วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 15:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 00:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 16:10
โพสต์: 298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การที่เราชอบพูดเล่น แบบอยากให้เพื่อนๆสนุกสนาน
แต่การพูดนั้นเป็นการพูดโกหก เราจะผิดศีลและบาปไหมค่ะ
แต่การพูดของเรานั้นไม่ได้ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนนะค่ะ
เพราะเป็นการพูดถึงตัวเอง พูดให้เพื่อนๆตลกนะค่ะ
:b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53:

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ข้อแนะนำและคิดเห็นนะค่ะ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 01:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


แม้แต่การโกหก..เช่นเล่านิทาน..แล้วทำให้ผู้อื่น..น้อมมาทางความดี..ก็ไม่เรียกว่าผิดศีล

แม้จะพูดความจริง..แต่เจตนาเสียดสีผู้อื่น..อย่างนี้ก็ยังผิดศีลเลยนะ

ถ้าการพูดเล่นมาก ๆ แบบไม่ถูกที่ถูกเวลา..เป็นการพูดเพ้อเจ้อ..อย่างนี้ผิดศีลได้.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 01:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 21:32
โพสต์: 82

ที่อยู่: นครศรีธรรมราช

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue ,มันอยู่ที่เจตนาในการพูดว่าเราหวังผลอย่างไร ถ้าผลที่ออกมาแล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อนและเป็นทุกข์ นั่นคือบาป ถามใจเราซิคะ ว่าที่เราพูดโกหก พูดเล่นนั้น ใจเราสบายหรือปล่าว :b18: :b18:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 01:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 745


 ข้อมูลส่วนตัว


ตรงนี้ขอบอกว่า เป็นความผิดมากงับ

ในวจีกรรม มี 4 ตัว

พูดปด
พูดส่อเสียด
พูดเพ้อเจ้อ
พูดคำหยาบ


จะวิเคราะห์ให้ฟังนะงับ

ในขณะที่พูดไป เพื่อ อยากให้เพื่อนๆสนุกสนาน

ไม่เป็นประโยชน์ไม่ประกอบด้วยสาระ เป็นเพ้อเจ้อนะงับ

พูดเรื่องไม่จริง ย่อมส่อเสียด

เมื่อทำอกุศลให้เกิดแล้ว อกุศลอื่นๆจะตามมา

เคยได้ยินนะงับ อาจารย์สอนธรรมผมบอกว่า หลงมากไปนรก หลงน้อยไปสัตว์เดรัจฉาน

พิจารณาเอาแล้วกันนะงับ

ถ้าไม่อยาก ไป อบาย ทุคติ วินิบาต นรก

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 04:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พูดดีมีสัจจะเป็นสาระควรจดจำ
พูดด้วยเมตตาธรรมทุกถ้อยคำเป็นกุศล
บันดาลสามัคคี
ให้เกิดมีในชุมชน
ดังนั้นควรทุกคน
พูดจากันด้วยไมตรี
พูดจริงอิงประโยชน์
ไพเราะโสตพูดพอดี
พูดกันเป็นอย่างนี้
ฟังแล้วมีแต่ชื่นใจ...........

พูดแล้วผิดศีลไหม?.........ให้ยึดองค์ประกอบดังนี้
1.คำพูดนั้นเป็นคำจริง
2.พูดแล้วได้ประโยชน์
3.พูดถูกกาละเทศะ
พูดเล่นโกหกจึงเป็นการมุสา ...:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 13:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


จากข้อสงสัยที่ถาม แยกออกเป็นประเด็นก่อน เพื่อสะดวกแก่การทำความเข้าใจ
และต้องทำความเข้าใจเรื่องมุสาวาทก่อน

มุสาวาท หมายถึง การกล่าว การพูด หรือการแสดงออกทางกายอย่างหนึ่งอย่างใด
คลาดเคลื่อนจากเรื่องจริงหรือคลาดเคลื่อนจากความหมายที่แท้จริง หรือเรื่องไม่มีจริง


สั้นๆแค่นี้พอเข้าใจได้ ที่น่าสังเกตไว้คือ ไม่จำเป็นว่าคนอื่นจะเข้าใจความหมายหรือไม่
แม้คนฟังจะไม่เข้าใจไม่รู้เรื่องในเรื่องที่พูดหรือแสดงออก ถ้าคลาดเคลื่อนจากเรื่องจริง
หรือจากความหมายที่แท้จริงแล้วหรือเรื่องที่ไม่มีจริง ก็เป็นอันเรียกว่า มุสาวาท
โดยเนื้อแท้ความหมายของมุสาวาทเป็นแบบนี้(มุสาวาท กล่าวเท็จ) ส่วนจะผิดศีลหรือไม่
เป็นอีกประเด็นหนึ่ง

องค์ประกอบที่ทำให้ผิดศีลข้อนี้ หมายถึง ต้องครบ ๔ ข้อนี้จึงผิด

๑.เรื่องไม่จริง หมายถึง เรื่องที่พูดนั้นต้องไม่จริง หมายถึงเรื่องที่คลาดเคลื่อนจากเรื่องจริงเดิมๆนั้น
รวมถึงเรื่องที่ไม่มีจริง
๒.คิดกล่าวให้คลาดเคลื่อน หมายถึง ตั้งใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วว่าจะพูดเรื่องไม่จริงนั้น แม้เพียงแว๊บเดียว
ของความคิด ต้องเข้าใจว่าความคิดนี้เร็วมาก เช่น โกหกเอาตัวรอดโดยไม่ได้ตรึกตรองมาก่อนเลย
ในขณะนั้น อย่างนี้ก็เรียกว่าคิดกล่าวแล้ว เพราะชวนะจิตนี้เร็วมาก
๓.พยายามเกิดด้วยความคิดนั้น หมายถึง กำลังพูดหรือแสดงออกนั่นเอง ข้อนี้เป็นผลจากข้อ ๒
เพียงเพื่อเอาตัวรอดแล้วไม่ทันคิดมาก แว๊บเดียวพูดออกไป ก็หมายถึงข้อนี้เช่นกัน
๔.คนอื่นรู้เนื้อความนั้น หมายถึง คนอื่นต้องรู้เนื้อความนั้น จะรู้มากรู้น้อย ก็ถือว่ารู้
ที่น่าสังเกต ข้อนี้ต้องมีคนอื่น การพูดคนเดียวไม่จัดเข้าในข้อนี้ แต่ถ้าพูดคนเดียวเพื่อประสงค์ให้คนอื่นรู้
เช่นแสร้งพูดลอยๆหรือแสร้งทำอาการทางกายคนเดียวหมายให้คนอื่นรู้ คล้ายจะให้เป็นเรื่องบังเอิญ
ก็เข้าข้อนี้ และสังเกตตรงที่ผมอธิบายมุสาวาทด้วย ตรงนั้นผมบอกว่าเป็นมุสาวาทแม้ไม่ต้องมีคนอื่น
รับรู้เรื่องที่พูด ส่วนตรงนี้จะบอกว่าผิดศีลหรือไม่นั่นเอง คือถ้าจะผิดศีล ต้องมีข้อนี้ คือมีคนอื่นรับรู้

พูดเล่นเพื่อให้ตลกขบขันกันในหมู่เพื่อนฝูง
ประเด็นที่ ๑ ผิดศีลหรือไม่
ประเด็นที่ ๒ เป็นบาปหรือไม่


ประเด็นที่ ๑ ก่อน คุณพูดเล่น ที่สงสัยมา คงหมายถึงเรื่องที่พูดนั้นต้องคลาดเคลื่อนจากความจริง
แท้แน่นอน เพราะพูดเล่น ก็จะเป็นเรื่องทำนองเกินจริง ไม่จริง ฉนั้น ก็เข้ากับองค์ประกอบข้อที่ ๑
ก่อนที่จะพูด ย่อมรู้แล้วว่าถ้าพูดไปเรื่องนี้ฮา ตลก สนุก แม้คิดเพียงแว๊บเดียวก็ถือว่าเข้าข้อที่ ๒
ที่กำลังพูดเล่นอยู่ ก็ข้อที่ ๓ แล้ว พอเพื่อฝูงรับรู้ จะฮาหรือไม่ไม่ไช่ประเด็นก็เข้าข้อที่ ๔ แล้ว
สรุปประเด็นที่ ๑ ผิดแหง๋มๆ เพราะครบองค์ประกอบ

ประเด็นที่ ๒ เป็นบาปหรือไม่ ตามหลักของเหตุและผล สิ่งใดมีเหตุดี ผลก็ต้องดีตาม ในกรณีนี้
เหตุมาจากมุสาวาท ผลก็ต้องเป็นอกุศลเป็นธรรมดา ประเด็นนี้จัดว่าเป็นบาปแน่นอน
ส่วนจะโทษมากหรือน้อย ก็ตามนี้ครับ

๑.เอาผลเสียของประโยชน์เป็นตัววัด เช่นโกหกเขา เขาเสียประโยชน์เท่าไร มากหรือน้อย ก็
ประมาณโทษเอาว่าเท่านั้น ยกตัวอย่าง เขาจะพาหมาไปหาหมอ หมาก็อาการแย่เลย คุณไม่ชอบ
หมาตัวนี้อยู่แล้ว โกหกเขาว่า รถติดมากเส้นนี้ ต้องอ้อมไป ทำเวลาได้ดีกว่ารถติด ทั้งที่จริง
รถไม่ติดเลย ทำเวลาก็ดีกว่า ถ้าไปทางเดิมใช้เวลาน้อย ปรากฏว่า หมาตายก่อน เพราะมัวอ้อม
เส้นทาง ตัวอย่างนี้น่าจะประมาณโทษเท่ากับฆ่าหมาตายบวกกับเขาเสียเวลา รวมค่าน้ำมันที่
ไปไม่สมประโยชน์และความเสียใจของเจ้าของหมา
๒.เอาคุณธรรมมาเป็นตัวชี้วัด เช่นการโกหกของพยานในศาล(เป็นมุสาวาท+ไม่สุจริต)
๓.พูดเพื่อป้องกันความทุกข์ของตัวเอง เช่น เขามาขอน้ำตาล โกหกเขาไปว่า ไม่มีเลย ทั้งที่จริงมีอยู่
แต่กลัวไม่พอใช้ ทำนองนี้คล้ายกับพูดเพื่อเอาชีวิตรอด ก็จัดว่ามีโทษน้อย
๔.เอาสถานะการณ์หรือเจตนามาเป็นตัววัด เช่น พูดเล่น ก็มีโทษน้อย

ต้องระวังไว้นะครับ อย่าได้ดูหมิ่นกรรมเล็กน้อย เมื่อถึงเวลาแล้ว ส่งผลทันที ที่จะไม่ส่งผลเป็นไม่มี
วิบากไม่ค่อยจะคุ้มกับมุสาวาทเล็กน้อยหรอก น้ำหยดเล็กๆ หยดใส่ตุ่มทุกวัน เต็มจนได้ครับ กรรม
ที่ไม่ดีเล็กน้อย ก็ฉนั้น


ประเด็นที่ผมกล่าวทำนองว่า เป็นมุสาวาทแต่ไม่ผิดศีลนั้น ผมเทียบเคียงตามหลักวินิจฉัยเรื่อง
อนัตตริยกรรมในพระวินัยปิฎก ตัวอย่างคือ พ่อกับลูก เข้าไปในป่าเพื่อล่าสัตว์ แยกกันล่า
ลูกเข้าใจผิดว่าต้นไม้ที่สั่นไหวเป็นสัตว์ ยิ่งพ่อตาย ข้อนี้จัดเป็น ปิตุฆาต ฆ่าบิดา แต่ไม่เป็น
อนันตริยกรรม จะต่างกันตอนให้ผล ปิตุฆาตอันนี้ออกผลเสมือนฆ่าคนธรรมดาเพราะไม่มี
เจตนาฆ่าพ่อตัวเอง จะไม่ส่งผลเป็นกรรมหนักเหมือนอนันตริยกรรม
มุสาวาทที่ผมกล่าวว่า เป็น มุสาวาท(กล่าวเท็จ) แต่ไม่ผิดศีลเพราะไม่มีใครรับรู้(ไม่ครบองค์ประกอบ)
มีผลเท่ากับการทำอกุศลกรรมบทเรื่องการพูด อาจเข้าข้อใดข้อหนึ่ง เช่น พูดเพ้อเจ้อ เป็นต้น
ตัวอย่างคือ มุสาวาทที่ไม่ผิดศีล(แต่ผิดตามอกุศลกรรมบท)ให้ผล ๑ ส่วน ส่วนมุสาวาทที่ผิดศีลด้วย
(หมายถึงครบองค์ประกอบทั้ง ๔ ด้วย) จัดว่าให้ผล ๒ ส่วน คือ ๑.ผิดตามหลักอกุศลกรรมบท และ
๒.ผิดตามเบญจศีล(ผิดศีล) คล้ายกับลักทรัพย์ในเวลากลางคืน คือลักทรัพย์ก็ผิดกฎหมายมีโทษแล้ว
ยังไปลักเวลากลางคืนอีก เรียกว่า มีเหตุให้ต้องรับโทษหนักขึ้น(ป.อาญา)

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 21:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


ส่วนตัวคิดว่า ไม่ผิด สำหรับศีล 5 แต่กับพระอาจจะผิด เพราะถือว่า ไม่สำรวม เพ้อเจ้อ (แต่เข้าใจว่า น่าจะกำหนดเป็นศีลอีกข้อนะ)

ศีลข้อนี้น่าจะมุ่งหมายถึงการ โกหกเพื่อให้ผู้อื่นเชื่อ จริงๆ ศีลไม่ได้ซับซ้อนนะ อย่าตีความให้ลึกเกิน
ศีลทั้งหลาย เขาจะระบุแบบตรงๆ ไม่จำเป็นต้องตีความ
คำว่า พูดโกหก พูดเท็จ มันไม่เหมือนพูดตลกโปกฮา หรือพูดเล่นนะ มีใครบอกไหมล่ะว่า หม่ำจ๊กม๊ก เป็นคนขี้โกหก... :b6: :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 21:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 745


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
ส่วนตัวคิดว่า ไม่ผิด สำหรับศีล 5 แต่กับพระอาจจะผิด เพราะถือว่า ไม่สำรวม เพ้อเจ้อ (แต่เข้าใจว่า น่าจะกำหนดเป็นศีลอีกข้อนะ)

ศีลข้อนี้น่าจะมุ่งหมายถึงการ โกหกเพื่อให้ผู้อื่นเชื่อ จริงๆ ศีลไม่ได้ซับซ้อนนะ อย่าตีความให้ลึกเกิน
ศีลทั้งหลาย เขาจะระบุแบบตรงๆ ไม่จำเป็นต้องตีความ
คำว่า พูดโกหก พูดเท็จ มันไม่เหมือนพูดตลกโปกฮา หรือพูดเล่นนะ มีใครบอกไหมล่ะว่า หม่ำจ๊กม๊ก เป็นคนขี้โกหก... :b6: :b6:










ตลกอาจไม่ผิดศีลแต่หลง ทำให้ไป สัตว์เดรัจฉาน + นรกได้

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2009, 12:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


^ แล้วไง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2009, 23:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
ส่วนตัวคิดว่า ไม่ผิด สำหรับศีล 5 แต่กับพระอาจจะผิด เพราะถือว่า ไม่สำรวม เพ้อเจ้อ (แต่เข้าใจว่า น่าจะกำหนดเป็นศีลอีกข้อนะ)

ศีลข้อนี้น่าจะมุ่งหมายถึงการ โกหกเพื่อให้ผู้อื่นเชื่อ จริงๆ ศีลไม่ได้ซับซ้อนนะ อย่าตีความให้ลึกเกิน
ศีลทั้งหลาย เขาจะระบุแบบตรงๆ ไม่จำเป็นต้องตีความ
คำว่า พูดโกหก พูดเท็จ มันไม่เหมือนพูดตลกโปกฮา หรือพูดเล่นนะ มีใครบอกไหมล่ะว่า หม่ำจ๊กม๊ก เป็นคนขี้โกหก... :b6: :b6:


ฮึ..ฮึ..ฮึ..เมื่อถึงวาระ..(ของคุณ)..คุณ murano จะเข้าใจ เอง..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2009, 23:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:

ตลกอาจไม่ผิดศีลแต่หลง ทำให้ไป สัตว์เดรัจฉาน + นรกได้



อื้มม..ละเอียด..ละเอียด..สาธุ..สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 00:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



ขึ้นชื่อว่าพูดไม่จริง ถึงแม้ไม่ได้หวังผลใดๆก็ตาม เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ

เพราะเป็นการสร้างอนุสัยที่ไม่ดี สะสมไปเรื่อยๆ จากคนที่ไม่โกหกก็กลายเป็นคนพูดจาโกหกไปได้ค่ะ

ไม่ควรทำซะเลยจะดีกว่า :b1:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 23:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rawisada เขียน:
การที่เราชอบพูดเล่น แบบอยากให้เพื่อนๆสนุกสนาน
แต่การพูดนั้นเป็นการพูดโกหก เราจะผิดศีลและบาปไหมค่ะ
แต่การพูดของเรานั้นไม่ได้ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนนะค่ะ
เพราะเป็นการพูดถึงตัวเอง พูดให้เพื่อนๆตลกนะค่ะ
:b53: :b53: :b53: :b53: :b53: :b53:

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ข้อแนะนำและคิดเห็นนะค่ะ :b8: :b8: :b8:

แบบว่าชอบอำเพื่อน เล่น ๆ เอาขำ ๆ
ค่อย ๆ ละ เลิก ไปเถอะค่ะ
เพราะทำนานๆ ไปเราจะกลายเป็นคนที่ขาดความน่าเชื่อถือนะคะ
ตอนวัยรุ่น ก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ
พอเริ่มเป็นผู้ใหญ่ เป็นหัวหน้าคนเราจะเสียนะคะ
วจีกรรมเป็นเหตุ.....รอผลในเร็ววัน....

:b5:

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2009, 19:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศีลที่อบรมให้มีแล้วจนเป็นอุปนิสัย

จะทำให้คุณไม่สามารถอ้าปากโกหกได้ แม้แต่การพูดเล่น

หรือแม้จากความหวังดี ด้วยเหตุผลทั้งปวงใดๆ

ทันทีที่จะกล่าวโกหกออกไป คุณไม่สามารถห้ามตัวเองได้ ไม่ให้รู้ตัว
และการยับยั้ง ก็จะเกิดขึ้นทันที โดยอัตโนมัติ

คุณจะไม่สามารถกล่าวออกไปได้
และจะไม่มีพลั้งเผลอ หลุดการโกหกออกไป
ไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยที่สุด จนถึงเรื่องใหญ่ที่สุด
ก็มีค่าอันเสมอกัน คือผู้มีศีล ย่อมเว้นขาดโดยเท่าเทียมกัน

:b43: :b43: :b43:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 43 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร