วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 09:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2015, 07:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออนไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย



ผู้มีปัญญาแล้วย่อมรู้จักรักษาสุขภาพอนามัยของร่างกายไว้ได้
สิ่งใดที่จะเป็นภัยต่ออัตภาพต่อร่างกายนี้ก็อย่าไปบริโภคมัน

เช่น อย่างของเสพติดให้โทษต่างๆ หมู่นี้
ล้วนแต่เป็นภัยต่อร่างกายทั้งนั้นเลย

อย่าว่าแต่สุรายาฝิ่นเฮโรอีน แม้แต่บุหรี่นี่
ก็เป็นภัยต่อร่างกายมากมายแต่คนติดมันเหลือเกินนะ
ชอบกลิ่นชอบรสของมัน สำหรับผู้ประพฤติธรรม
ผู้เจริญสมาธิเจริญปัญญาแล้วย่อมพิจารณา
เห็นโทษของมันแล้วไม่ยากเลย ออกได้สบาย
ขอให้จิตนี้ออกแล้วร่างกายนี้ก็ออกได้เลย
ถ้าจิตออกไม่ได้ ถ้าจิตสละไม่ได้แล้ว ร่างกายนี้ก็สละไม่ได้

ไม่ว่ากรณีใดๆเหมือนกันหมดเลย

การละความชั่วทำความดีนี่ ขอแต่ใจมันเบื่อหน่าย
มันสละลงได้แล้วไม่มีปัญหาเรื่องร่างกายแล้ว

จะเป็นฝิ่นเป็นเฮโรอีนก็ตามนะครั้นถ้าใจออกแล้วน่ะมันออกได้
มันน่ะหาวิธีการอยู่นั่นแหละ เคยได้พบคนบางคนมา
เขาออกสุราด้วยการต้มใบฝรั่งนะใบสีดานี่นะ
รับประทานไปเรื่อยๆ ประมาณสองเดือนนี่ออกได้เลยนะ
เบื่อเลยสุรานั่นน่ะ อย่างนี้แหละสำหรับคนผู้ที่ใจตั้งมั่นลงไปแล้ว
มันก็มองเห็นลู่ทางที่จะละสละสิ่งที่ชั่วร้ายออกจากตนน่ะ


ร่างกายอันนี้น่ะมันต้องอยู่ได้ด้วยการประคบประหงม
ด้วยการบำรุงรักษา
สำหรับวิทยาศาสตร์สมัยนี้น่ะมันเจริญมาก
การแพทย์การอะไรก็เจริญ เขาก็วิจัยเห็นสิ่งใดที่เป็นภัยต่อร่างกาย
เขาก็ประกาศทางวิทยุกระจายเสียงบ้าง ทางสื่อสารมวลชนสารพัด
เพื่อให้คนทั้งหลายได้อ่านพบ ได้ยินได้ฟังแล้วไปพิจารณาดูตน
ว่าตนได้เอาสิ่งที่มีพิษมีภัยต่อร่างกายนั้นมาบำรุงมาส้องเสพอยู่หรือไม่
และเมื่อตนได้ส้องเสพของเหล่านั้นอยู่ก็จะได้เห็นโทษของมัน
ก็ได้ละมันไปเสีย นี่หมู่นี้ควรพิจารณาดู
เพราะนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายนั่นเขาย่อมสามารถรู้ได้
ถึงวัตถุธาตุต่างๆ หมู่นี้ สามารถวิจัยได้ว่าสิ่งใดมีคุณมีโทษ
ไม่มีผิดแน่นอนเลย ผู้ใดปฏิบัติตามแล้ว
หวังว่าคงจะมีสุขภาพอนามัยดีแน่นอนทีเดียว

อย่างผู้ที่พูดอยู่นี่อันนี้ภาวนาเห็นโทษของบุหรี่
เห็นด้วยทางภาวนาจริงๆ แต่ก่อนนี้โหย..ติดบุหรี่เป็นจอมเลยแหละ
พอภาวนาไปพิจารณาเห็นโทษของมันแล้วก็งดกันไปเอาเฉยๆ นี่
ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรเล้ย งดเอาเฉยๆ แล้วมันก็แล้วไปเลย
เมื่อจิตนี้ไม่อยากแล้วใจก็ไม่อยากจนเท่าทุกวันนี้เลย
ล่วงเลยมาตั้งอาจจะได้ถึงยี่สิบปีแล้วแหละ
แล้วปรากฏว่าสุขภาพของร่างกายนี้ ดีวันดีคืนขึ้น
นี่เห็นได้ชัดๆ เลยทีเดียว


และอย่างหนึ่งระมัดระวังอย่าให้ท้องผูก
นี่ต้องพยายามชำระกระเพาะลำไส้นี่ให้สะอาด
ไม่ให้อาหารเก่ามันติดเกรอะกรังอยู่ในกระเพาะในลำไส้
ต้องพยายามรับประทานยาระบาย ทำล้างกระเพาะลำไส้ให้สะอาด
อย่างนี้นี่มันจะไม่เป็นสมุฏฐานที่เกิดแห่งโรคภัยไข้เจ็บ
เท่าที่พิจารณาดูมาแล้วคนที่มีโรคภัยไข้เจ็บ
ออดๆ แอดๆ เกิดขึ้นในร่างกายบ่อยๆ นี่
เนื่องจากปล่อยให้อาหารเก่ามันติดเกรอะกรัง
อยู่ในกระเพาะในลำไส้ทีละเล็กทีละน้อย

แล้วมันก็เป็นเหตุให้อาหารใหม่ที่รับประทานเข้าไปนี่
มันเกิดอืดเกิดเฟ้อเกิดเสียขึ้นตามกันไป
ดังนั้นการที่ไฟธาตุย่อยอาหารไปหล่อเลี้ยงร่างกายก็ไม่สะดวก
ในเมื่ออาหารนี่มันไปเกิดบูดขึ้นในกระเพาะลำไส้
ดังนี้แหละเพราะฉะนั้นสุขภาพของร่างกาย
ก็จึงไม่สมบูรณ์ได้ บางคนนะ

และก็ประกอบกับเสพของเสพติดเหล่านั้นเข้าไป เข้าไปอีก
โดยเฉพาะบุหรี่เนี่ย อันสุรายาเมานั้นก็อาจจะมี
เป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้นแต่ส่วนบุหรี่เนี่ย
รู้สึกว่ามันสูบกันทุกวั๊นทุกวัน วันละหลายซองเข้าไปหลายมวนเข้าไป
อย่างนี้มันก็ไปทำลายอวัยวะภายในนั้นให้เสื่อมเสียไปมากมายทีเดียว
ดังนี้แล้วมันจะให้อายุยืนยาวนานไปได้อย่างไร
เมื่อสุขภาพอนามัยของร่างกายไม่ดีแล้ว
การที่จะมาประกอบกุศลคุณงามความดีนี่มันก็เป็นไปได้ยากทีเดียว
การที่จะมาสั่งสมบุญกุศลอย่างนี้ก็แสนยาก
อย่าว่าแต่มาสั่งสมบุญกุศลเล้ย แต่จะทำมาหาเลี้ยงชีพ
เลี้ยงตัวเองและครอบครัวนี่ก็แสนยาก
ลำบากเต็มที

นี้แหละ "การปฏิบัติธรรมคือการปฏิบัติกาย วาจา ใจ"
ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อทำจิตให้สงบลงไปแล้ว
มันเกิดปัญญาขึ้นมาแล้ว มันรู้จักสิ่งใดที่ควรทำ สิ่งใดที่ไม่ควรทำ

สิ่งใดที่ทำลายความสุขความสงบของจิตได้
สิ่งใดที่เป็นเครื่องสนับสนุนความสุข ความสบาย ความสงบของจิตใจมันก็รู้
เมื่อมันรู้แล้ว สิ่งใดควรละมันก็ละได้ สิ่งใดควรทำมันก็ทำได้
ตลอดที่เจริญด้วยคุณธรรมสูงยิ่งๆ ขึ้นไป



:b44: :b44:


ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“ควรถอนตนออกจากทุกข์”



:: ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 29 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร