วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 03:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


อยากรู้หน่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 07:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2007, 13:40
โพสต์: 464

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


วิสุทธิมรรค เล่ม ๒ ภาคสมาธิ ปริเฉทที่ ๑๓ อภิญญานิเทศ หน้าที่ ๒๘๐ - ๒๘๕

ที่มา
http://th.wikisource.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84_%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1_%E0%B9%92_%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4_%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88_%E0%B9%91%E0%B9%93_%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8_%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88_%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%90_-_%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%95


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 08:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2007, 13:40
โพสต์: 464

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


นักศึกษาพึงทราบวินิจฉัยใน ปุพเพนิวาสานุสสติญาณกถา ดังต่อไปนี้ คำว่า เพื่อปุพเพนิวาสานุสสติญาณกถา นี้คือเพื่อประโยชน์แก่ญาณในการนึกถึงขันธ์ที่เคยอาศัยมาในกาลก่อน ที่ชื่อว่า ขันธ์ที่เคยอาศัยมาในกาลก่อน ก็คือขันธ์ที่เคยอยู่ครอบครองกาลก่อน ได้แก่ชาติที่ล่วงไปแล้วนับไม่ถ้วน คำว่า อยู่ครอง คือ ที่ตนได้เคยครอบครองมา ที่ตนได้เคยเสวยผลมา ได้แก่ที่เกิดดับในสันดานของตน

หรืออาการต่างๆที่อาศัยขันธ์ คำว่า อยู่ครอบครอง คือ อยู่ประจำโดยการอยู่อาศัยเป็นโคจร ได้แก่ที่กำหนดรู้ชัดด้วยวิญญาณของตน หรือ ที่กำหนดรู้ชัดได้ด้วยวิญญาณของผู้อื่น ในเวลาที่อนุสรณ์ถึงท่านผู้ตัดขาดวัฏสงสารถึงนิพพานแล้ว พระพุทธเจ้าทั้งหลายเท่านั้นจึงจะมีนิวุฏฐธรรมเหล่านั้นได้ คำว่า นึกถึงขันธ์ที่เคยอาศัยมาในกาลก่อน คือ พระโยคีนึกถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยมาในกาลก่อนได้ด้วยสติใด สตินั้นชื่อว่า ปุพเพนิวาสานุสสติ ญาณอันสัมปยุตด้วยสตินั้นชื่อว่า ญาณ เพื่อประโยชน์แก่ญาณอันสัมปยุตด้วยสติ นึกถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยมาในกาลก่อนนี้ดังบรรยายมานี้

มีอธิบายว่า เพื่อปุพเพนิวาสานุสสติญาณ คือเพื่อการบรรลุถึงซึ่งญาณนี้ คำว่า มิใช่อย่างเดียว คือหลายอย่าง หรือที่ท่านให้เป็นไป คือพรรณนาได้หลายอย่าง คำว่า ขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยมาในกาลก่อน คือ สันดานที่ตนเคยอาศัยอยู่อาศัยครอบครองในภพนั้นๆ ตั้งต้นแต่ภพที่เป็นอดีตล่วงมานี่เอง คำว่า นึกได้ คือระลึกย้อนไปตามลำดับแห่งขันธ์ หรือว่าตามลำดับจุติและปฏิสนธิ

ความจริง ชน ๖ จำพวกย่อมระลึกถึงปุพเพสันนิวาสนี้ได้ คือ
พวกเดียรถีย์ ๑
พระสาวกปกติทั้งหลาย ๑
พระมหาสาวกทั้งหลาย ๑
พระอัครสาวกทั้งหลาย ๑
พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย ๑
พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ๑ ในชน ๖ จำพวกนั้น


พวกเดียรถีย์ระลึกได้เพียง ๔๐ กัล์ปเท่านั้น ไม่ยิ่งไปกว่านั้นได้เลย เพราะเหตุไร ? เพราะมีปัญญาน้อย จริงอยู่ พวกเดียรถีย์เหล่านั้นเป็นผู้มีปัญญาน้อย เพราะยังกำหนดนามรูปไม่ได้

พระสาวกปกติทั้งหลายระลึกได้ ๑๐๐ กัล์ปก็ได้ ๑,๐๐๐ กัล์ปก็ได้ เพราะมีปัญญามาก

พระมหาสาวก ๘๐ องค์ระลึกได้แสนกัล์ป

พระอัครสาวกทั้งสองระลึกได้ ๑ อสงไขย กำไรแสนกัล์ป

พระ
(หน้าที่ 285)
ปัจเจกพระพุทธเจ้าระลึกได้ ๒ อสงไขย กำไรแสนกัล์ป ก็อภินิหารของท่านเหล่านั้นมีกำหนด ประมาณไว้เท่านี้

ส่วนอภินิหารของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ไม่มีกำหนดกาล


อนึ่ง พวกเดียรถีย์ระลึกได้เฉพาะลำดับแห่งขันธ์เท่านั้น ไม่สามารถจะละลำดับขันธ์แล้วมาระลึกโดยจุติและปฏิสนธิได้เลย จริงอยู่ เดียรถีย์เหล่านั้นไม่มีการแวะลงสู่ที่ที่ตนปรารถนาได้ เช่นเดียวกับคนตาบอด คือคนตาบอดละไม้เท้าเสียแล้วย่อมเดินไปไม่ได้ฉันใด พวกเดียรถีย์ละลำดับแห่งขันธ์แล้วย่อมระลึกไม่ได้ ฉันนั้น

พระสาวกปกติทั้งหลายย่อมระลึกตามลำดับขันธ์ได้ ทั้งระลึกต่อไปด้วยอำนาจจุติและปฏิสนธิก็ได้ พระมหาสาวก ๘๐ ก็เหมือนกัน ส่วนพระอัครสาวกทั้งสองไม่ต้องมีการระลึกตามลำดับขันธ์ เพราะว่า ท่านเห็นจุติแห่งอัตภาพหนึ่งแล้วเห็นปฏิสนธิและเห็นจุติแห่งอัตภาพอื่นอีกแล้วจึงเห็นปฏิสนธิ ท่านก้าวข้ามไปด้วยอำนาจจุติและปฏิสนธิ ด้วยอาการอย่างนี้แล พระปัจเจกพุทธเจ้าก็เหมือนกัน แต่สำหรับพระพุทธเจ้าทั้งหลาย กิจด้วยการระลึกตามลำดับขันธ์ไม่มีเลย กิจด้วยการระลึกข้ามไปด้วยอำนาจจุติและปฏิสนธิก็ไม่มี จริงอยู่ พระพุทธเจ้าเหล่านั้นทรงมีพระประสงค์จะทราบถึงที่ใดๆ ในเบื้องต่ำหรือเบื้องบนก็ตาม ถึงเวลาจะผ่านไปตั้งหลายโกฏิกัล์ป ที่นั้นๆก็ย่อมปรากฏขึ้นทันที เพราะเหตุนั้น พระพุทธเจ้าทั้งหลายนั้นจึงทรงย่นย่อได้หลายๆโกฏิกัล์ป ดุจย่นย่อบาลีด้วยมีเปยยาล (ฯเปฯ) ฉะนั้น ทรงพระประสงค์จะทรงทราบตรงที่ใดๆในกัล์ปใดในภพใด ก็ก้าวเจาะลงในภพญาณในที่นั้นๆ ในกัล์ปนั้นในภพนั้นได้เลย ทรงดำเนินพระญาณไปได้อย่างแม่นยำ ปานดังราชสีห์ปบสัตว์ในที่นั้นๆฉะนั้น ก็พระญาณของพระพุทธเจ้าเหล่านั้นซึ่งดำเนินไปอย่างนี้ย่อมไม่ผิดพลาดในชาติอันเป็นระหว่างๆ เมื่อไม่ผิด ไม่พลาด ย่อมจับเอาเฉพาะที่ซึ่งพระองค์ปรารถนา ๆ ทีเดียว เปรียบเหมือนอย่างลูกศรที่นายขมังธนู เช่นท่านสรภังคาจารย์ผู้ทำการอบรมยิงขนทราย ยิงไปแล้วมิได้กระทบต้นไม้ และเครือเถาเป็นต้นในระหว่าง ย่อมถูกต้องเป้าหมายไม่ผิดไม่พลาด ฉันนั้น

ก็ในพวกชนผู้นึกถึงปุพเพสันนิวาสได้เหล่านี้ การเห็นปุพเพสันนิวาส (ระลึกชาติได้) ของพวกเดียรถีย์ ย่อมปรากฏเป็นเช่นเดียวกับแสงสว่างแห่งหิ่งห้อย

การระลึกชาติได้ของพระสาวกปกติย่อมปรากฏเป็นเช่นเดียวกับแสงประทีป

การระลึกชาติได้ของพระมหาสาวก
(หน้าที่ 286)
ย่อมปรากฏเป็นเช่นเดียวกับแสงคบเพลิง

การระลึกชาติได้ของพระอัครวาวกย่อมปรากฏเป็นเช่นเดียวกับแสงดาวประจำรุ่ง

การระลึกชาติได้ของพระปัจเจกพุทธเจ้าย่อมปรากฏเป็นเช่นเดียวกับแสงพระจันทร์ การระลึกชาติได้ของพระพุทธเจ้าย่อมปรากฏเป็นเช่นเดียวกับแสงพระอาทิตย์พันดวงในฤดูร้อน อันประดับประดาแล้วด้วยพระรัศมีตั้งพันรัศมี

อนึ่ง การระลึกชาติได้ของพวกเดียรถีย์เป็นดุจการเดินไปด้วยปลายไม้เท้าของคนตาบอด
การระลึกชาติได้ของพระสาวกปกติเป็นดุจการเดินทางไปบนสะพานไม้ท่อน
การระลึกชาติได้ของพระมหาสาวกเป็นดุจการเดินไปบนสะพานสำหรับเดินเท้า
การระลึกชาติได้ของพระอัครสาวกเป็นดุจการไปบนสะพานสำหรับเกวียนที่จะผ่าไปได้
การระลึกชาติได้ของ พระปัจเจกพุทธเจ้า เป็นดุจการเดินไปตามทางเดินเท้าที่ใหญ่
การระลึกชาติได้ของพระพุทธเจ้า เป็นดุจการเดินไปตามทางเกวียนใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 08:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2007, 13:40
โพสต์: 464

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


แต่ในอธิการนี้ ท่านประสงค์ถึงการระลึกชาติได้ของพวกสาวก เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวคำว่า

นึกได้ คือตามนึกไปเป็นขั้นตอนด้วยสามารถลำดับขันธ์ หรือด้วยสามารถจุติและปฏิสนธิ เพราะฉะนั้น ภิกษุผู้เริ่มบำเพ็ญเพียรเพื่อต้องการระลึกชาติได้อย่างนั้น
เวลากลับจากบิณฑบาตหลังอาหารไปในที่ลับหลีกเร้นอยู่
เข้าฌานทั้ง ๔ โดยลำดับ ออกจากฌานที่ ๔ ซึ่งเป็นบาทแห่งอภิญญา

พึงนึกถึงการนั่งครั้งสุดท้าย แต่นั้นพึงนึกถึงกิจที่ตนทำทั้งกลางคืนกลางวันทั้งสิ้น โดยย้อนถอยหลังอย่างนี้คือ

การให้ปูอาสนะ
การเข้าสู่เสนาสนะ
การเก็บบาตรจีวร
การฉันภัตตาหาร
เวลากลับมาจากบ้าน
เวลาเที่ยวบิณฑบาตในบ้าน
เวลาเข้าสู่บ้านเพื่อบิณฑบาตในบ้าน
เวลาออกจากวิหาร
เวลาไหว้ลานพระเจดีย์ และลานพระศรีมหาโพธิ์
เวลาล้างบาตร เวลารับบาตร
กิจที่ทำแล้วตั้งแต่การรับบาตร ตราบเท่าถึงการล้างหน้า
กิจที่ทำแล้วในเวลาใกล้รุ่ง กิจที่ทำแล้วในมัชฌิมยาม
กิจที่ทำแล้วในปฐมยาม ก็กิจเพียงเท่านี้ย่อมปรากฏแม้แต่จิตปกติ

แต่ปรากฏแจ่มอย่างยิ่งแก่จิตที่เป็นสมาธิ เพราะการบริกรรม ก็หากว่าในกิจเหล่านี้บางอย่างไม่ปรากฏไซร้ ต้องเข้าฌานที่เป็นบาทอีก ออกแล้วจึงนึกถึง

ทำได้ถึงเพียงนี้กิจย่อมปรากฏดุจประทีปปลุกโพลงแล้วพึงนึกถึงกิจที่ตนทำโดยถอยหลังอย่างเดียวดังพรรณนามานี้ แม้ในวันที่ ๒ แม้ในวันที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 08:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2007, 13:40
โพสต์: 464

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


(หน้าที่ 287)
แม้ใน ๑๐ วัน แม้ในกึ่งเดือน แม้ทั้งเดือน หรือตลอด ๑๐ ปี ๒๐ ปีโดยอุบายนี้อยู่

พึงนึกถึงนามรูปซึ่งเป็นไปในขณะจุติในภพก่อนได้ ก็ภิกษุผู้เป็นบัณฑิตย่อมอาจเพื่อจะเพิกปฏิสนธิ ทำนามรูปในขณะจุติให้เป็นอารมณ์ได้โดยวาระเดียวเท่านั้น

ก็เพราะนามที่นามรูปในภพก่อนดับไม่มีเหลือ นามรูปอื่นเกิดขึ้น เหตุนั้นฐานนั้นอันคนทรามปัญญาจึงมองเป็นได้ยาก ดุจที่มืดมิดอันของหนาทึบครอบเทินไว้ในเบื้องบน

ภิกษุนั้นไม่พึงทอดธุระเสียโดยท้อใจว่า เราไม่อาจเพิกปฏิสนธิทำนามรูปซึ่งเป็นไปในขณะจุติให้เป็นอารมณ์ได้ ก็เธอพึงเข้าฌานที่เป็นบาทนั้นแหละบ่อยๆ และเธอออกจากฌานนั้นแล้วพึงนึกถึงที่นั้นเถิดด้วยว่าเมื่อเธอทำไปอย่างนี้

ก็เปรียบเหมือน
บุรุษผู้มีกำลัง เริ่มจะตัดต้นไม้ใหญ่
เพื่อจะนำมาทำเป็นช่อฟ้าเรือนยอด
พอเริ่มตัดถึงและใบเท่านั้น คมขวานก็เป็นอยู่
ไม่สามารถจะตัดไม้ใหญ่ได้ทอดธุระเสียเลย ไปสู่โรงตีเหล็กให้ช่างตีขวานให้คมแล้ว
กลับมาตัดใหม่อีก

ขวานก็เป็นอยู่อีกเป็นวาระที่สอง
จึงไปให้ช่างตีขวานให้คมอีกเหมือนเดิมแล้วกลับมาตัดอีก
เมื่อเธอตัดอยู่อย่างนี้ไม่นานนักก็จะพึงโค่นไม้ใหญ่ลงได้
เพราะต้นไม้ที่ตัดไปแล้วไม่ต้องมีการตัดอีกและที่ยังไม่ได้ตัดก็ต้องตัดอีกต่อไป ฉันใด

พระโยคีออกจากฌานที่เป็นบาท ไม่นึกถึงฐานะที่ตนนึกในกาลก่อน นึกเฉพาะแต่ปฏิสนธิอย่างเดียว ไม่นานนักก็จะเพิกปฏิสนธิ

ทำนามรูปซึ่งเป็นไปในขณะจุติให้เป็นอารมณ์ได้

ฉันนั้น นักปราชญ์พึงแสดงใจความอย่างนี้
โดยเปรียบเหมือนคนผ่าฟืนและช่างโกนผมเป็นต้นก็ได้
ก็ในญาณเหล่านั้น ญาณที่ทำนามรูปให้เป็นอารมณ์เป็นไปแล้ว
ตั้งแต่การนั่งครั้งหลังจนถึงปฏิสนธิ ย่อมไม่ชื่อว่าปุพเพนิวาสญาณ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 10:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 13:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่เขียนมาทั้งหมดไม่เข้าใจเลยซักกะตี๊ด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 13:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: :b12:

ก็นั่นละข้อปฏิบัติละครับ ทำตามแล้วจะระลึกชาติได้ ลองดู เป็นกำลังใจให้ครับ
:b13 :b35: :b4:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 14:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 10:01
โพสต์: 200

โฮมเพจ: http://www.watpanonvivek.com/
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


boom_manman เขียน:
ที่เขียนมาทั้งหมดไม่เข้าใจเลยซักกะตี๊ด


คุณเก่งขับรถแล้วจะเข้าใจขับเครื่องบินได้อย่างไรอะครับ.. :b17:

.....................................................
พอใจในสิ่งที่ตนมีตนได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 16:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2007, 13:40
โพสต์: 464

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


RE:ที่เขียนมาทั้งหมดไม่เข้าใจเลยซักกะตี๊ด

...
ผู้โพสต์ ขอ ช่วยอธิบายแบบภาษาปัจจุบัน..
แต่โปรดใช้ วิจารณญาณในการรับไป ใช้ เพราะต่อไปนี้เป็นความเข้าใจของ..ผู้โพสต์
ซึ่งอาจจะตีความตำราผิดๆก็ได้
.... :b10:

:b38:
ขั้นที่1
1) คุณ ต้องเข้า State (ณาน1-4ก่อน) แบบง่าย
ก็คือ
1.1 เรา วิตก ในกามไหมหนอ ถ้าวิตก ก็ รู้ว่า มีกามวิตก..พยาบาทวิตก
แปล..ภาษาปัจจุบัน ..เวลาเรานั่งสมาธิ เรากังวล ถึงเรื่องกามไหม
1.2 เรา วิจารณ ในกาม
1.3 เรา ปิติ ในกาม
1.4 เรา สุข ใน กาม
1.5 เรา เอกตคตา วางเฉย ในกาม
..............
แบบง่าย แปลว่า ทำจิต ให้ อยู่ใน state ที่นิ่งก่อน..
............

ขั้นที่ 2fast rewind แบบ รีโมต DVD กลอภาพกลับด่วน แบบ 2x 4x 10x

โดยเช่น
2.1 เมื่อวาน เรากินอะไร
2.2 อาทิตย์ที่แล้ว เรากินอะไร
2.3 เดือนที่แล้ว เรากินอะไร
2.4 ปีที่แล้ว เรากินอะไร
เอาเฉพาะเรื่อง ที่เราจำแม่น
จะเป็น ดูหนัง เรื่องอะไรก็ได้
ค่อยย้อนกลับๆๆๆๆๆ
จนชำนาญ
....

ขั้น3ย้อนไปถึงตอนเด็กสุดเลยเท่าที่จะจำได้ชัด...
ถ้าเรื่องในชาตินี้ยังจำไม่ได้ อย่างหวัง ไประลึก ถึงชาติหน้าเลย
ตำราสอนว่า ระลึกอยู่ แต่นามรูป ตอนเกิดในท้อง แม่ คือตอนเกิดนั้นเอง
...

ขั้น4
ตอนนี้ ตำราบอกไว้ว่าจะยาก
ต้องขยันฟัน
ประดุจฟันต้นไม้ใหญ่
ต้องฟันที่ละนิดๆจนต้นไม้หัก
.....
คือเราต้องชำนาญ ใน ขั้น1-4 และทำบ่อยจน ภาพเห็นได้ชัดเจน
แบบว่า blurayHD อย่างนั้น
.....
จบ..
เพราะที่เหลือเกินความสามารถ... :b38: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 18:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


นัน555 เขียน:
RE:ที่เขียนมาทั้งหมดไม่เข้าใจเลยซักกะตี๊ด

...
ผู้โพสต์ ขอ ช่วยอธิบายแบบภาษาปัจจุบัน..
แต่โปรดใช้ วิจารณญาณในการรับไป ใช้ เพราะต่อไปนี้เป็นความเข้าใจของ..ผู้โพสต์
ซึ่งอาจจะตีความตำราผิดๆก็ได้
.... :b10:

:b38:
ขั้นที่1
1) คุณ ต้องเข้า State (ณาน1-4ก่อน) แบบง่าย
ก็คือ
1.1 เรา วิตก ในกามไหมหนอ ถ้าวิตก ก็ รู้ว่า มีกามวิตก..พยาบาทวิตก
แปล..ภาษาปัจจุบัน ..เวลาเรานั่งสมาธิ เรากังวล ถึงเรื่องกามไหม
1.2 เรา วิจารณ ในกาม
1.3 เรา ปิติ ในกาม
1.4 เรา สุข ใน กาม
1.5 เรา เอกตคตา วางเฉย ในกาม
..............
แบบง่าย แปลว่า ทำจิต ให้ อยู่ใน state ที่นิ่งก่อน..
............

ขั้นที่ 2fast rewind แบบ รีโมต DVD กลอภาพกลับด่วน แบบ 2x 4x 10x

โดยเช่น
2.1 เมื่อวาน เรากินอะไร
2.2 อาทิตย์ที่แล้ว เรากินอะไร
2.3 เดือนที่แล้ว เรากินอะไร
2.4 ปีที่แล้ว เรากินอะไร
เอาเฉพาะเรื่อง ที่เราจำแม่น
จะเป็น ดูหนัง เรื่องอะไรก็ได้
ค่อยย้อนกลับๆๆๆๆๆ
จนชำนาญ
....

ขั้น3ย้อนไปถึงตอนเด็กสุดเลยเท่าที่จะจำได้ชัด...
ถ้าเรื่องในชาตินี้ยังจำไม่ได้ อย่างหวัง ไประลึก ถึงชาติหน้าเลย
ตำราสอนว่า ระลึกอยู่ แต่นามรูป ตอนเกิดในท้อง แม่ คือตอนเกิดนั้นเอง
...

ขั้น4
ตอนนี้ ตำราบอกไว้ว่าจะยาก
ต้องขยันฟัน
ประดุจฟันต้นไม้ใหญ่
ต้องฟันที่ละนิดๆจนต้นไม้หัก
.....
คือเราต้องชำนาญ ใน ขั้น1-4 และทำบ่อยจน ภาพเห็นได้ชัดเจน
แบบว่า blurayHD อย่างนั้น
.....
จบ..
เพราะที่เหลือเกินความสามารถ... :b38: :b41:

ต้องขอโทษด้วยแต่ผมไม่เห็นด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2009, 01:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ธ.ค. 2005, 22:48
โพสต์: 39


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิตให้สงบ เป็นหนึ่ง
เจริญให้มาก กระทำให้มาก
เหมือนฝนที่ตกลงมาที่ละหยด เมื่อนานไปเก็บสะสมไว้ก็จะเต็ม
เหมือนเราเริ่มเขียน ก ไก่ ข ไข่ ต้องฝึกเขียนซ้ำ ๆ บ่อย จนชำนาญ หลับตาเขียนก็ได้ ผูกเป็นประโยคก็ได้

การตั้งข้อสงสัย ไม่ได้ประโยชน์
สำคัญก็คือ เมื่อจิตสงบจะเกิดพลังงาน สามารถใช้งานได้
(จากหลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2009, 14:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อาจารย์คะ ลบข้อความตามคำแนะนำแล้วนะคะ :b8:
:b3: :b19: :b9: ทำอะไรไปเนี่ย เฮ้อ... :b5: :b9:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แก้ไขล่าสุดโดย Bwitch เมื่อ 13 ก.ค. 2009, 00:11, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2009, 14:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


http://www.larnbuddhism.com/grammathan/
:b8: :b8: :b8:
ลองเข้าไปศึกษากันตามอัธยาศัยนะคะ แต่โปรดระวังไวรัสค่ะ เจอเข้าแล้วอ่ะ :b22:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2009, 16:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องได้ฌาณ4 หรือ ฌาณ5 ตามที่ k นัน555 กล่าวไว้ได้ถูกแล้วตรง-ขั้นที่1 และ ขั้นที่4 เรียกว่า "วสี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 51 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร