วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 11:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2013, 19:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ก.พ. 2007, 20:39
โพสต์: 174


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

วาทะธรรมหลวงปู่ทา จารุธมฺโม
วัดถ้ำซับมืด อ.ปากช่อง นครราชสีมา


๑. สังขารไม่เที่ยง หลีกเลี่ยงเสียให้พ้นอนัตตาไม่ใช่ตน อย่ากังวลว่าร่างกาย

๒. รู้แล้วติดเป็นสมมุติ รู้แล้วไม่ติดเป็นวิมุติ

๓. สติตั้งที่ใจ ดูอยู่ที่ใจ มองอยู่ที่ใจ เห็นอยู่ที่ใจ เพ่งอยู่ที่ใจ กำหนดอยู่ที่ใจสติตั้งที่ใจ ดูอยู่ที่ใจ กำหนดอยู่ที่ใจ พิจารณาอยู่ที่ใจ อิริยาบถ ๔ ยืน เดิน นั่ง นอน สติอันเดียว ก็ไม่หลาย มีเท่านั้น

๔. ให้หมั่นขยัน เพียร อย่าละอย่าเลิก ทำไปให้มันเห็นของจริงให้จงได้ รู้อยู่ที่ใจ ดูอยู่ที่ใจ เห็นอยู่ที่ใจ เพ่งอยู่ที่ใจ กำหนดอยู่ที่ใจ อิริยาบถ ๔ ยืน เดิน นั่ง นอน สติอันเดียว เป็นบ่อเกิดของสมาธิ เป็นความแจ้ง เป็นความสว่าง เป็นความสงบ ขึ้นในใจ จะถึงธรรมต้ออดทน ให้พยายามเข้า มันก็เป็นของยากนั่นแหละ ของดีมันก็ยาก พระพุทธเจ้าท่านก็วางไว้ให้พวกเราหมดแล้ว ทำกับข้าวไว้ให้พวกเราหมดแล้ว จะกินหรือไม่กิน ถ้าไม่กินก็ต้องแห้ง ถ้ากินก็อิ่ม

๕. มันต้องฝึก ฝึกให้เป็นสมาธิ หนักแน่น ใจของเรา หนักแน่นอย่างเดียวก็เพ่งเข้า ๆ ๆ เพ่งเข้า ๆ ๆ มันก็เกิดแสงสว่าง เกิดความแจ้ง ความสว่างขึ้นที่ใจ สุขก็มีพร้อม ก็เสวยสุขละซิบัดนี้

๖. รู้ซื่อ รู้จิตซื่อ ๆ อาการของจิตมันเป็นอย่างไร ก็รู้มันตรงๆ อย่าไปอยากให้มันเป็นอย่างไร ให้มันซื่อ ๆ อันนี้เป็นทางเดินของมรรค รู้ซื่อ ๆ นี่แหละคือปัจจุบัน จิตมันเป็นอย่างไรก็รู้มันขณะนั้น นี่เป็นทางเดินของพระอรหันต์ทั้งหลาย เราอย่าไปอยาก พอจิตมันไม่ดีก็อยากให้จิตมันดี พอจิตมันเป็นอยากนั้นอยากให้เป็นอย่างโน้น อันนี้ท่านว่ามันเป็นกิเลสตัณหา ซึ่งเป็นทางตรงกันข้ามกันพระนิพพาน ไม่ใช่ทางปฏิบัติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และของพระอรหันต์สาวก

๗. อิฏฐารมย์ คือ อารมณ์ที่น่าปรารถนา ความรักความพอใจไม่อยากพลัดพราก ถ้าคิดอยู่อย่างนั้นก็เกิดความโศกเศร้า เสียใจ พิไร รำพัน ให้ทำใจให้ดี เพราะทุกคนต้องตายทั้งนั้น เหมือนกันหมด พระราชา มหากษัตริย์ แม้แต่พระพุทธเจ้า ก็ตายทั้งนั้น มีแต่เกิดกับตายเท่านั้นแหละคนเรา เกิดมาก็มีแต่ทุกข์ต้องทำใจให้เป็นสุข เป็นของแก้กัน

๘. ทำจิตให้สงบ นึกถึงรูปดอกบัวตูมบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไว้ที่กลางหัวใจ เนื้อในหน้าอกเบื้องซ้าย ให้ตั้งสติไว้ที่ตรงนั้น จนเห็นเป็นรูปดอกบัวตูมได้ชัดเจน ก็ให้เพ่งเข้า ๆ ๆ แล้วจะเกิดความแจ้ง ความสว่าง ความสงบ ความสุขก็จะมาพร้อม แต่ถ้ามีความฟุ้งซ่านมากให้ภาวนา พุทโธ ๆ ๆ ๆ

๙. เสวยสุขจนเบื่อสุข มันล้นแล้ว วิปัสสนาก็วิ่งเข้ามาเลย ถามเลยว่า อันไหนเที่ยง อันไหนไม่เที่ยง อันไหนเที่ยง อันไหนไม่เที่ยง จนหมดแล้ว สกนธ์กายไม่เที่ยงสักสิ่งสักอย่าง โยนทิ้ง โยนทิ้งหมด อยู่กับพระธรรมเท่านั้นแหละ ไปไหนก็ไปด้วยกันนั่นแหละสบายแล้ว

๑๐. สตินี่ เวลามันยิ่งใหญ่นี่ มันคับอกคับใจคับฟ้า คับแผ่นดินจริง ๆ ยิ่งใหญ่คับจักรวาล มันไม่กลัวอะไรเลย สติมันยิ่งใหญ่จริง ๆ

๑๑. รู้สิ่งใดแล้วติดสิ่งนั้น ก็เป็นสมมุติ แต่ถ้ารู้สิ่งใดแล้วไม่ติดสิ่งที่รู้ ก็จะเป็นวิมุตติโดยอัตโนมัติ

๑๒. ผู้ใดปรารถนาอยากรู้ใกล้พระจริง อย่าเพ่งโทษคนอื่นเขาว่าอย่างไรก็ตาม ยกให้เขาหมดเสีย สำรวจตนเองทั้งคุณแลโทษที่มีอยู่ในสกลกายของเราอยู่เสมอไป


รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพรูปภาพรูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ

.....................................................
เมื่อเจ้าจักเห็น จงเห็นฉับพลัน พอตั้งต้นคิด หนทางปิดตัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2013, 16:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 10:07
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กราบธรรมหลวงปู่ทาครับ :b8:

จาก...ศิษย์หลวงปู่ทาครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 70 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร