ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็น “พระนิยตโพธิสัตว์”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=48339
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  น้องพลอย [ 05 ส.ค. 2014, 11:22 ]
หัวข้อกระทู้:  หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็น “พระนิยตโพธิสัตว์”

รูปภาพ

หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็น “พระนิยตโพธิสัตว์”
ท่านปรารถนาพระโพธิญาณ และได้รับการพยากรณ์แล้ว

ตอนที่ ๑๙
รู้แจ้งประจักษ์อนาคตอันไกลโพ้น


หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ได้เดินธุดงค์ไปจังหวัดเชียงใหม่ ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดโรงธรรม อำเภอสันกำแพง อยู่กับหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร ๒ พรรษา ในช่วงนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ท่านจึงอยู่ที่นี่เป็นหลัก ในบางโอกาสก็ออกไปหาวิเวกตามดอยต่างๆ

ต่อมาได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ ในช่วงนั้นได้มีการทิ้งระเบิดในเมืองบ่อยครั้ง จึงเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะปลอดภัย หลวงปู่สิมจึงชวนหลวงปู่จามออกไปอยู่ที่จอมทองระยะหนึ่ง

การปฏิบัติธรรมเจริญจิตภาวนาที่จอมทองแห่งนี้ ได้พบกับความแปลกใหม่ของจิตตัวเอง เพราะเป็นสถานที่สัปปายะเหมาะสมแก่การบำเพ็ญพากเพียร และบุคคลสัปปายะเนื่องด้วยหลวงปู่สิมเคยเป็นสามเณรอยู่ด้วยกัน ขณะที่อยู่กับหลวงปู่มั่น จึงมีความเข้าใจสนิทสนมกันดี


ในช่วงแรกของการภาวนา จิตไม่สงบแส่ส่ายออกนอกเกิดสัญญาปรุงแต่งลักษณะเดียวกันกับที่เคยปรากฏมาก่อนแล้ว แม้ว่าจิตจะเคยสงบถึงขั้นอัปปนาสมาธิหลายครั้งแล้วก็ตาม เกิดเสื่อมลงอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่ได้ใช้อุบายต่างๆ แก้ไขมาหลายครั้งต่อหลายหนแล้ว บางคืนจิตร้อนรนเสมือนว่ากิเลสไม่เบาบางเลยทั้งๆ ที่ปกติธรรมดาจะไม่ปรากฏ แต่พอเริ่มอธิฐานจิตเข้าที่ภาวนาจะเกิดอาการลักษณะนี้ขึ้นมา คิดทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่บำเพ็ญพากเพียรอย่างจริงจัง แต่ผลที่ได้ดูเหมือนไม่คุ้มค่า รู้สึกว่าเกือบหมดกำลังใจ

แต่เนื่องด้วยอุปนิสัยของท่านเด็ดเดี่ยว มุ่งมั่นไม่ย่อท้อ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ท่านระลึกถึงหลวงปู่มั่น ตลอดจนครูบาอาจารย์ที่เคยให้คำแนะนำสั่งสอน และปฏิปทาของท่านเหล่านั้นแล้ว จึงเกิดพลังใจตั้งสัจจะอธิฐานว่า

“ถ้าจิตจะสงบหรือไม่สงบก็ไม่ว่า จะเกิดหรือไม่เกิดอะไรก็ไม่ว่า เราไม่หวังอะไรอีกแล้ว ต่อไปนี้จะเอาเฉพาะพุทโธให้แนบแน่นกับลมหายใจที่ตรงหัวใจของเรา จะไม่ยอมให้หนีไปไหน”

ต่อจากนั้นอีกไม่นาน จิตค่อยๆ สงบละเอียดรวมลงเป็นสมาธิ กายเบาจนไม่มีกายเหลือแต่จิตดวงเดียว เกิดนิมิตภาพเจดีย์ปรักหักพังมากมาย พระพุทธรูปเก่าแก่ปางต่างๆ มากมาย ต้นโพธิ์ ต้นจิก และอื่นๆ เป็นภาพแล้วภาพเล่า ต่อจากนั้นก็เห็นภาพตนเองในอดีตชาติเกิดขึ้นมาจนนับไม่ไหว ท่านได้กำหนดรู้ในภาพนิมิตที่เกิดขึ้นมาโดยลำดับ ปัญญารู้แจ้งในแต่ละชาติในอดีตทั้งกรรมดีกรรมชั่วคละเคล้าปะปนกันไป ตลอดจนบุญบารมีที่สร้างไว้แต่อดีตชาติ ทั้งขึ้นสูงและลงต่ำ สวรรค์ นรก มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน


การพิจารณากลับไปกลับมาปรากฏความรู้แจ้งชัดขึ้นมาว่า การที่มุ่งทำความเพียรเพื่อละกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นเพื่อความหลุดพ้นทุกข์ในชาตินี้ คงเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว เสมือนว่ามีอะไรสักสิ่งหนึ่งปิดกั้นไว้ ปัญญาไม่ทะลุแจ้ง ฉุกคิดถึงแนวทางปฏิบัติของพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาพุทธภูมิมาแล้ว ชะรอยเราจะเคยปรารถนา......... มาแล้วกระมัง ท่านจึงถอนจิตออกจากสมาธิแล้วไปที่หน้าองค์พระพุทธรูป ห่มผ้าจีวรจรดไหล่เรียบร้อย กราบแล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า “ถ้าได้เคยปรารถนา......... ที่บำเพ็ญมาเพื่อการเป็น......... ในภายภาคหน้าแล้วก็ขอให้จิตสงบเยือกเย็น ขอให้ภาพนิมิตเหล่านั้นหายไป และให้เกิดความรู้แจ้งเห็นชัดเป็นที่ประจักษ์เถิด” จึงได้พักผ่อนหลับ

ในคืนต่อมาการภาวนาได้ผลดี จิตสงบรวดเร็ว จิตใจที่เคยร้อนมีแต่เยือกเย็น เบาสบาย จิตรวมลงถึงฐานอัปปนาสมาธิ พักในสมาธิเพื่อให้เกิดพลังเต็มที่แล้วจิตถอนขึ้นมาเองอยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ เกิดญาณทัศนะสามารถรู้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ อย่างที่ไม่เคยรู้เห็นมาก่อน หยั่งรู้เข้าใจภาพนิมิตที่เคยปรากฏมาแล้วอย่างปราศจากข้อสงสัย รู้แจ้งแล้วว่าชาตินี้ยังไม่สามารถบำเพ็ญพากเพียรให้สิ้นอาสวะกิเลสได้ ได้รู้เห็นจิตใจของตนในส่วนลึกอย่างละเอียดว่า ได้เคยอธิษฐานตั้งความปรารถนา......... ไว้แล้วในอดีตชาติและได้รับการ......... แล้ว ไม่สามารถถอนออกได้ จึงจะต้องบำเพ็ญบารมีเพิ่มขึ้น จะต้องเกิดตายอีกหลายชาติ จนกว่าบารมีจะเต็ม และถึงระยะเวลาที่จะต้องลงมาอีกเพื่อการ......... ที่จะต้องมาโปรดสัตว์ที่โลกกำลังร้อนระอุ ซึ่งเป็นระยะเวลาอีกนานเท่าใดไม่สามารถจะประมาณได้


การสั่งสมอุปนิสัยบุญบารมีในแนวทางของความเป็น......... และได้รับการ......... แล้วนั้น ก็เป็นเรื่องเฉพาะตน การจะบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นใครก็เป็นเรื่องเฉพาะของการเป็นใครคนนั้น กรณีบำเพ็ญสาวกบารมีก็จะเป็นสาวก บำเพ็ญอัครสาวกบารมีก็จะเป็นอัครสาวก บำเพ็ญปัจเจกบารมีก็เป็นปัจเจกพุทธเจ้า ถ้าบำเพ็ญพุทธบารมีก็ต้องเป็นพระพุทธเจ้า

ผู้เขียน (พระอาจารย์อินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก) ได้ถามหลวงปู่ว่า “เกิดตายอีกหลายชาติไม่เบื่อหรือ”

ท่านตอบว่า “เบื่อไม่ได้เพราะเป็นหน้าที่ต้องมาเกิดตายจนกว่าจะหมดภาระหน้าที่นั้น”


:b44: ที่มา... ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่จาม มหาปุญโญ”
ในช่วงธุดงค์ไป อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ กับหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=24254

รูปภาพ

“เมื่อกูตายแล้ว สูจะเอาสัตว์มาฆ่าทำลาบทำแกงเลี้ยงคน อีนี้เป็นคนไปซื้อมา บักนี้เป็นคนฆ่า อีนี้เป็นคนฟักลาบทำแกง ไอ้นี้เป็นคนชิม อีนี้เป็นคนตักกิน เป็นบาปเป็นกรรมกับสัตว์ กูหน๋าไม่อยากตายกับสูเจ้า อยากไปตายกับเวสสุวัณอยู่ป่าหิมพานต์ ตายแล้วให้เขาเอาเตโชธาตุเผา ไม่เป็นบาปเป็นกรรมเป็นโทษไปกับสัตว์ หมู ไก่ ปลา งัว ควาย

ดูแต่เพิ่นอาจารย์มั่น นอนป่วยอยู่หนองผือนาใน แล้วทีนี้ก็รีบจัดแจงให้เขาหามออกไปใส่ทางรถ ขึ้นรถจากพรรณานิคม เข้าสุทธาวาส แล้วก็นิพพาน จึงปลอดภัยจากการเอาชีวิตสัตว์มากินของผู้คนมาส่งศพ

การเลือกที่จะตายนั้นเลือกได้ของพระอรหันตเจ้าผู้ได้วิชชา พิจารณาตัวอย่างรอบคอบ เพราะเพิ่นรักษาสัตว์โลกไว้ตามกรรม

อันนี้พอกูตาย สูเจ้าก็เอาสัตว์มาฆ่าลาบกินกันจนตลอด โห...จะเก็บไว้เท่าใดวัน ก็กินกันไปเท่านั้น กินกันทั้งวัน กินแล้วขี้ ส้วมขี้เต็มสูบทิ้ง อึกทึกกันอยู่ทั้งวัด ฆ่าไปกินไป

ขณะองค์หลวงปู่จามเล่า ลูกหลานชาวบ้านก็หัวเราะกัน ต่างก็ปฏิเสธว่าจะไม่ให้มีการฆ่าสัตว์และจะไม่เก็บศพเอาไว้นาน (๒๕๔๙)”


:b44: ที่มา... ธรรมประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ ผู้มากมีบุญ
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=24254

รูปภาพ

--------------------------------------------

:b44: :: ที่มา :: :b8:
หลวงปู่จาม มหาปุญโญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ละสังขารแล้ว
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=44376

:b50: :b49: เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=47415

เจ้าของ:  Duangtip [ 26 มิ.ย. 2019, 07:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็น “พระนิยตโพธิสัตว์”

:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  AAAA [ 25 ธ.ค. 2020, 09:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็น “พระนิยตโพธิสัตว์”

4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  sirinpho [ 23 ธ.ค. 2021, 20:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็น “พระนิยตโพธิสัตว์”

น้องพลอย เขียน:
หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็น “พระนิยตโพธิสัตว์”
ท่านปรารถนาพระโพธิญาณ และได้รับการพยากรณ์แล้ว

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ดาราวรรณ [ 08 เม.ย. 2023, 10:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็น “พระนิยตโพธิสัตว์”

Kiss :b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/