วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 13:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2019, 20:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


ก้าวหน้าในการงาน เบิกบานด้วยธรรมะ
พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (หลวงปู่วัน อุตฺตโม)
วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร


รูปภาพ

ต่อไปนี้จะได้กล่าวถึงการปฏิบัติงาน ก่อนอื่นที่พวกท่านทั้งหลายจะทำความเข้าใจหรือฟังเรื่องต่างๆ นั้น ก็ขอให้สำนึกถึงหน้าที่การงานของพวกท่านทั้งหลาย ที่ต่างคนต่างก็เป็นผู้ที่มีสิทธิมีหน้าที่ ในหน้าที่ตำแหน่งของตนของพวกท่านทั้งหลาย ที่ได้มาปฏิบัติอยู่นี้ก็เนื่องจากความอุตสาหะพยายาม ที่พวกท่านทั้งหลายได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาความรู้มาตามแขนงวิชาความรู้ที่ตนของตนถนัดและจะปฏิบัติต่อไป ในการศึกษาเล่าเรียนนั้นเราก็ได้รับความอุปการะจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ท่านเป็นผู้ที่มุ่งดีหวังดีในทางที่จะให้พวกเราได้รับการศึกษา ได้วิชาความรู้ ได้มีหน้าที่ตำแหน่ง เมื่อพวกท่านทั้งหลายได้สำเร็จการศึกษามาแล้ว และก็มีหน้าที่ตำแหน่งแล้วอย่างนี้ ก็ควรจะมีความปลื้มปีติยินดีในหน้าที่ตำแหน่งของตนที่ได้มา ให้พออกพอใจในหน้าที่ตำแหน่งนั้น หากว่าเรามีความปลื้มปีติยินดีในหน้าที่ตำแหน่งของเราเท่านั้น เท่าที่ได้มา เท่าที่มีอยู่นั้น พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าเป็นสันโดษ คือยินดีตามมีตามได้ เป็นผู้มีคุณธรรมอย่างหนึ่ง เมื่อเรายินดีตามมีตามได้ของเราแล้ว เรื่องอื่นเช่นการเอารัดเอาเปรียบกันจะไม่มี ทีนี้การแก่งแย่งในหน้าที่ตำแหน่งกันก็จะไม่มี เพราะต่างคนต่างรู้สึกแล้วว่า เราเป็นผู้ได้มาซึ่งตำแหน่งอันเป็นที่พึงพอใจแก่ตนของตนแล้ว

บุคคลที่เบื่อในสิ่งที่ตนมีอยู่นั้น จึงเป็นคนก่อความเดือดร้อนให้แก่ตนและคนอื่นด้วย คือพอได้ตำแหน่งหน้าที่ตำแหน่งมาแล้ว นานๆ ไปก็ชิน เรียกว่าจำกินไป ก็เกิดความเบื่อหน่าย เมื่อเกิดความเบื่อหน่ายก็มีความทะเยอทะยาน อยากจะสูงขึ้นไป ยิ่งขึ้นไป แต่แล้วผลก็คือความแก่งแย่งกัน มีผู้มีหน้าที่ตำแหน่งสูงกว่า เราคิดอิจฉา หาเรื่องหาราวใส่กันและกัน หาเรื่องทับถมกัน หาเรื่องโฆษณาโจมตี ใส่ร้ายป้ายสีกันและกัน เพื่อให้ผู้ใหญ่ที่เหนือเรานั้นได้รับความเสื่อมเสีย เพื่อเราจะได้ไปครองตำแหน่งนั้น นี่เรียกว่าเกิดความไม่ยินดีตามมีตามได้ เมื่อเรามีความยินดีตามมีตามได้แล้ว เราก็ไม่มีความเดือดร้อน ตัวของเราก็ไม่เดือดร้อน คนอื่นก็จะไม่พลอยได้รับความเดือดร้อนด้วย ต่างก็จะทำหน้าที่การงานของตนๆ อันนี้เป็นสิ่งที่พวกเราทั้งหลายควรมีความปีติยินดีตามหน้าที่ตำแหน่ง บำเพ็ญซึ่ง สันตุฏฐี ความยินดีตามมีตามได้ แล้วความก้าวหน้าก็จะเป็นไป และความชอบธรรมนี้ประการหนึ่ง

ประการที่สอง คือความระลึกได้ ความระลึกได้นี้เราต้องนึกถึงตัวของเราอยู่เสมอ ระลึกถึงคนอื่นอยู่เสมอ เห็นอกเห็นใจกันอยู่เสมอ เห็นตัวของเรา โดยมากถ้าเราระลึกถึงตัวของเราไม่ได้ มองดูตัวของเราไม่เห็นแล้ว คนเรามักจะเป็นคนที่เสียการเสียงาน เสียหน้าที่ตำแหน่งไปได้ เพราะเราไม่มีความระลึก ทีนี้เราระลึกถึงบุญคุณของบิดามารดา ปู่ย่าตายาย ผู้ที่ให้ความอุปการะเรา เราก็จะได้มีการตอบสนองบุญคุณของท่านผู้มีคุณ เจ้านายผู้ใหญ่เหนือเราท่านให้ความอุปการะ มีเมตตามีความรักใคร่ในตัวเรา เมื่อเราระลึกถึงคุณงามความดีอย่างนั้น เราก็จะได้แสดงความเคารพนับถือท่านตามฐานะ เราจะไม่คิดก้าวก่าย ไม่คิดลบล้างความดีความชอบของท่าน หากว่าท่านพลั้งพลาดมีความผิดอย่างใดอย่างหนึ่ง เรายังมีความเอ็นดูสงสารที่ท่านคอยตักเตือน ให้อุบายปัญญาเพื่อท่านจะได้รู้สึกตัวในความผิดอันนั้น ถ้าหากท่านมีความดีความชอบแล้ว เราก็จะพยายามเชิดชูให้ท่านได้ก้าวหน้าต่อไป

ถ้าหากเรามีความระลึกได้อย่างนี้ พวกเราก็จะร่วมการร่วมงานกันไปได้ตามฐานะ ผู้น้อยก็ทำหน้าที่ตามผู้น้อย ผู้ใหญ่ก็ทำหน้าที่ตามผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เหลียวแลเรา บางครั้งอาจจะตักเตือนเราบ้าง ว่ากล่าวเราบ้าง เนื่องจากว่าบางสิ่งบางอย่างเราอาจจะพลาดพลั้งไป หรือเราอาจไถลไปในสิ่งที่ไม่ดี ท่านก็มีความตักเตือนด้วยเมตตากรุณา เราเป็นผู้น้อยก็ควรรับฟังด้วยดี ถ้าหากตักเตือนแล้วเราไม่ชอบในคำตักเตือนนั้น ความโกรธก็จะเกิดขึ้น ความอาฆาตก็จะตามมา ในที่สุดก็จะเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา ทะเลาะกันในวงงาน ผู้น้อยไม่เคารพผู้ใหญ่ก็ตึงเครียดใส่กัน ในที่สุดก็ร่วมการร่วมงานกันไม่ได้ แล้วงานนั้นเลยไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แล้วก็เสียส่วนใหญ่ คือเราอยู่ในวงการใดก็เสียวงการนั้น ชื่อเสียงของกรมนั้น กองนั้น ก็เสียไปต่างๆ นี้ก็เนื่องจากตัวของเรานี่แหละ ประการที่สอง ระลึกได้ คือระลึกในสิ่งที่ดีที่ชอบ


ประการที่สาม ตรึกตรอง เราเป็นผู้ที่ได้มีวิชาความรู้ ได้ทำการทำงานล้วนแต่ใช้ความรู้ทั้งนั้น ทีนี้เราจงเป็นผู้ที่ควรตรึกตรองใคร่ครวญ พิจารณาในสิ่งที่เราจะต้องทำ ในงานที่เราจะต้องปฏิบัติ ต้องใช้ปัญญาความตรึกตรองเสียก่อน คืออย่าผลุนผลัน จะทำสิ่งใดก็ดี จะพูดสิ่งใดก็ดี จะคิดสิ่งใดก็ดี ต้องอยู่ในดุลยพินิจหรือความตรึกตรองพินิจพิจารณา เมื่อเรามีความตรึกตรองแล้วก็จะเกิดการมองเห็น คือมองเห็นผิดมองเห็นชั่ว มองเห็นว่าทางนี้จะเป็นไปในทางที่เสื่อมหรือจะเป็นไปเพื่อความเจริญ เราก็สามารถมองเห็นได้ก็เนื่องจากเรามีความตรึกตรอง พินิจพิจารณานั่นเอง เราจะได้รู้ในหน้าที่การงานเท่าที่เราจะปฏิบัติไป การปฏิบัติด้วยความฉลาดความพินิจพิจารณา ความพลั้งพลาดก็มีน้อย แต่จะไม่มีเสียเลยก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ คิดว่าคนทำงานต้องมีความกล้า ถ้าคนไม่ต้องการพลาดก็ไม่ต้องทำอะไร เมื่อทำก็ต้องมีการพลาดอยู่บ้าง

แต่ทั้งนี้ก็อาศัยความพลั้งพลาดแต่ละครั้งเป็นบทเรียนที่เราต้องจำ รู้จักเข็ดหลาบ รู้จักจดรู้จักจำในสิ่งที่เราพลาดไปแล้ว ต่อไปเรื่องอย่างนี้ก็อย่าให้เกิดขึ้นอีก ถือความพลาดพลั้งเป็นบทเรียน ถือเป็นครูเป็นอาจารย์ที่จะบอกสอนตัวเราว่า ต่อไปอย่าให้พลาดอีก อย่าให้ผิดอีก นี้เราก็บอกสอนตัวเราเองไปได้ เพราะเรามองเห็นที่ผิดที่ถูกไปแล้ว ทีนี้เรามองเห็นที่ผิดที่ถูกอย่างนี้ การงานของเราก็จะเป็นการงานที่เรียบร้อยได้ สิ่งใดก็จะสำเร็จ ทำสิ่งใดก็จะเป็นผลขึ้นมา นี้แหละจึงเรียกว่ามองเห็นมองได้ ทีนี้เราก็มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อการงานนั้นอีก คือเป็นคนที่ตรงไปตรงมาต่อหน้าที่การงาน ไม่โกงงานไม่โกงเวลา ไม่โกหกพกลมต่างๆ พยายามทำงานนั้นด้วยความสุจริต รักในงานเหมือนว่ารักในตนของตน เรารักงานได้ชื่อว่าเรารักตน เรารักงานได้ชื่อว่าเรารักประเทศชาติบ้านเมือง

ให้ถือว่าการงานเป็นหน้าที่ที่เราจะต้องรับผิดชอบ แล้วเราก็จงรักภักดีในงาน ซื่อสัตย์ในงาน ไม่โกงงาน ไม่โกงเวลาในงาน ตั้งใจทำงานตามกาลตามเวลา มีอุปสรรคขัดข้องอันนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เราก็ไม่ถือเอาความขัดข้องตลอดไป พยายามทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เรียกว่ามีความซื่อสัตย์บริสุทธิ์ในการงาน แล้วทีนี้เราก็ต้องมีการวัดผลของงานอีก งานใดที่เราทำลงไปผลเกิดขึ้นเช่นใด อันนี้เราก็ต้องวัด เป็นผลดีหรือผลเสีย มีการวัดผลอยู่เสมอ จะเป็นงานสิ่งใดก็ตาม เมื่อเราทำลงไปเราก็พยายามวัดไปเรื่อยๆ อันนี้จะได้รู้ว่างานนี้ถูกหรือผิด เสื่อมหรือเจริญ เพราะเรามีการวัด เราไม่เป็นคนที่งมงาย คนที่งมงายคือคิดว่าทำอะไรก็คิดว่าดีไปเรื่อย ทั้งที่ไม่ดีก็ว่าดีอยู่ ทั้งนี้ก็เนื่องจากเราไม่ได้วัดผลดู ถ้าเราวัดผลดูเราก็จะรู้ ถ้าเราทำงานเกี่ยวกับผล เมื่อเราทำไปแล้วเราวัดผลดู ว่าเรานิยมชมชอบด้วยหรือไม่ เรายินดีพอใจหรือไม่ อันนี้เราจะต้องวัดผล แล้วเราก็จะรู้ว่างานนี้เราทำเป็นที่พออกพอใจแก่คนอื่น คนอื่นได้รับผลประโยชน์เท่าที่ควร

นี้เรียกว่าเราวัดผลดูเราก็รู้ มิใช่ว่าเราจะทำไปตามความคิด ทำแล้วก็แล้วไปไม่รับผิดชอบ ความเป็นผู้รับผลงานคือความรับผิดชอบในหน้าที่การงานของเรา ดีเราก็บอกว่าดี ไม่ดีเราก็บอกว่าไม่ดี ดีแค่ไหนเราก็บอกว่าดีแค่นั้น เราไม่ได้บอกว่าดีเสมอไป เราก็ตามงานที่เราทำลงไปได้ ว่างานที่เราทำลงไปนั้นดีขนาดไหน และให้คิดเสมอว่าที่ดีกว่านี้ยังมีอีก เราต้องทำไป ที่เราสามารถต่อไปเราก็ทำดีไปเรื่อย นั้นจึงได้ชื่อว่างานก้าวหน้า นี่แหละการประกอบการงานนี้ เราต้องถือหลักประพฤติปฏิบัติดังที่กล่าวมาแล้ว คือมีความขึ้นใจให้ระลึกตรึกตรอง มองเห็นเป็นสัดเป็นส่วนวัดผล นี้เป็นหัวข้อที่ต้องไปค้นไปคิด ทีนี้เมื่อเรามีหัวข้อคือคุณธรรมทั้งหลาย การดำเนินงานก็จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถือเอาหลักศีลธรรมเป็นหลักประจำตัวของเรา ให้ระลึกธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธเจ้าสอนให้มนุษย์เรานี้ประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทั้งประโยชน์ในปัจจุบันและประโยชน์ในสัมปรายภพ และทั้งปรมัตถประโยชน์ แล้วแต่เราจะบำเพ็ญได้

คัดมาจาก : หนังสือที่ระลึกในงานเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงเปิดเจดีย์พิพิธภัณฑ์
พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (พระอาจารย์วัน อุตฺตโม) พิมพ์เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๒


:b8: :b8: :b8:


:b44: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่วัน อุตฺตโม”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=25699

:b44: รวมคำสอน “หลวงปู่วัน อุตฺตโม”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=50326


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2020, 09:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1322


 ข้อมูลส่วนตัว


4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2022, 18:17 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2023, 18:55 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 27 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร