วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 02:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2015, 10:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

พระอาจารย์ประสิทธิ์ ปุญญมากโร
วัดป่าหมู่ใหม่
ต.แม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่


จิตเกิดอัศจรรย์ในธรรม
แรงบันดาลใจให้อยากบวช

บันทึกโดย ครูบากล้วย - พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท


:b39:

หลวงพ่อประสิทธ์ ปุญญมากโร ในวัยเด็กของท่าน
ท่านใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว และท้องไร่ท้องนาเป็นหลัก
ท่านบอก แต่ก่อนเราก็เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย
เล่นหัวไปตามประสาเด็กบ้านนอกชนบททั่วไป
แต่พอนานวันเข้าท่านกลับมีความคิดเปลี่ยนไป
มีความคิดหนึ่งเกิดขึ้นในใจของท่าน

ท่านมีความคิดขึ้นมาว่า ชีวิตเราเกิดมาเพื่ออะไร
เราเกิดมาเพื่อใคร เรามาอยู่ในที่ตรงนี้เพื่ออะไร
คำถามต่างๆ เหล่านี้จะวนเวียนเกิดขึ้นมาในใจของท่านประจำ
ท่านเองในตอนนั้นก็หาคำตอบให้กับใจของตนเองไม่ได้
คำถามต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นมาในใจขององค์ท่านเมื่ออายุ ๑๔ ปี


วันหนึ่งในฤดูตกกล้าทำนา พ่อสนธิ์ (หลวงปู่สนธิ์ พ่อขององค์ท่านหลวงพ่อประสิทธิ์)
ใช้ให้ท่านไปเฝ้าควาย เพราะกลัวว่าควายจะแอบเข้าไปลักกินต้นกล้า
หลังจากหลวงพ่อประสิทธิ์ท่านเฝ้าเลี้ยงควายอยู่นาน
ท่านรู้สึกเหนื่อยร้อนแดด ท่านจึงหลบเข้ามานั่งพักอยู่ในเถียงนา (ห้างนา-ขนำนา)


ท่านนั่งมองดูพ่อกับแม่ช่วยกันดายหญ้า ถอนหญ้าในที่นา
ขณะท่านมองดูพ่อแม่ถอนหญ้าดายหญ้าอยู่ในนานั้น
ท่านเกิดมีคำถามขึ้นมาในใจของตนเอง
“ชีวิตแต่ละเดือน แต่ละปี มันหมุนเวียนอยู่แต่เพียงแค่นี้หรือ
เสร็จจากหน้านาก็ไปทำไร่ เสร็จจากทำไร่ก็ไปทำนา
หมุนเวียนเปลี่ยนวนอยู่อย่างนี้ไม่รู้จักจบสิ้นเป็น
จะมีหนทางอื่นไหมที่เราจะหลุดพ้นจากวิถีชีวิตแบบนี้”

องค์ท่านนั่งคิดนั่งตรึกอยู่คนเดียวบนห้างเถียงนา
เมื่อหาคำตอบให้ใจของตนเองไม่ได้
องค์ท่านจึงนั่งหลับตาพิจารณาหาเหตุหาผลให้ใจของตนเองในเรื่องนี้

เริ่มแรกท่านบอก เราก็ปล่อยจิตปล่อยใจของตนเอง
ให้มันไหลล่องลอยไปตามอารมณ์ความคิดที่ใจสร้างขึ้นมา
ขณะที่เรากำลังปล่อยจิตปล่อยใจของตนเอง
ให้ไหลล่องลอยไปตามอารมณ์ความคิดอยู่นั้น
จู่ๆ มีคำพูดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจของเรา...

“จะปล่อยใจให้ไหลไปตามความคิดของอารมณ์ทำไม
ให้เอาสติของตนเองมาจับจ่ออยู่ที่ลมหายใจเข้าออกจะดีกว่า
ชีวิตคนเราอยู่หรือตายก็อยู่ที่ลมหายใจของตนเองนี่แหละ”


ทีแรกท่านเองก็นึกแปลกใจว่าทำไมเราถึงมีความคิดแบบนี้ผุดขึ้นมา
แต่อีกใจหนึ่งท่านก็อยากจะทำตามความคิดแบบนี้ดู
หลวงพ่อประสิทธิ์ท่านจึงเอาสติของตนเอง
มาจับจ่อที่ปลายจมูกตรงทางเข้าออกของลมหายใจ


ชั่วเวลาไม่นานประมาณสิบนาที
จิตของท่านเกิดอาการวูบวาบวับแวมแสงระยับขึ้นมาในตาให้เห็น
จากนั้นจิตของท่านก็ดำดิ่งลงสู่ความสงบทันที


ท่านบอก จิตเป็นเอกัคคตาหนึ่งเดียวในความสงบ จิตเกิดโอภาสสว่างจ้าขึ้นมา
ณ ขณะนั้นไม่ปรากฏมีกายให้เห็น ไม่ปรากฏความคิดให้เห็น
จิตสว่างจ้าสดใสหาที่สิ้นสุดของขอบเขตแสงสว่างไม่ได้
จิตเราพักค้างอยู่ในความสงบสว่างสดใสแบบนี้อยู่นานร่วมสองชั่วโมง
ถึงถอนออกมาอยู่กับภาวะจิตครองขันธ์ห้าในปัจจุบัน


พอจิตถอนออกจากความสว่างสดใส ท่านลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เป็นเวลาย่ำค่ำแล้ว
องค์ท่านมองเห็นพ่อสนธิ์ (พ่อขององค์ท่านหลวงพ่อประสิทธิ์) ยืนอยู่ข้างเถียงนา
พ่อสนธิ์พูดกับท่านว่า ใช้ให้มาเฝ้าควายกับมานั่งหลับอยู่ที่นี่หรือ
พอว่าจบพ่อสนธิ์ก็ยิ้มให้กับท่าน หลวงพ่อประสิทธิ์ท่านบอก
ในใจของเราตอนนั้นอยากจะบอกพ่อว่า เราไม่ได้นั่งหลับเหมือนกับคนทั่วไป
แต่ตอนนั้นท่านก็ไม่รู้ว่าจะบอกเล่าอธิบายให้ผู้เป็นพ่อฟังอย่างไร
กับเรื่องเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา

พ่อสนธิ์บอกให้ท่านต้อนควายกลับบ้านได้แล้ว
เดี๋ยวค่ำมืดตืดตากว่านี้หูตาจะฟ่าฟางมองทางไม่เห็น...

หลวงพ่อประสิทธิ์ท่านไล่ควายรวมฝูงเพื่อต้อนกลับคอก
ตอนกำลังไล่ต้อนควายอยู่นั้นองค์ท่านเกิดฉุกคิดขึ้นมาในใจ
เอ..ปรกติถ้าเราไม่ได้มัดควายพวกนี้เอาไว้
ควายพวกนี้มันจะแอบเข้าไปลักกินต้นกล้าในนาอยู่เสมอ
ครั้งนี้เราก็เผลอเรอลืมผูกควายเอาไว้กับหลักแหล่ง
แต่ครั้งนี้ทำไมควายพวกนี้มันถึงไม่เข้าไปกินต้นกล้าในนา

องค์ท่านฉุกคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ จู่ๆ ความคิดหนึ่งเกิดผุดขึ้นมาในใจขององค์ท่าน
“ที่ควายไม่กินต้นกล้าก็เพราะพระธรรมที่เราปฏิบัติอยู่นั้นช่วยปกปักรักษาเอาไว้ให้”


เมื่อคำตอบนี้ปรากฏขึ้นมาในใจ
ท่านถึงกับอัศจรรย์ใจในธรรมที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติของตนเอง
ตอนขี่ควายกลับเข้าบ้าน ท่านบอก
เราเกิดปีติในใจที่จิตเราสงบรวมเป็นสมาธิครั้งแรก
นั่งบนหลังควายไปใจของตนเองก็ชุ่มเย็น...


เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังจากท่านกินข้าวปลาอาหารกับคนในครอบครัวเสร็จแล้ว
องค์ท่านหลบมานั่งพิจารณาถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเองเมื่อตอนกลางวัน
ท่านบอก เรามองดูเรือนชานบ้านช่อง มองดูวัวควายใต้ถุนบ้าน
เราคิดพิจารณาถึงไร่นาสาโทอันเป็นสถานที่
ประกอบสัมมาหาเลี้ยงชีพของตนเองและคนในครอบครัว

เราถามตนเองว่าอยากจะได้สิ่งเหล่านี้ไหม คำตอบในใจของเราคือ
ไม่อยากได้สิ่งเหล่านี้ เพราะมันเป็นทุกข์เวียนวนที่ไม่มีวันจบสิ้น


ท่านถามใจของตนเองว่า เราจะอยู่ในที่ตรงนี้อีกต่อไปได้ไหม

คำตอบในใจของท่านคือ “เราจะใช้ชีวิตอยู่แบบนี้อีกต่อไปไม่ได้แล้ว”

เมื่อมีคำตอบในใจของตนเองออกมาแบบนี้
ท่านจึงตั้งคำถามให้กับตนเองว่า
“ถ้าเราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว แล้วที่ไหนคือที่อยู่ของเราล่ะ”


คำตอบนั้นผุดขึ้นมาในใจของท่านทันที
“ที่อยู่ของเราคือวัด ที่อยู่ของเราคือพระศาสนา
นั่นคือสถานที่ที่เราจะอยู่ได้ตลอดชีวิต”


เมื่อคำตอบนี้ปรากฏ ท่านเกิดโล่งขึ้นมาในใจของตนเองทันที
ใจของท่านคิดถึงวัดป่านิโครธาราม
ใจของท่านคิดถึงองค์ท่านหลวงปู่อ่อน (ญาณสิริ)
ในคืนวันนั้นหลวงพ่อประสิทธิ์ท่านจึงตัดสินใจว่า
“ชีวิตนี้เราจะต้องบวชให้ได้ ถ้าเมื่อใดที่เราได้บวช
เราจะบวชตลอดชีวิตโดยไม่สึกออกมาเป็นฆราวาสครองเรือนกับใคร”


เมื่อหลวงพ่อประสิทธิ์ท่านได้ข้อสรุป
รู้ว่าชีวิตขององค์ท่านจะดำเนินไปในทิศทางใดแล้ว
ท่านบอก คืนวันนั้นเรานอนอย่างมีความสุข
ในชีวิตฆราวาสของเราไม่มีคืนไหนที่เราจะได้นอนสบายเท่ากับคืนวันนั้น
คืนวันที่เราตัดสินใจออกบวช คือคืนที่จิตเราสว่างจ้าทั้งราตรี
คืนนั้นเรานอนอยู่ในอิริยาบทสีหไสยาสน์จนตลอดรุ่ง
ตื่นมาร่างกายก็ไม่เหนื่อย จิตใจเกิดปีติสุขในความสงบ
จิตเป็นลหุตา กายเป็นลหุตา
(กายเบา จิตเบา) ไปพร้อมกัน


รูปภาพ
หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ - วัดป่านิโครธาราม

:b40:

:b45: รวมคำสอน “หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=50287

:b45: ประวัติและปฏิปทา “หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=21027


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2015, 06:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 เม.ย. 2015, 09:43
โพสต์: 702

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาบุญนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2017, 09:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 05:25
โพสต์: 621


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2020, 17:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1322


 ข้อมูลส่วนตัว


4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2022, 20:25 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2024, 19:56 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 19 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร