ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

กุณฑลเกสีเถรี (ชัมพุปริพาชิกา-นักโต้วาทีหญิง)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=71&t=21229
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ฌาณ [ 24 มี.ค. 2009, 08:54 ]
หัวข้อกระทู้:  กุณฑลเกสีเถรี (ชัมพุปริพาชิกา-นักโต้วาทีหญิง)

กุณฑลเกสีเถรี
(ชัมพุปริพาชิกา-นักโต้วาทีหญิงในสมัยพระพุทธเจ้า)

เศรษฐีที่ใช้ชีวิตหรูหราในสมัยพุทธกาล ดูจะวัดกันด้วยการอยู่ปราสาท 7 ชั้นครับ

:b51: :b52: :b53:

ลูกสาวเศรษฐี...สวยมาก อายุย่าง 16 ปี พ่อแม่ทำต่างหูอัญมณี ค่ามหาศาลประดับมวยผมให้ แล้วให้อยู่แต่บนปราสาทชั้น 7 คงห่วงต่างหูเพชร กับหวงลูกสาว เท่าๆกัน

วันหนึ่ง...ลูกสาวเศรษฐีมองลงไปที่ท้องถนนเห็นโจรนักโทษประหาร ถูกมัดมือไพล่หลัง ถูกโบยด้วยหวาย ก็เกิดหลงรักโจร...จนกินข้าวปลาอาหารไม่ลง ถ้าไม่ได้โจรเป็นผัว ก็จะขอตาย...

แม่ต้องไปติดสินบน เอาตัวโจรมาเป็นผัวลูกสาว

โจรรอดประหาร แทนการสนองคุณ เห็นอัญมณีมีค่าประดับ

มวยผมภรรยาก็หลอกว่า บนบานเทวดาที่หน้าผาภูเขาทิ้งโจรเอาไว้ ต้องไปแก้บนกันเพียงสองคน

เมื่อไปถึงหน้าผา ก่อนฆ่า...โจรมีจรรยาบอกความจริง ลูกสาวเศรษฐีคนนี้ฉลาด อ้อนวอนว่าจะยกเครื่องประดับทั้งหมดให้ เจรจาหว่านล้อมเท่าไหร่ โจรก็ไม่ใจอ่อน

ไหนๆ ก็จะตายแล้ว ลูกสาวเศรษฐีอ้อนขอเห็นหน้าโจรให้ถนัดอีกครั้ง ขอทำประทักษิณ (เดินเวียนขวา) สามครั้ง ขอไหว้โจรตามทิศทั้งสี่อีกสี่ครั้ง โจรเผลอใจ...ลูกสาวเศรษฐีก็ใช้ท่าไม้ตาย

ขอกอด...กอดข้างหน้า กอดข้างหลัง จังหวะนี้ก็ได้ที

ผลักโจรตกเหวตาย... :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

เอาชีวิตรอดจากผัวโจร ลูกสาวเศรษฐีไม่กล้ากลับบ้าน ทิ้งเครื่องประดับเร่ร่อนอยู่ในป่า เจอนักบวชกลุ่มปริพาชก ก็ขอบวชเป็นปริพาชิกา

สำนักปริพาชก มีสองวิชาให้เลือก วิชาแรกคือทำกสิณ 10 ทำให้เกิดฌาน และวิชาพันวาทะ (สมัยนี้น่าจะเรียกว่าวิชาโต้วาที) ปริพาชิกาขอเรียนวิชาพันวาทะ

เรียนจบ...อาจารย์ก็ตัดกิ่งหว้ายื่นใส่มือ บอกว่า ถ้าเจอคฤหัสถ์โต้วาทีเอาชนะ ก็ขอให้นางยอมเป็นเมีย ถ้าเจอบรรพชิต ก็ขอให้ยอมบวชในสำนักนั้น

นับแต่ปริพาชิกาถือกิ่งหว้า ประกาศท้าโต้วาที เอาชนะผู้รู้หลายสำนักได้ ชื่อเสียงเลื่องลือไปไกล จนไม่มีสำนักใดกล้าสู้ นางปักกิ่งหว้าที่ไหน กิ่งหว้าก็ถูกปล่อยให้เหี่ยวแห้ง

ตอนนี้เอง เธอถูกเรียกว่า ชัมพุปริพาชิกา (ปริพาชิกากิ่งหว้า)

แล้วก็ถึง...วันนั้น วันที่เธอไปปักกิ่งหว้าท้าโต้ปัญหากับพระสารีบุตร อดีตมือหนึ่งสำนักสัญชัยปริพาชก ปัจจุบันเป็นอัครสาวกฝ่ายขวาของพระพุทธเจ้า

พระสารีบุตรตอบทั้งพันปัญหาได้โดยง่าย เมื่อพระสารีบุตรตั้งคำถาม...แรก อะไรชื่อว่า...หนึ่ง นางตอบไม่ได้ พระสารีบุตรเฉลยว่า “พุทธมนต์”

“ถ้าอยากรู้ว่าพุทธมนต์คืออะไร ก็ต้องบวชในสำนักอาจารย์ของเรา”

ปริพาชิกากิ่งหว้าบวชแล้วไม่กี่วันก็บรรลุอรหันต์ ได้ชื่อตามประวัติดั้งเดิม กุณฑลเกสีเถรี

นี่คือเรื่องราวของยอดนักโต้วาทีหญิงในสมัยพระพุทธเจ้า กว่าจะเก่งชนิดไร้เทียมทาน เธอมีทั้งสติปัญญา เคี่ยวกรำด้วยประสบการณ์ทั้งด้านดีด้านร้าย ไม่ว่าแพ้ชนะทุกฝ่ายก็ยอมรับ



:b44: พระกุณฑลเกสีเถรี อดีตปรัชญาเมธี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=71&t=57212

เจ้าของ:  vini [ 17 ส.ค. 2009, 05:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชัมพุปริพาชิกา (นักโต้วาทีหญิงในสมัยพระพุทธเจ้า)

:b8: อนุโมทนาสาธุครับ :b8:

เจ้าของ:  ไหว้พระปล่อยปลา [ 17 ส.ค. 2009, 10:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชัมพุปริพาชิกา (นักโต้วาทีหญิงในสมัยพระพุทธเจ้า)

อนุโมทนาครับ

เจ้าของ:  nateay [ 20 ก.ย. 2011, 19:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชัมพุปริพาชิกา (นักโต้วาทีหญิงในสมัยพระพุทธเจ้า)

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนามิ
ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปคะ


ไฟล์แนป:
567.jpg
567.jpg [ 33.53 KiB | เปิดดู 7229 ครั้ง ]

เจ้าของ:  dooper [ 10 ก.พ. 2012, 19:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ชัมพุปริพาชิกา (นักโต้วาทีหญิงในสมัยพระพุทธเจ้า)

ครอบครัวมดแก้วขออนุโมทนา สาธุการครับ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/