ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ประวัติความเป็นมา “วันวิสาขบูชา” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=87&t=53811 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Duangtip [ 16 ก.พ. 2017, 11:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | ประวัติความเป็นมา “วันวิสาขบูชา” |
• ประวัติความเป็นมา “วันวิสาขบูชา” http://www.dhammajak.net/budday/visak2.php วันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ขอเชิญชวนเพื่อนๆ ทุกท่าน “ปฏิบัติบูชา” เพื่อน้อมถวายเป็นพระพุทธบูชา ในงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก พร้อมกันทุกวัดทั่วประเทศ และวัดไทยในต่างประเทศ...สถานที่จัดงานที่สำคัญ คือ พุทธมณฑล จ.นครปฐม, มจร. วังน้อย ฯลฯ “วันวิสาขบูชา” ย่อมาจาก “วันวิสาขปุรณมีบูชา” คือ การบูชาเพื่อน้อมรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญ ๓ ประการ ในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ (หรือเดือน ๗ ในปีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหน) ตามพระพุทธประวัติ คือ การประสูติ การตรัสรู้ และการปรินิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกันแต่ต่างปีกัน พระพุทธเจ้า “ประสูติ” ณ อุทยานลุมพินีวัน ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศเนปาล เมื่อวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ตรงกับวันศุกร์ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี, “ตรัสรู้” ณ โพธิบัลลังก์ พุทธคยา เมื่อวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ตรงกับตอนเช้ามืดของวันพุธ ปีระกา ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี และ “ปรินิพพาน” ณ ระหว่างต้นสาละใหญ่ ๒ ต้น ในสาลวโนทยานของมัลลกษัตริย์ ใกล้กรุงกุสินารา เมื่อวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ตรงกับวันอังคาร ปีมะเส็ง ก่อนพุทธศักราช ๑ ปี วันวิสาขบูชาเป็นวันอันประเสริฐสุดเพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ได้ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน หากย้อนกลับไปเมื่อสี่อสงไขยแสนกัป ในวันวิสาขบูชา “ท่านสุเมธดาบส” ได้รับคำพยากรณ์จากพระทีปังกรพุทธเจ้า ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลข้างหน้า พระนามว่า พระโคดมพุทธเจ้า “วันวิสาขบูชา” เป็นวันสำคัญวันเดียวที่รู้กันทั่วโลกพระพุทธศาสนา มีความสำคัญสำหรับมนุษยชาติทั่วโลก ประเทศศรีลังกาเรียกว่า วันธรรมจักร ที่เมืองไทยน่าจะมีมาพร้อมกับพระพุทธศาสนาเข้ามานั้นแล ตามหลักฐานจดหมายเหตุนางนพมาศก็เล่าว่ามีการเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ถึงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาการทำพิธีวันวิสาขบูชาได้ยกเลิกไป มาฟื้นฟูขึ้นใหม่อีกครั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตราบเท่าทุกวันนี้ ส่วน “วันมาฆบูชา” พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ได้ทรงกำหนดขึ้น สำหรับ “วันอาสาฬหบูชา” นั้นก็เพิ่งเกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๑ นี้เอง จึงไม่เป็นที่รู้กันแพร่หลายนักในหมู่ชาวพุทธประเทศอื่น เรียกได้ว่าไม่สากล เฉพาะวันวิสาขบูชาเท่านั้นที่รู้กันแพร่หลาย ชาวพุทธทั่วโลกได้ทำการบูชาในวันนี้เพื่อรำลึกถึงพระพุทธคุณ ในขณะที่พวกเราชาวพุทธมีของดี มีของล้ำค่าอย่างพระพุทธศาสนา พวกเราส่วนหนึ่งก็ไม่รู้สึกตื่นเต้น ภาคภูมิใจอะไร กลับไปให้ความสำคัญแก่สิ่งอื่นซึ่งไร้แก่นสารมากกว่า ไม่ต่างอะไรกับไก่ได้พลอยหรือลิงได้แก้ว ในขณะที่ชาวต่างชาติต่างศาสนาหลายคนเมื่อมาได้สัมผัสความวิเศษมหัศจรรย์ของพระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนาแล้วต่างก็ทึ่งและซาบซึ้งไปตามๆ กัน ในวาระโอกาสนี้ ขอน้อมนำคำสรรเสริญพระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนา ที่ออกจากปากของนักปราชญ์สำคัญระดับโลกมาให้เพื่อนๆ ทุกท่านได้อ่าน เพื่อเพิ่มศรัทธาปสาทะในพระพุทธองค์และพระพุทธศาสนา ดังนี้ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาสากลจักรวาล (อัลเบิร์ต ไอสไตน์ ยอดนักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่) “ศาสนาในอนาคตจะต้องเป็นศาสนาสากลจักรวาล ซึ่งข้ามพ้นเรื่องพระเจ้าที่มีตัวตน และไม่มีเรื่องความเชื่อคำสั่งสอนแบบฝังหัว และเทววิทยา ศาสนานั้นครอบคลุมเรื่องธรรมชาติและเรื่องจิตวิญญาณ ตั้งอยู่บนฐานความรู้สึกทางศาสนา ที่เกิดจากประสบการณ์แห่งสรรพสิ่ง ทั้งเรื่องธรรมชาติและจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นเอกภาพรวมอย่างมีความหมาย พระพุทธศาสนาสามารถตอบสนองสิ่งที่พรรณนามานี้...ถ้าจะมีศาสนาใดที่เข้ากันได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์ ศาสนานั้นก็คือพระพุทธศาสนา” ไม่มีศาสนาใดเหนือกว่าพระพุทธศาสนา (ศาสตราจารย์รีส เดวิดส์ ผู้ก่อตั้ง-นายกสมาคมบาลีปกรณ์) “ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธศาสนา หรือมิใช่พระพุทธศาสนา ข้าพเจ้าตรวจสอบระบบศาสนาใหญ่ๆ แห่งโลกทั้งหมด ในระบบศาสนาโลกดังกล่าวทั้งหมดนั้น ข้าพเจ้าไม่พบคำสอนของศาสนาใดจะล้ำเลิศกว่าอริยมรรคมีองค์แปด และอริยสัจสี่ของพระพุทธเจ้าเลย ไม่ว่าในแง่ความงดงาม และความสมบูรณ์ครบถ้วน ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงพึงพอใจที่จะประคับประคองชีวิตของตนไปตามนั้น” พระพุทธศาสนาทำสิ่งที่วิทยาศาสตร์ทำไม่ได้ (เบอร์ทรันด์ รัสเซลล์ ยอดนักปรัชญาอังกฤษยุคปัจจุบัน) “พระพุทธศาสนาเป็นการผสมผสานกันเข้าระหว่างปรัชญาแบบการคาดการณ์ และปรัชญาแบบวิทยาศาสตร์ พระพุทธศาสนาสนับสนุนวิธีการทางวิทยาศาสตร์ และดำเนินตามวิธีนั้นไปสู่เป้าหมายสุดท้าย ซึ่งอาจจะเรียกว่าวิธีการแบบเหตุผล...พระพุทธศาสนาได้ลงมือทำ ในที่ๆ วิทยาศาสตร์ไม่อาจทำได้ เพราะว่าความจำกัดของสมรรถนะทางเครื่องมือแสวงหาความจริงของวิทยาศาสตร์ ชัยชนะของพระพุทธศาสนาคือ การชนะใจตนเอง...ไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะตั้งข้อสมมติฐานว่า โลกนี้มีการเริ่มต้น แนวความคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องมีการเริ่มต้น เกิดขึ้นจากความด้อยทางจินตนาการของพวกเราเอง” รวมกระทู้ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ “วันวิสาขบูชา” ชาวพุทธควรศึกษาให้เข้าใจเกี่ยวกับวันสำคัญสากลของโลก http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=45505 “ลุมพินีวัน” อนุสรณ์สถานแห่ง “การประสูติ” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=87&t=55508 “พุทธคยา” อนุสรณ์สถานแห่ง “การตรัสรู้” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=87&t=55509 “กุสินารา” อนุสรณ์สถานแห่ง “การปรินิพพาน” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=87&t=55510 |
เจ้าของ: | sirinpho [ 26 พ.ค. 2022, 09:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ประวัติความเป็นมา “วันวิสาขบูชา” |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |