ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
จัดสรรทรัพย์ตามหลักพุทธศาสนา (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=75&t=53505 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 25 ธ.ค. 2016, 05:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | จัดสรรทรัพย์ตามหลักพุทธศาสนา (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) |
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เมื่อชีวิตนี้ไม่ยั่งยืนแล้ว สมบัติข้าวของก็ไม่ยั่งยืนเหมือนกัน ต่างก็จะต้องได้พลัดพรากจากกันไป เพราะฉะนั้นเมื่อเวลายังมีชีวิตอยู่ ข้าวของเงินทองก็ยังมีอยู่อย่างนี้ไม่ควรจะปล่อยให้โอกาสอันนี้ล่วงเลยไปเสียเปล่า ควรจะจัดสรรเงินทองข้าวของเหล่านี้ให้เกิดเป็นประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น และให้เป็นประโยชน์ในปัจจุบันด้วย เป็นประโยชน์ในภายภาคหน้าด้วย เมื่อดำริได้อย่างนี้แล้วมันก็ทำจำแนกแจกจ่ายเงินทองข้าวของนั้นให้เกิดเป็นประโยชน์ดังที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ใน “คิหิปฏิบัติ” นั้นแหละ ก็เมื่อแสวงหาทรัพย์สมบัติได้มาทางที่ชอบแล้ว (๑) เลี้ยงตัว มารดา บิดา บุตร ภรรยา บ่าวไพร่ ให้เป็นสุข (๒) เลี้ยงเพื่อนฝูงให้เป็นสุข (๓) เก็บไว้สำหรับบำบัดอันตรายที่เกิดแต่เหตุต่างๆ (๔) ทำพลี ๕ อย่าง (ก.) ญาติพลี สงเคราะห์ญาติ (ข.) อติถิพลี ต้อนรับแขก (ค.) บุพพเปตพลี ทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย (ง.) ราชพลี ถวายเป็นหลวง มีเสียภาษีอากร เป็นต้น (จ.) เทวตาพลี ทำบุญอุทิศให้แด่เทวดา ก็คงจะได้แก่มารดาบิดาผู้มีพระคุณอันเลิศนี้แหละสมมติเหมือนอย่างเทวบุตรเทวดา (๕) บริจาคในสมณะ พราหมณ์ ผู้ประพฤติชอบ นี่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำสั่งสอนพุทธบริษัทผู้ครองเรือนทั้งหลายไว้ดังนี้ ดังนั้นเมื่อผู้ใดเป็นชาวพุทธมีความเคารพนับถือในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐจริงๆแล้วก็สมควรที่จะปฏิบัติตามศาสนธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้านี้ให้เต็มความสามารถ เพราะว่าทรัพย์สมบัติเมื่อแสวงหาได้มาแล้วเก็บไว้เฉยๆไม่คิดใช้ให้เกิดเป็นประโยชน์ก็อย่างว่านั้นแหละ นอกจากจะไม่เป็นประโยชน์แล้วยังเป็นเหตุให้ใจผูกพันอยู่อีกด้วย ใจยึดมั่นถือมั่นว่าของเรา ของเรา เสียดายอาลัยมันอยู่อย่างนั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นถ้าละไม่ได้แล้ว ตายลงไปก็ต้องไปเกิดเป็นสัตว์อย่างใดอย่างหนึ่งเฝ้าขุมทรัพย์อยู่อย่างนั้นแหละ เพราะว่าคนตระหนี่ถี่เหนียวอย่างนั้นมักจะลอบลักเอาสมบัติเหล่านี้ไปฝังไว้ในที่ใดที่หนึ่งไม่ให้ใครรู้เลย อย่างนั้นท่านเรียกว่าเอาไปเก็บไว้โดยไม่ให้ลูกให้หลาน ไม่ให้ลูกให้เมียให้พี่น้องรู้จักเลยอย่างนี้ก็มีนะบางคนน่ะ เช่นนั้นน่ะเมื่อตายแล้วจิตวิญญาณก็ไปเกิดเป็นสัตว์อย่างใดอย่างหนึ่งเฝ้าอยู่นั้นแหละ เช่น เป็นงูอย่างที่ท่านกล่าวไว้นั่นน่ะ อันนี้แหละคนเราเมื่อดำเนินชีวิตไปโดยไม่เป็นทางสายกลางแล้วมันก็ชอบแต่ที่จะข้องอยู่ในโลกนี้แหละจิตใจอันนี้นะ พึงพากันพิจารณาให้ดี การที่กล่าวมาเมื่อตะกี้นี้แสดงว่าจิตใจมันเอียงไปทางรักมากเป็นอย่างนั้น มันจึงเป็นเหตุให้จิตใจเกาะข้องอยู่ในโลกอันนี้ ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ ข้อปฏิบัติธรรมสายกลาง (๓ กรกฎาคม ๒๕๓๑) ◇◆ ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” ◆◇ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689 ชวนอ่านธรรมเทศนาเต็มกัณฑ์เทศน์ของ “พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=75&t=53080 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |