วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 23:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2009, 16:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

พระราชพิธีวิสาขบูชาครั้งแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ในปีฉลู นพศก จุลศักราช ๑๑๗๙ พ.ศ.๒๓๖๐ นี้
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒
มีพระราชประสงค์จะทรงบำเพ็ญพระราชกุศลให้พิเศษยิ่งกว่าที่เคยทรงปฏิบัติมา
จึงทรงมีพระราชราชปุจฉาต่อสมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (มี)
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

สมเด็จพระสังฆราชจึงได้ถวายพระพรให้ทรงกระทำการสักการบูชาพระศรีรัตนตรัย
ในวันวิสาขบูชาเยี่ยงสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าแต่ปางก่อนเคยกระทำมา

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้กำหนดพิธีวิสาขบูชาขึ้นในกลางเดือน ๖
เป็นธรรมเนียมตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๓๖๐ นั้นเป็นต้นมา
นับเป็นการทำพิธีวิสาขบูชาครั้งแรกในยุคกรุงรัตนโกสินทร์
เป็นเหตุให้มีการทำพิธีวิสาขบูชากันสืบมาจนปัจจุบัน เหตุการณ์สำคัญครั้งนี้นับว่า
เป็นสิ่งที่เกิดจากพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระสังฆราชโดยแท้
นับเป็นพระเกียรติประวัติที่สำคัญครั้งหนึ่งของสมเด็จพระสังฆราชพระองค์นั้น

อนึ่ง พระราชกำหนดพิธีวิสาขบูชา
ที่ได้กำหนดเป็นพระราชพิธีหลวงเป็นครั้งแรก

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ โปรดเกล้าฯ
ให้จัดขึ้นในครั้งนั้น พระราชพงศาวดารได้บันทึกไว้ดังนี้ คือ

รูปภาพ
[สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (มี)
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร]


“ศุภมัสดุ ๑๑๗๙ ศก อุศุภสังวัจฉร เจตมาศกาฬปักษ์
ทุติยดฤถีคุรุวาร บริเฉทกาลกำหนด
พระบาทสมเด็จพระบรมธรรมิกมหาราชารามาธิราช
บรมนารถบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว
ผู้ทรงพระคุณธรรมอันมหาประเสริฐ
เสด็จออก ณ พระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมาน
พร้อมด้วยอรรคมหาเสนามาตยาธิบดี
มุขมนตรีกระวีชาติ ราชปโรหิตาโหราจารย์
ทูลละอองธุลีพระบาทโดยลำดับ
ทรงพระราชศรัทธาถวายสังฆภัตรทานแก่พระสงฆ์
มีองค์สมเด็จพระสังฆราชเปนประธาน

ครั้นเสร็จการภุตตากิจ พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว
สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงพระราชรำพึงเถิงสรรพการกุศล
เปนต้นว่า บริจาคทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
ซึ่งได้ทรงบำเพ็ญมาเปนนิจกาลนั้น ยังหาเต็มพระราชศรัทธาไม่
มีพระไทยปรารถนาจะใคร่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล
ให้มีผลวิเศษประเสริฐยิ่ง
ที่พระองค์มิได้ทรงกระทำเพื่อจะให้แปลกปลาด

จึงมีพระราชปุจฉาถามสมเด็จพระสังฆราช
แลพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ผู้น้อยถวายพระพรว่า
แต่ก่อนสมเด็จพระมหากระษัตราธิราชเจ้า
กระทำสักการบูชาพระศรีรัตนตรัยในวันวิสาขบุรณมี
คือ วันเดือน ๖ ขึ้น ๑๕ ค่ำ
เปนวันวิสาขนักขัตฤกษ์มหายัญญพิธีบูชาใหญ่
มีผลอานิสงษ์มากยิ่งกว่าตรุศสงกรานต์

เหตุว่าเปนวันสมเด็จพระสัพพัญญูพุทธเจ้าประสูตร ได้ตรัสรู้ ปรินิพพาน
แลสมเด็จพระเจ้าภาติกราช วสักราช ดิศมหาราช
เคยกระทำสืบพระชนมายุเปนเยี่ยงอย่างโบราณราชประเพณีมีมาแต่ก่อน
แลพระราชพิธีวิสาขบูชาอันนี้เสื่อมสูญขาดมาช้านานแล้ว
หามีกระษัตริย์พระองค์ใดกระทำไม่

ถ้าได้กระทำสักการบูชาพระศรีรัตนไตรยในวันนั้นแล้ว
ก็จะมีผลอานิสงษ์มากยิ่งนัก
อาจสามารถปิดประตูจตุราบายภูมิทั้ง ๔
แลเปนที่จะดำเนินไปในสุคติภพเบื้องน่า
อาจให้เจริญทฤฆายุศิริสวัสดิพิพัฒมงคล
รำงับทุกข์โทษอุปัทวอันตรายไภยต่างๆ ในบริเฉทกาลปัจจุบัน
เปนอนันตคุณานิสงษ์วิเศษนัก จะนับประมาณมิได้

ครั้นได้ทรงฟังเกิดพระราชปีติโสมนัส
ตรัสเห็นว่าวิสาขบูชานี้
จะเปนเนื้อนาบุญราศีกองพระราชกุศลเกิดขึ้นอิกแห่ง ๑ เปนแท้

จึงทรงพระราชศรัทธาจะยกรื้อวิสาขบูชามหายัญญพิธี
อันขาดประเพณีมานั้น
ให้กลับคืนเจียรฐิติกาลปรากฏสำหรับแผ่นดินสืบไป
จะให้เปนอัตตัตถประโยชน์ แลปรัตถประโยชน์

ทรงพระราชศรัทธาจะให้
สัตวโลกข้าขอบขัณฑเสมาทั้งปวงจำเริญอายุแลอยู่เย็นเปนศุข
ปราศจากทุกข์ภัยในชั่วนี้แลชั่วน่า
จึงมีพระราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาท
ดำรัสเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมสั่งว่า

แต่นี้สืบไป เถิง ณ วันเดือน ๖ ขึ้น ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ แรมค่ำ ๑
เปนวันพิธีวิสาขบูชานักขัตฤกษ์ใหญ่
พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวจะทรงรักษาพระอุโบสถศีล
ปรนิบัติพระสงฆ์ ๓ วัน ปล่อยสัตว ๓ วัน
ห้ามมิให้ผู้ใดฆ่าสัตวตัดชีวิตร เสพสุราเมรัยใน ๓ วัน
ถวายประทีปตั้งโคมแขวนเครื่องสักการบูชาดอกไม้เพลิง ๓ วัน
ให้เกณฑ์ประโคมเวียนเทียนพระพุทธเจ้า ๓ วัน
ให้มีพระธรรมเทศนาในพระอารามหลวง ถวายไชยทาน ๓ วัน

ส่วนพระบรมราชวงษานุวงษ์ แลข้าทูลลอองธุลีพระบาท
ไพร่ฟ้าอาณาประชาราษฎร ลูกค้าวานิช สมณะชีพราหมณ์ทั้งปวง
จงมีศรัทธาปลงใจลงในการกุศล
อุส่าห์กระทำวิสาขบูชาให้เปนประเพณียั่งยืนไปทุกปีอย่าให้ขาด
ฝ่ายฆราวาศนั้นจงรักษาอุโบสถศีลถวายบิณฑบาตทาน
ปล่อยสัตวตามศรัทธาทั้ง ๓ วัน ดุจวันตรุศสงกรานต์
เพลาเพนแล้วมีพระธรรมเทศนาในพระอาราม

ครั้นเพลาบ่ายให้ตกแต่งเครื่องสักการบูชาพวงดอกไม้มาลา
กระทำให้วิจิตรต่างๆ ธูปเทียนชวาลาทั้ง (ธง)
ผ้าธงกระดาษออกไปยังพระอาราม บูชาพระรัตนไตรย
ตั้งพนมดอกไม้ แขวนพวงดอกไม้ธูปเทียนธงใหญ่ธงน้อย
ในพระอุโบสถพระวิหาร ที่ลานพระเจดีย์แลพระศรีมหาโพธิ
แลผู้ใดจะมีเครื่องดุริยดนตรี มโหรี พิณพาทย์
เครื่องเล่นสมโภชประการใดๆ ก็ตามแต่ใจศรัทธา

ครั้นเพลาค่ำให้บูชาพระรัตนตรัย
ด้วยเครื่องบูชาประทีปโคมตั้ง โคมแขวน
จงทุกหน้าบ้านโรงเรือน และเรือแพ ทุกแห่งทุกตำบล
ให้ฆราวาสทำดังกล่าว จงถ้วนครบ ๓ วัน

ครั้นเพลาค่ำให้บูชาพระรัตนไตรย
ด้วยเครื่องบูชาประทีปโคมตั้ง โคมแขวน
จงทุกน่าบ้านร้านโรงเรือน แลเรือแพ ทุกแห่งทุกตำบล
ให้ฆราวาสทำดังกล่าวนี้จงถ้วนครบ ๓ วัน
แล ณ วันเดือน ๖ ขึ้น ๑๕ ค่ำนั้น เปนวันเพ็ญบุรณมี
ให้ข้าทูลละอองธุลีพระบาทในพระราชวังหลวง
ในกรมพระราชวังบวรสถานมงคล
ประชุมกันถวายฉลากภัตรแก่พระสงฆ์
แลให้มรรคนายกทั้งปวงชักชวนสัปรุษทายก
บรรดาที่อยู่ใกล้เคียงอารามใดๆ
ให้ทำฉลากภัตรถวายพระสงฆ์ในอารามนั้นๆ

เพลาบ่ายให้เอาหม้อใหม่ใส่น้ำ
ลอยด้วยดอกอุบลบัวหลวงวงสายสิญจน์
สำหรับเปนน้ำปริตไปตั้งที่พระอุโบสถ
พระสงฆ์ลงพระอุโบสถแล้ว
จะได้สวดพระพุทธมนต์จำเริญพระปริตธรรม

ครั้นจบแล้วหม้อน้ำของผู้ใด
ก็ให้เอาไปกินอาบประพรมรดเย่าเรือนเคหา
บำบัดโรคอุปัทวไภยต่างต่าง
ฝ่ายพระสงฆ์สมณนั้นให้พระราชาคณะถานานุกรม
ประกาศให้ลงพระอุโบสถแต่เพลาเพนแล้วให้พร้อมกัน
ครั้นเสร็จอุโบสถกรรมแล้ว
เจริญพระปริตธรรมแผ่พระพุทธอาชญาไปในพระราชอาณาเขตร
รำงับอุปัทวไภยทั้งปวง
ครั้นเพลาค่ำเปนวันโอกาศแห่งพระสงฆ์สามเณร
กระทำสักการบูชาพระศรีรัตนไตรย
ที่พระอุโบสถแลพระวิหารด้วยธูปเทียน
โคมตั้ง โคมแขวน ดอกไม้แลประทีปเปนต้น

พระภิกษุที่เปนธรรมกถึกจงมีจิตรปราศจากโลภโลกามิศ
ให้ตั้งเมตตาศรัทธาเปนบุเรจาริก
จงสำแดงธรรมเทศนาให้พระสงฆ์สามเณรแลสัปรุษฟัง
โดยอันควรแก่ราตรีวันนั้นทุกอาราม
ให้กระทำตามพระราชบัญญัติดังกล่าวมานี้เสมอไปทุกปีอย่าให้ขาด

ถ้าฆราวาศแลพระสงฆ์สามเณรรูปใด
เปนพาลทุจริตจิตรคะนองหยาบช้า หามีศรัทธาไม่
กระทำความอันมิชอบให้เปนอันตราย
แก่ผู้กระทำวิสาขบูชาในวันนักขัตฤกษ์นั้น
ก็ให้ร้อยแขวงนายบ้านนายอำเภอกำชับตรวจตราสอดแนม
จับกุมเอาตัวผู้กระทำผิดให้จงได้

ถ้าจับกระหัษฐ (คฤหัสถ์ผู้อยู่ครองเรือน) ได้ในกรุงฯ
ให้ส่งกรมพระนครบาล นอกกรุงฯ ส่งเจ้าเมืองกรมการ
ถ้าจับพระสงฆ์สามเณรได้ในกรุงฯ ส่งสมเด็จพระสังฆราช พระพนรัตน์
นอกกรุงฯ ส่งเจ้าอธิการ ให้ไล่เลียงไถ่ถาม
ได้ความเปนสัตย์ให้ลงโทษลงทัณฑกรรม
ตามอาญาฝ่ายพระพุทธจักรแลพระราชอาณาจักร
จะได้หลาบจำ อย่าให้ทำต่อไป

แลให้ประกาศป่าวร้องอาณาประชาราษฎร
ลูกค้าวานิช สมณชีพราหมณ์ ให้รู้จงทั่ว
ให้กระทำดังพระราชบัญญัติดังกล่าวมานี้จงทุกประการ
ถ้าผู้ใดมิฟัง จะเอาตัวผู้กระทำผิดเปนโทษโดยโทษานุโทษ ๚”


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ค. 2009, 16:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
รัชกาลที่ ๒ แห่งบรมราชจักรีวงศ์]


“พิธีวิสาขบูชาที่ทำในกรุงเทพฯ เมื่อรัชกาลที่ ๒ ปรากฏว่ามีการเหล่านี้ [๑]
คือ ทำโคมปิดกระดาษ ชักเสาไม้ไผ่ยอดผูกฉัตรกระดาษพระราชทาน
ไปปักจุดเปนพุทธบูชาตามพระอารามหลวงวัดละสี่เสาอย่างละ ๑
ให้อำเภอกำนันป่าวร้องราษฎรให้จุดโคมตามประทีป
ตามบ้านเรือนเปนพุทธบชาอย่าง ๑
หมายแผ่พระราชกุศลแก่ข้าราชการให้ร้อยดอกไม้มาแขวน
เปนพุทธบูชาในวัดพระศรีรัตนศาสดารามทั้ง ๓ วันอย่าง ๑

มีดอกไม้เพลิงของหลวงตั้งจุดเปนพุทธบูชา
ที่หน้าวัดพระศรีรัตนศาสดารามอย่าง ๑
นิมนต์พระสงฆ์ให้ให้อุโบสถศีลแลแสดงพระธรรมเทศนา
แก่ราษฎรตามพระอารามหลวงฝั่งตวันออก ๑๐ วัด ฝั่งตวันตก ๑๐ วัด
เครื่องกัณฑ์เปนของหลวงพระราชทาน

แลให้อำเภอกำนันป่าวร้องตักเตือนราษฎร
ให้ไปรักษาศีลฟังธรรม แลห้ามการฆ่าสัตวตัดชีวิตรอย่าง ๑
ทำธงจระเข้ไปปักเปนพุทธบูชาตามพระอารามหลวงวัดละคันอย่าง ๑
เลี้ยงพระสงฆ์ในท้องพระโรง
พระราชทานสลากภัตร แล้วสดัปกรณ์พระบรมอัฐิอย่าง ๑”


:b8: :b8: :b8:

หมายเหตุ : [๑] เรื่องลักษณทำพิธีวิสาขบูชาเมื่อในรัชกาลที่ ๒ แลที่ได้แก้ไขในรัชกาลต่อมา
มีพระบรมราชาธิบายในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้ทรงพระราชนิพนธ์ไว้โดยพิศดาร แจ้งอยู่ในหนังสือเรื่องพระราชพิธี ๑๒ เดือน

: บทความเรื่องนี้ใช้อักขรวิธีตามต้นฉบับ


:b8: :b8: :b8:

ที่มา : - พระราชปุจฉาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพุทธเลิศหล้านภาลัย :
เรื่องพิธีวิสาขบูชา ใน “ประชุมพระราชปุจฉา เล่ม ๒”,
สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร จัดพิมพ์เผยแพร่
รวมพิมพ์ครั้งแรก ๒๕๕๐, หน้า ๒๖๓-๒๖๗
- พระประวัติและปฏิปทาสมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (มี)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=44310
- http://vajirayana.org/%E0%B8%9E%E0%B8%A ... A%E0%B8%B2


:b44: รวมกระทู้ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ “วันวิสาขบูชา”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=87&t=45505

:b44: พุทธคุณ ๙ : คุณความดีของพระพุทธเจ้า ๙ ประการ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=27034


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2015, 10:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2022, 12:56 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร