วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2009, 15:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2009, 15:26
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติขี้น แล้วได้ตรัสรู้เป็น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วประกาศศาสนา
ดังนั้น พระรัตนตรัยจึงสมบูรณ์ คือ มี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

บ้างก็ว่าพระพุทธเจ้ามี 28 พระองค์
บ้างก็ว่ามี 5 พระองค์
และพระพุทธเจ้ามีเคยมาตรัสรู้แล้วมากมายคณานัป

คำถามมีอยู่ว่า
1.พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้แต่ละพระองค์ มีหลักธรรมคำสั่งสอนเหมือนกันหรือไม่
2.เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้วไปประทับอยู่ที่ใด
3.จะต้องมีพระพุทธเจ้าหมุนเวียนเปลี่ยนกันมาตรัสรู้เป็นอย่างนี้เรื่อยๆไปใช่หรือไม่
4.เกิดขึ้น ดำรงอยู่ ดับสลายไป (กฏ 3 ข้อนี้ ) แม้พระพุทธเจ้าจะอุบัติหรือไม่ก็ยังมีอยู่เป็นอมตะตลอดกาลใช่หรือไม่

......ชีวิตยังมืดมน รอแสงสว่างส่องทางให้เจิดจ้า........


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2009, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมขออนุญาตนำไปโพสต์ที่


http://whatami.ob.tc/-board.php


ด้วยครับ

ท่านtoteyคงไม่ขัดข้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2009, 17:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 745


 ข้อมูลส่วนตัว


totey เขียน:
เมื่อพระพูทธเจ้าอุบัติขี้น แล้วได้ตรัสรู้เป็น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วประกาศศาสนา
ดังนั้น พระรัตนตรัยจึงสมบูรณ์ คือ มี พระพุทธ พระธรรม พระสงค์

บ้างก็ว่าพระพุทธเจ้ามี 28 พระองค์
บ้างก็ว่ามี 5 พระองค์
และพระพุทธเจ้ามีเคยมาตรัสรู้แล้วมากมายคณานัป

คำถามมีอยู่ว่า
1.พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้แต่ละพระองค์ มีหลักธรรมคำสั่งสอนเหมือนกันหรือไม่
2.เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้วไปประทับอยู่ที่ใด
3.จะต้องมีพระพุทธเจ้าหมุนเวียนเปลี่ยนกันมาตรัสรู้เป็นอย่างนี้เรื่อยๆไปใช่หรือไม่
4.เกิดขึ้น ดำรงอยู่ ดับสลายไป (กฏ 3 ข้อนี้ ) แม้พระพุทธเจ้าจะอุบัติหรือไม่ก็ยังมีอยู่เป็นอมตะตลอดกาลใช่หรือไม่

......ชีวิตยังมืดมน รอแสงสว่างส่องทางให้เจิดจ้า........



มาตอบนิดๆนะงับ

พระพุทธเจ้ามีมากมาย คำสั่งสอนของพระองค์เหมือนกัน พระพุทธเจ้าไปนิพพาน พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้แล้วไม่มีหมุนเวียนกลับมา มีแต่พระโพธิสัตว์ที่มาตรัสรู้ไปเรื่อยๆ
พระนิพพานเป็นนิจจัง แต่เป็นอนัตตา พระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ขึ้นไปแล้วก็เที่ยงในการไม่กลับมาเกิดอีก

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2009, 23:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2009, 01:40
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
totey เขียน:
เมื่อพระพูทธเจ้าอุบัติขี้น แล้วได้ตรัสรู้เป็น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วประกาศศาสนา
ดังนั้น พระรัตนตรัยจึงสมบูรณ์ คือ มี พระพุทธ พระธรรม พระสงค์

บ้างก็ว่าพระพุทธเจ้ามี 28 พระองค์
บ้างก็ว่ามี 5 พระองค์
และพระพุทธเจ้ามีเคยมาตรัสรู้แล้วมากมายคณานัป

คำถามมีอยู่ว่า
1.พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้แต่ละพระองค์ มีหลักธรรมคำสั่งสอนเหมือนกันหรือไม่
2.เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้วไปประทับอยู่ที่ใด
3.จะต้องมีพระพุทธเจ้าหมุนเวียนเปลี่ยนกันมาตรัสรู้เป็นอย่างนี้เรื่อยๆไปใช่หรือไม่
4.เกิดขึ้น ดำรงอยู่ ดับสลายไป (กฏ 3 ข้อนี้ ) แม้พระพุทธเจ้าจะอุบัติหรือไม่ก็ยังมีอยู่เป็นอมตะตลอดกาลใช่หรือไม่

......ชีวิตยังมืดมน รอแสงสว่างส่องทางให้เจิดจ้า........



มาตอบนิดๆนะงับ

พระพุทธเจ้ามีมากมาย คำสั่งสอนของพระองค์เหมือนกัน พระพุทธเจ้าไปนิพพาน พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้แล้วไม่มีหมุนเวียนกลับมา มีแต่พระโพธิสัตว์ที่มาตรัสรู้ไปเรื่อยๆ
พระนิพพานเป็นนิจจัง แต่เป็นอนัตตา พระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ขึ้นไปแล้วก็เที่ยงในการไม่กลับมาเกิดอีก

สาธุ... ถูกต้องที่สุด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2009, 23:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นคำถามเพื่อแก้ความสงสัยของตน

หรือว่า..? ? ? ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 00:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2009, 01:40
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใช่ที่สุด นิพพานเป็นอนัตตา ไม่ได้สวยงามอย่างที่หลายๆคนเห็นในนิมิตร แล้วก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมีให้เห็นนิพพานแตกต่างกันไป แต่นิพพานเป็นอนัตตาจริงๆ... แต่ก็เป็นนิจจัง คือเป็นของเที่ยง ไม่เกิดไม่ดับอีก.. ใช่ที่สุด

ฟังพระท่านเทศน์มา ประกอบเนื้อหา คนที่ไปนิพพานเล่าให้ฟัง... จบข่าว ไม่เล่าต่อและไม่ตอบ

นิราศสายนที... เทพแห่งสายน้ำ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 01:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 745


 ข้อมูลส่วนตัว


putsaitrong เขียน:
ใช่ที่สุด นิพพานเป็นอนัตตา ไม่ได้สวยงามอย่างที่หลายๆคนเห็นในนิมิตร แล้วก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมีให้เห็นนิพพานแตกต่างกันไป แต่นิพพานเป็นอนัตตาจริงๆ... แต่ก็เป็นนิจจัง คือเป็นของเที่ยง ไม่เกิดไม่ดับอีก.. ใช่ที่สุด

ฟังพระท่านเทศน์มา ประกอบเนื้อหา คนที่ไปนิพพานเล่าให้ฟัง... จบข่าว ไม่เล่าต่อและไม่ตอบ

นิราศสายนที... เทพแห่งสายน้ำ...



ไม่มีใครเห็นพระนิพพานนะงับ มีแต่รับรู้ได้ ไม่มีใครสามารถไปนิพพานได้นะงับ(ในขณะมีชีวิตอยู่) แก้ให้ถูกต้องนะงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 11:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2009, 01:40
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
putsaitrong เขียน:
ใช่ที่สุด นิพพานเป็นอนัตตา ไม่ได้สวยงามอย่างที่หลายๆคนเห็นในนิมิตร แล้วก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมีให้เห็นนิพพานแตกต่างกันไป แต่นิพพานเป็นอนัตตาจริงๆ... แต่ก็เป็นนิจจัง คือเป็นของเที่ยง ไม่เกิดไม่ดับอีก.. ใช่ที่สุด

ฟังพระท่านเทศน์มา ประกอบเนื้อหา คนที่ไปนิพพานเล่าให้ฟัง... จบข่าว ไม่เล่าต่อและไม่ตอบ

นิราศสายนที... เทพแห่งสายน้ำ...



ไม่มีใครเห็นพระนิพพานนะงับ มีแต่รับรู้ได้ ไม่มีใครสามารถไปนิพพานได้นะงับ(ในขณะมีชีวิตอยู่) แก้ให้ถูกต้องนะงับ


เอาเป็นว่า ถ้าพระอรหันต์ท่านพาจิตเราไป ก็สามารถรับรู้ได้ว่าเป็นอย่างไรก็แล้วกัน ถ้าผิดอะไรก็ขอประทานโทษเป็นอย่างสูง... มีชีวิตอยู่ก็ไปได้นะ แต่ไม่สามารถอยู่ได้ เพราะยังไม่ถึงเวลา(หรือยังไม่ตายนั่นเอง) มีหลายคนที่จับอารมณ์พระนิพพานแล้วไปได้ แต่จะไปด้วยความการรับรู้ หรือมีพระอรหันต์ที่อยู่บนนิพพานพาจิตของเราไปอันนี้ไม่ทราบ... แต่มีท่านผู้หนึ่งเล่าให้ฟังว่าไปเยี่ยมนิพพานมา มีพระอรหันต์พาไป(ไปด้วยจิต) ที่นั่นทุกคนต่างคนต่างอยู่ ถามก็ไม่ตอบ นั่งนิ่ง แล้วเขายังเห็นคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไปเยี่ยมนิพพานขณะที่ยังมีชีวิตอยู่เหมือนกัน... ฯลฯ ... เล่าให้ฟังแค่นี้ดีกว่า เล่ามากไม่ดี... เดี๋ยวจะผิดอะไรอีก... จะไปด้วยการเห็นหรือแค่การรับรู้ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ... ถ้าวันหลังมีโอกาสพบกับเขาอีกจะถามมาให้นะ...


ถ้าคุณรู้ก็บอกผู้อ่านด้วยแล้วกัน และช่วยแก้ให้ด้วยแล้วกัน เพราะถ้าเราแก้เราอาจใช้คำที่ไม่ถูกหรือไม่เหมาะ คนอ่านก็จะมาติติงได้ อีกอย่างเราก็ยังรู้น้อยมากเรื่องทางธรรม แต่เน้นไปที่การปฏิบัติเสียมากกว่า... คุณแก้ให้ด้วยนะ ... ขอบคุณมากชาวพุทธ... ธรรมะสวัสดี... เจริญในธรรม

จบข่าว... นิราศสายนที


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 20:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




duckiconfh2.gif
duckiconfh2.gif [ 29.5 KiB | เปิดดู 6120 ครั้ง ]
เห็นกระทู้นี้นิ่งๆไป เลยช่วยยกให้ ต่อครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 20:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ยกกระทู้เหมือนหย่อนเบ็ดลงไปในน้ำเลย

แล้วปลาตัวไหนจะมาติดเบ็ดหวา


:b14: :b14: :b14:



อ้าว..........ผมกำลังติดเบ็ดนี่หว่า :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 20:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ นิพพาน พระโพธิสัตว์ ฯลฯ มีผู้ให้ความสนใจเยอะ เดี่ยวก็มีมาร่วมแสดงความเห็นกันอีกครับ อย่างน้อยๆก็คุณพลศักดิ์คนหนึ่งล่ะ :b3:

ว่าแต่ว่า จขกท.มีความคิดเห็นยังไงล่ะ แชร์ความคิดกันครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 23:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 745


 ข้อมูลส่วนตัว


putsaitrong เขียน:
ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
putsaitrong เขียน:
ใช่ที่สุด นิพพานเป็นอนัตตา ไม่ได้สวยงามอย่างที่หลายๆคนเห็นในนิมิตร แล้วก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมีให้เห็นนิพพานแตกต่างกันไป แต่นิพพานเป็นอนัตตาจริงๆ... แต่ก็เป็นนิจจัง คือเป็นของเที่ยง ไม่เกิดไม่ดับอีก.. ใช่ที่สุด

ฟังพระท่านเทศน์มา ประกอบเนื้อหา คนที่ไปนิพพานเล่าให้ฟัง... จบข่าว ไม่เล่าต่อและไม่ตอบ

นิราศสายนที... เทพแห่งสายน้ำ...



ไม่มีใครเห็นพระนิพพานนะงับ มีแต่รับรู้ได้ ไม่มีใครสามารถไปนิพพานได้นะงับ(ในขณะมีชีวิตอยู่) แก้ให้ถูกต้องนะงับ


เอาเป็นว่า ถ้าพระอรหันต์ท่านพาจิตเราไป ก็สามารถรับรู้ได้ว่าเป็นอย่างไรก็แล้วกัน ถ้าผิดอะไรก็ขอประทานโทษเป็นอย่างสูง... มีชีวิตอยู่ก็ไปได้นะ แต่ไม่สามารถอยู่ได้ เพราะยังไม่ถึงเวลา(หรือยังไม่ตายนั่นเอง) มีหลายคนที่จับอารมณ์พระนิพพานแล้วไปได้ แต่จะไปด้วยความการรับรู้ หรือมีพระอรหันต์ที่อยู่บนนิพพานพาจิตของเราไปอันนี้ไม่ทราบ... แต่มีท่านผู้หนึ่งเล่าให้ฟังว่าไปเยี่ยมนิพพานมา มีพระอรหันต์พาไป(ไปด้วยจิต) ที่นั่นทุกคนต่างคนต่างอยู่ ถามก็ไม่ตอบ นั่งนิ่ง แล้วเขายังเห็นคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไปเยี่ยมนิพพานขณะที่ยังมีชีวิตอยู่เหมือนกัน... ฯลฯ ... เล่าให้ฟังแค่นี้ดีกว่า เล่ามากไม่ดี... เดี๋ยวจะผิดอะไรอีก... จะไปด้วยการเห็นหรือแค่การรับรู้ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ... ถ้าวันหลังมีโอกาสพบกับเขาอีกจะถามมาให้นะ...


ถ้าคุณรู้ก็บอกผู้อ่านด้วยแล้วกัน และช่วยแก้ให้ด้วยแล้วกัน เพราะถ้าเราแก้เราอาจใช้คำที่ไม่ถูกหรือไม่เหมาะ คนอ่านก็จะมาติติงได้ อีกอย่างเราก็ยังรู้น้อยมากเรื่องทางธรรม แต่เน้นไปที่การปฏิบัติเสียมากกว่า... คุณแก้ให้ด้วยนะ ... ขอบคุณมากชาวพุทธ... ธรรมะสวัสดี... เจริญในธรรม

จบข่าว... นิราศสายนที



ถ้าจิตไม่ถึง สภาวะนั้นใครก็พาไปไม่ได้หรอกงับ


มีแต่พระอริยบุคคลเท่านั้นที่จิตสามารถรับรู้พระนิพพาน ได้ แต่ไปไม่ได้หรอกงับ เพราะนิพพานไม่มีที่อยู่

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 06:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอบเท่าที่พอจะทราบ

ถูก-ผิดประการใด ขออภัยล่วงหน้า



อ้างคำพูด:
1.พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้แต่ละพระองค์ มีหลักธรรมคำสั่งสอนเหมือนกันหรือไม่


คำสอนหลักๆ เช่น อริยมรรคที่มีองค์8 ปฏิจจสมุปบาท อริยสัจจ์สี่ สติปัฏฐาน ๆลๆ เหมือนกัน

เสนออ่าน

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสรู้เรื่องเดียวกัน

http://www.mahamakuta.inet.co.th/T-BOOK/chaksu.htm

ในอภิสมยสังยุต นิทานวัคค์ พระพุทธองค์ได้ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุรุษเมื่อเที่ยวไปในป่าทึบ ได้พบมรรคาเก่า
หนทางเก่า ที่คนก่อนๆ เคยเดินไปมา เขาเดินตามทางนั้นไป เมื่อกำลังเดิน
ตามทางนั้นอยู่ พบนครเก่า พบราชธานีโบราณ ซึ่งสมบูรณ์ด้วยสวน ป่าไม้
สระโบกขรณี มีเชิงเทิน ล้วนน่ารื่นรมย์ ที่คนก่อนๆ เคยอยู่อาศัยมา
ครั้งนั้นแล บุรุษคนนั้นจึงกราบทูลแด่พระราชาหรือเรียนแก่อำมาตย์ว่า
ขอเดชะ พระองค์จงทรงทราบเถิด พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าเมื่อ
ไปในป่า ได้พบมรรคเก่า หนทางเก่าที่คนก่อนๆ เคยเดินไปมา
ข้าพระพุทธเจ้าได้เดินตามทางนั้นไป เมื่อกำลังเดินตามทางนั้นอยู่ ได้พบ
นครเก่า พบราชธานีโบราณซึ่งสมบูรณ์ด้วยสวน ป่าไม้ สระโบกขรณี
มีเชิงเทิน ล้วนน่ารื่นรมย์ ที่คนก่อนๆ เคยอยู่อาศัยมา ขอพระองค์
จงสร้างพระนครนั้นเถิด พระพุทธเจ้าข้า ลำดับนั้น พระราชาหรือ
มหาอำมาตย์จึงสร้างเมืองนั้นขึ้น สมัยต่อมาเมืองนั้นเป็นเมืองมั่งคั่ง
และสมบูรณ์ขึ้น มีประชาชนเป็นอันมาก มีมนุษย์เกลื่อนกล่น และเป็น
เมืองถึงความเจริญ ไพบูลย์ แม้ฉันใด

ภิกษุทั้งหลาย เราได้พบมรรคเก่า หนทางเก่า ที่พระสัมมาสัมพุทธ
เจ้าพระองค์ก่อนๆ เคยเสด็จไป ก็มรรคเก่า หนทางเก่า ที่พระสัมมาสัมพุทธ
เจ้าองค์ก่อนๆ เคยเสด็จไปนั้น เป็นไฉน คือ มรรคซึ่งประกอบด้วยองค์ ๘
อันประเสริฐ นี้แล ได้แก่สัมมาทิฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธินี้แล มรรคาเก่า หนทาง
เก่า ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ เคยเสด็จไปแล้ว เราก็ได้เดินตาม
หนทางอันประเสริฐซึ่งประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ อันเป็นทางเก่านั้น


เมื่อกำลังเกินตามหนทางนั้นไปได้รู้ชัดซึ่งชราและมรณะ เหตุเกิดขึ้นแห่งชราและ
มรณะ ความดับแห่งชราและมรณะ และได้รู้ชัดซึ่งปฏิปทาเครื่องให้ถึงความดับ
ชราและมรณะ

ครั้นได้รู้ชัดทางอันประเสริฐซึ่งประกอบด้วยองค์ ๘ ประการนั้น
แล้ว เราจึงได้บอกแก่พวกภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
พรหมจรรย์ของเราจึงได้เจริญแพร่หลาย กว้างขวาง มีชนเป็นอันมากรู้ เป็น
ปึกแผ่น จนกระทั่งเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายก็ประกาศได้เป็นอย่างดี ดังนี้แล...."

จากพระพุทธพจน์ข้างต้นนี้ แสดงให้เห็นว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์
ทรงปฏิบัติในทางเดียวกัน คือ มัชฌิมาปฏิปทา หรืออริยมรรคมีองค์ ๘ และก็
ได้ตรัสรู้เรื่องเดียวกันคือ อริยสัจ ฉะนั้น จึงทรงเปรียบพระองค์ว่าเสมือนเดิน
หนทางเก่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ เคยเสด็จไปแล้ว.


............................


แต่ รายละเอียดปลีกย่อย พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ทรงบัญญัติไว้ไม่เท่ากัน

(เช่น สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ สิกขาบท ปาติโมกข์ ๆๆลๆ)

เสนออ่าน

เหตุให้พระศาสนาดำรงอยู่ไม่นานและนาน

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v ... =165&Z=315


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 10:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
2.เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้วไปประทับอยู่ที่ใด


คำถามนี้คือ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ เป็นเช่นใด หรือ อยู่ที่ไหน


พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ ล้วนสิ้นกิเลสเหมือนกันหมด ....ต่างกันตรงที่ วาสนา และ บารมี
เวลากล่าวถึง อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ จึงหมายถึง ทั้งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์

การจะเข้าใจตรงจุดนี้ได้อย่างแท้จริง ต้องประจักษ์แจ้งด้วยตนเอง ..... ท่านผู้ประจักษ์แจ้งแล้วจะอธิบายให้เรา-ท่านฟังกันอย่างไร เรา-ท่านจะใช้ตรรกะเช่นใด ก็ไม่มีทางเข้าใจได้ชัดเจน


เสนออ่าน

อ้างคำพูด:

http://www.mcu.ac.th/mcutrai/menu2/Arti ... cle_14.htm

ในจูฬมาลุงกยสูตร (ในมัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ๑๓/๑๒๒/๙๗) เล่าเรื่องภิกษุชื่อมาลุงกยบุตร ทูลถามปัญหาอภิปรัชญา (Metaphysic) กับพระผู้มีพระภาคเจ้า จำนวน ๑๐ ข้อ เรียกด้วยศัพท์ของพระคัมภีร์พุทธว่า "อัพยากต-ปัญหา" ปัญหาที่ไม่ทรงพยากรณ์ คือ ไม่ตอบนั่นเอง ปัญหาดังกล่าวมีอย่างไรบ้าง ทำไมพระพุทธองค์จึงไม่ตอบ
ปัญหาดังกล่าวมีดังนี้
อัพยากตปัญหา ๑๐ ประการ คือ
๑.โลกเที่ยง ? (สสฺสโต โลโก)
๒.โลกไม่เที่ยง ? (อสสฺสโต โลโก)
๓.โลกมีที่สุด ? (อนฺตวา โลโก)
๔.โลกไม่มีที่สุด ? (อนนฺตวา โลโก)
๕.ชีวะกับสรีระเป็นอันเดียวกัน ? (ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ)
๖.ชีวะกับสรีระเป็นคนละอย่าง ? (อญญํ ชีวํ อญญํ สรีรํ)
๗.ตถาคตหลังจากตายแล้วมีอยู่ ? (โหติ ตถาคโต ปรมฺมรณา)
๘.ตถาคตหลังจากตายแล้วไม่มีอยู่ (น โหติ ตถาคโต ปรมฺมรณา)
๙.ตถาคตหลังจากตายแล้วทั้งมีอยู่ด้วย ไม่มีอยู่ด้วย? (โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรมฺมรณา)
๑๐.ตถาคตหลังจากตายแล้วมีอยู่ก็มิใช่ ไม่มีอยู่ก็มิใช่? (เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรมฺมรณา)





หรือ ลองอ่านดูพระสูตรต่างๆ ที่บรรยาย พระอรหันต์ตายแล้วไปไหนดู เช่น

ยมกสูตร
ว่าด้วยพระขีณาสพตายแล้วสูญหรือไม่


http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... 447&Z=2585

ธาตุสูตร
บรรยาย นิพพานธาตุสองประการ


http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=25&A=5242&Z=5274


อนุปาทิเสสนิพพานธาตุจะเป็นเช่นไร ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ

แต่ ที่น่าสนใจ และ เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงเน้น คือ ขณะนี้(ที่ผมโพส และ ท่านอ่าน)เรายังมีทุกข์อยู่ไหม.... จะทำเช่นใดจึงจักถึงที่สุดแห่งทุกข์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 10:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
3.จะต้องมีพระพุทธเจ้าหมุนเวียนเปลี่ยนกันมาตรัสรู้เป็นอย่างนี้เรื่อยๆไปใช่หรือไม่


ในพระไตรปิฎก กล่าวไว้เช่นนั้น

แต่ ระยะเวลาที่ พระพุทธเจ้าองค์ต่อไป จะมาตรัสรู้นั้น ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันไปในหลายฝ่าย

จะอย่างไรก็ตาม คงไม่ใช่ช่วงเวลาที่น้อย ที่พระพุทธเจ้าองค์ต่อไป(พระศรีอาริยเมตตรัย)จะมาตรัสรู้

และ ที่สำคัญคือ ในปัจจุบัน ก็ยังคงมีผู้ปฏิบัติตามอริยมรรคที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทรงวางแนวทางไว้ให้ และ พ้นทุกข์กันไปให้เห็นกันมากมาย.....
แล้ว ทำไมต้องไปรอถึง พระศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปด้วย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 48 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร