ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
วนอุทยาน “ภูเขาไฟกระโดง (volcano of buriram)” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=73&t=58950 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 25 พ.ค. 2020, 16:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | วนอุทยาน “ภูเขาไฟกระโดง (volcano of buriram)” |
ไหว้พระประธาน ๗๗ จังหวัด พระสุภัทรบพิตร พระพุทธรูปองค์ใหญ่คู่บ้านคู่เมืองของชาวบุรีรัมย์ ประดิษฐาน ณ วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง บ้านน้ำซับ ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ “พระสุภัทรบพิตร” พระพุทธรูปองค์ใหญ่คู่บ้านคู่เมืองของชาวบุรีรัมย์ ประดิษฐาน ณ วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง บ้านน้ำซับ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐฉาบปูนขนาดใหญ่ มีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๒ เมตร ฐานยาว ๑๔ เมตร หันพระพักตร์ไปทางด้านทิศเหนือ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ โดย “นายสุรวุฒิ บุญญานุสาสน์” ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในขณะนั้น ร่วมกับพ่อค้า ประชาชน ข้าราชการ และผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในแนวความคิดและโครงการต่างๆ ของ “หลวงพ่อบุญมา ปัญญาปโชโต” เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ในขณะนั้น ได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้นบริเวณยอดเขากระโดง เพื่อให้เป็นที่บูชาสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ภายในพระเศียรขององค์พระมี “พระบรมสารีริกธาตุ” บรรจุอยู่ ซึ่งเป็นพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาเองตามคำอธิฐานจิตของนางแจ๋ว มารดาของนายเสรี อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตราธิการ หรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในปัจจุบัน เมื่อมีการสร้างองค์พระสุภัทรบพิตรขึ้น นายเสรีฯ จึงได้นำมาบรรจุไว้ในพระเศียรนี้ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ สภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองบุรีรัมย์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันจัด “งานประเพณีขึ้นภูเขาไฟกระโดง” ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นหรือประเพณีเดือน ๕ ที่ได้จัดสืบทอดต่อกันมายาวนานกว่า ๑๓ ปีแล้ว (หลังจากในอดีตประชาชนในท้องถิ่นละแวกเขากระโดงได้ขึ้นไปนมัสการพระสุภัทรบพิตร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขากระโดงมายาวนานในช่วงเดือน ๕ เทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย) และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะมีเหล่าข้าราชการแต่งกายเป็นเทวดา นางฟ้า และประชาชนกว่า ๑,๐๐๐ คน ได้ร่วมขบวนพิธีแห่อัญเชิญผ้าอังสะความยาว ๓๙ เมตร เดินขึ้นบันไดนาคราชจำนวน ๒๙๗ ขั้นเพื่อประกอบพิธีเปลี่ยนผ้าอังสะผืนใหม่ให้แก่องค์พระสุภัทรบพิตร ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดภูเขาไฟกระโดง พร้อมกันนี้พระภิกษุสงฆ์ ๙๙ รูปยังได้สวดเจริญพระพุทธมนต์เพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลให้บ้านเมืองสงบสุข นอกจากนี้ยังมีการประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนภูเขาไฟกระโดง พร้อมมีการแสดงวัฒนธรรมการละเล่นพื้นบ้าน “ชุดระบำภูเขาไฟ” และ “ชุดบุรีรัมย์รุ่งเรือง” อย่างสวยงามตระการตาด้วย บุรีรัมย์ เป็นจังหวัดที่พบซากภูเขาไฟมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้แวะเวียนไปเยี่ยมชม นอกจากนี้ชาวบ้านยังนำดินภูเขาไฟซึ่งมีแร่ธาตุต่างๆ มาย้อมผ้าฝ้ายและผ้าไหม จึงนุ่มและมีสีสวยของดินภูเขาไฟ กลายเป็นสินค้าหายากหนึ่งเดียวในประเทศไทยอีกด้วย โดยซากภูเขาไฟที่พบนั้นมีทั้งหมด ๖ ลูก ด้วยกัน ได้แก่ ภูเขาไฟกระโดง, ภูเขาไฟพนมรุ้ง, ภูเขาไฟอังคาร, ภูเขาไฟหลุบหรือภูหลุบ, ภูเขาไฟไปรบัด และภูเขาไฟเขาคอก สำหรับภูเขาไฟกระโดง ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง ซึ่งมีพื้นที่ราว ๑,๔๕๐ ไร่ ถือเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทมาแล้วหลายพันปีแล้ว อีกทั้งยังเป็นภูเขาไฟที่มีสภาพปากปล่องสมบูรณ์ดีและมีอายุน้อยที่สุดในประเทศไทย เป็น ๑ ใน ๖ ลูกของภูเขาไฟในจังหวัดบุรีรัมย์ มีอายุประมาณ ๓๐๐,๐๐๐-๙๐๐,๐๐๐ ปี สูงจากระดับน้ำทะเล ๒๖๕ เมตร ซากปากปล่องเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ยอดเนินเขาเป็นขอบปล่องด้านทิศใต้เรียกว่า เขาใหญ่ ส่วนยอดเนินเขาเป็นขอบปล่องด้านทิศเหนือเรียกว่า เขาน้อยหรือเขากระโดง ส่วนบริเวณที่เป็นขอบปล่องปะทุคือบริเวณที่เป็นหุบเขา ปัจจุบันมีลักษณะเป็นสระน้ำ ในปัจจุบันบริเวณตรงปากปล่องมีลักษณะเป็นหลุมลึก ทางเดินเท้าก่อด้วยหินและมีระเบียงไม้ชมวิว เราสามารถเดินลงไปเที่ยวชมหลุมที่เกิดจากการปะทุได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องกลัวว่าจะระเบิดขึ้นมาอีกเพราะภูเขาไฟในบุรีรัมย์ทั้งหมดดับสนิทไปนานแล้ว เดิมชาวบ้านเรียก “เขากระโดง” ว่า “พนมกระดอง” เป็นภาษาเขมร แปลว่า “ภูเขากระดอง (เต่า)” เพราะมีรูปลักษณ์คล้ายกระดองเต่า ต่อมาจึงเรียกเพี้ยนเป็น “กระโดง” วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ และเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟโบราณซึ่งยังคงปรากฏร่องรอยปากปล่องให้เห็นได้ชัดเจน การขึ้นไปยังวนอุทยานภูเขาไฟกระโดงสามารถทำได้ ๒ วิธี คือ เดินขึ้นบันไดนาคราชจำนวน ๒๙๗ ขั้น มีความสูงประมาณ ๒๖๕ เมตร ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ หรือขับรถยนต์ขึ้นไปถึงยอดเขากระโดง ระหว่างทางจะพบพระพุทธรูปปางต่างๆ ตั้งเรียงรายอยู่เป็นระยะๆ โดยก่อนถึงยอดเขาจะเห็นสระน้ำมณีวรรณ อยู่ทางด้านขวามือ สระน้ำนี้เชื่อว่าเดิมเป็นปากปล่องภูเขาไฟ บนยอดเขาเป็นลานกว้างโดยเป็นที่ประดิษฐานองค์พระสุภัทรบพิตร และบริเวณใกล้เคียงกันนั้นยังเป็นที่ประดิษฐานปรางค์กู่โบราณ หรือ ปราสาทหินเขากระโดง ซึ่งพระยาประเสริฐ สุนทราศรัย อดีตเจ้าเมืองบุรีรัมย์ กับคุณหญิงประเสริฐ สุนทราศรัย มีจิตศรัทธาเลื่อมใสได้สร้างขึ้นไว้ที่ยอดเขากระโดง เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๔๘ เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชาและให้เป็นปูชนียสถานสำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป อีกทั้งยังมีสะพานแขวนลาวา ให้สามารถยืนชมทัศนียภาพบริเวณปากปล่องภูเขาไฟจากมุมสูงได้อย่างชัดเจน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ตระกูลสิงหเสนีย์ ได้มีผู้มีจิตศรัทธาสร้างรอยพระพุทธบาทจำลองขึ้นมาใหม่ มีขนาดความยาว ๒ ศอก ๑ คืบ ความกว้าง ๑ ศอก แล้วนำมาประดิษฐานไว้ในปรางค์กู่โบราณ ซึ่งเดิมเป็นปราสาทหินทรายก่อบนฐานศิลาแลงสี่เหลี่ยมขนาด ๔ x ๔ เมตร พร้อมกับได้บูรณะและสร้างมณฑปครอบทับไว้เนื่องจากตัวปราสาททรุดโทรมปรักหักพัง ดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ ปรางค์กู่โบราณแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยมีขอบเขตเนื้อที่โบราณสถาน ๑ งาน ๕๐ ตารางวา ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปกราบไหว้ขอพรองค์พระสุภัทรบพิตร และชมปากปล่องภูเขาไฟเป็นจำนวนมากเกือบ ๒๐๐,๐๐๐ คน นักท่องเที่ยวสามารถชมหินลอยน้ำ หรือ หินฟองน้ำ กระจายอยู่โดยรอบปากปล่องภูเขาไฟ ที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย นอกจากนี้แล้วภายในวนอุทยานฯ ยังมีพันธุ์ไม้พื้นเมืองที่น่าศึกษาหลายชนิด เช่น ต้นโยนีปีศาจ ที่ได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือที่ภาษาถิ่นหรือคนเขมรเรียกว่า ต้นกะนุยขมอย ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองหายากที่มักพบในบริเวณเขตภูเขาไฟ สำหรับบริเวณใกล้เคียงกับวนอุทยานฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงมาก คือ สนามฟุตบอล นิว ไอโมบาย สเตเดี้ยม ของทีมสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (Buriram United, Buriram UTD) พระสุภัทรบพิตร พระพุทธรูปองค์ใหญ่คู่บ้านคู่เมืองบุรีรัมย์ งานประเพณีขึ้นภูเขาไฟกระโดง เมื่อปี ๒๕๕๕ “บันไดนาคราช” จำนวน ๒๙๗ ขั้น ณ วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จ.บุรีรัมย์ |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 25 พ.ค. 2020, 16:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วนอุทยาน “ภูเขาไฟกระโดง (volcano of buriram)” |
พระสุภัทรบพิตร พระพุทธรูปองค์ใหญ่คู่บ้านคู่เมืองบุรีรัมย์ บันไดนาคราช ณ วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จ.บุรีรัมย์ ปากปล่อง “ภูเขาไฟกระโดง” (ตรงสีแดงๆ เขียนว่า volcano of buriram) ณ วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จ.บุรีรัมย์ |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 25 พ.ค. 2020, 16:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วนอุทยาน “ภูเขาไฟกระโดง (volcano of buriram)” |
ทางเดินลงไปปากปล่อง “ภูเขาไฟกระโดง” เราสามารถยืน-เดินบน “สะพานแขวนลาวา” เพื่อชมทัศนียภาพบริเวณปากปล่อง “ภูเขาไฟกระโดง” จากมุมสูงได้อย่างชัดเจน หินลอยน้ำ หรือ หินฟองน้ำ กระจายอยู่โดยรอบปากปล่องภูเขาไฟกระโดง Unseen ที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย สนามฟุตบอล นิว ไอโมบาย สเตเดี้ยม ของทีมสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (Buriram United, Buriram UTD) ขอขอบพระคุณที่มาของข้อมูลและรูปภาพ • ประวัติพระสุภัทรบพิตร และวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง เอกสารเผยแพร่โดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ • บทความ...สำรวจ “บุรีรัมย์” ดินแดนแห่งภูเขาไฟ จาก นสพ.เดลินิวส์ออนไลน์ ฉบับวันศุกร์ที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ • บันทึกและเอื้อเฟื้อรูปภาพโดย คุณ Sadej Mongkolsri • รูปภาพในกระทู้ http://pantip.com/topic/32143473 • http://vivatchaipicture.wordpress.com/2 ... %E0%B8%81/ |
เจ้าของ: | อุบาสกน้อย [ 26 มิ.ย. 2020, 20:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วนอุทยาน “ภูเขาไฟกระโดง (volcano of buriram)” |
ขออนุโมทนาครับ |
เจ้าของ: | sirinpho [ 06 พ.ค. 2022, 09:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วนอุทยาน “ภูเขาไฟกระโดง (volcano of buriram)” |
เจ้าของ: | Duangtip [ 08 ส.ค. 2022, 13:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วนอุทยาน “ภูเขาไฟกระโดง (volcano of buriram)” |
ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ |
เจ้าของ: | ดาราวรรณ [ 21 ก.พ. 2024, 12:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: วนอุทยาน “ภูเขาไฟกระโดง (volcano of buriram)” |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |