วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 00:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2009, 10:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2009, 03:06
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


คือว่าเป็นหวัดอยู่น่ะค่ะ ทำสมาธิแล้วมันวอกแวกและขาดตอนบ่อย ๆ มากเลย เพราะเดี๋ยวต้องสั่งน้ำมูก เดี๋ยวจาม เดี๋ยวหายใจติดขัด เดี๋ยวรู้สึกเจ็บคอ เลยอยากถามว่า จะตั้งจิต ตั้งสมาธิที่ใหนดีคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2009, 11:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ค. 2009, 13:02
โพสต์: 32

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันก็สงสัยเหมือนกันค่ะ ว่าเวลาปวดศีรษะมาก ๆ เหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ หรือเวลาป่วยหนักควรทำกำหนดจิตอย่างไรคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2009, 12:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2009, 20:15
โพสต์: 78


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเป็นเราก็จะมาดูตรงอาการหวัด

เป็นการดูกายค่ะ ไม่รู้สิแต่ละคนมีวิธีการไม่เหมือนกัน

รอผู้รู้มาตอบให้ล่ะกันเนอะ :b18:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2009, 12:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้ฝึกการเจริญสติปัฏฐาน 4 กันหรือเปล่าคะ หรือเพียงนั่งสมาธิภาวนาอย่างเดียว :b1:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2009, 14:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


สมาธิ มี 2 อย่าง
1. สมถะกรรมฐาน จิตนิ่งอยู่ในคำภาวนา
2. วิปัสสนากรรมฐาน จิตตามดูอาการที่เกิดขึ้นจากกาย เวทนา

เมื่อเป็นหวัด ตอนแรกจิตผมก็นิ่งไม่ได้ เสียสมาธิ สมถะกรรมฐานหรือสมาธิจึงหลุด แต่ตอนหลังผมใช้วิธีไม่สนใจกับอาการหวัดนั้น แม้จะเป็นหวัดก็ยังทำสมถะได้อยู่บ้าง ตอนหลังผมใช้วิธีวิปัสสนาเข้าช่วยอีกแรง ปรากฏว่าไม่ว่าจะเป็นหวัด หรือปวดอึ จิตมันก็นิ่งได้ แม้กายจะกำลังสั่งน้ำมูก หรือกายจะใช้กำลังเบ่งอึ แต่จิตมันนิ่งได้

เหมือนกับพระพุทธองค์ท่านกระทำสิ่งใดอยู่ แม้แต่กำลังจะตาย จิตท่านก็นิ่งตลอด ไม่ส่งออกไปปรุงแต่งอารมณ์ใดๆ

ต้องค่อยๆ พยายามทำครับ ถ้าไม่สำเร็จชาตินี้ ชาติต่อไปก็สำเร็จเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2009, 17:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อนุโมทนาด้วยค่ะ

ขอเล่าจากที่ผ่านมาเองนะคะ

คือแมวขาวก็นั่งทำสมาธิเหมือนเดิม ไม่ใส่ใจกับหวัด กับการปวดศรีษะ(บางครั้งเป็นไมเกรนด้วยค่ะ)
แต่ทำใจให้ผ่อนคลาย ไม่วิตกกังวลกับอาการเจ็บไข้ มันเกิดก็เกิดไป
เคยมาดูมันปวด แต่มันกลับปวดมากขึ้น เป็นมากขึ้นเลยหยุดดูมันค่ะ ปล่อยมันลง
แล้วกลับมาที่จิตหรือที่คำภาวนาตามที่ครูบาอาจารย์สอน
เริ่มจากที่ครูบาอาจารย์สอนมาตามขั้นตอนต่างๆแหละค่ะ
จามก็จามไปเดี๋ยวมันก็หยุดจามเอง (ดับไป) ขัดจมูกก็หายใจทางปาก (แค่เปลี่ยนทางลมเข้าออก..)
จิตก็กำหนดมั่นอยู่ที่คำภาวนาไปเรื่อยๆ จากแรก ๆ ที่ทำก็ยังมีวอกแวกค่ะ
แต่ก็ฝึกบ่อยๆ กายก็เรื่องของกายไป เจ็บไปป่วยไปตามเหตุปัจจัยของมันเดี๋ยวมันก็ดับไปไม่อยู่นานค่ะ

ลองทำดูคุณทำได้ค่ะ... เอาใจช่วย :b4: :b4:
ว่าแต่ใครเคยปวดลึกถึงกระดูกมาบ้างค่ะ ปวดได้ยาวนานมากลุกไม่ได้ นั่งไม่ได้เนี้ยะที่สุดจริงๆค่ะ

:b34: :b34: :b34:

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2009, 20:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็นั่งไปเท่าที่ทำได้อะนะ ถ้าถึงขั้นเป็นไข้ก็พักผ่อนเถอะ

ส่วนใหญ่ ถ้ากายทรุด ใจก็ทรุดตาม ถ้าหวังจะให้จิตมาช่วยกาย อันนั้นต้องเป็นสมาธิขั้นสูงจริงๆ (คือระดับฌาณ) เราไม่แม่นทฤษฎีนะ แต่เข้าใจว่า จิตต้องเป็น อุเบกขา เพื่อวางเฉยต่อสังขาร ไม่ยินดียินร้ายต่อสังขาร (ซึ่งก็คืออาการป่วย) และจิตต้องเป็น เอกัคตา คือแน่วแน่เป็นหนึ่ง เพื่อใช้กำลังจิตที่มีมาช่วยรักษา เขียนมาแบบนี้ก็คงรู้แล้วว่า คือ ฌาณ 4 ฌานระดับสูงสุดของรูปฌาณ

จะเห็นว่า การรักษาตนเองนั้น นอกจากฌาณ 4 แล้ว จะต้องมีความชำนาญในการเข้าสมาธิด้วย คือสามารถเข้าถึงระดับฌาณได้อย่างรวดเร็ว ถ้ามาค่อยๆ ขึ้นจากฌาณ 1 ไปฌาณ 2 ไป 3 ไป 4 สังขารที่ป่วยจะมาบั่นทอนจนไปไม่ถึงไหน

การช่วยร่างกายก็ใช้วิธีเพ่งดวงไฟ เคลื่อนไปตามตัว หรือไปตามจุดที่มีปัญหา ถ้ามีความรู้ทางวิทย์อยู่บ้าง ก็จะทำได้ดีขึ้น เช่น การเป็นไข้นั้น เกิดจากสมองสั่งการผิดปกติ ควบคุมอุณหภูมิร่างกายผิดพลาด เราก็เคลื่อนดวงไฟไปที่กลางหัว (กลางข้างในหัวเลย) แล้วเลื่อนมาตามตัวบ้าง เพื่อปรับสภาพกายทิพย์ไปด้วย

เท่าที่เคยลองดูนะ มันช่วยได้สำหรับการป่วยหนัก (แต่ยังไง ก็ควรหาหมอด้วย) และช่วยได้ในอาการที่ ชัดเจน เช่น คัดจมูก (หายในขณะทำสมาธิ) เจ็บคอ (หายเร็วขึ้นสัก 50%) แต่ช่วยได้น้อยมาก หรือไม่ได้เลย กับอาการเล็กๆ น้อยๆ เช่น หวัด (สำหรับสมาธิขั้นสูง ในขณะทำสมาธิ อาการหวัดต่างๆ ก็ไม่ค่อยเกิดนะ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 03:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2009, 03:06
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากนะคะ :b8: ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
ถ้าจะวิปัสนากับอาการจมูกตันเนี่ยทำไงคะ ใช่ตามความรู้สึกว่า ตันหนอ รำคาญหนอ สั่งน้ำมูกหนอ อย่างงี้หรือป่าวคะ
แล้วเวลาเพ่งดวงไฟเนี่ย ทำยังไงคะ จินตนาการเอาว่ามันร้อน ๆ ที่จมูกอย่างงี้หรอคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 14:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็ลองนึกว่า มีดวงสว่างๆ อยู่ที่จมูก ถ้ากำลังจิตมีพอ จะหายอย่างรวดเร็ว
ดวงไฟ ไม่ได้หมายถึงไฟร้อนๆ ลองนึกภาพดวงวิญญาณแบบในหนังซิ เป็นดวงสว่างๆ น่ะ

อันนี้เป็นสมถะนะ ส่วนวิปัสสนา... ไม่รู้จ๊ะ รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 14:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 19:18
โพสต์: 160

ที่อยู่: นนทบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาด้วยครับ ตอนนี้กำลังคัดจมูกอยู่พอดีเลย :b8:

ช่วยได้มากเลยครับ ผมคัดจมูกอยู่ พอทำตามอย่างที่คุณ murano บอกก็หายเลยครับ :b16: :b16:

.....................................................
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 15:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


สั่งทิ้งแล้วกลับมา บริกรรมใหม่ครับ ปวด หัว ก็ทายา กินยาแล้วมาทำ ต่อไม่ต้องอะไร เพราะ กายนี้ไม่ใช่เรา กายนี้ไม่มี กายนี้สมมุติ

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2009, 15:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


เดินจงกรมครับท่าน ๗ ระยะตามญาณที่เกิด

๑. ขวา.....ย่าง.....หนอ.....ซ้าย.....ย่าง.....หนอ

๒. ยก.....หนอ, เหยียบ.....หนอ

๓. ยก.....หนอ, ย่าง.....หนอ, เหยียบ.....หนอ

๔. ยกส้น.....หนอ, ยก.....หนอ, ย่าง.....หนอ, เหยียบ.....หนอ

๕. ยกส้น.....หนอ, ยก.....หนอ, ย่าง.....หนอ, ลง.....หนอ, ลง.....หนอ, ถูก.....หนอ

๖. ยกส้น.....หนอ, ยก.....หนอ, ย่าง.....หนอ, ลง.....หนอ, ถูก.....หนอ, กด.....หนอ

๗. ยกส้น.....หนอ.....ไม่คิดหนอ, ยก.....หนอ.....ไม่คิดหนอ, ย่าง.....หนอ.....ไม่คิดหนอ, ลง.....หนอ.....ไม่คิดหนอ, ถูก.....หนอ.....ไม่คิดหนอ, กด.....หนอ.....ไม่คิดหนอ, (ทวนระยะ ๖ เพิ่ม คิดและไม่คิด ตามขณะจิตนั้นเข้าไปด้วย )

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 23:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2009, 13:18
โพสต์: 70

อายุ: 0
ที่อยู่: ลาดพร้าว

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเป็นหวัดเฉยๆพอทนได้ แต่รำคาญ คัดจมูก หายใจไม่สะดวก ก็ลองเปลี่ยนมาเดินจงกรมดูก็ได้ค่ะอาจจะดีขึ้น พอนิ่งแล้วลองนั่งดูถ้านั่งได้ต่อก็ค่อยนั่ง ถ้านั่งไม่ได้ก็อย่าฝืนพักผ่อนเยอะๆ ตั้งจิตว่าอยากจะปฏิบัติธรรมได้เร็วๆขอให้ไข้หวัด และอาการเหล่านี้ช่วยบรรเทาลงเร็วๆด้วยเถิด :b8:

แต่ของเราแปลกมาก คือ นั่งสมาธิหลังสวดมนต์จนเคยชิน ไม่สบายปวดหัวมากขนาดไหน พอถึงเวลาสวดมนต์และนั่งสมาธิอาการปวดไม่มีเลยค่ะ แต่พอเลิกแล้วก็กลับมาปวดต่อซะงั้น

อย่างวันก่อนเราไปบริจาคโลหิตมา ไม่ได้กินยาบำรุงเลือด อาการเหมือนจะช็อคไข้ขึ้นอีก รู้ตัวก็รีบกินยาบำรุงและพักแปบหนึง กลับถึงบ้านดึกแล้วแต่ก็ยังฝืนนั่งสมาธิ แต่ตอนนั่งอาการเหล่านั้นไม่มีเลยค่ะ พอเลิกนั่งอาการปวดหัวเป็นไข้กลับขึ้นมาอีก เลยรีบนอนพักผ่อน รุ่งขึ้นก็ทำเหมือนเดิมได้อีก งงมากเลย :b7:

.....................................................
ตามความคิดเห็นส่วนตัวของเรา

หากเราเปรียบเจ้ากรรมนายเวรของเราเป็นเจ้าหนี้
เราคือ ลูกหนี้ที่มีสิทธิ์โดนทวงได้ทุกเวลา
การทำบุญ ถวายสังฆฑาน ปล่อยชีวิตสัตว์ หรือการทำทาน เป็นเพียงการใช้ดอกเบี้ย
การทำสมาธิแล้วสื่อจิตถึงเจ้ากรรมนายเวรและขออโหสิกรรมนั้น เป็นการใช้เงินต้นที่เราได้ติดเขานั่นเอง


ลองดูสิว่าถ้ากลับกันตัวคุณเป็นเจ้าหนี้ คุณอยากให้ลูกหนี้ใช้หนี้คุณแบบไหนกันล่ะ ^^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 02:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2009, 03:06
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะทุก ๆ คน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 10:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คือว่าเป็นหวัดอยู่น่ะค่ะ ทำสมาธิแล้วมันวอกแวกและขาดตอนบ่อย ๆ มากเลย เพราะเดี๋ยวต้องสั่งน้ำมูก เดี๋ยวจาม เดี๋ยวหายใจติดขัด เดี๋ยวรู้สึกเจ็บคอ เลยอยากถามว่า จะตั้งจิต ตั้งสมาธิที่ใหนดีคะ
ตอบ ถ้าเป็นกรรมฐานที่เกี่ยวกับการกำหนดลมที่จมูกก็อาจจะเป็นปัญหา ถ้ากำหนดที่ท้องก็ไม่เป็นปัญหา เช่น พองหนอ ยุบหนอ จมูกตันก็ไม่เป็นไรยังไงก็ต้องมีลมเข้าและลมออกอยู่ดีละครับ แต่ในกรณีที่กำหนดลมที่จมูกนั้น อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นกรรมฐานกองอื่นซักพัก เช่นลองทำเมตตาภาวนา แผ่เมตตาให้ตัวเองหายไว นั่งขัดสมาธิหลับตา แล้วแผ่เมตตาให้ตัวเอง อาจจะนึกในใจว่า "ขอให้เรามีความสุขกายสุขใจ ปราศจากโรคภัย " นึกซ้ำๆ ไปเรื่อยจิตก็จะสงบเอง ถ้าเป็นหวัดไข้ก็จะลด ลมหายใจละเอียดขึ้น จะหายจากหวัดเร็วขึ้นนะครับ

-เวลาปวดศีรษะมาก ๆ เหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ หรือเวลาป่วยหนักควรทำกำหนดจิตอย่างไรคะ
ตอบ ตัวผมเองเป็นไมเกรนแบบขั้นรุนแรงครับ ผมก็กำหนดดูอาการปวดที่หัวไป กำหนดว่าปวดหนอ ปวดหนอ ตอนแรกยิ่งกำหนดก็ยิ่งปวด พอกำหนดไปซักพัก อาการปวดก็จะเบาลง ถ้าเราสมาธิ และสติดี เราจะรู้ว่าตำแหน่งของจุดที่ปวดในหัวของเรานั้นมันอยู่ตรงไหนมันจะเกิดจากจุดเล็กๆ ในหัวของเรานี่เอง
สำหรับกรณีที่นั่งสมาธิแล้วปวดหัว ผมก็ดูที่อาการปวดในหัวเหมือนเดิม กำหนดดูไปเรื่อยอย่างแผ่วเบา ซักพักมันก็จะหายไปเอง แต่ห้ามคิดว่าเมื่อไรจะหายนะครับมันจะไม่หาย ดูไปเรื่อยๆ เหมือนเราดูคนอื่นปวด มันปวดได้ มันต้องหายได้ครับไม่ต้องห่วง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร