วันเวลาปัจจุบัน 17 เม.ย. 2024, 03:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2023, 05:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




ท่านพ่อลี ธมฺมธโร.jpg
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร.jpg [ 134.65 KiB | เปิดดู 2936 ครั้ง ]
.
"อริยบุคคลเบื้องต้น"

" .. "โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล" อริยบุคคลนี้เป็นผู้มีศีลอันเต็มรอบ คือ "เป็นผู้ไม่วุ่นในศีลแล้ว มิได้รักษาศีลเสียแล้ว" เพราะเป็นทาสศีลมานาน "ต่อนี้คุณศีลจะต้องตามรักษาท่านมิให้ตกไป ในอบาย ๔ ได้"

แปลว่า "เป็นผู้มีโทษอันเชื่องแล้ว ไม่ต้องวุ่นรักษา" ส่วนสมาธิกับป็ญญายังต้องท่าต้องรักษาอยู่ "อกุศลหยาบ ๆ ปราบแล้ว ยังอยู่แต่อย่างกลางและอย่างละเอียด" จะต้องปราบด้วยมรรคเบื้องสูงคือ "สกิทาคา" ต่อไป .. "

"จิตตวิชา"
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2024, 05:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1หลวงปู่จันทา ถาวโร (2).jpg
1หลวงปู่จันทา ถาวโร (2).jpg [ 30.13 KiB | เปิดดู 331 ครั้ง ]
.
"ผีโป่งกับพระกรรมฐาน"

" .. แหม .. "เราเป็นเจ้าของโป่งอยู่ที่นี่มาตั้งแต่สมัย ศาสนาของพระพุทธเจ้ากัสสโปโน่น" เคยเป็นนายพรานใหญ่ มาล่าสัตว์ที่นี่ แล้วขึ้นไปนั่งบนโคนโป่งใหญ่ "มีเสือตัวใหญ่ ยาว ๑๒ ศอกผ่านมาก็เลยยิงออกไป แต่ว่าเสือนั้นไม่ตาย มันจึงกระโดดเข้ามากัดเราตาย เราหึงหวงห่วงอาลัยในสถานที่นี้" เมื่อตายก็เลยกลายเป็นผีมาเสาโป่งอยู่ที่นึ่

นั่นแหละ "พอเห็นพระกรรมฐานจีวรคลํ้า ๆ ร่มใหญ่ ๆ บาตรโต ๆ เดินผ่านมามีรัศมีด้วยนะ" เราก็รู้ว่าพระจำพวกนี้ "มีธรรมจืดนะ ไปอยู่ที่ไหนก็จืดหมดทั้งนั้น ไม่มีใครสู้ได้ แต่เรา ก็สู้ด้วยฤทธิ๋ด้วยคาถา" คาถาของเราก็เป็นหนึ่ง ฤทธึ๋ของเราก็ เป็นเลิศประเสริฐ ไม่กลัวใครทั้งนั้น "แต่เราก็สู้ไม่ได้ เพราะคาถาของพระกรรมฐานนั้นเก่งกว่าเรา"

นั่นแหละ ก็ไปได้ชัยชนะกับผีโป่งที่นั่น ฉะนั้นเรื่อง "ผีสางคางแดงคางดำอะไรจึงไม่กลัวทั้งนั้น ธรรมพระไตรสรณคมน์เป็นของดีเลิศประเสริฐแท้ ผีเจ้าเข้าสิงใช้ทำ น้ำมนต์กำจัดปัดเป่าหายไปได้ทั้งนั้น" อันนี้ข้อสำคัญนั้นหมาย

ฉะนั้น "ขอให้เอาไปภาวนาเช้าเย็นอย่าให้ขาด" ไปไหนมาไหน ก็ภาวนาอย่างนั้น "ตายแล้วอบายไม่ได้ไป ไฟนรกไม่ได้ไหม้ จะได้ไปสวรรค์โดยเร็วพลัน" นึ่เรียกว่า "คาถาธรรมพระไตร สรณคมน์ เอาไปบริกรรม อย่าได้ขาด อย่าได้ประมาท" อันนี้ เป็นของดีเลิศประเสริฐแท้ .. "

"ธรรมพเนจร"
หลวงปู่จันทา ถาวโร


:b8: :b8: :b8:


*** ขออภัย ท่านผู้อ่านทุกท่าน เพราะไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้ จึงเอามาแนบกับกระทู้เก่า ๆ *** :b13:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..


แก้ไขล่าสุดโดย ธรรมโฆษ เมื่อ 23 มี.ค. 2024, 08:16, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2024, 05:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงปู่จันทร์ศรี จันฺททีโป  (4).jpg
หลวงปู่จันทร์ศรี จันฺททีโป (4).jpg [ 61.03 KiB | เปิดดู 315 ครั้ง ]
.
"ปัจจุบันธรรม"

" .. การที่จะทำให้จิตของเราให้เป็นสมาธิได้ "ให้เราตรวจดูเสียก่อนว่าตั้งแต่เช้ามาถึงเย็น เราได้ต้องอาบัติข้อไหนหรือไม่" ถ้ารู้ขึ้นในใจไม่ได้ต้องอาบัติ จิตของเราก็ไม่ได้เป็นห่วงในทางนั้น

แล้วก็คิดไปคิดมา ท่านให้เอาปัจจุบัน "ปจฺจุปนฺนญฺจ โย ธมฺมํ ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ" ท่านให้พิจารณา "สิ่งที่มันเกิดขึ้นกับใจในปัจจุบัน เป็นปัจจุบันธรรม" ให้ปฏิบัติอยู่อย่างนี้เป็นประจำ .. "

"๑๐๓ โอวาทธรรมคำสอน"
หลวงปู่จันทรศรี จนฺททีโป


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2024, 05:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงปู่จันทร์ศรี จันฺททีโป  (1).JPEG
หลวงปู่จันทร์ศรี จันฺททีโป (1).JPEG [ 71.7 KiB | เปิดดู 296 ครั้ง ]
.
"น้ำเจือสี"

" .. ธรรมดาจิตของมนุษย์นั้น "เกิดมาเหมือนกับน้ำที่มันใสสะอาด บางคนเอาสีแดง สีเหลือง เข้ามาใส่ในน้ำนั้น ก็กลายเป็นสีต่าง ๆ" จะหยิบยกมาเป็นอุทาหรณ์

จิตใจของเราเป็นเช่นเดียวกัน "ถ้าไปเอาความอยากเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ เอามามั่วสุมอยู่ในใจ เลยไม่ได้รับความสงบ" ร่างกายก็ไม่ค่อยสบาย .. "

"๑๐๓ โอวาทธรรมคำสอน"
หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2024, 05:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




_64_205.jpg
_64_205.jpg [ 131.71 KiB | เปิดดู 287 ครั้ง ]
.
"ศีล พืชแห่งความดีอันยอดเยี่ยม"

" .. "ศีล คือ รั้วกั้นความเบียดเบียนและทำลายสมบัติร่างกายและจิตของกันและกัน" ศีล คือ "พืชแห่งความดีอันยอดเยี่ยมที่ควรมีประจำชาติมนุษย์ ไม่ปล่อยให้สูญหายไป" เพราะมนุษย์ไม่มีศีลเป็นรั้วกั้น เป็นเครื่องประดับตัว จะไม่มีที่ให้ซุกหัวนอนหลับสนิทได้โดยปลอดภัย

"แม้โลกเจริญด้วยวัตถุจนกองสูงกว่าพระอาทิตย์ แต่ความรุ่มร้อนแผดเผาจะทวีคูณยิ่งกว่าพระอาทิตย์" ถ้ามัวคิดว่า วัตถุมีค่ามากกว่าศีลธรรม ศีลธรรมเป็นเพียงสมบัติของมนุษย์ "พระพุทธเจ้าผู้ค้นพบ และนำมาประดับโลกที่กำลังมืดมิดให้สว่างไสว ร่มเย็นด้วยอำนาจศีลธรรมเป็นเครื่องปัดเป่า"

"ความคิดของมนุษย์ผู้มีกิเลส ผลิตอะไรออกมาทำให้โลกร้อนจะบรรลัยอยู่แล้ว" ยิ่งปล่อยให้ความคิดตามอำนาจ โดยไม่มีศีลธรรมช่วยเป็นยาชโลมไว้บ้าง "จะผลิตยักษ์ใหญ่ทรงพิษขึ้นมากว้าน กินมนุษย์จนไม่มีอะไรเหลืออยู่บ้างเลย"

ความคิดของคนสิ้นกิเลสที่ทรงคุณอย่างสูง "คือพระพุทธเจ้า มีผลให้โลกได้รับความร่มเย็นซาบซึ้ง" ความคิดที่เป็นกิเลส "มีผลให้ตนเองและผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน" จนคาดไม่ถึงผิดกันอยู่มาก ควรหาทางแก้ไขผ่อนหนักให้เบาลงก่อนจะหมดทางแก้ไข ศีลจึงเป็นเหมือนยาปราบโรค "ทั้งโรคระบาดและเรื้อรัง" .. "

"ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม"
(หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2024, 05:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




2หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี (2).jpg
2หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี (2).jpg [ 118.05 KiB | เปิดดู 277 ครั้ง ]
.
"ให้สติรู้ทันจิต"

" .. "การบังคับจิตนั้นดีอยู่ดอกเบื้องต้น" แต่ถ้าจะบังคับมันร่ำไป มันอาจบิดพลิ้วได้เหมือนกัน "จิตก็คือใจในตัวของคนเราแต่ละคนนั่นแหละ" บังคับมันหนัก มันไม่ชอบขี้หน้าเราเหมือนกัน ฉะนั้น "จิตคือ ผู้คิด มันจะคิดก็ได้ แต่ให้มันคิดอยู่ในสติปัฏฐานทั้ง ๔ นี้เท่านั้น"

"ส่วนสตินั้นจะไปตามรู้ในสิ่งนั้น ๆ แล้วจะไม่มีวันทันมันเลย ให้รู้ทันจิตที่ไปตั้งอยู่ตรงไหน สติกับผู้รู้ก็ให้อยู่ด้วยกัน ณ ที่นั้น" คนเรา เมื่อไปรู้เล่ห์เหลี่ยมโกงของกันแลกันแล้ว ก็ต้องยอมหยุดโกง เป็นมิตรสนิทกันเลย จิตก็เช่นเดียวกัน "เมื่อสติกับความรู้อยู่ด้วยกันกับจิตแล้วมันก็ต้องหยุดนิ่งเข้าเป็นหนึ่ง" .. "

"เทสรังสีอนุสรณ์"
พระราชนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาวิศิษฏ์
(หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2024, 05:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1LPCha.jpg
1LPCha.jpg [ 134.91 KiB | เปิดดู 266 ครั้ง ]
.
"จิตไม่มีกำลัง ปัญญามันก็ไม่เกิด"

" .. ที่ว่าจิตหยุดได้นั้นก็คือ "มันหยุดในความรู้สึก ไม่คิดแล่นไปทั่ว" เช่นว่า "เรามีมีดเล่มหนึ่งที่เราลับไว้ดีแล้ว แล้วมัวแต่ฟันหินฟันอิฐฟันหญ้าไปทั่ว ถ้าเราฟันไม่เลือกอย่างนี้ มีดของเราก็จะหมดความคม" เราจึงต้องฟันแต่สิ่งที่จะเกิดประโยชน์

จิตนี้ก็เหมือนกัน "ถ้าเราปล่อยให้จิตแล่นไปในสิ่งที่ไม่เป็นสาระประโยชน์ ก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไร" จิตนั้นจะไม่มีกำลัง ไม่ได้พักผ่อน "ถ้าจิตไม่มีกำลัง ปัญญามันก็ไม่เกิด" จิตไม่มีกำลังคือจิตที่ไม่มีสมาธิเลย

"ถ้าจิตไม่ได้หยุดจะเห็นอารมณ์นั้นไม่ได้ชัดเจน" ถ้าเรารู้จักว่าจิตนี้เป็นจิต อารมณ์เป็นอารมณ์ นี่คือหัวข้อแรกที่จะตั้งพระพุทธศาสนาขึ้นมาได้ นี่คือ "ตัวศาสนา"

เราบำรุงให้จิตนี้เกิดขึ้น เป็นลักษณะของการปฏิบัติให้เป็นสมถะ ให้เป็นวิปัสสนา "รวมกันเข้าเป็นสมถวิปัสสนา" เป็นข้อปฏิบัติมา"บำรุงจิตใจให้มีศีล มีธรรม ให้จิตได้หยุด ให้จิตได้เกิดปัญญา ให้รู้เท่าตามความเป็นจริงของมัน" .. "

พระโพธิญาณเถร
(หลวงปู่ชา สุภัทโท)


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มี.ค. 2024, 06:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




3หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ (2).jpg
3หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ (2).jpg [ 56.14 KiB | เปิดดู 250 ครั้ง ]
.
"ให้โทษกรรมไปเสีย"

" ..คนเรานะ "เมื่อเวลาบาปมันให้ผลแล้ว มันไปอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลก ให้มาช่วยเหลือปัดเป่าความทุกข์ต่าง ๆ เหล่านั้นให้ออกไป" มันจะเป็นไปได้อย่างไรเล่า "อานุภาพแห่งบาปบุญนี่ มันมีเหนือชีวิตจิตใจของบุคคล ผู้ใดทำมันก็มีอำนาจเหนือชีวิตของผู้นั้น"

ผู้ใดไม่ทำมันก็ไม่มีอำนาจจะไปครอบงำได้ นี่ เราต้องเข้าใจอย่างนี้ "ดังนั้นไม่ควรที่จะไปอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ถ้ามันวิบัติมาแล้ว" แก้ไขไม่ตก "ก็โยนให้กรรมเราต้องทำกรรมชั่วอย่างใดอย่างหนึ่งมาแต่ก่อน กรรมชั่วนั้นมันตามมาสนองเอา เราไม่ต้องเสียใจ"

เพราะว่าตั้งแต่ก่อนนู้นมันไม่รู้ "มันถึงได้ทำกรรมชั่ว เรารู้อย่างปัจจุบันนี้แล้ว จะไม่ทำต่อไปอีก ขออธิษฐานใจ ละเว้นการเบียดเบียนบุคคลอื่นและสัตว์อื่นทุกชนิด" จะไม่เบียดเบียนใครเลย "แม้ใครจะมาเบียดเบียนตน ตนก็จะไม่ตอบ" หากตอบโต้กันไป มันก็จะเป็นกรรมเป็นเวรตามสนองกันไปไม่รู้จักจบจักสิ้น

"ถ้ากรรมเวรหนหลังมี บันดาลให้เขามาทำร้ายทำลายชีวิตก็แล้วไป เราไม่ต้องไปผูกโกรธผูกพยาบาทบุคคลผู้ทำลายตน" ไม่เช่นนั้นเวรกรรมมันก็ไม่จบสักที มันก็ตามผูกพันกันไป .. "

พระสุธรรมคณาจารย์
(หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)


:b8: :b8: :b8:


*** ขออภัย ท่านผู้อ่านทุกท่าน เพราะไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้ จึงเอามาแนบกับกระทู้เก่า ๆ *** :b13:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มี.ค. 2024, 05:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1หลวงปู่ลี (2).jpg
1หลวงปู่ลี (2).jpg [ 111.67 KiB | เปิดดู 228 ครั้ง ]
.
"ลาโพธิญาณ"

" .. "คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ" ท่านมีความรู้แปลกพิสดารมากในเวลาภาวนา ท่านจะตามรู้ไปหมด ทั้งเรื่องที่เป็นอดีตที่ผ่านมา "และเรื่องที่ยังมาไม่ถึงได้อย่างแม่นยำอย่างน่าเหลือเชื่อท่านพูดด้วยญาณหยั่งทราบจึงเป็นความเห็นที่แน่นอน" หลวงตาฯ เคยพูดถึงความรู้พิเศษของแม่ชีแก้วว่า ..

"แม่ชีแก้วนี้แกสำคัญอยู่นะ แกพูดอย่างนี้ พูดด้วยญาณหยั่งทราบ" แน่นอน ๆ อยู่ใคร ๆ เคยเป็นลูกมายังไง ๆ แกรู้หมดสมัยไหน ๆ แกย้อนพิจารณาหมดเช่น "ท่านสิงห์ทองนี้ รู้สึกว่าแกรักมากเลยนะ ผู้เฒ่าแม่แก้วนี่ว่าเคยผูกพันกันมานาน"

เรื่องนี้เราก็ไม่เคยพูดนะอย่างนี้นะ "เพราะมันเป็นเรื่องผ่านมาแล้ว ไม่ทราบพูดหาอะไร" ทีนี้เวลามันสัมผัส เราก็พูดบ้างมันนานแล้ว แล้วแก (แม่ชีแก้ว) ก็ถามว่า ..

"เท่าที่พิจารณาดูนะ ที่มันรู้มา "ญาท่านนี่เคยปรารถนาพุทธภูมิมานะ แล้วทำไมถึงเลิกเสียล่ะใช่มั้ย" แกว่าอย่างนั้นนะ "เราก็ไม่ตอบเสียเลยล่ะกระทั่งบัดนี้ยังไม่ตอบเลยนะ" แกถามแบบสงสัยนะเราก็เฉยเลย แกก็จับคำอะไรเราไม่ได้นะ "เราก็ไม่เคยพูดที่ไหนว่าเราเคยปรารถนาพุทธภูมิมา เราก็ไม่เคยพูดที่ไหน"

แต่แกทำไมนำมาพูด ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยพูดที่ไหนเลยนะว่า "เราเคยปรารถนาพุทธภูมิหรือไม่เคยปรารถนาก็ไม่เคยพูด" แกจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม "แกก็ไม่กล้าถามอีก เราก็เฉยมาจนกระทั่งทุกวันนี้ แกตายไปแล้ว เราก็เฉย"

ภายหลังเรื่องนี้ "หลวงปู่ลี กุสลธโร เล่าให้พระฟังเป็นการภายในว่า" ..

"พ่อแม่ครูจารย์บ้านตาดเพิ่นว่า ปรารถนาพุทธภูมิมา ขั่นแม่นศาลากะแม่นมุงเสร็จไปแล้วยังแต่ปูด้านล่าง ปานนั้นเด๊" เว่าให้หมู่ลูกศิษย์ฟังบ่แม่นของหน่อย

"กว่าสิเป็นพระพุทธเจ้าเบิ่งดิ๊พระพุทธเจ้าของเฮานี่กะเบิ่งดิ๊ ๔ อสงไขยแสน-มหากัป"แต่ได้รับทำนายแล้วเด๊ะ ชาติก่อนนั้นไป "เพิ่นเว่าโน้น ๒๐ อสงไขย แต่บ่ได้ทำนาย ปานนั้นเด๊" .. "

"อนุสรณ์งานประชุมเพลิงสรีระสังขาร"
(หลวงปู่ลี กุสลธโร)


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2024, 05:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




ท่านพ่อลี ธมฺมธโร2.jpg
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร2.jpg [ 78.6 KiB | เปิดดู 219 ครั้ง ]
.
"สมาธิ หลักทรัพย์ของใจ"

" .. "จิตใจนี้เท่ากับพระเจ้าองค์หนึ่ง ทุกข์ สุข ดี ชั่ว ล้วนสำเร็จมาจากดวงจิตทั้งสิ้น" ควรจะสมมติเรียกได้ว่า พระเจ้าสร้างโลกได้องค์หนึ่งเหมือนกัน "เพราะโลกจะต้องอยู่ได้ด้วยสันติสุข ก็ด้วยอำนาจแห่งจิตใจนี้เอง"

"โลกที่จะอันตรธานสูญ ไปก็ด้วยอำนาจจิตใจนี้เอง" ฉะนั้นจึงควรที่จะอบรมส่วนสำคัญ ของโลกทั่ว ๆ ไป "คือจิตให้เป็นสมาธิ เพื่อให้เป็นหลักทรัพย์ไว้ในใจ" คือสมาธิอันเป็นเครื่องสะสมไว้ซึ่งธาตุต่าง ๆ ที่เรียกว่า "กุศลธาตุคือความดี"

เมื่อธาตุทั้งหลายเหล่านี้ได้ผสมกัน ถูกส่วนดีแล้ว "ก็จะเป็นกำลังของท่าน เพื่อเป็นเครื่องทำลาย ซึ่งข้าศึกศัตรูต่าง ๆ กล่าวคือ กิเลส และบาปธรรมทั้งปวง" .. "

"อานาปานสติ ภาวนามัย"
พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์
(ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2024, 05:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี (1).jpg
หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี (1).jpg [ 77.63 KiB | เปิดดู 207 ครั้ง ]
"ศรัทธา ความเชื่อมั่น"

" .. "ศรัทธา ความเชื่อมั่นเป็นของสำคัญ" จะทำอะไรได้หมด "ครั้นเมื่อศรัทธาเกิดขึ้นแล้ว ทำดีก็ได้ทำชั่วก็ได้ เรื่องศาสนามันต้องปลูกศรัทธาปสาทะ" ต้องให้ตั้งมั่น ไม่ใช่สักแต่ว่าปฏิบัติไปเฉย ๆ "ตัวศรัทธาตัวนั้นแหละเป็นของสำคัญ"

ท่านเรียกว่า "ศรัทธาพละ" มันมีกำลังแล้วจึงค่อยปฏิบัติได้ ปฏิบัติได้ช้าหรือได้เร็วมันอยู่ที่ตรงศรัทธานั้น "ศรัทธาแก่กล้าก็ปฏิบัติได้เร็ว ศรัทธาไม่แก่กล้าก็ช้าอยู่นั่นแหละ" ทำก็สักแต่ว่าทำไม่ตั้งใจจริง ๆ จัง ๆ "การนับถือศาสนาพร้อมด้วยกาย วาจา ใจศรัทธาตั้งมั่นลงแน่วแน่แล้วจึงเป็นไป"

"ศรัทธา ความเชื่อมั่นในทานการให้ ผู้ที่ให้ทานนั้นจิตใจมุ่งมั่นเชื่อจริงใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า" ปรากฏเหมือนกับว่าจะเห็นชั้นฟ้าในพรุ่งนี้มะรืนนี้ โน่นแหละ มันจึงค่อยเกิดปีติยินดี "ครั้นเมื่อทำงานลงไปแล้วก็อิ่มอกอิ่มใจ ปลื้มปีติโสมนัส" บางคนจนเกิดขนพองสยองเกล้า เกิดปีติเอาจริง ๆ จัง ๆ .. "

"เทสรังสีอนุสรณ์ เล่ม ๒"
พระราชนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาวิศิษฏ์
(หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี)


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2024, 06:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




2#หลวงปู่ฝั้น_อาจาโร (4).jpg
2#หลวงปู่ฝั้น_อาจาโร (4).jpg [ 80.9 KiB | เปิดดู 201 ครั้ง ]
.
"วิธีดับกรรม ดับเวร"

" .. "วิธีดับบาป ดับกรรม" ดับความชั่วทั้งหลายดับภัย คับเวร จะล้างบาป ล้างกรรม ล้างภัย "ล้างเวรทั้งหลายนั้น ไม่มีวิธีอื่น นอกจากเรานั่งสมาธิ" เมือนั่งสมาธิจิตเป็นหนึ่งแล้ว "เป็นจิตอันเดียวแล้ว บาปกรรมทั้งหลายมันก็ไม่มี ภัยเวรทั้งหลายมันก็ไม่มี" ความชั่วทั้งหลายมันก็ไม่มี มีแต่ความสุขน่ะซี .. "

"อาจาโรวาท"
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2024, 05:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




3หลวงปู่ชา สุภทฺโท (13).jpg
3หลวงปู่ชา สุภทฺโท (13).jpg [ 107.28 KiB | เปิดดู 192 ครั้ง ]
.
"ใจเป็นสัมมาทิฏฐิ"

" .. เรื่องของใจมันเป็นอย่างนี้ "บางทีก็คิดดี บางทีก็คิดชั่ว" ใจมันหลอกลวง เป็นมายา "จงอย่าไว้ใจมัน แต่จงมองเข้าไปที่ใจ" มองให้เห็นความเป็นอยู่อย่างนั้นของมัน

ยอมรับมันทั้งนั้น "ทั้งใจดีใจชั่ว เพราะมันเป็นของมันอย่างนั้น" ถ้าเราไม่ไปยึดถือมัน มันก็เป็นของมันอยู่แค่นั้น "แต่ถ้าเราไปยึดมันเข้า เราก็จะถูกมันกัดเอา" แล้วเราก็เป็นทุกข์

"ถ้าใจเป็นสัมมาทิฏฐิแล้ว ก็จะมีแต่ความสงบ จะเป็นสมาธิ" จะมีความฉลาดไม่ว่าจะนั่งหรือจะนอน "ก็จะมีแต่ความสงบ ไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร ก็จะมีแต่ความสงบ" .. "

"๔๘ พระธรรมเทศนา"
พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท)


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2024, 05:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




2หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี (2).jpg
2หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี (2).jpg [ 118.05 KiB | เปิดดู 185 ครั้ง ]
.
"เป็นทุกข์ก็เพราะใจ"

" .. ทุกข์เพราะใจ "คนที่จะพ้นจากทุกข์ได้ พ้นจากโลกนี้ได้ พ้นจากกรรมได้ ก็เพราะใจอันเดียว" จงยึดใจถือใจเป็นสำคัญ จะมาเกิดก็เพราะใจ เกิดแล้วจะมาสร้างกิเลสก็เพราะใจ

"เป็นทุกข์ก็เพราะใจ ถ้าใจไม่เป็นทุกข์ ใจ" ไม่ยึดถือปล่อยทิ้งเสีย กายอันนี้ก็ไปตามเรื่องของกาย "ใจก็เป็นตามเรื่องของใจ" หมดเรื่องหมดราวกันที .. "

"เทสโกวาท ๑๐๐ ปี"
(หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2024, 05:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2657

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1หลวงปู่ขาว (11).JPG
1หลวงปู่ขาว (11).JPG [ 109.08 KiB | เปิดดู 178 ครั้ง ]
.
"การภาวนาเป็นอริยทรัพย์ภายใน"

" .. เราจะไปเกิดในที่ดีมันยากแล้ว "บุญมันบ่ถึงเขา เราต้องทำเอา เกิดเป็นมนุษย์เป็นสัตว์อันสูงสุด ก็เป็นเพราะ ปุพเพกะตะปุญญะตา" บุญหนหลังมาติดตามตนให้เกิดเป็นผู้สมบูรณ์บริบูรณ์

ครั้นเป็นผู้สมบูรณ์แล้วก็ "อัตตะสัมมาปะณิธิ ให้ตั้งตนอยู่ในที่ชอบ" อย่าไปตั้งตนอยู่ในที่ชั่ว รักษาศีล ให้ทาน "หัดทำสมาธิอย่าให้ขาด" ศีลห้ารักษาให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ศีลแปดให้รักษา

"ให้พากันภาวนาอยู่ สมาธิมันไม่มีที่อื่น" ให้นั่งภาวนา พทโธ ๆ ไม่ต้องร้องให้มันแรงดอก ให้มันอยู่ในใจซื่อ ๆ ดอก "การภาวนาก็เป็นอริยทรัพย์ภายใน มันจะติดตามไปทุกภพทุกชาติ ติดไปสวรรค์ ลงมามนุษย์ มาตกอยู่ในที่มั่งคั่งสมบูรณ์บริบูรณ์" ไม่ยากไม่จน ทรัพย์อันนี้ติดตามไป บ่มีสูญหายดอก ตามไปจนสิ้นภพสิ้นชาติ .. "

"อนาลโยวาทะ"
(หลวงปู่ขาว อนาลโย)

โดย นพ.อวย – ม.ร.ว. ส่งศรี เกตุสิงห์


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 14 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร