หวัดใหญ่2009(H1N1)
คือ "ร้ายแรง และ ติดต่อง่าย"

ก็คงจะเป็นเรื่องใหญ่มากๆ