ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=8&t=30932 |
หน้า 2 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 24 เม.ย. 2010, 16:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ |
ขออนุโมทนาสาธุการด้วยจ้า |
เจ้าของ: | krathin2009 [ 25 เม.ย. 2010, 11:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ |
สติปัฏฐานสี่ดีที่หนึ่งอย่าพึงว่าน้อย ดีกว่าร้อยภาษิตปริศนา เหมือนเกลือดีมีนิดหน่อยน้อยราคา ยังมีค่ากว่าน้ำเค็มเต็มทะเล ธรรมคำกลอนสอนใจ พระครูภาวนานุศาสก์ |
เจ้าของ: | krathin2009 [ 25 เม.ย. 2010, 12:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ |
นั่งไม่รู้ไม่ชี้ดีนักรู้จักใช้ คิดอะไรวางทิ้งนั่งนิ่งเฉย ตัดเรื่องเปลื้องทุกข์สุขเสบย ยกมือให้เคยลองดูจะรู้ดี ธรรมคำกลอนสอนใจ พระครูภาวนานุศาสก์ |
เจ้าของ: | krathin2009 [ 25 เม.ย. 2010, 12:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ |
มีเงินทองพวกพี่น้องปองประจบ มีเพื่อนคบนับร้อยคอยส่งเสริม ยามเราจนต้นทรัพย์กลับซ้ำเติม ลืมคำเดิมที่เราช่วยด้วยวาที ธรรมคำกลอนสอนใจ พระครูภาวนานุศาสก์ |
เจ้าของ: | krathin2009 [ 25 เม.ย. 2010, 13:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ |
อันมนุษย์สุดจะเชื่อมันเหลือปด พูดสบถสาบานไม่ขัดสน เชื่อกันนักก็ไม่ได้ใจของคน ปากเป็นผลใจเป็นพาลเหนือมารยา ธรรมคำกลอนสอนใจ พระครูภาวนานุศาสก์ |
เจ้าของ: | krathin2009 [ 27 เม.ย. 2010, 18:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ |
อันโบราณพาทีไว้ดีมาก โคไม่อยากกินหญ้าอย่าเคี่ยวเข็ญ ไปฝืนใจของเขาเราลำเค็ญ คราวจำเป็นก็ต้องปล่อยไปตามกาล ธรรมคำกลอนสอนใจ พระครูภาวนานุศาสก์ |
เจ้าของ: | enlighted [ 30 เม.ย. 2010, 08:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ |
อนุโมทนาสาธุคร๊าบบ |
เจ้าของ: | krathin2009 [ 05 พ.ค. 2010, 06:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ |
เจ้าของ: | krathin2009 [ 22 พ.ค. 2010, 17:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ |
กระจก…..ไม่เลือกที่จะสะท้อนภาพทุกชนิด ฉันใด จิตใจ……จงเอาเยี่ยงอย่างกระจก กระจก…..รับรู้ แต่ไม่ยึดถือยึดติดและครอบครอง ดังนั้น…...จึงไม่มีภาพใดใดหลงเหลือหรืออยู่ในกระจก สายฝน…..ในกระจก หาเปียกกระจกไม่ เปลวไฟ…..ก็หาได้เผาลนกระจกเช่นกัน ทั้งนี้……...เพราะกระจกไม่ได้ให้อำนาจแก่สายฝน และเปลวไฟ ดังนั้น……จงทำใจของท่าน ให้เป็นดุจการรับรู้ของกระจก อย่ายึดติด เพราะถ้าหากจิตของท่าน หลงยึดถือยึดติด หรือตกเป็นทาสของกิเลสเมื่อใด ความทุกข์ ความเศร้าหมอง ความกังวล ความไม่สบายใจ ย่อมตามมาเมื่อนั้น นี่คือมรรควิธีแห่งการเพ่งพิจารณาและรับรู้สรรพสิ่ง ด้วยใจที่สงบบริสุทธิ์ว่างเปล่าจากการปรุงแต่ง เพื่อปลดปล่อยจิตใจให้ว่างเปล่าหลุดพ้นไป จากภาพมายาธรรมต่าง ๆ ที่คอยฉุดรั้ง หลอกลวงจิตไม่ไห้เห็นถึงความจริง ซึ่งจะต้องพยายามทำจิตให้หลุดพ้นจากการยึดติดในสิ่งทั้งปวง ขอบคุณที่ทำให้เห็นกระจก...ส่องใจ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id ... 2&gblog=13 |
เจ้าของ: | krathin2009 [ 22 พ.ค. 2010, 22:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 18 ก.ค. 2011, 23:06 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ | ||
หลักธรรม.... คำคม โดยท่าน ว.วชิรเมธี 1. คนธรรมดาทำบุญก็อยากได้บุญ คนมีปัญญาทำบุญหวังจะเกิดในภพใหม่ที่ดีกว่าเดิม แต่ชาวพุทธแท้ทำบุญเพื่อการปล่อยวางกิเลสอย่างสิ้นเชิง 2. สิ่งที่ตาเห็นอย่าเพิ่งสรุปว่ามี สิ่งที่คนยอมรับว่าดีอย่าเพิ่งบอกว่าเห็นด้วย 3. ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี 4. นักปราชญ์ตะวันตกกล่าวว่า อำนาจทำให้คนเสีย ยิ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จยิ่งเสียคนแบบเบ็ดเสร็จ 5. ดาบที่ดีต้องมีฝัก ความสามารถที่ดีต้องมีจริยธรรม 6. พ่อแม่ที่ดีต้องมีพรหมวิหาร 4 หน้า หน้า 1 เมตตา หน้า 2 คือ กรุณา หน้า 3 คือ มุทิตา หน้า 4 คือ อุเบกขา 7. ยามปกติเลี้ยงลูกด้วยเมตตา ยามมีปัญหาคอยช่วยเหลือด้วยกรุณา ยามลูกทำดีคอยส่งเสริมด้วยมุทิตา ยามลูกทำผิดปล่อยให้รับกรรมด้วยตัวเอง คือ อุเบกขา 8. รอยเท้าแรกที่เหยียบบนดวงจันทร์ไม่ใช่รอยเท้าของมนุษย์ แต่เป็นรอยเท้าแห่งจินตนาการ 9. การแก้กรรมคือการแก้ที่ความหลงผิด การแก้กรรมคือการเลิกทำความชั่ว ดังนั้นการแก้กรรมจึงไม่ใช่สำเร็จที่การสะเดาะเคราะห์หรือทำพิธีจากเกจิ 10. คนที่รู้เรื่องกรรมดีที่สุดคือตัวเราเอง คนที่แก้กรรมได้ดี่ที่สุดคือตัวของเรา การแก้กรรมต้องทำด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ใช่ด้วยพิธีกรรมแปลกๆ 11. คนขุดบ่อน้ำก็ลงต่ำอยู่ในดิน คนก่อกำแพงก็ขึ้นสูงตามกำแพงที่ก่อ ฉันนี้ฉันใดคนทั้งหลายก้เป็นเช่นนั้น จะสูงจะต่ำขึ้นอยู่กับการกระทำของตน 12. คนฉลาดชอบแกล้งโง่ คนโง่ชอบเสแสร้งว่าฉลาด ส่วนนักปราชญ์เรียนรู้ที่จะฉลาดและเรียนรู้ที่จะโง่ 13. กฎแห่งกรรมไม่ต้องืวีซ่า กฎแห่งกรรมไม่ยกเว้นหน้าอินทร์หน้าพรหม กฎแห่งกรรมไม่มีวันหยุด กฎแห่งกรรมเที่ยงธรรมตลอดกาล 14. บิล เกตต์ เรียนไม่จบแต่พบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ปัญญาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแต่อยู่ในจิตใจที่ใฝ่รู้ 15. อย่ายึดติดกับความหลัง อย่าฟังเสียงปาปมิตร (มิตรชั่ว) อย่ามัวคิดริษยา อย่าเสียเวลากับคนเลวทราม 16. คนส่วนใหญ่เรียกร้องสิทธิมนุษยชน แต่คนมีปัญญาเรียกร้องสิทธิที่จะไม่ทุกข์ 17. ความไม่รู้เป็นยอดแห่งมลทิน ปัญญาเป็นยอดแห่งสิริมงคลความถ่อมตนเป็นยอดแห่งเสน่ห์ 18. รถทุกคันล้วนมีเบรก รถทุกคันล้วนมีท่อไอเสีย คนทุกคนต้องมีเบรกคือสติ ต้องมีท่อไอเสียคือการปล่อยวาง 19. ความทุกข์ไม่เคยยึดติดเรา มีแต่เราต่างหากที่ยึดติดความทุกข์ ความสุขไม่เคยไปจากใจเรา มีแต่เราต่างหากที่ไม่เคยถนอมมันไว้ในใจของเรา 20. ยศ ทรัพย์ อำนาจเป็นเพียงมรรควิธีที่ทำให้ชีวิตนี้มีประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ โปรดอย่าเข้าใจผิดว่าเป็นเป้าหมายในการเกิดเป็นมนุ๋ย์ 21. ทำผิดแล้วรู้สึกผิดต่อไปจะเป็นคนดี ทำผิดแล้วรู้สึกว่าเป็นความดีกาลกิณีจะเกิดขึ้นในไม่ช้า 22. ที่สุดของความรักคือรักโดยไม่ครอบครอง ที่สุดของการให้คือให้โดยไม่หวังผล ที่สุดของทานคืออภัยทาน ที่สุดของคนคือการเป็นคนธรรมดาที่มีความสุข 23. ความรักไม่เคยทำให้ใครทุกข์ การไม่รู้จักธรรมชาติของความรักต่างหากที่ทำให้เกิดทุกข์ ธรรมชาติของความรักคือเกิดขึ้นในเบื้องต้น ดำรงอยู่ในท่ามกลาง และแตกดับไปในที่สุด 24. โลกนี้มีผี 6 ตัวที่น่ากลัวกว่าผีไหนๆ 1 ผีสุรา 2ผีเที่ยวกลางคืน 3. ผีมหรสพ (ติดใจในความบันเทิงจนเกินพอดี) 4 ผีการพนัน 5 ผีคบคนชั่วเป็นมิตร (คนชั่วอยู่ไหนชอบเถลไถลไปสนิทสนม) 6 ผีขี้เกียจ ผี 6 ตัวนี้ต้องปราบด้วยปฏิบัติธรรม กราบอนุโมทนาบุญกับผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านนะเจ้าค่ะ
|
เจ้าของ: | saovapa [ 22 ก.ย. 2011, 14:59 ] | |||
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ | |||
|
เจ้าของ: | citypum [ 28 พ.ย. 2012, 12:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ |
ขอบคุณบทความดีๆที่จะนำไปใช้กับชีวิตตัวเองครับ |
เจ้าของ: | citypum [ 06 ธ.ค. 2012, 09:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ลานกวี.....คติธรรม.....นำใจ |
krathin2009 เขียน: กระจก…..ไม่เลือกที่จะสะท้อนภาพทุกชนิด ฉันใด จิตใจ……จงเอาเยี่ยงอย่างกระจก กระจก…..รับรู้ แต่ไม่ยึดถือยึดติดและครอบครอง ดังนั้น…...จึงไม่มีภาพใดใดหลงเหลือหรืออยู่ในกระจก สายฝน…..ในกระจก หาเปียกกระจกไม่ เปลวไฟ…..ก็หาได้เผาลนกระจกเช่นกัน ทั้งนี้……...เพราะกระจกไม่ได้ให้อำนาจแก่สายฝน และเปลวไฟ ดังนั้น……จงทำใจของท่าน ให้เป็นดุจการรับรู้ของกระจก อย่ายึดติด เพราะถ้าหากจิตของท่าน หลงยึดถือยึดติด หรือตกเป็นทาสของกิเลสเมื่อใด ความทุกข์ ความเศร้าหมอง ความกังวล ความไม่สบายใจ ย่อมตามมาเมื่อนั้น นี่คือมรรควิธีแห่งการเพ่งพิจารณาและรับรู้สรรพสิ่ง ด้วยใจที่สงบบริสุทธิ์ว่างเปล่าจากการปรุงแต่ง เพื่อปลดปล่อยจิตใจให้ว่างเปล่าหลุดพ้นไป จากภาพมายาธรรมต่าง ๆ ที่คอยฉุดรั้ง หลอกลวงจิตไม่ไห้เห็นถึงความจริง ซึ่งจะต้องพยายามทำจิตให้หลุดพ้นจากการยึดติดในสิ่งทั้งปวง ขอบคุณที่ทำให้เห็นกระจก...ส่องใจ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id ... 2&gblog=13 ขอบคุณบทความดีๆสั้นๆ แต่นำไปใช้กับชีวิตได้ยาวๆ เลยครับ |
หน้า 2 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |