ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
รสชาติของการอยู่ป่ากับอยู่บ้านนั้นต่างกัน (ท่านพ่อลี) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=79&t=53854 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 04 ก.พ. 2012, 21:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | รสชาติของการอยู่ป่ากับอยู่บ้านนั้นต่างกัน (ท่านพ่อลี) |
ธรรมโอวาท ของ พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แสดงธรรมเทศนาอบรมเนกขัมม์ฯ เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๗ (ท่านเกริ่นเรื่องความเจ็บไข้ของท่าน) ลูกศิษย์ทุกคน... เรารักสงสารเขาเหมือนกับลูกกับเต้าของตัวเราเอง เราจะอาศัยอยู่ในโลกนี้กันไม่นานเท่าไรแล้วก็จะต้องจากกันไป ให้รีบๆ ทำความดีกันไว้เสีย อย่าเอาแต่กินแต่นอน คนที่บวชแล้วไม่เคยออกป่าเลย ก็เท่ากับได้รู้จักแต่รสข้าวสุกอย่างเดียว ไม่มีกับ คนที่บวชแล้วเดินธุดงค์แสวงหาที่วิเวก ย่อมได้รับรสของธรรม เปรียบเหมือนบุคคลที่กินข้าวสุกมีกับ ย่อมได้รับรสต่างกันมาก ตัวอย่างง่ายๆ นึกถึงหลักธรรมชาติ เช่น "ไก่ป่า" มีลักษณะต่างกันกับ "ไก่บ้าน" คือ ตาไว หางกระดก ขันสั้น ปีกแข็ง ลักษณะการเหล่านี้เกิดขึ้นจากความระวังจึงเป็นเช่นนั้น ส่วน "ไก่บ้าน" มี หางตก ตาตก ปีกอ่อน ขันยาว ลักษณะเหล่านี้ย่อมเป็นเหยื่อของเสือดาว ฉะนั้น...รสของการอยู่ป่าและอยู่บ้านย่อมต่างกัน บางคราวในเรื่องเหล่านี้ได้เคยผ่านความตำหนิโทษ ก็มีแต่นึกขยิ่มอยู่ในใจ เขาว่า "พระตาขาว, ขี้ขลาด, ขี้กลัว, ไม่ใช่นักรบ, หลบหลีกปลีกตัว, เก่งไม่จริง" ก็นึกนิ่งหัวเราะไม่ตอบ... ในที่สุดก็ต้องตอบให้เขารู้ความจริงว่า "การอยู่บ้านเมืองนั้นดีจริงแต่ไม่เก่ง...เพราะเหตุใด ? เพราะในป่านั้นผมไม่เคยเห็นคนบ้านเข้าไปอยู่ได้ ส่วนในบ้านในเมือง อย่าว่าแต่นักบวชของเราเลย ผมเห็นว่า คนบ้านก็มีแยะ จนแม้ไก่, สุนัข ฯลฯ มันก็อยู่กันเต็มดื่นดาษ จะว่าอะไรแต่พวกเราซึ่งเป็นนักบวช ส่วนป่านั้น...ลองให้ท่านไปอยู่ในป่าช้าผีดิบคนเดียวสักคืนจะได้ไหม ?" ก็ได้รับตอบว่า "ไม่ไหว" พร้อมทั้งสาธุการ เหตุการณ์เหล่านี้จะให้มีรสลึกซึ้งในใจ ต้องทดลองให้รู้ ความจริงก็จะทราบในตน ไม่ควรถือตามคำของคนและความคิดของตนเพียงเดียว ควรถือการกระทำเป็นเกณฑ์ จึงจะถูกหลักของ "พระพุทธศาสนา" ที่เรียกว่า "กรรมเป็นของๆ ตน" คัดลอกเนื้อหาจาก หนังสือแนวทางวิปัสสนา-กัมมัฏฐาน พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร. จัดพิมพ์เผยแพร่โดยชมรมกัลยาณธรรม ปี พ.ศ. ๒๕๕๒. ลี ธมฺมธโร. แนวทางวิปัสสนา-กัมมัฏฐาน. พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพฯ : ขุมทองอุตสาหกรรมและการพิมพ์, ๒๕๕๒. หน้า ๒๘๖-๒๘๗ รวมคำสอน “ท่านพ่อลี ธมฺมธโร” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38679 ประวัติและปฏิปทา “ท่านพ่อลี ธมฺมธโร” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=21381 |
เจ้าของ: | ให้ทาง [ 05 ก.พ. 2012, 19:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รสชาติของการอยู่ป่ากับอยู่บ้านนั้นต่างกัน..ท่านพ่อลี ธมฺ |
สาธุ ขออนุโมทนา |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 17 ก.พ. 2012, 18:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รสชาติของการอยู่ป่ากับอยู่บ้านนั้นต่างกัน..ท่านพ่อลี ธมฺ |
Hanako เขียน: ควรถือการกระทำเป็นเกณฑ์ จึงจะถูกหลักของ "พระพุทธศาสนา" |
เจ้าของ: | bluebird [ 18 ก.พ. 2012, 05:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รสชาติของการอยู่ป่ากับอยู่บ้านนั้นต่างกัน..ท่านพ่อลี ธมฺ |
เจ้าของ: | Supatorn [ 07 มี.ค. 2012, 10:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รสชาติของการอยู่ป่ากับอยู่บ้านนั้นต่างกัน..ท่านพ่อลี ธมฺ |
อนุโมทนาสาธุค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |