ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
กุมภโฆสกะ เศรษฐีผู้ตกยาก http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=71&t=50447 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Duangtip [ 05 ก.ค. 2015, 12:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | กุมภโฆสกะ เศรษฐีผู้ตกยาก |
กุมภโฆสกะ เศรษฐีผู้ตกยาก :: ศ.(พิเศษ) เสฐียรพงษ์ วรรณปก ========================= เหตุการณ์เกิดขึ้นที่กรุงราชคฤห์ เมืองหลวงของแคว้นมคธ ของพระมหาราชพระนามว่า พิมพิสาร คราวหนึ่งเกิดอหิวาตกโรคร้ายแรง ชาวบ้านเรียกโรคระบาดชนิดนี้ว่า “โรคห่า” เกิดขึ้นเมื่อใด ประชาชนมีอันต้องล้มตายเป็นจำนวนมาก เศรษฐีเมืองราชคฤห์ป่วยด้วยโรคระบาดนี้ ก่อนตายได้บอกให้ลูกชายหนีไปที่อื่น รักษาตัวให้รอดก่อน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่อยกลับมา เศรษฐีได้บอกที่ฝังขุมทรัพย์แก่ลูกชายก่อนสิ้นชีวิต กุมภโฆสกะหนีไปอยู่ต่างเมืองเป็นเวลา ๑๒ ปี เมื่อกลับมายังเมืองราชคฤห์อีก ไม่มีใครจำเขาได้ เขาคิดจะไปขุดทรัพย์ที่บิดาบอกก็ไม่กล้าทำ เพราะกลัวคนอื่นจะหาว่าเขาลักทรัพย์คนอื่น จึงได้แค่แอบไปดู รู้ว่าทรัพย์ยังอยู่ก็ใจชื้น รอว่าวันเวลาอันสมควรมาถึงเมื่อใดค่อยขุดทรัพย์ขึ้นมาใช้ก็แล้วกัน เขาไปรับจ้างคนอื่นยังชีพ เขาได้งานแปลกประหลาดทำ คือ การปลุกคนให้ตื่นขึ้นมาทำงานแต่เช้าตรู่ เรียกว่า เป็นนายยามคอยปลุกคน ว่าอย่างนั้นเถอะ เมื่อถึงเวลาจวนสว่าง เขาก็จะเดินตะโกนปลุกผู้คนจากบ้านนี้ไปบ้านโน้นด้วยเสียงอันดังว่า “พ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย ได้เวลาตื่นขึ้นมาทำงานแล้ว จงลุกขึ้นมาหุงข้าวหุงปลาเถิด ใครใคร่ทำบุญตักบาตรก็จงเตรียมภัตตาหารไว้ใส่บาตร” เขาได้ปฏิบัติหน้าที่นี้มาด้วยความซื่อสัตย์ รับเงินจากนายจ้างไม่กี่มากน้อย เพียงพอยังอัตภาพให้เป็นไปเท่านั้น วันหนึ่ง เขาเดินตะโกนปลุกชาวบ้านไปใกล้พระราชวัง พระเจ้าพิมพิสารทรงสดับเสียงของเขา จึงตรัสกับข้าราชบริพารผู้ใกล้ชิดว่า “เอ๊ะ นั่นเสียงคนมีเงินนี่” ว่ากันว่า พระเจ้าพิมพิสารทรงเชี่ยวชาญในศาสตร์ชื่อว่า “สัพพรวศาสตร์” (วิชาว่าด้วยเสียงร้องของคนและสัตว์ทุกชนิด) คือ ฟังเสียงคนพูดก็บอกได้ว่าใครเป็นอย่างไร ฟังเสียงสัตว์ต่างๆ ก็เข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร ไม่ทราบว่าทรงศึกษามาจากสำนักไหน แต่เชื่อว่าเรื่องนี้คงมีจริง เพราะได้ทราบว่าพระวิปัสสนาจารย์บางรูปท่านส่งเสียงนกเสียงกาคุยกันเข้าใจ ในตำนานเรื่องวันสงกรานต์ก็เล่าถึงหนุ่มธรรมบาล หลังจากครุ่นคิดคำตอบของกบิลพรหมไม่เข้าใจ นอนหมดอาลัยตายอยากว่าตนคงถูกตัดหัวแน่นอน ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งได้ยินเสียงนกสองตัวคุยกันเกี่ยวกับปริศนาที่ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาล แล้วตัวหนึ่งก็เฉลยคำตอบให้อีกตัวฟัง ธรรมบาลฟังภาษานกเข้าใจ จึงจำเอาไปตอบ และชนะกบิลพรหมในที่สุด เรื่องนี้ก็แต่งให้ธรรมบาลเป็นผู้เชี่ยวชาญใน “สัพพรวศาสตร์” ดุจเดียวกับพระเจ้าพิมพิสาร นางสนมได้ยินดังนั้น จึงสั่งให้คนตามไปดูเจ้าของเสียงว่าเป็นคนมีทรัพย์ดังที่ในหลวงรับสั่งหรือไม่ คนของนางไปแล้วกลับมารายงานว่านายคนนั้นเป็นคนยากจน มิได้ร่ำรวยดังในหลวงรับสั่ง พระสนมคิดว่า ในหลวงคงมิได้ตรัสเหลวไหลแน่นอน เพื่อพิสูจน์ให้รู้แน่ จึงกราบทูลขอพระบรมราชานุญาตพาพระธิดาไปพิสูจน์ความจริงโดยรับปากว่า ถ้าเป็นจริง จะนำทรัพย์ของบุรุษหนุ่มนั้นมาถวายพระราชาจนได้ นางสนมพร้อมพระธิดาใช้อุบายไปขออาศัยอยู่ที่บ้านกุมภโฆสกะ ใช้มารยาหญิงห้าร้อยเล่มเกวียน (อาจมากกว่านั้น) หลอกให้กุมภโฆสกะได้เสียกับลูกสาวของตนจนได้ หลังจากนั้นพระสนมก็ส่งสารไปกราบทูลพระเจ้าพิมพิสารให้ทรงมีพระบรมราชโองการ ให้ผู้คนในละแวกนั้นจัดมหรสพขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยให้ทุกคนออกเงินจำนวนเท่านั้นเท่านี้ ใครขัดขืนจะถูกลงพระอาญา พระสนมผู้ซึ่งบัดนี้เป็นแม่ยายกุมภโฆสกะรบเร้าให้ไปเขาหาเงินมาให้จงได้ เขาบอกว่าจะไปหามาจากไหน ก็เห็นๆ อยู่ว่าหาเช้ากินค่ำอย่างนี้ จะไปเอาเงินมาจากไหน “ลูกพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูก นี่เป็นพระบรมราชโองการนะ” แม่ยายเสียงแข็ง “ข้อนั้นน่ะรู้อยู่ แต่จะไปหาเงินมาจากไหน” เขากล่าว “ไม่รู้ล่ะไปหามาให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะต้องถูกลงพระอาญานะ” แม่ยายขู่ เขากลัวจะถูกลงพระอาญา จึงจำใจออกจากบ้าน แอบไปขุดเอาทรัพย์จำนวนที่ต้องการมา พระสนมก็ส่งเงินจำนวนนั้นเข้าวังหลวง มีพระบรมราชโองการให้ผู้คนละแวกนั้นจัดมหรสพในทำนองนี้หลายครั้ง กุมภโฆสกะก็ไปขุดเอาทรัพย์มาให้แม่ยายทุกครั้ง ทรัพย์เหล่านั้นถูกส่งมาไว้ในวังทั้งหมด วันดีคืนดี ราชบุรุษมาตามกุมภโฆสกะ ไปเฝ้าพระราชา เขาตกใจมาก ไม่รู้ว่าตนทำผิดอะไร จึงต้องถูกจับตัวไป พระเจ้าพิมพิสารรับสั่งให้ขนทรัพย์ของเขามากองไว้ต่อหน้า แล้วตรัสถามว่า “ทรัพย์ทั้งหมดนี้เป็นของเธอ พระสนม (แม่ยายเธอ) ส่งมาให้ เธอยังมีทรัพย์อีกใช่ไหม” เมื่อไม่สามารถจะปิดบังได้ เขาจึงรับว่าเป็นความจริง “ทำไมเธอจึงซ่อนทรัพย์ไว้มากมายอย่างนี้ ไม่นำออกมาใช้” พระราชารับสั่งถาม กุมภโฆสกะกราบทูลว่า “ข้าพระพุทธเจ้ากลับมามาตุภูมิหลังจากหนีไปเป็นเวลา ๑๒ ปี ไม่มีใครจำได้ ครั้นจะขุดทรัพย์ออกใช้ เกรงว่าคนอื่นจะไม่เชื่อว่าทรัพย์นั้นเป็นมรดกของข้าพระพุทธเจ้า จึงจำต้องทำงานรับจ้างเขาเลี้ยงชีพไปวันๆ พระพุทธเจ้าข้า” พระเจ้าพิมพิสารรับสั่งให้ขนทรัพย์ทั้งหมดเข้าไปกองไว้ในวัง รวมได้ประมาณ ๔๐ โกฏิ แล้วทรงคืนทรัพย์ทั้งหมดให้แก่เขา สถาปนาเขาเป็นเศรษฐีประจำเมืองราชคฤห์คนหนึ่ง พร้อมกับพระราชทานพระราชธิดาให้เป็นภริยาของเขาอย่างเป็นทางการอีกด้วย กุมภโฆสกะเศรษฐี ความจริงก็เป็นลูกเศรษฐีมาก่อน ภายหลังตกยาก ก็อดทนทำงานรับจ้างเลี้ยงชีพไป เมื่อได้โอกาสเหมาะจึงได้เปิดเผยสถานภาพของตนได้เป็นเศรษฐีประจำเมืองราชคฤห์ นัยว่าเขาเป็นเศรษฐีใจบุญ ทำบุญทำทานเสมอมั่นคงในพระรัตนตรัย สดับฟังธรรมเป็นนิจศีล ท้ายที่สุดได้ฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้า ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน เมื่อคราวตกทุกข์ก็ไม่ยอมแพ้ เมื่อคราวมั่งมีก็มิได้ลืมตน ทำบุญกุศลไว้ให้มาก เพื่อเป็นที่พึ่งพิงในสัมปรายภพ นับว่าเป็นชีวิตที่ควรเอาเยี่ยงอย่างแท้จริงแล คัดบางตอนมาจาก...หนังสือ พุทธสาวก พุทธสาวิกา ประมวลประวัติพระเถระพระเถรี อุบาสกอุบาสิกาสมัยพุทธกาล เรียบเรียงโดยศาสตราจารย์พิเศษ เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต =========================
อุบาสก ในสมัยพุทธกาล http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=71&t=46457 |
เจ้าของ: | AAAA [ 14 ม.ค. 2019, 09:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กุมภโฆสกะ เศรษฐีผู้ตกยาก : เสฐียรพงษ์ วรรณปก |
4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ |
เจ้าของ: | sirinpho [ 25 เม.ย. 2022, 10:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กุมภโฆสกะ เศรษฐีผู้ตกยาก |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |