วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 15:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2009, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 09:03
โพสต์: 81


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พระโสดาบันท่านแน่นหนักในพระรัตนตรัย
ท่านรักษาศีลได้โดยไม่ต้องไปคอย "ข่มจิต ข่มใจ"
ถ้ายัง "ข่มจิต ข่มใจ" ในการรักษาศีลอยู่ มันก็ไม่ใช่


ขอสนับสนุนข้อความนี้ ถูกต้องที่สุด เพราะพระโสดาบันไม่ไปกราบ หรือนับถืออะไรนอกเหนือจากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้ว :b32: และจะไม่มีวันกลับไปตกนรกอีกแน่นอน ต้องศึกษาพุทธะต่อไปจนกว่า.......บรรลุคุณธรรมสูงสุดคืออรหันต์

แต่
อ้างคำพูด:
ถ้าบุคคลมีศีล ๕ บริบูรณ์แล้ว
อันนี้ไม่รับประกัน :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2009, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
มีคนกล่าวว่า ถ้าบุคคลมีศีล ๕ บริบูรณ์แล้ว ไม่ตกนรกแน่นอน
คำกล่าวนี้ถูกผิดอย่างไรขอรับ


คำกล่าวนี้ถูกต้องแน่นอนครับ ..... ดังเรื่องที่ยกมาต่อไปนี้

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก ว่า

"สีลํ โลเก อนุตฺตรํ ศีลเป็นเยี่ยมในโลก"
:b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

ผู้รักษาศีล ๕ อย่างบริบูรณ์จะได้รับอานิสงส์ใหญ่เป็นอเนกอนันต์ ทำให้แกล้วกล้าอาจหาญในท่ามกลางประชุมชน เกียรติคุณฟุ้งขจรไปเพราะเป็นคนเชื่อถือได้ กลิ่นศีลอันหอมทวนลมได้ ย่อมฟุ้งปกคลุมไปทั่วทุกทิศ เมื่อละโลกไปแล้วจะมีสุคติโลกสวรรค์เป็นที่ไป ดังจะเห็นได้จากบุพกรรมของพระปัญจสีลสมาทานิยเถระ เรื่องมีอยู่ว่า

*ในสมัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า อโนมทัสสี พระปัญจสีลสมาทานิยเถระ เกิดเป็นคนยากไร้ ต้องทำงานรับจ้างอยู่ในนครจันทวดี แต่ท่านเป็นคนมีปัญญา สามารถสอนตนเองได้และรู้ถึงโทษภัยในสังสารวัฏ จึงปรารถนาอยากบวช แต่ก็ยังหาโอกาสไม่ได้ จึงคิดว่า


เพราะเราเป็นคนยากไร้ ต้องทำงานรับจ้างเลี้ยงชีวิตไปวันหนึ่งๆ
ไทยธรรมของเราที่จะมาทำทานก็ไม่มี จึงไม่สามารถให้ทานได้
อย่างไรก็ตาม ในภพชาตินี้อย่างน้อยเราก็ยังสามารถรักษาศีล ๕ ให้บริบูรณ์ได้


ท่านจึงเข้าไปหาพระนิสภเถระ ผู้เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอสมาทานศีล ๕ แล้วตั้งใจรักษาศีลเป็นอย่างดี

ในสมัยนั้นอายุเฉลี่ยของมนุษย์ยาวนานถึงหนึ่งแสนปี ตลอดระยะเวลาอันยาวนานนี้ ท่านรักษาศีลได้อย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ เมื่อถึงคราวหลับตาลาโลก เหล่าเทวดาพร้อมรถที่เทียมด้วยม้าหนึ่งพัน ได้ปรากฏเป็นคตินิมิตและเชื้อเชิญท่านไปเป็นสหาย พอท่านระลึกถึงศีลของตนเอง มหาปีติก็บังเกิดขึ้น ละโลกแล้ว ได้บังเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นจอมเทพเสวยทิพยสมบัติในเทวโลก ๓๐ ครั้ง มีนางอัปสรเป็นบริวารมากมาย แล้วเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิถึง ๗๕ ครั้ง และเป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์ นับจำนวนครั้งไม่ถ้วน

ในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานี้ ท่านมาเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล ในนครเวสาลี แคว้นลิจฉวี เมื่ออายุ ๕ ขวบ บิดามารดาของท่านสมาทานศีล ๕ ในช่วงเข้าพรรษา ท่านตามบิดามารดาไปฟังธรรมเรื่องศีลที่วัด ระหว่างที่นั่งฟังธรรมอยู่นั่นเอง บุญที่เคยรักษาศีลมานาน ส่งผลให้ท่านระลึกถึงศีลของตนเองได้ เกิดความปีติ เบิกบาน จึงเจริญสมาธิภาวนา เข้าถึงธรรมกายอรหัต เป็นพระอรหันต์ตั้งแต่อายุเพียง ๕ ขวบ และได้บรรลุวิชชา ๓ วิชชา ๘ อภิญญา ๖ ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ แทงตลอดหมด

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงประทานการบวชให้ท่าน นับเป็นสามเณรอรหันต์ที่มีอายุน้อยมาก เพียง ๕ ขวบ ก็เป็นพระอรหันต์เข้าถึงความเต็มเปี่ยมของชีวิตแล้ว ส่วนใหญ่เราจะได้ยินว่า บรรลุธรรมตอนอายุ ๗ ขวบ แต่นี่เพียง ๕ ขวบเท่านั้น อานุภาพของศีล ๕ มีอานิสงส์มากมายถึงเพียงนี้ทีเดียว


เพื่อจะประกาศอานิสงส์ของศีลที่ท่านได้รับ พระปัญจสีลสมาทานิยเถระจึงกล่าวว่า

"เมื่อเรารักษาเบญจศีลแล้ว ทำให้ได้ฐานะ ๓ ประการ คือ

เป็นผู้มีอายุยืนนาน
มีโภคทรัพย์สมบัติมากมาย
และมีปัญญาเฉลียวฉลาด แตกฉานในความรู้ของครูอาจารย์
จะเกิดอยู่ในภพภูมิใดๆ ย่อมได้ฐานะเหล่านี้และไม่เคยไปสู่ทุคติเลย"


จะเห็นได้ว่า อานิสงส์ของการรักษาศีล ๕ สามารถเปลี่ยนจากคนยากจนเข็ญใจ กลายเป็นผู้ได้สมบัติ ๓ ประการ คือ รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติและคุณสมบัติ พรั่งพร้อม เหมือนเช่นท่านปัญจสีลสมาทานิยเถระที่ท่านได้รักษาศีล ๕ อย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ตลอดชีวิต ทำให้ท่านไม่ไปสู่ทุคติเลย
:b39: :b39: :b39:
บังเกิดอยู่ใน ๒ ภพภูมิเท่านั้น คือ บังเกิดเป็นเทวดาผู้มีรัศมีกายสว่างไสว พรั่งพร้อมไปด้วยทิพยสมบัติมากมาย เมื่อจุติจากสวรรค์ ก็ลงมาเกิดเป็นมนุษย์สร้างบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป แม้เป็นมนุษย์ท่านก็ยังบริบูรณ์ไปด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เพราะกำลังแห่งศีล ที่รักษาไว้ดีแล้วนั่นเอง
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:
ตลอดระยะเวลาที่เวียนตายเวียนเกิดในภพภูมิต่างๆ ก็เป็นผู้มีอายุยืน มีโภคทรัพย์สมบัติมากและมีปัญญาเฉลียวฉลาด อีกทั้งส่งผลสนับสนุนให้ท่านได้บรรลุธรรมกายอรหัต พร้อมด้วยคุณวิเศษต่างๆ ตั้งแต่เยาว์วัย พ้นจากทุกข์ในสังสารวัฏ ถึงฝั่งของพระนิพพาน ดินแดนที่มีแต่ความสุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือปนเลย เพราะฉะนั้นเมื่อเรารู้อานิสงส์ของการรักษาศีล ๕ แล้ว ควรตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ตามอย่างพระปัญจสีลสมาทานิยเถระกัน


อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๓. สุภูติวรรค
๔. เบญจสีลสมาทานนิยเถราปทาน (๒๔)

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2009, 23:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ"wakeup" ครับ


1.คือที่ว่า "การกระทำบาปทุกอย่าง แม้ว่าจะทำให้จิตเศร้าหมอง.... แต่ก็ไม่ร้ายแรงเท่าการละเมิดศีล ๕"
อย่างศีลข้อ1 ถ้าไม่ฆ่าแต่ทำร้าย เช่นอาจจะทำร้ายพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทำร้ายพระโสดาบัน หรือทำร้ายพระอนาคามี หรือทำร้ายพระอรหันต์ หรือแม้กระทั่งทำร้ายพระพุทธเจ้า ผมเข้าใจว่ามันบาปหนักกว่าฆ่าสัตว์ เช่นฆ่ายุง ฆ่ามด ฆ่าแมลงสาป ไส้เดือน กิ้งกือ อีกไม่ใช่เหรือ?

....การทำบาปกับผู้ที่มีจิตบริสุทธิ์ มีวิบากกรรมเป็น 1-ล้านๆเท่าของผู้ที่มีจิตไม่บริสุทธิ์

2."ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการเหล่านี้ ในบุคคลผู้พูดมาก คือ
๑. ย่อมพูดปด
๒. ย่อมพูดส่อเสียด (คือยุให้แตกร้าวกัน)
๓. ย่อมพูดคำหยาบ
๔. ย่อมพูดเพ้อเจ้อ
๕. สิ้นชีวิตแล้ว ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคคติ วินิบาต (ความล่มจมตกต่ำ) นรก
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการเหล่านี้แล ในบุคคผู้พูดมาก."
ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๘๒

จากคำสอนนี้ของพระพุทธเจ้าของเรา มันก็มีความหมายชัดเจนว่าแค่พูดมากก็ตกนรกได้

.....คุณยึดในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือยึดในความเข้าใจผิดของตนเองกันแน่ครับ คุณต้องแยกให้ออกครับ ถ้าคนพูดมาก แล้วเขาไม่ได้กระทำการพูดปด พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ เขาย่อมไม่เข้าถึงอบาย ทุคคติ วินิบาต

การพูดมากเป็นเหตุให้เกิดโทษ ๕ ประการ แต่ถ้าการพูดมากไม่ได้เป็นเหตุให้เกิดโทษ ๕ ประการ ก็ไม่เป็นไรครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 01:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ariyachon เขียน:
ผู้มีศีล ๕ บริบูรณ์แล้ว
คือพระโสดาบันขึ้นไป
พระโสดาบันไม่ต้องลงไปอบายแล้วครับ


:b1: cool :b1:



:b53: ก็เขียนมาแค่นี้เนาะ เขาก็วิพากษ์เท่าที่เขียนนะซี :b41:

อย่าเคืองคนอื่นเลย...อิ...อิ...อิ :b17: :b17:
เคืองตัวเอง..ดีกว่า..อิ...อิ...อิ :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 02:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


wakeup เขียน:
ขอบคุณที่นำคำสอนของหลวงพ่อมาแบ่งกันครับ
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
การกระทำบาปทุกอย่าง แม้ว่าจะทำให้จิตเศร้าหมอง.... แต่ก็ไม่ร้ายแรงเท่าการละเมิดศีล ๕ บาปกรรมที่จะทำให้ผู้กระทำไปตกนรกนั้น มีเพียงการละเมิดศีล ๕ ข้อเท่านั้น บาปกรรมอื่นๆ จะมีบ้างก็มีแค่ทำความหมองใจ ไม่ถึงกับยังผลให้ผู้ทำไปตกนรก

ไม่ทราบใครพอจะกราบถามหลวงพ่อได้
คือที่ว่า "การกระทำบาปทุกอย่าง แม้ว่าจะทำให้จิตเศร้าหมอง.... แต่ก็ไม่ร้ายแรงเท่าการละเมิดศีล ๕"
อย่างศีลข้อ1 ถ้าไม่ฆ่าแต่ทำร้าย เช่นอาจจะทำร้ายพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทำร้ายพระโสดาบัน หรือทำร้ายพระอนาคามี หรือทำร้ายพระอรหันต์ หรือแม้กระทั่งทำร้ายพระพุทธเจ้า ผมเข้าใจว่ามันบาปหนักกว่าฆ่าสัตว์ เช่นฆ่ายุง ฆ่ามด ฆ่าแมลงสาป ไส้เดือน กิ้งกือ อีกไม่ใช่เหรือ?

และคำสอนของพระพุทธเจ้า (ยอดครูของครูทั้งหลาย) ที่ว่า "...เราย่อมกล่าวคติสองอย่างคือ นรกหรือกำเนิดสัตว์เดียรัจฉาน อย่างใดอย่างหนึ่ง ของบุคคลผู้มีความเห็นผิด ฯ"
จากในเรื่องตาลปุตตสูตร
ตามที่ผมเข้าใจจากคำตรัสนี้ มันก็ขัดว่าคนมีความเห็นผิดก็ตกนรกได้
ยังมีอีกครับ
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการเหล่านี้ ในบุคคลผู้พูดมาก คือ
๑. ย่อมพูดปด
๒. ย่อมพูดส่อเสียด (คือยุให้แตกร้าวกัน)
๓. ย่อมพูดคำหยาบ
๔. ย่อมพูดเพ้อเจ้อ
๕. สิ้นชีวิตแล้ว ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคคติ วินิบาต (ความล่มจมตกต่ำ) นรก
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการเหล่านี้แล ในบุคคผู้พูดมาก."
ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๘๒

จากคำสอนนี้ของพระพุทธเจ้าของเรา มันก็มีความหมายชัดเจนว่าแค่พูดมากก็ตกนรกได้
แล้วคิดว่าก็ยังมีอีก
สำหรับผม ผมก็คงต้องยึดคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ก็นึกถึงที่ว่า พระพุทธเจ้าของเราเป็นยอดครูของครูทั้งหลาย และ ทำไมพระพุทธเจ้าจึงไม่ทรงแต่งตั้งใครเลย แต่ให้พระธรรมวินัยเป็นศาสดาของเราชาวพุทธหลังจากที่พระองค์ได้ปรินิพพาน
ถ้าผมเข้าใจอะไรผิดก็ลองอธิบายให้ผมเข้าใจ(ด้วยเหตุด้วยผล)ด้วยแล้วกันครับ
อย่าคิดว่าเถียงกัน แต่เป็นการทำให้คนเรามีความเห็นที่ถูก
:b8:


เอ้อ...ทำร้ายร่างกาย..ผิดศีลข้อไหนหนอ ? ประสงค์ร้ายแก่ร่างกายนี้จัดว่าผิดศีลข้อ 1 ได้ไหม?

ไม่เห็นด้วยนะ ที่ว่า "แค่พูดมากก็ตกนรกได้" เพราะมันไม่เสมอไป เช่น

ดูอย่างอาจารย์สอนหน้าห้องซิ..พูดไม่น้อยเลย..ตลอด 2 ชั่วโมงเลยนะ พอจะเป็นเหตุเป็นผลได้ไหม..ไม่ได้เถียงนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 13:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.พ. 2009, 02:06
โพสต์: 811

อายุ: 0
ที่อยู่: มหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนา คุณฌาณ คุณdd ด้วยครับ

ต่อไปจะได้ไม่ต้องมีใครมากล่าวเพ้อเจ้อ

เที่ยวบอกว่าผู้มีศีล๕ "ที่บริบูรณ์แล้ว" จะต้องตกนรกหมกไหม้อีก



เตสํ สมฺปนฺนสีสานํ อปฺปมาทวิหารฺนํ
สมฺมทญฺญา วิมุตฺตานํ มาโร มคฺคํ น วินฺทติ

มารค้นหาอยู่ ย่อมไม่พบทางของท่านผู้มีศีลสมบูรณ์
อยู่ด้วยความไม่ประมาท หลุดพ้น เพราะรู้ชอบ


สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ
ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ

.....................................................
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันถูกต้องอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด (หลวงพ่อชา สุภัทโท)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 13:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


เราไม่อาจกล่าวได้ว่า " ถ้าบุคคลมีศีล ๕ บริบูรณ์แล้ว ไม่ตกนรกแน่นอน " คนที่มีศีล ๕ บริบูรณ์แล้ว มีโอกาส 1ใน 1,000,000 ที่จะตกนรก เพราะผมบอกว่าแล้ว การตกนรกนั้นอยู่ที่จิตก่อนตายเป็นกุศลหรืออกุศล ถ้าเป็นอกุศล คิดถึงกรรมชั่วที่ตนเองเคยทำก่อนจะมีศีล ๕ บริบูรณ์ ก็ต้องลงนรกครับ เพียงแต่ระยะเวลาที่ลงนรกนั้นจะไม่นาน 3 วัน 7 วัน ตามเวลาในโลกมนุษย์ ก้จะกลับขึ้นไปสวรรค์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 13:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:

เอ้อ...ทำร้ายร่างกาย..ผิดศีลข้อไหนหนอ ? ประสงค์ร้ายแก่ร่างกายนี้จัดว่าผิดศีลข้อ 1 ได้ไหม?

ไม่เห็นด้วยนะ ที่ว่า "แค่พูดมากก็ตกนรกได้" เพราะมันไม่เสมอไป เช่น

ดูอย่างอาจารย์สอนหน้าห้องซิ..พูดไม่น้อยเลย..ตลอด 2 ชั่วโมงเลยนะ พอจะเป็นเหตุเป็นผลได้ไหม..ไม่ได้เถียงนะครับ


ผมก็ตอบคุณ wake up ไปแล้วว่า

.....คุณยึดในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือยึดในความเข้าใจผิดของตนเองกันแน่ครับ คุณต้องแยกให้ออกครับ ถ้าคนพูดมาก แล้วเขาไม่ได้กระทำการพูดปด พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ เขาย่อมไม่เข้าถึงอบาย ทุคคติ วินิบาต

การพูดมากเป็นเหตุให้เกิดโทษ ๕ ประการ แต่ถ้าการพูดมากไม่ได้เป็นเหตุให้เกิดโทษ ๕ ประการ ก็ไม่เป็นไรครับ


คุณอธิบายชัดเจน อย่างนี้พวกครูบาอาจารย์ก็ลงนรกกันเพียบเลย เพราะพูดมากทั้งนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 21:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 09:03
โพสต์: 81


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ดูอย่างอาจารย์สอนหน้าห้องซิ..พูดไม่น้อยเลย..ตลอด 2 ชั่วโมงเลยนะ พอจะเป็นเหตุเป็นผลได้ไหม..ไม่ได้เถียงนะครับ



:b8:พระธรรมเป็นของละเอียด อาชีพครู อาจารย์ ทำให้คนหลงทางโลกเคยฟังธรรม รู้มาว่า ตกนรกได้ด้วยเนี๋ยะ ถ้าไม่รู้จักศึกษาธรรมะ ให้เข้าใจและสอนไปอย่างมีธรรมะ แฮะ ๆ จะมีคนคัดค้านอีกฮิ ๆ :b34: ว่ามาเลย...และจะให้ไปค้นพระไตรปิฎกด้วยมั๊ย .. :b13: โถ ๆ ...คุยกันไปเถอะนี่แหละคุยกันแบบนี้นะดีได้ความรู้ (ใส่อารมณ์นิดๆ) wink


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 21:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว


:b53: ศีล 5 จะบริบูรณ์ ไม่ด่างพร้อยต่อไปอีกเมื่อได้ถึงความเป็นโสดาบันบุคคล เมื่อถึงตรงนั้นแล้วประตูอบายจะปิดสนิท ความเกิดในภพภูมิทั้ง 4 คือสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย และสัตว์นรก จะไม่มีกับบุคคลผู้นั้นอีกแล้ว :b8:

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 21:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 09:43
โพสต์: 180

ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


ariyachon เขียน:
อนุโมทนา คุณฌาณ คุณdd ด้วยครับ
ต่อไปจะได้ไม่ต้องมีใครมากล่าวเพ้อเจ้อ
เที่ยวบอกว่าผู้มีศีล๕ "ที่บริบูรณ์แล้ว" จะต้องตกนรกหมกไหม้อีก

คุณadmin ช่วยตักเตือนคุณอริยชนด้วยครับ (เห็นเขาเป็นอาสาให้webที่นี่) มากล่าวหาว่าผมพูดเพ้อเจ้อ ผมก็พูดด้วยเหตุด้วยผล อ้างอิงคำสอนในพระไตรพิฏก ก็เห็นๆอยู่ ส่วนเขาคงไม่พอใจที่ไปตำหนิเขาว่าเข้าใจผิด ที่เขากล่าวว่า
ariyachon เขียน:
ผู้มีศีล ๕ บริบูรณ์แล้ว
คือพระโสดาบันขึ้นไป
....

มันก็ผิดจะๆ เลยน่ะ แล้วก็มาพาลผม
ช่วยตักเตือนเขาด้วยครับ
เราทั้งหลายในที่นี้ก็คงไม่มีใครรู้อะไรดีไปหมด ก็น่าเป็นลักษณะของการมาศึกษาร่วมกัน ถูกบ้าง ผิดบ้างก็น่าจะเปิดใจ ยอมรับ ถูกก็ดีที่เข้าใจถูก ผิดก็เอามาปรับปรุง ไม่น่ามาคิดอะไรกันมาก มันไม่จำเป็นเลย
เห็นด้วยไหมครับคุณariyachon?

.....................................................
โคตมะพุทธ ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ผู้รู้แจ้งโลก อัจฉริยมนุษย์ ยอดครูของครูทั้งหลาย
ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ ผู้ก่อตั้ง ผู้ค้นพบ คำสอนถูกบรรจุอยู่ในพระไตรปิฏก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 22:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 09:43
โพสต์: 180

ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


-dd- เขียน:
ถ้ารักษาศีล๕อย่างบริบูรณ์แล้วยังได้ตกนรกแล้ว พระพุทธเจ้าคงไม่ทรงสอนใครให้ประพฤติดอกครับ

ก็มันช่วยให้คนเป็นคนดีได้พระพุทธเจ้าก็สอนซิครับ คนมันมีหลายระดับ หลายประเภท
แต่ไม่ใช่เพราะสาเหตุแค่นี้แล้วจะบอกว่าถ้ามีแค่ศีล5แล้วรับประกันว่าไม่ตกนรก

.....................................................
โคตมะพุทธ ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ผู้รู้แจ้งโลก อัจฉริยมนุษย์ ยอดครูของครูทั้งหลาย
ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ ผู้ก่อตั้ง ผู้ค้นพบ คำสอนถูกบรรจุอยู่ในพระไตรปิฏก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 22:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.พ. 2009, 02:06
โพสต์: 811

อายุ: 0
ที่อยู่: มหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
:b53: ศีล 5 จะบริบูรณ์ ไม่ด่างพร้อยต่อไปอีกเมื่อได้ถึงความเป็นโสดาบันบุคคล เมื่อถึงตรงนั้นแล้วประตูอบายจะปิดสนิท ความเกิดในภพภูมิทั้ง 4 คือสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย และสัตว์นรก จะไม่มีกับบุคคลผู้นั้นอีกแล้ว :b8:


ขออนุโมทนาจร้า

สาธุ cool สาธุ

.....................................................
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันถูกต้องอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด (หลวงพ่อชา สุภัทโท)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 22:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 09:43
โพสต์: 180

ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณพลศักดิ์ผมอ่านๆแล้วก็เข้าใจว่าคุณก็เห็นด้วยแล้วว่ามีศีล5บริบูรณ์ ก็ตกนรกได้เช่น
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
เราไม่อาจกล่าวได้ว่า " ถ้าบุคคลมีศีล ๕ บริบูรณ์แล้ว ไม่ตกนรกแน่นอน " ...เพราะผมบอกว่าแล้ว การตกนรกนั้นอยู่ที่จิตก่อนตายเป็นกุศลหรืออกุศล ถ้าเป็นอกุศล คิดถึงกรรมชั่วที่ตนเองเคยทำก่อนจะมีศีล ๕ บริบูรณ์ ก็ต้องลงนรกครับ ...

และที่ผมยกตัวอย่างการทำร้ายแต่ไม่ฆ่าให้ผิดศีลข้อ1
และบุคคลผู้มีความเห็นผิด ก็ตกนรกได้ จากในเรื่องตาลปุตตสูตร ที่ผมยกมาเป็นตัวอย่าง

ส่วนการพูดมากก็คงเป็นลักษณะว่าถ้าพูดมากก็มีโอกาสตกนรกได้ คงไม่ใช่ว่าจะแค่พูดมากอย่างเดียวเลยตกนรก
คงคล้ายๆกับผิดศีลข้อกินเหล้ามั๊งครับ คือกินแค่นิดหน่อย เมาก็ไม่เมา ไปทำให้ใครเดือดร้อนหรือก็เปล่า
แค่นั่งเล่นดูTV จิบเหล้าไปพลางๆนิดๆหน่อยๆ คนเดียว ก็คงไม่ตกนรก แต่ศีลนั้นขาดแล้ว และมันอาจนำไปสู่เรื่องร้ายๆได้ถ้าเผลอดื่มมาก แล้วก็อาจไปสู่นรกได้ต่อไป

แล้วพวกท่านรู้หรือเปล่าว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้เป็นผู้บัญญัติศีล 5(แต่ศีล8ใช่ ศีล227ข้อก็ใช่อย่างที่รู้ๆกันอยู่) ผมได้ยินมาว่ามันมีมาก่อนแล้ว และพระพุทธเจ้าเห็นว่าดี ก็เลยสอนต่อๆมาให้คนเรามีศีล5
ศีลซึ่งแปลว่าปรกติ(ตามที่ผมอ่านๆมา) ผมมองว่ามันแค่ข้อห้ามของคนที่ใช้วิถีชิวิตปรกติทั่วๆไป แค่นี้ก็พอที่จะใช้เป็นฐานในการเจริญสมาธิ...แล้วก็ปัญญา ไม่ได้มุ่งไปว่าจะตกหรือไม่ตกนรกอะไรอย่างไร จะตกนรกหรือไปก็ต้องศึกษาเพิ่มเติมว่าพระพุทธเจ้ามีสอนอย่างไรในประเด็นนี้
คือคนเราปรกติจะทำผิดอะไรในวันๆ ก็แค่มีศีล5เพิ่มโปะเข้ามา สำหรับกรณีทั่วไป(ที่เป็นปรกติ)
แต่ไม่ใช่ว่าถ้าไม่ผิดศีล5แล้วรับประกันว่าไม่ตกนรก มันอีกประเด็น เลยต้องมาถกกันอยู่นี่ พยายามอธิบายให้พวกท่านฟัง

.....................................................
โคตมะพุทธ ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ผู้รู้แจ้งโลก อัจฉริยมนุษย์ ยอดครูของครูทั้งหลาย
ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ ผู้ก่อตั้ง ผู้ค้นพบ คำสอนถูกบรรจุอยู่ในพระไตรปิฏก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 23:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 09:43
โพสต์: 180

ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณ คุณฌาณ ที่นำเรืองพระปัญจสีลสมาทานิยเถระ มากแบ่งกันฟัง
และก็ขออณุญาตินำเฉพาะในส่วนที่พระพุทธเจ้ากล่าวมาซ้ำอีก
"สีลํ โลเก อนุตฺตรํ ศีลเป็นเยี่ยมในโลก"
ครับ ศีลเป็นเยี่ยมในโลก
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
โคตมะพุทธ ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ผู้รู้แจ้งโลก อัจฉริยมนุษย์ ยอดครูของครูทั้งหลาย
ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ ผู้ก่อตั้ง ผู้ค้นพบ คำสอนถูกบรรจุอยู่ในพระไตรปิฏก


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 56 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร