วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 16:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2013, 07:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

รูปภาพ

หลวงปู่บุดดาท่านเป็นเหมือนปู่เรานี่ จะว่าไง

พระลูกศิษย์หลวงปู่บุดดา (หลวงปู่บุดดา ถาวโร) ได้ไปหาเรา (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) ที่สวนแสงธรรม เราก็ได้ถามถึงอาการของหลวงปู่ท่านว่า แต่ก่อนธาตุขันธ์ของท่านเป็นคุณเป็นประโยชน์ ทำประโยชน์ให้โลกมามากต่อมากนานแสนนาน จนกระทั่งอายุถึงปูนนี้ และได้เข้ามาอยู่ศิริราชแล้ว เวลานี้เพื่อจะลาขันธ์ไป เพราะขันธ์นี้ใช้ไม่ได้แล้ว นอกจากใช้ไม่ได้แล้ว ยังเป็นโทษรอบตัวอีก ไม่มีช่องว่างของขันธ์ที่จะไม่เป็นโทษต่อท่าน แล้วยังจะเอาท่านไว้อย่างนั้นอยู่เหรอ สมควรแล้วหรือ ให้ลูกหลานไปพิจารณานะ

นี่อาจารย์ชาก็เป็นอย่างนี้นะ เราบอกตรงๆ เลย อาจารย์ชาก็เกี่ยวกับเราอีกเหมือนกัน คุ้นกันมาสักเท่าไหร่แล้ว แล้วนี่หลวงปู่บุดดาก็เหมือนกัน คุ้นกันมานาน สนิทสนมกันมาก ทั้งสององค์นี่กับเรานะ

หลวงปู่บุดดาท่านเป็นเหมือนปู่เรานี่ จะว่าไง พอเราไปกราบที่ตักท่าน ท่านก็ อู๊ย จับโน่นลูบนี่ จับนั่นจับนี่เรานะ ท่านทำด้วยความเมตตาจริงๆ แหละ

ท่านยังยกยอต่อลูกศิษย์ลูกหาของท่านเองด้วย เขาเอาเทปเราไปเปิดให้ท่านฟัง กัณฑ์เด็ดๆ เสียด้วยนะ ลูกศิษย์มาเล่าให้ฟัง ท่านพูดเวลาจบแล้วท่านว่า ได้ยินชื่อท่านมานานและแหละท่านมหาบัวนี่ คุ้นกันมาสักเท่าไรแล้วยังไม่รู้อยู่เหรอ ว่าคุ้นกัน จะมาเล่าอะไรให้ฟังอีกล่ะ

ที่นี้เมื่อพระมาหาเรา เราก็ฝากข้อคิดไปว่า เวลานี้ขันธ์ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับท่านแล้ว ลูกศิษย์จะหวังชื่นชมยินดีเพราะไฟคือธาตุขันธ์เผาไหม้ท่านอยู่อย่างนี้ สมควรแล้วเหรอ เวลานี้ไฟขันธ์เผาตลอดไม่มีว่างเลย ให้ไปพิจารณานะ



:b8: ที่มา...หนังสือญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์ หน้า ๓๙๓-๓๙๔
เรียบเรียงจากเทศนาธรรมของท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เป็นหนังสืออนุสรณ์เนื่องในงานพระราชทานเพลิงถวายแด่พระสรีระสังขาร
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)


• ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่บุดดา ถาวโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=44201

• รวมคำสอน “หลวงปู่บุดดา ถาวโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=44200

• ประมวลภาพ “หลวงปู่บุดดา ถาวโร” วัดกลางชูศรีเจริญสุข
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=44348

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2022, 09:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

พระเพชรน้ำหนึ่ง...ธาตุขันธ์ยามอาพาธหนัก

หลวงตา (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) มักได้เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจครั้งสำคัญๆ เกี่ยวกับธาตุขันธ์ยามอาพาธหนักของครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เช่นคำปรารถของท่านคราวหนึ่งดังนี้

“...พระลูกศิษย์หลวงปู่บุดดา (หลวงปู่บุดดา ถาวโร) ได้ไปหาเราที่สวนแสงธรรม เราได้ถามถึงอาการของหลวงปู่ท่านว่า...

‘แต่ก่อนธาตุขันธ์ของท่านเป็นคุณเป็นประโยชน์ ทำประโยชน์ให้โลกมามากต่อมาก นานแสนนาน จนกระทั่งอายุถึงปูนนี้ และได้เข้ามาอยู่ศิริราชแล้วเวลานี้ เพื่อจะลาขันธ์ไป เพราะขันธ์นี้ใช้ไม่ได้แล้ว

นอกจากใช้ไม่ได้แล้วยังเป็นโทษรอบตัวอีก ไม่มีช่องว่างของขันธ์ที่จะไม่เป็นโทษต่อท่าน แล้วยังจะเอาท่านไว้อย่างนั้นอยู่เหรอ ?...สมควรแล้วหรือ ? ให้ลูกหลานไปพิจารณานะ’


นี่อาจารย์ชา (หลวงพ่อชา สุภัทโท) ก็เป็นอย่างนี้ละ เราบอกตรงๆ เลย อาจารย์ชาก็เกี่ยวกับเราอีกเหมือนกัน คุ้นกันมาสักเท่าไรแล้ว แล้วนี่หลวงปู่บุดดาก็เหมือนกัน คุ้นกันมานาน สนิทสนมกันมากทั้งสององค์นี่กับเรานะ

หลวงปู่บุดดาท่านเป็นเหมือนปู่เรานี่จะว่าไง พอเราไปกราบที่ตักท่าน ท่านก็ อู๊ย จับโน้นลูบนี้ จับนั้นจับนี้เรานะ ท่านทำด้วยความเมตตาจริงๆ แหละ...

ท่านยังยกยอต่อลูกศิษย์ลูกหาของท่านเองด้วย เขาเอาเทปเราไปเปิดให้ท่านฟังกัณฑ์เด็ดๆ เสียด้วยนะ...ลูกศิษย์มาเล่าให้ฟัง ท่านพูดเวลาเทศน์จบลงแล้ว ท่านว่า

‘ได้ยินชื่อท่านมานานแล้วแหละท่านมหาบัวนี่ คุ้นกันมาสักเท่าไรแล้วยังไม่รู้อยู่เหรอว่าคุ้นกัน...จะมาเล่าอะไรให้ฟังอีกล่ะ’

ทีนี้เมื่อพระมาหาเรา...เราก็ฝากข้อคิดไปว่า ‘เวลานี้ขันธ์ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับท่านแล้ว ลูกศิษย์จะหวังชื่นชมยินดี เพราะไฟคือธาตุขันธ์เผาไหม้ท่านอยู่อย่างนี้ สมควรแล้วเหรอ ?... เวลานี้ไฟขันธ์เผาตลอดไม่มีว่างเลย...ให้ไปพิจารณานะ’

อาจารย์ชาเป็นลักษณะนี้มาหลายปี ถามทีไรก็เป็นอย่างนี้ ก็พอดีพระหนองป่าพงไปหาเราที่สวนแสงธรรม เอากันใหญ่เชียร์คราวนั้น เปรี้ยงทีเดียวอัดเทปเอาไว้เสร็จ

พอเสร็จแล้วเขาก็เอาเทปไปเปิดเมืองอุบลฯ เลย เอาไปตั้งกึ๊กลงที่วัดหนองป่าพงเลย บรรดาลูกศิษย์ลูกหาท่านมารวมนั้นหมด ผู้ว่าฯ เป็นผู้นำเทปไปเปิด

‘เอ้า ใครทีนี้ฟังนะ เทศน์นี่เทศน์อาจารย์มหาบัว ท่านอาจารย์มหาบัวกับท่านอาจารย์ชาสนิทกันมานานสักเท่าไรแล้ว ฟังท่านจะพูดวันนี้นะ’


พอว่าอย่างนั้นก็เปิดทันที...ได้เห็นผิวๆ เผินๆ ได้เห็นท่านอยู่นั้นก็พอใจ ท่านจะมาห่วงอะไรในธาตุในขันธ์อันนี้ เมื่อเห็นว่าเป็นไฟพอแล้วยังจะมาห่วงอะไรอีก ห่วงไฟเผาเจ้าของนั้นมีอย่างเหรอ...ท่านพร้อมอยู่แล้วที่จะดีด ตั้งแต่ระยะช่วยตัวเองไม่ได้แล้วนั่น...ครูบาอาจารย์จะตายแล้วไม่ยอมให้ไป ไม่ให้ตาย เอาไฟจี้ไว้อย่างนั้น ระโยงระยางเต็มหมด ออกซิเจนช่วยลมหายใจ ช่วยลมหายใจอะไร ช่วยไฟเผาว่างั้นจึงถูกนะ

ถ้าเอาอันนี้ออกแล้วไฟก็หยุดเผา ท่านก็ดีดออกแล้ว นั่น คุณก็เห็นอยู่อย่างชัดๆ โทษก็เห็นอยู่ชัดๆ อย่างงั้น ถ้าอันนี้จ่อไว้อยู่ตลอด ก็เผาอยู่ตลอดอยู่นั้นจะว่าไง พอเปิดออกนี้ก็ดีดออกแล้ว นั่นเห็นชัดๆ อยู่

ถ้าพูดถึงเรื่องของหมอ เขาก็ทำตามหลักวิชาของหมอ เหตุผลเรามียังไง อรรถธรรมมียังไง ปฏิบัติต่อครูบาอาจารย์ก็ควรชี้แจงให้เขาทราบ ควรปล่อยก็ปล่อยซี เอาไว้ให้ใคร มันไม่เกิดประโยชน์ยังไม่แล้ว ยังเป็นโทษเอาอย่างหนักหนาทีเดียว ใครจะเอาไฟมาเผามาจี้ไว้อย่างนี้ทั้งวันได้เหรอ นี่ไม่ทราบว่าทั้งวันทั้งคืนทั้งปีอะไร จี้เผาหมดรอบตัวๆ

เรื่องธาตุเรื่องขันธ์ก็รู้กันอยู่แล้ว ตั้งแต่ยังไม่ตายก็รู้อยู่แล้ว ก็เครื่องมือใช้เฉยๆ มีจิตเป็นผู้บงการ พอจิตหดตัวเข้ามาเสียแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็เป็นท่อนไม้ท่อนฟืนไปเท่านั้น เกิดประโยชน์อะไร ก็เหมือนกับเครื่องมือเราทิ้งเกลื่อนอยู่รอบตัวนี้ ก็ไม่เกิดประโยชน์เมื่อเจ้าของใช้การใช้งานอะไรไม่ได้แล้ว...นั่นแหละ เรียนจิตให้เห็นอย่างนั้นซิ เห็นชัดเจนแล้วจะถามใคร...ประจักษ์อยู่ในหัวใจเจ้าของแล้วพอทุกอย่าง...

นี่เอาศพท่านกลับคืนไปโน้นนะ วัดกลางชูศรี ท่านเป็นพระเพชรน้ำหนึ่งนะนี่ หลวงปู่บุดดานี่เพชรน้ำหนึ่ง อาจารย์ชาก็เหมือนกัน ท่านเหล่านี้เพชรน้ำหนึ่งแล้วจะมาหวงมาห่วงอะไร ธาตุขันธ์เป็นไฟนั่น...


เรายังไม่ลืมหลวงปู่ขาว (หลวงปู่ขาว อนาลโย) ท่าน เวลาท่านกำลังเพียบ คือท่านไม่ให้ใส่ออกซิเจน ท่านไม่ให้เอาใส่ แล้วพวกนั้นก็เอาไว้ข้างนอก คือท่านห้ามไม่ให้เอาใส่ เราเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ ไปยุ่งกับท่านทำไม ทีนี้พอเอาเข้าไปจ่อไปถูกท่าน...ทั้งๆ ที่ท่านก็เพียบอยู่แล้วนะ ท่านยังปัดมือปั๊บออกเลย

ขนาดหลวงปู่ขาวแล้วท่านจะมีปัญหาอะไร ว่างั้นเลย จะตายท่าไหนก็ตายซิ ท้าทายก็ได้ เอหิปัสสิโก ท้าทายธรรมของจริงได้...ดีดผึงเดียวไปเลย ว่าจะไม่อยู่แล้วไม่อยู่ มันก็หมดแล้วนะนี่ พระประเภทเพชรน้ำหนึ่งๆ หมดไปๆ...”


:b8: :b8: :b8: หนังสือหยดน้ำบนใบบัว คติธรรมและชีวประวัติ
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) หน้า ๒๐๙-๒๑๒

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=24738

:b44: รวมคำสอน “หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38517

:b44: ประวัติและปฏิปทา “หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=24738

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร