วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 04:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2022, 09:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน

รูปภาพ
หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต


ไสยศาสตร์

ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๓๙


...นี่เรียกไสยศาสตร์ วิชาขี่เสือก็เหมือนกันเป็นวิชาไสยศาสตร์อันหนึ่ง เขาร่ายมนต์เรียกเสือมาเสือก็มา อย่างหลวงปู่ตื้อ (หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม) ดังที่ผู้เฒ่าเล่าให้ฟัง คือคาถาของผู้เฒ่าเป็นคาถาที่ทำให้เสือใจอ่อน กลัว ใจไม่มีกำลังจะต่อสู้ คาถามันครอบเอา อำนาจของคาถาครอบเอาไว้เสือใจอ่อนลงไปเลย ทำอะไรไม่ได้ ท่านมีคาถาขู่เสือ เป็นครูเสือก็ได้ขู่เสือก็ได้ หลวงพ่อผาง (หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต) ที่อำเภอชนบท เก่งทางพวกงูพวกจระเข้ วัดผู้เฒ่าแต่ก่อน โถ งูชุมมากนะ เหมือนกับผู้เฒ่าเลี้ยงไว้ ไม่ได้ผิดกันอะไรเลย งูเห่างูจงอางนะไม่ใช่ธรรมดา มันป้วนเปี้ยนๆ อยู่กับคน คนไปไหนก็อยู่อย่างนี้ๆ คนก็เดินไปข้างๆ เรียกว่าหลีกกันไปเหมือนหลีกหมา ว่างั้นเถอะนะ มันมีอยู่ทั่วไป

หลวงพ่อผางเป็นผู้ปกครองวัดนั้น มันเคารพหลวงพ่อผางมากนะ งูเหล่านี้กลัว เคารพแต่หลวงพ่อผาง จระเข้ตัวหนึ่งอยู่นั้นเลี้ยงไว้ กลัวแต่หลวงพ่อผางองค์เดียว จระเข้ตัวนั้น ท่านให้เขาไปปลูกกุฏิกลางสระ มันมางับเขาเรื่อย ต้องหลวงพ่อผางมาละ มันไปไหนไอ้นี่ วิ่งหนีเลย มันอยู่ใต้น้ำ อย่างนี้ละมันกลัว กลัวหลวงพ่อผางองค์เดียว จระเข้ตัวเดียว งับเขามันไม่กินแหละ งับเขาให้เจ็บ เพราะคนทำกุฏิอยู่กลางสระน้ำ คนก็ลงน้ำละซิ มันเลยมางับเอาตรงนั้น ต้องเรียกหาหลวงพ่อผางเรื่อย ครั้นหลวงพ่อผางอยู่นั้นทั้งวันไม่มา มันกลัว ถ้าเรียกหลวงพ่อผางเมื่อไรมันมางับเขาละ ร้องโก้กทีเดียว แข้กัด จระเข้เรียก แข้ แข้กัด...

:b8: :b8: :b8: https://luangta.com/thamma/thamma_talk_ ... 44&CatID=2

:b39:
ธรรมะของเรามีทุกขั้น

ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพมหานคร
เมื่อค่ำวันที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐


พูดท้ายเทศน์

หลวงพ่อผาง (หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต) นี่ก็เป็นพระสำคัญองค์หนึ่ง อยู่ที่มัญจาคีรี ตอนนั้นเราอยู่บ้านนามน พอดีท่านก็ไปบ้านนามน แต่ท่านอ่อนพรรษากว่าเรา เพราะท่านเคยมีครอบครัวมาแล้วบวชบั้นแก่ เพราะฉะนั้นท่านจึงอ่อนพรรษากว่าเรา อายุเราอ่อนกว่าท่าน แต่พรรษาบวชท่านอ่อนกว่าเรา เวลาท่านไปวัดบ้านนามน โห ท่านเทศน์นี้แผดมากเทียวนะ นั่นละท่านจะเห็นอะไรอยู่ เทศน์หลวงพ่อองค์นี้เทศน์เข้มข้นมาก ใส่เปรี้ยงๆๆ เราก็มาปฏิบัติแต่ว่าผ่านได้นะ ท่านผ่านได้ หลวงพ่อผางถูกกัน พวกงู พวกจระเข้ ในวัดมีจระเข้ด้วย มีงูด้วย ในวัดท่านงูนี้ยั้วเยี้ยๆ คนไปเห็นก็ตื่นเต้นทั้งกลัว

จะไปกลัวเขาอะไรท่านว่างั้น ท่านก็ไม่เคยขับไล่เขาหนีนะพวกงู ทุกประเภทนะงู แล้วมีจระเข้ตัวหนึ่งอยู่นั้น เดี๋ยวนี้ตัวหนึ่งตายดูว่ายังมีอีกตัวหนึ่งอยู่ ลูกเต้าหลวงพ่อผางนะ ที่เกี่ยวกับพวกงู พวกจระเข้ เวลามาแสดงกับผู้เฒ่าเป็นตนเป็นตัวจริงๆ นะ งูที่ว่าพญานาคนั่นน่ะ เท่าต้นเสานี้น่ะ ไปภาวนาอยู่ทางน้ำหนาว ในภูเขาลูกนั้น เวลาไปภาวนา มีหลวงพ่อองค์หนึ่งไปด้วย ไปกับผู้เฒ่าหลวงพ่อผางนี้ละ พอไปหลวงตาองค์นั้นภาวนาอยู่ทางด้านนั้น หลวงพ่อนี้ภาวนาเดินจงกรมตอนบ่ายนะ โอ้ เห็นตัวจริงๆ ไม่ได้ธรรมดา เห็นอยู่เหมือนต้นเสานี่ อ้าปากอยู่ จนหลวงตาร้องว้ายๆๆ ขึ้น

เดินจงกรมตอนบ่ายด้วยกัน ท่านก็เดินอยู่ ได้ยินเสียงร้องว้ายๆ ขึ้นทางนั้น เอ้าเป็นยังไงหลวงตามันเป็นบ้าอะไรมาร้องเพลงอยู่ ท่านก็เลยปุ๊บปั๊บเดินไป อะไร ร้องอะไร นี่งูใหญ่ว่างั้นนะ ก็ชี้มาเจอมันกำลังอ้าปากอยู่ด้วยนะ เท่าต้นเสานี่ มันอ้าปากตัวใหญ่เท่าต้นเสา ผู้เฒ่าก็เดินจงกรมตัวแข็งอยู่นั้น พญานาคมันก็มาอ้าปากอยู่ใกล้ๆ ผู้เฒ่านั้นก็มา เป็นอะไร โห นี่งูใหญ่ งูใหญ่อยู่ไหน ผู้เฒ่าเหลือบลงไปก็เห็นจริงๆ เห็นด้วยตานะ งูตัวเท่าต้นเสา พญานาค ผู้เฒ่ากับพญานาคเข้ากันได้ดี กับงูกับพญานาค ไปเห็นมันกำลังอ้าปากอยู่ใกล้ๆ กับหลวงตา ตัวเท่าต้นเสา ยกคอขึ้นอ้าปาก

คุณไปทำอะไรนั่นน่ะ หือ ว่างั้น ท่านก็เดินเข้าไปหาเลย เดินเข้าไปหางูใหญ่ตัวนั้น เอ้ามึงจะกินกูก็กิน ท่านว่างั้นละ ทางนี้กลัวตัวสั่นหลวงพ่อ ร้องวากๆ มันอ้าปาก ผู้เฒ่าก็เดินเข้าไปหาเลย เอ้ามึงกินกูถ้ามึงเก่งจริงว่างั้น พอไปถึงดับพรึบเลย หายเงียบ อย่างนั้นแหละ ผู้เฒ่ากับพญานาค ถูกกันดีกับพวกงู วัดของผู้เฒ่านี้งูยั้วเยี้ยๆ ท่านบอกว่าจะไปไล่เขาทำไม เขาก็ลูกศิษย์พระ ลูกศิษย์พระอะไรไปเอาผีเอางูมาเต็มวัด ว่าลูกศิษย์พระใครจะเชื่อ ผู้กลัวมันกลัวจะตาย อย่ามายุ่งมันลูกศิษย์พระท่านว่า ท่านเก่งทางนี้ พวกงูพวกพญานาคท่านไม่กลัว เข้ากันได้สนิท อยู่วัดท่านยั้วเยี้ยๆ เต็ม ไม่ทำอะไรใคร ก็ท่านเป็นหัวหน้าอยู่แล้วมันก็กลัวซีใช่ไหม เวลาท่านเสียไปแล้วมันจะอยู่นั้นหรือไม่อยู่ก็ไม่ทราบละงู ถ้าอยู่เขาฆ่าตายหมดแหละ


:b8: :b8: :b8: https://luangta.com/thamma/thamma_talk_ ... 43&CatID=2

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2022, 09:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


สัตว์ร้ายเกรงบารมีหลวงปู่ชอบ หลวงปู่ฝั้น หลวงพ่อผาง

“...หลวงปู่ชอบกับเสือนี้บ่อย เสือขึ้นไปหาท่าน มันแปลกอยู่นะ ก็แบบเสือที่เดินเอื่อยๆ ผ่านเรา มันปั๊บนี่เลย แล้วเขาก็เดินเฉย เสือพวกนั้นก็ลักษณะนั้นละ ดูเหมือนมันจะรักท่าน มันขึ้นไปหาท่านเรื่อย ‘สูมาทําไม’

ท่านว่างั้น ถามเขา เขาขึ้นไปแล้วไปนั่งข้าง นี่ทางจงกรมบนถ้ำ เขาขึ้นมาเสียงเขากระหึ่มๆ ‘อาว’ นี่มันก็ตอนเช้าแล้ว เรากําลังจะลงไปบิณฑบาต เสียงมันกระหึ่มๆ ‘อาวๆๆ’ ขึ้นมา ท่านเดินอยู่ แล้วขึ้นมาจริงๆ นะ เดินขึ้นมาเฉยเลย ครั้นเดินขึ้นมาถึงทางจงกรมเขาก็มายืนอยู่นั่น ‘มึงมาอะไรล่ะ มึงขึ้นมาอะไรกูกําลังจะไปบิณฑบาต ไป ลง’

เขาก็เฉย ท่านเลยจับตัวมัน ‘ไป ลง’

มันก็ร้องโฮกแล้วไปเลย เวลาเขาลงไปสักครู่หนึ่งท่านก็เตรียมลงไปบิณฑบาต ท่านเลยคิดยิบแย็บขึ้นมา ‘หรือมันจะไม่ซื่อกับเราก็ไม่รู้’ เวลาเราเดินไปนี้เดี๋ยวมันจะดักอยู่ข้างทาง กลัวมันจะคิดไม่ซื่อต่อเรา เดินไปท่านก็ดูไป ไม่มี เขาไปแล้ว เจอบ่อยแหละเสือ อาจารย์ชอบเจอบ่อย

มันเป็นตามนิสัยวาสนา เป็นสัตว์ก็เคยเกี่ยวข้องกันมา เวลาเป็นสัตว์จิตใจก็ผูกพันสนิทสนมกันมาอย่างนั้น เป็นสัตว์แต่ร่าง แต่จิตใจมันเคยเกี่ยวข้องกันมาถึงเป็นอย่างนั้น...


ท่านอาจารย์ฝั้นนี่พวกเสือพวกอะไร พวกสัตว์ลึกลับที่มองไม่เห็นด้วยตา ท่านเด่นมากอยู่นะท่านอาจารย์ฝั้น ท่านเล่าให้ฟังเองท่านมาอยู่ปากช่อง ท่านอยู่ในย่านกลางดงไม่มีบ้านคนแต่ก่อน มีสองสามหลังคาเรือนพอบิณฑบาตได้ เขาก็นิมนต์ให้ท่านไปพักด้วย ท่านก็ไปพัก อยู่กลางดง หินดาน โล่ง ท่านไปพักอยู่นู้นแล้วออกมาบิณฑบาตกับทับเขา เขาอยู่ปลูกเป็นทับเป็นอะไรอย่างนั้นละ เขาไปทําอะไรอยู่ที่นั่น เวลาออกมาเสือยังไม่มา พอรับบิณฑบาตพอสมควรแล้วก็กลับมา ก็มาเห็นมันนอนอยู่บนหินดานหินลาดอะไรนี่

กลางแจ้ง มองไปอะไรเหลืองๆ ท่านว่าอย่างนั้นนะ มองไป เขานอนสบาย มองไปเห็นแต่เหลืองๆ ไม่มองเห็นลาย ส่วนใหญ่มองไปจะเห็นเหลืองมากกว่า ดําเลยไม่ปรากฏ ‘เอ๊ นี่มันอะไร’ ท่านก็เดินไปเรื่อย พอไปใกล้ๆ ถึงรู้ว่าเสือ มันนอนตากแดดผิงแดด เสือโคร่งนะ ท่านเดินไปแล้วก็ว่า ‘มึงมานอนอะไรที่นี่ไอ้นี่น่ะ’

มันร้องโฮกแล้วเปิดเลย วิ่งเข้าป่าเลย อย่างนั้นแหละ...

(ส่วนหลวงพ่อผาง) พวกงู จระเข้ เหล่านี้ เหมือนกับท่านเป็นครูเลยเชียว พวกนี้หมอบกลัวหมด จระเข้ตัวหนึ่งมันอยู่ในสระที่วัดนั้น (วัดป่าอุดมคงคาคีรีเขต อําเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น) เราเคยไปแล้ววัดนี้ เวลาเขาไปปลูกกุฏิกลางน้ำ เวลาเผลอๆ คนกําลังทํากุฏิ มันมางับเอาขาละซิ ร้อง ‘เอิ้กอ้าก’ ขึ้นเลย

พอร้องขึ้นหลวงพ่อผางก็มา พอมันได้ยินเสียงหลวงพ่อผาง จระเข้มันจําได้เลยนะ พอหลวงพ่อผางมานี่ไม่ทราบหนีไปไหน มันกลัว ถ้าได้ยินเสียงหลวงพ่อผาง หมอบเลย กลัว...”


:b8: คัดมาจาก : หน้า ๕๙๓ หนังสือญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์
เรียบเรียงจากเทศนาธรรมของท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เป็นหนังสืออนุสรณ์เนื่องในงานพระราชทานเพลิงถวายแด่พระสรีระสังขาร
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2022, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


พญานาคเคารพ...หลวงพ่อผาง

“...(หลวงพ่อผาง) ไปพักภาวนาอยู่ทางน้ำหนาว นี่ล่ะที่สําคัญนะ มีหลวงพ่อองค์หนึ่งอยู่ทางด้านนู้น เดินจงกรมอยู่กลางวันนะไม่ใช่กลางคืน หลวงพ่อผางเดินจงกรมอยู่ทางนี้ องค์นั้นเดินอยู่ทางนั้น งูใหญ่ ใหญ่เท่ากับต้นมะพร้าว มานี้มายกคอขึ้นอ้าปากใส่หลวงตาองค์นี้ ตัวมันใหญ่กว่านี้ ฟังเสียงร้องว้อๆ ขึ้น

ตอนนั้นก็เดินจงกรมอยู่ ‘เป็นอะไรว่ะ’

‘งูใหญ่ไม่ทราบมาจากไหน กําลังจะงับผม อ้าปากใส่ผมอยู่นี่’

ท่านก็มาแล้ว ก็เห็นจริงๆ กลางวันนะ หายก็หายในขณะนั้นเลยต่อหน้าต่อตา เป็นยังไงพญานาคมีหรือไม่มีฟังซิ ผู้เห็นท่านเห็นอยู่อย่างงั้น ผู้หลับตามันก็หลับอยู่งั้น พอมาก็เห็น โอ๊ย มันยกคอขึ้น ตัวเท่าต้นมะพร้าว ตัวยาว หลวงตานี้ก็เดินจงกรม ตัวแข็ง มันอ้าปาก มันไม่เข้ามาใกล้แหละ ห่างประมาณสักวาเศษๆ มันอ้าปากอยู่อย่างงี้ ตัวใหญ่

ทีนี้หลวงพ่อผางมา ‘ไหนมันอยู่ไหน’

พอว่าท่านเดินเข้ามาเลยนะ หลวงพ่อผางไม่มีคําว่าสะทกสะท้าน มันก็อ้าปาก ทางนี้ก็เดินเข้าไป ‘เอามึงจะกินกูเหรอ เอาเลย มึงชอบตรงไหนเอาเลย’

เดินบุกเข้าไปหาเลยเชียว มันกําลังอ้าปากอยู่ พรึบเดียวหายเงียบเลย ไม่ทราบหายไปไหน ตัวใหญ่ๆ หายเดี๋ยวนั้นเลย ไปเงียบ บอกว่า ‘พญานาคมันมาแกล้งเฉยๆ ภาวนาเมตตามันไม่ดี ภาวนามันไม่ค่อยแผ่เมตตา’

นั่นเห็นไหมล่ะ ตัวใหญ่จริงๆ นี่หลวงพ่อผาง ท่านบุกเข้าไปเลยนะ ที่มันอยู่นั้นท่านเดินไปหาเลย ท่านไม่มีสะทกสะท้าน เอาเลยกินเรา เดินเข้าไปหาตรงนั้น หายวูบไปเลย เงียบเลย ไม่มี หายหมดทั้งตัว มันไปไหนไม่รู้ เวลาออกมาพูดว่า

‘มาแกล้งหลวงพ่อ หลวงพ่อใจดําไม่มีเมตตาจิต มันมาแกล้งเอา’

อันนี้ก็เข้ากันได้ ก็เรียนหนังสือเหมือนกันไม่ใช่หรือ ที่พวกพาไปภาวนา ไม่แผ่เมตตา พวกเทวดาทั้งหลายเกิดความเดือดร้อน มาแสดงอาการทั้งหลายให้เห็น เป็นกะโหลกหัวผีบ้างอะไรบ้าง และทําพระให้ทั้งจามทั้งไอ เป็นไข้ เป็นหนาว วิ่งไปหาพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่ง เวลาไปไม่สบาย “ไม่สบายซิพวกเธอใจดํา พวกเทพทั้งหลายเขาอยู่ที่นั่น เขาได้รับความลําบากลําบน เขาก็แกล้งเอาบ้าง ไม่มีเมตตาจิตไป ไปเจริญเมตตาจิต ไปอยู่ที่นั่น”

ไล่กลับมาที่เก่า ไปคราวนี้เจริญเมตตาจิตชุ่มเย็นหมดเลย อํานาจเมตตาธรรมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เป็นธรรมชนะโลก สุดยอดอยู่กับเมตตาธรรม ให้พากันจําไว้นะ

เมตตาธรรมคือความอ่อนนิ่ม ถ้าพวกเราพูดออกมา และมาเป็นสมมุติอย่างนี้ เรียกว่าความอ่อนนิ่มทุกตัวสัตว์ไม่เป็นภัยต่อผู้ใดเลย เพราะฉะนั้นจึงเข้าได้หมดเมตตาธรรม จะเป็นโหดร้ายมา ทารุณขนาดไหนก็ตาม อํานาจเมตตาธรรมนี้นิ่มไปหมด ลบล้างได้หมดเลย พระเหล่านั้นเลยเจริญสมณธรรมได้สําเร็จมรรคผลนิพพาน เยอะนะอยู่ในนั้น พวกเทพ พวกเทวดา รุกขเทวดาอยู่บนต้นไม้เขาเคารพเขาก็ลงมาอยู่ข้างล่าง ลําบากลําบนเพราะพวกนี้เคยอยู่ต้นไม้ใช่ไหมล่ะ พระก็เป็นพระใจดําน้ำขุ่น อยู่นานไปเห็นท่าจะไม่ได้การ เขาก็เลยกลั่นแกล้งเอาบ้าง พระเหล่านี้เป็นหวัด เป็นไอ เป็นอะไรเป็นไข้บ้าง บางทีเป็นกะโหลกหัวผีมาอยู่ทางจงกรมบ้าง อะไรบ้าง เขาแกล้งทําต่างๆ พอไปหาพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่งไล่กลับมาที่เก่าเลย ให้เจริญเมตตาอย่างนั้นๆ เหตุการณ์ทั้งหลายจะเปลี่ยนไปหมด มาก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

พูดถึงเรื่องหลวงพ่อผางที่ว่างูใหญ่นั่น ก็เห็นประจักษ์อย่างนั้นแล้ว พรึบหายเงียบ ไม่ทราบไปไหน ทั้งๆ ที่ท่านเดินบุกเข้าไปหาเลยนะ ไม่มีสะทกสะท้าน เอาเลย ต้องการอันไหนเอาเลย เดินเข้าไปหามันพรึบเดียวหมดเลย ไปไหนไม่รู้ จึงได้มาสอนหลวงพ่อที่ถ้ำนั้นอีกเหมือนกันนั่นแหละ

‘พระไปอยู่ก็เป็นพระขลังๆ ไปอยู่แทนที่จะเจริญเมตตาภาวนาชําระจิตใจตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า กลับไปทําแต่ของขลัง ทํานั้นทํานี้มีแต่ของขลังๆ แบบโลกแบบกิเลสตัณหาไปหมด พวกเทวดาทั้งหลายเขาก็รําคาญ แทนที่จะเป็นศีลเป็นธรรมให้ได้รับความร่มเย็นยิบๆ แย็บๆ ก็ไม่มี ดีไม่ดีมีพระสองสามองค์ไปก็ไปทะเลาะกัน สร้างความรําคาญให้เขาอีก เขาก็มาดลบันดาลให้พระเหล่านี้หนีจากนั้นเลย พระองค์ไหนมาถ้าไม่เป็นศีลเป็นธรรม พวกรุกขเทพเหล่านั้นเขาหาอุบายขับไล่ อยู่ไม่ได้’


จนร่ำลือสถานที่นั่น นี่ก็ทางน้ำหนาวเหมือนกัน นี่ก็หลวงพ่อผางไปอยู่ พอมันนานมาจนร่ำลือว่าที่นี่มันแข็งอะไรต่ออะไร ทางภาษาภาคอีสานเขาเรียกมันเข็ดมันขวาง ทางนี้เรียกว่ามันแข็งมันแรง เวลาท่านไปอยู่ที่นั่นเขาก็บอกเลย ‘อยู่ที่นี่อยู่ไม่ได้นะ เป็นอย่างงั้นอย่างงี้’ เป็นก็เป็นเถอะ ท่านไม่สนใจแหละ จะพักที่นี่ เวลาพักแล้วท่านไม่ใช่พระขลังแบบนั้นซิ ท่านเป็นอรรถเป็นธรรม ไปอยู่นั้นพวกเทพทั้งหลายเข้ามาหา เขามาเล่าเรื่องถึงพระองค์นั้นให้ฟัง เล่าเรื่องพระที่มาอยู่ที่นี่ให้ฟัง เป็นอย่างงั้นเป็นอย่างนี้ เขาเล่าให้ฟัง

ตกลงเรียกว่า เทวดาเล่าให้ฟังเสียเอง ประชาชนสู้เทวดาเล่าให้ฟังไม่ได้ ประชาชนว่ามานี่ทะเลาะกันเรื่องนั้นเรื่องนี้บ้าง แตกกันไป องค์ไหนมาก็มาทะเลาะกัน มาหาแต่ของขลังๆ ทําตะกรุดบ้าง ทําอะไรทุกอย่างอะไรที่มันขลังๆ แล้วก็แตกกันไป มามีหลายพวกแล้วนะพระ อยู่ที่นี่ไม่ได้ เขาว่างั้นประชาชน แต่เวลาเทวดามาพูด เทวดานี่ละทําเอา มาแล้วมาทําตั้งแต่ของอย่างนั้น ของสกปรก เทวดาเขายังรู้ของสกปรก พระทําไมไม่รู้ เขากลั่นแกล้งเอาบ้าง เลยแตกหนี

ทีนี้เวลาท่านมาอยู่ที่นั่น พวกเทพทั้งหลายเขาอาราธนานิมนต์ท่าน ‘ขอนิมนต์ไม่อยากให้ท่านหนีไปไหน ขอให้อยู่ที่นี่ ท่านมาพักที่นี่มีความชุ่มเย็นเป็นสุขไปหมดทุกแห่งทุกหน ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่นดีงามไปหมด’

ท่านก็อยู่นาน อยู่สถานที่นั่น และต่อไปก็ดูเหมือนเป็นวัดขึ้น เราก็ลืมๆ ตอนนั้น หากทราบตั้งแต่ไปอยู่ทีแรกอยู่ไม่ได้ แต่ท่านไปอยู่ได้จนกระทั่งไม่อยากให้ท่านหนี ไม่อยากให้ท่านไปไหน ท่านก็รู้สึกว่าพักอยู่นานอยู่นะ ก็เห็นใจเทวดาเหมือนกัน เรื่องพญานาค...”


รูปภาพ
หลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต
วัดป่าอุดมคงคาคีรีเขต อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น


:b8: คัดมาจาก : หน้า ๔๖๗-๔๖๘ หนังสือญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์
เรียบเรียงจากเทศนาธรรมของท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เป็นหนังสืออนุสรณ์เนื่องในงานพระราชทานเพลิงถวายแด่พระสรีระสังขาร
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2022, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


พญานาคมีจริงหรือ

:b50: :b49: คำถาม โดย : siripen deesuk ถามเมื่อวันที่ ๑๘ เม.ย. ๒๕๔๖

กราบนมัสการหลวงตามหาบัว
ถามว่า พญานาคมีจริงไหมเจ้าค่ะ และการทำบุญจะได้บุญหรือไม่


:b50: :b49: คำตอบ เมื่อวันที่ ๒๖ ก.ย. ๒๕๔๖

(เขาว่าพญานาคมีจริงหรือไม่) โคตรพ่อโคตรแม่มันไม่เคยเห็น มันมาถามหาอะไร พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ปฏิเสธพญานาคยังไง ก็มีแต่พวกตาบอดเท่านั้นมาหลับตาถาม ทีนี้ เวลาตอบลืมตาตอบมันก็เข้ากันไม่ได้ซิ พระพุทธเจ้าลืมตา มาถามสุ่มสี่สุ่มห้า อย่างคนตาบอดเขาก็บอกเขาตาบอด คนตาดีทั้งโลกเขาก็ไม่ปฏิเสธ แต่เขาตาบอดเขาก็บอกเขาตาบอด ก็ยอมให้เขาตามส่วน เราไม่ว่าอะไรแหละ พอพูดถึงเรื่องพญานาค หลวงพ่อผาง (หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต) สำคัญอยู่นะ กับพวกงูพวกพญานาค นี่ละอำนาจวาสนาของคน มีฤทธาศักดานุภาพ ปัจจุบันนี่หลวงพ่อผางขอนแก่น นั่นน่ะท่านบวชทีหลังเรา ตอนท่านไป (ไปขอศึกษาอุบายธรรมจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านนามน - สาวิกาน้อย) เราก็อยู่ที่นั่นวัดนามน (วัดป่าบ้านนามน ปัจจุบันคือวัดป่านาคนิมิตต์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร - สาวิกาน้อย) ที่ท่านศึกษาปรารภกับหลวงปู่มั่น ท่านก็เทศน์อย่างเด็ดทีเดียว นั่นล่ะท่านได้ธรรมะนั่นล่ะมา ใส่เปรี้ยงๆ ลง ท่านคงเล็งดูแล้ว เหมาะแล้ว ธรรมะจึงไม่มีอ่อนข้อเลย เด็ดตลอดจนจบ ใส่เปรี้ยงๆ เหมือนคนโกรธแค้นกันมาได้ห้ากัปห้ากัลป์ พอมาก็ปรี่ใส่กันเลยว่างั้นเถอะน่ะ นั่นล่ะผู้ท่านได้อันนั้นมา มาพิจารณาก็ได้คติตั้งแต่นั้นมา เอาจนทะลุไป นี่ล่ะองค์นี้หลวงพ่อผาง แล้วก็เล่าถึงเรื่องของเรา

ท่านบอกว่าท่านเคยพบกับเราอยู่ที่นั่น นามน เล่าให้พระทั้งหลายฟัง เพราะตอนนี้เราก็มาขั้นครูขั้นอาจารย์แล้ว หลวงพ่อผางก็เป็นครูเป็นอาจารย์ไปแล้ว เลยเล่าเรื่องถึงกันเฉยๆ ทีนี้เวลาท่านออกมาแล้วนี้ งู จระเข้ เหล่านี้ เหมือนกับท่านเป็นครูเลยเชียว พวกนี้หมอบกลัวหมด จระเข้ตัวหนึ่งมันอยู่ในสระที่วัดนั้น เราเคยไปแล้ววัดนี้ เวลาเขาไปปลูกกุฏิกลางน้ำ เวลาเผลอๆ คนกำลังทำกุฏิมันมางับเอาขาละซิ ร้องเอิ้กอ้ากขึ้นเลย พอร้องขึ้นหลวงพ่อผางก็มา พอมันได้ยินเสียงหลวงพ่อผางมันจำได้เลยนะ พอหลวงพ่อผางมานี่ไม่ทราบหนีไปไหนกลัว ถ้าได้ยินเสียงหลวงพ่อผาง หมอบเลย กลัว

แล้วทีนี้ไปพักภาวนาอยู่ทางน้ำหนาว นี่ล่ะที่สำคัญนะ มีหลวงพ่อองค์หนึ่งอยู่ทางด้านนู้น เดินจงกรมอยู่กลางวันนะไม่ใช่กลางคืน หลวงพ่อผางเดินจงกรมอยู่ทางนี้ องค์นั้นเดินอยู่ทางนั้น งูใหญ่ ใหญ่เท่ากับต้นมะพร้าว มานี้มายกคอขึ้นอ้าปากใส่หลวงตาองค์นี้ ตัวมันใหญ่กว่านี้ ฟังเสียงร้องว้อๆ ขึ้น ตอนนั้นก็เดินจงกรมอยู่ “เป็นอะไรว่ะ” “งูใหญ่ไม่ทราบมาจากไหน กำลังจะงับผม อ้าปากใส่ผมอยู่นี่” ท่านก็มาแล้ว ก็เห็นจริงๆ กลางวันนะ หายก็หายในขณะนั้นเลยต่อหน้าต่อตา เป็นยังไงพญานาคมีหรือไม่มีฟังซิ ผู้เห็นท่านเห็นอยู่อย่างงั้น ผู้หลับตามันก็หลับอยู่งั้น พอมาก็เห็น โอ๊ย มันยกคอขึ้น ตัวเท่าต้นมะพร้าว ตัวยาว หลวงตานี้ก็เดินจงกรม ตัวแข็ง มันอ้าปาก มันไม่เข้ามาใกล้แหละ ห่างประมาณสักวาเศษๆ มันอ้าปากอยู่อย่างงี้ ตัวใหญ่

ทีนี้หลวงพ่อผางมา “ไหนมันอยู่ไหน” พอว่าท่านเดินเข้ามาเลยนะ หลวงพ่อผางไม่มีคำว่าสะทกสะท้าน มันก็อ้าปาก ทางนี้ก็เดินเข้าไป เอามึงจะกินกูเหรอ เอาเลย มึงชอบตรงไหนเอาเลย เดินบุกเข้าไปหาเลยเชียว มันกำลังอ้าปากอยู่ พรึบเดียวหายเงียบเลย ไม่ทราบหายไปไหน ตัวใหญ่ๆ หายเดี๋ยวนั้นเลย ไปเงียบ บอกว่าพญานาคมันมาแกล้งเฉยๆ ภาวนาเมตตามันไม่ดี นั่นเห็นไหมล่ะ ภาวนามันไม่คอยแผ่เมตตา พญานาคก็มาแกล้งเอาบ้าง นี่หลวงพ่อผาง ตัวใหญ่จริงๆ ท่านบุกเข้าไปเลยนะ ที่มันอยู่นั้น ท่านเดินไปหาเลย ท่านไม่มีสะทกสะท้าน เอาเลยกินเรา เดินเข้าไปหาตรงนั้น หายวูบไปเลย เงียบเลย ไม่มี หายหมดทั้งตัว มันไปไหนไม่รู้ เวลาออกมาพูดว่ามาแกล้งหลวงพ่อ หลวงพ่อใจดำไม่มีเมตตาจิต มันมาแกล้งเอา

อันนี้ก็เข้ากันได้ ก็เรียนหนังสือเหมือนกันไม่ใช่หรือ ที่พวกพาไปภาวนาไม่แผ่เมตตา พวกเทวดาทั้งหลายเกิดความเดือดร้อน มาแสดงอาการทั้งหลายให้เห็น เป็นกะโหลกหัวผีบ้างอะไรบ้าง และทำพระให้ทั้งจามทั้งไอ เป็นไข้เป็นหนาว วิ่งไปหาพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่ง เวลาไปไม่สบาย “ไม่สบายซิพวกเธอใจดำ พวกเทพทั้งหลายเขาอยู่ที่นั่น เขาได้รับความลำบากลำบน เขาก็แกล้งเอาบ้าง ไม่มีเมตตาจิต ไป ไปเจริญเมตตาจิต ไปอยู่ที่นั่น” ไล่กลับมาที่เก่า ไปคราวนี้เจริญเมตตาจิตชุ่มเย็นหมดเลย อำนาจเมตตาธรรมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เป็นธรรมชนะโลก สุดยอดอยู่กับเมตตาธรรม ให้พากันจำไว้นะ

เมตตาธรรมคือความอ่อนนิ่ม ถ้าพวกเราพูดออกมา และมาเป็นสมมุติอย่างนี้ เรียกว่าความอ่อนนิ่มทุกตัวสัตว์ไม่เป็นภัยต่อผู้ใดเลย เพราะฉะนั้นจึงเข้าได้หมดเมตตาธรรม จะเป็นโหดร้ายมา ทารุณขนาดไหนก็ตาม อำนาจเมตตาธรรมนี้นิ่มไปหมด ลบล้างได้หมดเลย พระเหล่านั้นเลยเจริญสมณธรรมได้สำเร็จมรรค ผล นิพพาน เยอะนะ อยู่ในนั้น พวกเทพ พวกเทวดา รุกขเทวดาอยู่บนต้นไม้เขาเคารพเขาก็ลงมาอยู่ข้างล่าง ลำบากลำบน เพราะพวกนี้เคยอยู่ต้นไม้ใช่ไหมล่ะ พระก็เป็นพระใจดำน้ำขุ่น อยู่นานไปเห็นท่าจะไม่ได้การณ์เขาก็เลยกลั่นแกล้งเอาบ้าง พระเหล่านี้เป็นหวัด เป็นไอ เป็นอะไรเป็นไข้บ้าง บางทีเป็นกะโหลกหัวผีมาอยู่ทางจงกรมบ้าง อะไรบ้าง เขาแกล้งทำต่างๆ พอไปหาพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่งไล่กลับมาที่เก่าเลย ให้เจริญเมตตาอย่างนั้นๆ เหตุการณ์ทั้งหลายจะเปลี่ยนไปหมด มาก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

พูดถึงเรื่องหลวงพ่อผางที่ว่างูใหญ่นั่นก็เห็นประจักษ์อย่างนั้นแล้ว พรึบหายเงียบ ไม่ทราบไปไหน ทั้งๆ ที่ท่านเดินบุกเข้าไปหาเลยนะ ไม่มีสะทกสะท้าน เอาเลย ต้องการอันไหนเอาเลย เดินเข้าไปหามันพรึบเดียวหมดเลย ไปไหนไม่รู้ จึงได้มาสอนหลวงพ่อ ที่ถ้ำนั้นอีกเหมือนกันนั่นแหละพระไปอยู่ก็เป็นพระขลังๆ ไปอยู่แทนที่จะเจริญเมตตาภาวนาชำระจิตใจตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า กลับไปทำแต่ของขลัง ทำนั้นทำนี้มีแต่ของขลังๆ แบบโลกแบบกิเลสตัณหาไปหมด พวกเทวดาทั้งหลายเขาก็รำคาญ แทนที่จะเป็นศีลเป็นธรรมให้ได้รับความร่มเย็นยิบๆ แย็บๆ ก็ไม่มี ดีไม่ดีมีพระสองสามองค์ไปก็ไปทะเลาะกัน สร้างความรำคาญให้เขาอีก เขาก็มาดลบันดาลให้พระเหล่านี้หนีจากนั้นเลย

พระองค์ไหนมาถ้าไม่เป็นศีลเป็นธรรม พวกรุกขเทพเหล่านั้นเขาหาอุบายขับไล่ อยู่ไม่ได้ จนร่ำลือสถานที่นั่น นี่ก็ทางน้ำหนาวเหมือนกัน นี่ก็หลวงพ่อผางไปอยู่ พอมันนานมาจนร่ำลือว่าที่นี่มันแข็งอะไรต่ออะไร ทางภาษาภาคอีสานเขาเรียกมันเข็ดมันขวาง ทางนี้เรียกว่ามันแข็งมันแรง เวลาท่านไปอยู่ที่นั่นเขาก็บอกเลยอยู่ที่นี่อยู่ไม่ได้นะ เป็นอย่างงั้นอย่างงี้ เป็นก็เป็นเถอะ ท่านไม่สนใจแหละ จะพักที่นี่ เวลาพักแล้วท่านไม่ใช่พระขลังแบบนั้นซิ ท่านเป็นอรรถเป็นธรรม ไปอยู่นั้นพวกเทพทั้งหลายเข้ามาหา เขามาเล่าเรื่องถึงพระองค์นั้นให้ฟัง เล่าเรื่องพระที่มาอยู่ที่นี่ให้ฟัง เป็นอย่างงั้นเป็นอย่างนี้ เขาเล่าให้ฟัง

ตกลงเรียกว่าเทวดาเล่าให้ฟังเสียเอง ประชาชนสู้เทวดาเล่าให้ฟังไม่ได้ ประชาชนว่ามานี่ทะเลาะกันเรื่องนั้นเรื่องนี้บ้าง แตกกันไป องค์ไหนมาก็มาทะเลาะกัน มาหาแต่ของขลังๆ ทำตระกุดบ้าง ทำอะไรทุกอย่างอะไรที่มันขลังๆ แล้วก็แตกกันไป มามีหลายพวกแล้วนะพระ อยู่ที่นี่ไม่ได้ เขาว่างั้นประชาชน แต่เวลาเทวดามาพูด เทวดานี่ละทำเอา มาแล้วมาทำตั้งแต่ของอย่างนั้น ของสกปรก เทวดาเขายังรู้ของสกปรก พระทำไมไม่รู้ เขากลั่นแกล้งเอาบ้าง เลยแตกหนี ทีนี้เวลาท่านมาอยู่ที่นั่น ขอนิมนต์ไม่ยอมให้ท่านหนีไปไหน อยู่ที่นั่น ที่นี่มีความชุ่มเย็นไปหมดทุกแห่งทุกหน ท่านก็อยู่นาน อยู่สถานที่นั่น และต่อไปก็ดูเหมือนเป็นวัดขึ้น เราก็ลืมๆ ตอนนั้น หากทราบตั้งแต่ไปอยู่ทีแรกอยู่ไม่ได้ แต่ท่านไปอยู่ได้จนกระทั่งพวกเทพทั้งหลายเขาอาราธนานิมนต์ท่าน ไม่อยากให้ท่านหนี เขามีความชุ่มเย็นเป็นสุข ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่นดีงามไปหมด ท่านมาพักอยู่ที่นี่ร่มเย็นมาก ว่างั้น ไม่อยากให้ท่านไปไหน ท่านก็รู้สึกว่าพักอยู่นานอยู่นะ ก็เห็นใจเทวดาเหมือนกัน เรื่องพญานาค ฟังรึยัง ตอบกันเดี๋ยวนี้



ส่วนหนึ่งจากกัณฑ์เทศน์ “พญานาคมีหรือไม่มี” โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๖ (ช่วงค่ำ) ณ กุฏิกลางน้ำ สวนแสงธรรม กรุงเทพมหานคร :b8: :b8: :b8: https://luangta.com/thamma_forum/forum_ ... orumID=236

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2022, 14:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


จะมีพระหนุ่มรู้ธรรมตามเรา

ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐


วันเสาร์วันอาทิตย์เราไม่ได้ไปโรงพยาบาล ส่วนมากมักจะไปตามวัด ไปวัดก็คือไปให้ ไปวัดนั้นวัดนี้เอาของไปเต็มรถ เทลงๆ ถ้าวันธรรมดาก็ไปโรงพยาบาล จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ ไปทุกวันๆ ไปโรงพยาบาลนั้นโรงพยาบาลนี้ ไปแล้วก็ให้ปัจจัยประจำโรงพยาบาลละสองหมื่นๆ

วันที่ ๒๔ นี่ก็จะไปอำเภอมัญจา หลวงพ่อผาง (หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต) นี่องค์หนึ่งที่เป็นเพชรน้ำหนึ่ง อย่างที่พูดเมื่อวานนี้ ธรรมะพ่อแม่ครูจารย์ลงในจังหวะเหมาะสม บุคคลที่เหมาะสมในเวลานั้น อยู่บ้านนามน เราก็อยู่กับท่านก่อนแล้ว พอดีหลวงพ่อผางไป คือหลวงพ่อผางอ่อนพรรษากว่าเรา ท่านมีครอบครัวเหย้าเรือนก่อนแล้ว ท่านออกจากครอบครัวเหย้าเรือนแล้วไปบวช พรรษาจึงอ่อนกว่าเรา พอขึ้นไปบ้านนามนท่านใส่เปรี้ยงๆ เลย เสียงทั้งแผดทั้งเด็ดทุกอย่าง มีแต่ยอดธรรมล้วนๆ เลย ใส่เปรี้ยงๆ ท่านว่าๆ อย่างนั้นแหละ

ท่านพูดถึงเรื่องท่านอยู่ฆราวาสเหย้าเรือนอะไรๆ บทเวลาท่านจะเอานะ ได้อะไรวิเศษมาอวดผมหน่อยน่ะ ท่านมีครอบครัวเหย้าเรือนมากี่ปี ท่านมีอะไรจากครอบครัวเหย้าเรือนที่ดิบดีวิเศษเอามาอวดผมหน่อยน่ะ นั่นเห็นไหมบทเวลาท่านจะเอา ออกจากนั้นท่านก็ออกธรรมะ เปรี้ยงๆ เลย ทางนี้ก็ฟังนั่งเหมือนหัวตอเลย ฟัง โฮ้ คราวนี้ท่านเอาเด็ดนะ นั่นละมันเป็นสื่อกัน จิตดวงนั้นกับธรรมในจิตดวงนี้ที่รับกันมันประสานกัน พอเจอกันปั๊บเท่านี้มันเข้าหากันละ เป็นอรรถเป็นธรรมเข้าหากัน จะเป็นเรื่องโลกมันก็เป็น หมายถึงผู้มีธรรมในใจรู้ภายในใจ มองเห็นปั๊บมันวิ่งถึงกันแล้ว ทีนี้ธรรมด้วยกันนี้มันดึงกันแล้ว อย่างท่านเทศน์หลวงพ่อผาง ใส่เปรี้ยงๆๆ

ท่านได้ธรรมะอันนั้นแหละ มาก็เอาใหญ่เลยท่านว่างั้น ตั้งแต่เราเกิดมาเราก็ไม่เคยฟังธรรมะประเภทนี้ ท่านขึ้นอย่างนี้เลย เกิดมาพึ่งได้ฟังคราวนี้เอง ท่านก็ดูเหมือนว่าจะไม่สอนใครแบบเราอย่างนี้ท่านว่า ไปก็เอาใหญ่เลย นั่น ผ่านได้นะ พ่อแม่ครูจารย์ท่านใส่เปรี้ยงๆๆ คือมันดูดกัน พูดไม่ถูก กระแสของจิตสำหรับผู้มีธรรมแล้วมันวิ่งถึงกันประสานกัน ผู้ไม่มีธรรมมันก็ดูดกัน อย่างนี้นี่เราจะแย็บ คือพูดแบบแย็บเท่านั้นเอง เรื่องที่มันเป็นในใจไม่มีใครทราบด้วย พอมองเห็นปั๊บมันจะวิ่งถึงกันแล้ว แล้วไม่สงสัยด้วยนะ ไม่ต้องหาสักขีพยานมาจากไหน พอปั๊บจับปุ๊บรู้ทันทีๆ เลย

เป็นแต่เพียงว่าธรรมไม่เหมือนโลก ไม่ตื่นเต้นไม่ผาดโผนโจนทะยาน ไม่แสดงกิริยาอาการอะไรออกมาตามที่รู้ที่เห็นที่เป็นที่มันดึงดูดกันเข้าใจไหมล่ะ รู้เฉยๆ จับไว้ๆ อย่างนั้นละ จึงเรียกว่าธรรม คือไม่ตื่นเต้น มีเหมือนไม่มีรู้เหมือนไม่รู้มันเข้าถึงนั้นแล้ว ผู้นั้นไม่รู้เรื่องก็ตามทางนี้รู้แล้ว มันวิ่งถึงกันอย่างนั้น อย่างท่านว่าท่านอาจารย์เทสก์ หลวงปู่มั่นท่านก็ไม่เคยพูด บทเวลาท่านจะเอา คือท่านอาจารย์เทสก์นี่มักเถียงท่านเสมอ พูดอะไรๆ มักเถียงท่าน แต่เหตุผลไม่ได้หนักแน่นเหมือนท่านซิ หลายครั้งหลายหน ท่านเทสก์นี่มันเคยดื้อมาแต่ไหน ตั้งแต่ก่อนมันเป็นหลานท่าน ท่านว่างั้น มันดื้อนะไอ้นี่ บทเวลาท่านจะเอา มันเคยดื้อ นิสัยสันดานมันติดมานี่น่ะท่านว่า ทางนั้นหมอบ

เห็นไหมเวลาท่านจะเอา คือท่านรู้ไว้แล้ว พอญาณทางนั้นออกมารับกันท่านก็ใส่เปรี้ยงเลย มันเคยดื้อนี่น่ะ เป็นอย่างนั้นนะ แต่ก่อนมันเคยเป็นหลานเรา มันเคยดื้อ นี่มันก็มาดื้อ นิสัยสันดานมันยังติดตัวมาท่านว่า ทางนั้นก็หมอบ ท่านเอาเปรี้ยง อย่างนั้นละบทเวลาท่านจะเอา ท่านรู้สักเท่าไรท่านก็เฉยเหมือนไม่รู้ รอยของจิตมันเป็นตามวิถี เวลารู้นี่รู้ถอยหลัง รู้อะไรนี้มันไปได้หมด เรื่องจิตนี้ไม่ขัดข้อง ไปได้หมดเลย มีแต่กิเลสเท่านั้นละปิดไว้ไม่ให้รู้ให้เห็น เหยียบไปๆ พอไปแล้วก็หายไป มันกลบรอยๆ หมด ทีนี้พอธรรมไปเปิดรอยออกมันก็เห็นหมดละซิ

ท่านว่า ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติย้อนหลังได้อะไรอย่างนี้ อนาคตังสญาณ รู้หยั่งทราบทางอนาคตด้วย พอพูดเรื่องนี้เราก็ระลึกถึงพ่อแม่ครูจารย์มั่น อันนี้ท่านออกปากพูดเลย คงจะพูดไว้เป็นที่ระลึกท่า พอท่านจวนตัวเข้าไป ท่านพูดเองเลยนะ เวลาผมจะตายนี้ ไม่ก่อนไม่หลังกันนัก เวลาผมจะตาย ไม่ก่อนไม่หลังกันนัก จะมีพระหนุ่มรู้ธรรมตามผมอยู่สององค์ท่านว่างั้น เราก็เลยไม่ลืม จะมีพระหนุ่มรู้ธรรมตามเราอยู่สององค์ คือท่านได้นิมิตแล้วนั่น ท่านรู้เรียบร้อยหมดแล้ว

บทเวลาท่านมาไขเงื่อนออกมาว่า ท่านเป็นช้างใหญ่หัวหน้า ช้างสองเชือกเป็นช้างหนุ่มเดินตามหลัง พอไปถึงหน้าถ้ำ หัวช้างท่านก็ไปถึงหน้าถ้ำแล้วหันหน้ากลับออกมา ช้างหนุ่มสองตัวนี้ก็อยู่เคียงข้างแล้วหันหน้าเข้าไป คือท่านได้นิมิต ท่านให้โอวาท ไปพากันกลับเสีย เร่งเอาให้ได้นะ ท่านบอกช้างสองตัว เวลาท่านออกมาทางนิมิตท่านบอกว่า ในระยะผมตายนี้จะมีพระหนุ่มรู้ธรรมตามผมอยู่สององค์ ท่านจะชี้แจงเรื่องนิมิต แต่ว่าองค์ไหนเราก็ไม่ทราบ เราจำได้เท่านั้น จะมีพระหนุ่มรู้ธรรมตามเราอยู่สององค์



:b8: :b8: :b8: https://luangta.com/thamma/thamma_talk_ ... 5&CatID=-1

• ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=19464

• “หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต” และ “วัดอุดมคงคาคีรีเขต”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=36659

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron