วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 19:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 72 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 19:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้อ ..ที่คุณไม่สายเกินไป ติงว่า แปลเข้าข้างตนเอง น่าจะเป็น ไตรปิฎก ที่แปลว่า ตะกร้าสามใบ
หรือภาชนะสามใบ

ไตร แปลว่า สาม ตัวอย่างเทียบเคียง รัตนไตร แปลว่า แก้วสามประการ
รัตน แปลว่า แก้ว
ไตร แปลว่า สาม

ไตรปิฎก แปลว่า ตะกร้าสามใบ หรือ ภาชนะสามใบ
ไตร แปลว่า สาม
ปิฏก แปลว่า ตะกร้า หรือ ภาชนะสำหรับใส่สิ่งของ

ไตรปิฎก เปรียบก็เหมือนตะกร้าหรือภาชนะ สำหรับใส่สิ่งของ ในที่นี่หมายถึงคัมภีร์ ที่จดจารอักษร
ที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยจัดเป็นหมวดเป็นหมู่ ได้สามส่วน สามคำภีร์ หรือ สามปิฏก
มีวินัยปิฎก สุตตันตปิฎก (พระสูตร) และอภิธรรมปิฎก

อย่างนี้หรือเปล่า ที่คุณไม่สายเกินไป ว่าแปลเข้าข้างตนเอง
หากใช่ พึงถามผู้รู้ภาษาบาลีดูได้นะครับ :b16:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 19:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


หอมปากหอมคอ
พอแก้เสี้ยนก็พอแล้ว :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 20:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
หอมปากหอมคอ
พอแก้เสี้ยนก็พอแล้ว :b32:


ไม่ได้เสี้ยน แต่มันคาใจทั้งเขาและเรา ทั้งตัวเขาก็จะเข้าใจผิด และเราเองก็จะสงสัยว่าตรงไหนที่ไม่กระจ่าง

ไม่ได้ถกด้วยความเสี้ยน แต่เอาความชัดเจนในข้อธรรมขอรับท่านชาติสยาม :b16:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 20:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 16:38
โพสต์: 81

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เอาเป็นว่า กรัชกายขอโทษหากที่ผ่านมาทำให้คุณขุ่นข้องใจ
ถ้าไม่มีประเด็นอื่นแล้ว จบการสนทนากับคุณเพียงเท่านี้ก็ได้นะขอรับ



:b8: อั่นแน่อยากคุยด้วยใช่ไหมล่ะ บอกว่าจบแล้วไงค่ะ คิดถึงละซีคะ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 20:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่สายเกินไป เขียน:
อ้างคำพูด:
เอาเป็นว่า กรัชกายขอโทษหากที่ผ่านมาทำให้คุณขุ่นข้องใจ
ถ้าไม่มีประเด็นอื่นแล้ว จบการสนทนากับคุณเพียงเท่านี้ก็ได้นะขอรับ


:b8: อั่นแน่อยากคุยด้วยใช่ไหมล่ะ บอกว่าจบแล้วไงค่ะ คิดถึงละซีคะ :b32:



เอาเป็นว่า กรัชกายขอโทษหากที่ผ่านมาทำให้คุณขุ่นข้องใจ
ถ้าไม่มีประเด็นอื่นแล้ว จบการสนทนากับคุณเพียงเท่านี้ก็ได้นะขอรับ


<= ถอยหลังจากข้อความนี้ขึ้นไปเคลีย จบตามนั้น
แต่ถัดจากข้อความนี้ลงมา เช่นที่...ว่า แปลเข้าข้างตนเอง ประเด็นเดียวเท่านั้น
ถ้าใช่ก็ตามนั้น ถ้าไม่ใช่เป็นประเด็นอื่น ก็นำศัพท์นั้นมาถามได้ขอรับ จะได้หายสงสัยด้วยกันทั้งสอง
ฝ่าย
เรื่องของศาสนธรรมคำสอน ไม่ใช่ถกเอามัน หรือ เพราะความเสี้ยนความอยากอย่างที่คุณชาติสยาม
ตั้งข้อสังเกต :b9:
ประเด็นนี้กรัชกายถือมากๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 21:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 16:38
โพสต์: 81

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระไตรปิฎกคืออะไร ?

ศาสนาทุกศาสนา ย่อมมีคัมภีร์หรือตำราทางศาสนาเป็นหลักในการสั่งสอน พระไตรปิฎก หรือที่เรียกในภาษาบาลีว่า ติปิฎกหรือเตปิฎกนั้น เป็นคัมภีร์หรือตำราทางพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกับไตรเวท ซึ่งเป็นคัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ ไบเบิ้ลของศาสนาคริสต์ อัลกุรอานของ ศาสนาอิสลาม พระพุทธเจ้าประทานพระพุทธโอวาทไว้มากหลายต่างกาลเวลา ต่างสถานที่กัน พระสงฆ์สาวกซึ่งท่องจำไว้ได้ ได้จัดระเบียบเป็นหมวดหมู่ เป็นปิฎกต่างๆ หลังจากพระศาสดานิพพานแล้วเพื่อเป็นหลักพระพุทธศาสนา ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า “ธรรมและวินัยที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่ท่านทั้งหลาย ธรรมและวินัยนั้นจะเป็นศาสดาของท่านทั้งหลาย เมื่อเราล่วงลับไป”

มีหลักฐานกำหนดลงได้ว่าในสมัยพระพุทธเจ้ายังไม่มีคำว่า “พระไตรปิฎก” มีแต่คำว่า “ธรรมวินัย” คำว่า พระไตรปิฎก หรือ ติปิฎก ในภาษาบาลีนั้นเกิดขึ้นมาภายหลังที่ทำสังคายนาแล้ว คำว่า พระไตรปิฎก กล่าวโดยรูปศัพท์ แปลว่า ๓ คัมภีร์ เมื่อแยกเป็นคำๆ ว่า พระ+ไตร+ ปิฎก คำว่า “พระ” เป็นคำแสดงความเคารพหรือยกย่อง คำว่า “ไตร” แปลว่า ๓ คำว่า “ปิฎก” แปลได้ ๒ อย่างคือ แปลว่าคัมภีร์หรือตำนานอย่างหนึ่ง แปลว่ากระจาดหรือตะกร้าอย่างหนึ่ง ที่ แปลว่ากระจาดหรือตะกร้า หมายความว่าเป็นที่รวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไว้เป็นหมวด หมู่ ไม่ให้กระจัดกระจาย คล้ายกระจาดหรือตะกร้าอันเป็นภาชนะใส่ของ ฉะนั้น เมื่อทราบแล้วว่า คำว่าพระไตรปิฎกแปลว่า ๓ คัมภีร์ หรือ ๓ ปิฎก จึงควรทราบต่อไปว่า ๓ ปิฎกนั้นแบ่งออกดังนี้ (๑) วินัยปิฎก - ว่าด้วยวินัยหรือศีลของภิกษุ ภิกษุณี (๒) สุตตันตปิฎก - ว่าด้วยพระธรรม เทศนาทั่วๆ ไป (๓) อภิธัมมปิฎก - ว่าด้วยธรรมะล้วนๆ หรือธรรมะที่สำคัญ.

พระไตรปิฎก เป็นคัมภีร์ที่บรรจุคำสอนของพระพุทธศาสนา ซึ่งเรียกรวมๆ ว่า พุทธธรรม คำว่าพระไตรปิฎก มาจากภาษาบาลี ติปิฏก แปลว่า ตะกร้าสามใบ หรือคำสอนสามหมวด (ติ หมายถึง สาม ปิฏก หมายถึง ตำรา คัมภีร์ หรือกระจาด) ซึ่งคำสอนสามหมวดนี้ ได้แก่

พระวินัยปิฎก หรือ พระวินัย ได้แก่ประมวลระเบียบข้อบังคับของบรรพชิตที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้สำหรับภิกษุและภิกษุณี
พระสุตตันตปิฎก หรือ พระสูตร ได้แก่ประมวลพระพุทธพจน์ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยังที่ต่างๆ ให้เหมาะกับบุคคล สถานที่ และเหตุการณ์ มีเรื่องราวประกอบ
พระอภิธรรมปิฎก หรือ พระอภิธรรม ได้แก่ประมวลคำสอนที่เป็นหลักวิชาการล้วนๆ ไม่เกี่ยวด้วยบุคคลหรือเหตุการณ์ ไม่มีเรื่องราวประกอบ
พระไตรปิฎกมีเนื้อหารวมทั้งสิ้น 84,000 ธรรมขันธ์

พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ครั้งหนึ่งว่า พระธรรมวินัยจะเป็นศาสดาแทนพระองค์ภายหลังที่พระองค์ล่วงลับไปแล้ว

[1] พระไตรปิฎกจึงเปรียบเสมือนตัวแทนของพระพุทธองค์ และเป็นที่ที่ชาวพุทธสามารถเข้าเฝ้าพระศาสดาของตน

[2] พุทธศาสนิกชนสามารถศึกษาปริยัติศาสน์จากพระไตรปิฎก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้พ้นจากความทุกข์ อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตตามนัยแห่งพระพุทธศาสนาสืบไป

พระไตรปิฎกมีจุดเริ่มต้นมาจากการจัดรวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้า ออกเป็นหมวดหมู่ และซักซ้อมทบทวนกันจนลงตัว ในระยะแรก พระไตรปิฎกถ่ายต่อกันมาโดยการท่องจำปากเปล่า จนกระทั่งราว พ.ศ. 460 จึงมีการจารึกลงเป็นลายลักษณ์อักษร กล่าวได้ว่าพระพุทธศาสนาสืบทอดมาพร้อมกับพระไตรปิฎก จากสมัยพุทธกาลจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 2,500 ปี พระไตรปิฎกบาลีของพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท เป็นที่ยอมรับกันว่า เป็นบันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เก่าแก่ที่สุด ดั้งเดิมที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และถูกต้องแม่นยำที่สุด ที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน

:b8: ต้องการเต็มสูตรอย่างนี้ค่ะ...มันจึงจะรู้เรื่องค่ะ..จากชุด 91 เล่ม ของมมร.ค่ะ

อ้างคำพูด:
เรื่องของศาสนธรรมคำสอน ไม่ใช่ถกเอามัน หรือ เพราะความเสี้ยนความอยากอย่างที่คุณชาติสยาม
ตั้งข้อสังเกต
ประเด็นนี้กรัชกายถือมากๆ
....แหมพูดถูกใจจังค่ะเพิ่งมีข้อความนี้แหละที่ถูกใจที่สุดค่ะ :b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 21:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนา สาธุ กับคุณ ไม่สายเกินไป..ในความขยัน (พิมพ์) ของคุณนะครับ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 21:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2009, 16:38
โพสต์: 81

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
อนุโมทนา สาธุ กับคุณ ไม่สายเกินไป..ในความขยัน (พิมพ์) ของคุณนะครับ..


:b8: คือทำแบบนี้ก็คงได้บุญมากเหมือนกันนะค่ะคุณกบ....พอดีเห็นแว๊บ ๆ ว่าให้ดิฉันหาเวลาไปปฏิบัติธรรม.......ทำไมต้องหาเวลาหละปฏิบัติธรรม....ทุกลมหายใจเข้าออกก็ปฏิบัติไม่ได้หรือไงค่ะ...จึงต้องไปนั่งโชว์โฉม.....ชาวบ้าน..นั่งหลับตาภาวนา...แล้วคนนั่งใกล้ตดเหม็นจะกำหนดยังไงดีค่ะ... :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 22:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณ ไม่สายเกินไป
..คือทำแบบนี้ก็คงได้บุญมากเหมือนกันนะค่ะคุณกบ....พอดีเห็นแว๊บ ๆ ว่าให้ดิฉันหาเวลาไปปฏิบัติธรรม.......ทำไมต้องหาเวลาหละปฏิบัติธรรม....ทุกลมหายใจเข้าออกก็ปฏิบัติไม่ได้หรือไงค่ะ...จึงต้องไปนั่งโชว์โฉม.....ชาวบ้าน..นั่งหลับตาภาวนา...แล้วคนนั่งใกล้ตดเหม็นจะกำหนดยังไงดีค่ะ


สาธุ..ปฏิบัติทุกลมหายใจได้..ประเสริฐมากเลยละคุณ..

แล้ว..คุณทำแล้วหรือยังครับ..ทำทุกลมหายใจนี้คุณภาวณาอย่างไรครับ..หรือมีกุศโลบายรวมจิตให้เป็นสมาธิอย่างไรครับ..ถามจริง ๆ นะครับ..ไม่ได้ยียวน..

ของผมก็ทำแต่ไม่กล้าบอกว่าทุกลมหายใจนะครับ...นึกได้ก็ทำ..จิตสั่นไหวถูกกระทบก็ทำ..นึกไม่ได้ก็แล้วไป..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 22:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 07:27
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมดาครับในสังคมก้อมีปนๆกันไปแต่อย่าเอาอะไรมาวัดว่าดีหรือไม่ดีจะเหมาะกว่าเพราะทุกสิ่งย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 05:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




oba41.gif
oba41.gif [ 18.27 KiB | เปิดดู 4357 ครั้ง ]
:b32: ก๊ากๆๆ


..ไม่กลัวตกนรกฟัง :b16:

"ไม่สาย (เกิน) ไป ? "

http://radio.sanook.com/music/player/%E ... %A1/49243/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 12:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


พระภิกษุจริงๆ ไม่ทำให้ไครเดือดร้อนหรอกครับ นอกจากจะเป็นพวกเถร
จำนวนพระภิกษุในประเทศไทย ประมาณ สามแสนรูป มีพระสุปฏิปันโนจริงๆ ประมาณ 100 รูป ซึ่งล้วนเป็นสมมุติสงฆ์ นอกจากนั้นบวชผิดธรรมวินัย รักษาศีล 4 ไม่ครบ

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


แก้ไขล่าสุดโดย Supareak Mulpong เมื่อ 06 ก.พ. 2010, 02:47, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 72 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 40 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร