วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 10:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 81 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

เหนือสมมุติ

เราอยู่ในโลกนี้ เราก็ไม่ต่อต้านสมมุติ
ให้อยู่ในโลกสมมุติด้วยสติปัญญา
ใช้สมมุติให้ถูกต้อง แต่ก็อย่าไปยึดติด
คนที่มีสติปัญญานี่ อยู่ในโลกสมมุติก็ไม่ไปติดในสมมุติ
จะอยู่เหนือสมมุติ แต่ทำหน้าที่กับสมมุติได้อย่างถูกต้อง

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


แง่บวก

การมองในแง่บวกหรือแง่ดี
ไม่ใช่ในแง่ของความสุขเสมอไปหรอก
แง่บวก คือ แง่ของการมีสาระ มีประโยชน์
เป็นไปเพื่อการพัฒนาจิต
เป็นไปเพื่อการแก้ปัญหาชีวิต
มองแล้วเกิดกำลังใจ เกิดความกระตือรือร้น
มีชีวิตชีวา เกิดความกล้าหาญ
เรียกว่า เป็นการทำใจเพื่อไม่ให้เรามีความทุกข์
ขึ้นอยู่กับมุมมอง วิธีคิด และวิธีปฏิบัติด้วย

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


เห็นทุกข์ ปลุกธรรม

เรามักจะมุ่งแสวงหาสิ่งที่ดีๆ น่าดูน่าชม
แต่เราไม่เคยสังเกตสิ่งที่ไม่น่าดูน่าชม
เรามักจะปฏิเสธ
เพราะเราลืมไปว่า ในความทุกข์ทั้งหลาย
มันมีความสุขซ่อนอยู่ข้างใน
เขาจึงบอกว่า ผู้เห็นทุกข์ คือ ผู้เห็นธรรม

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


วางให้เป็น เย็นให้ถูก

ภัยร้ายในชีวิต คือความคิดปรุงแต่งของเราเอง
การรักษาใจให้เป็นปกติ จะช่วยให้ใจเราดี
และลดความขัดแย้งกับคนรอบข้างด้วย
ปัญหาบางอย่างอยู่ในวิสัยที่แก้ไขได้ ให้แก้ไข
ปัญหาบางอย่าง ให้รอคอย
ปัญหาบางอย่าง ให้ปล่อยวาง
การปล่อยวางด้วยสติปัญญานั้น
ให้ปล่อยวางในผล แต่ไม่ปล่อยวางในการสร้างเหตุ

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


น้ำกับใบบัว

จิตที่ "รู้เฉยๆ" มันเหมือนใบบัว
ความคิดและอารมณ์ต่างๆ นี่ก็เหมือนน้ำ
น้ำกับใบบัวนี่มัน "ถูก" กัน
มันไม่ซึมเข้าหากัน
เพราะจิตมัน "รู้เฉยๆ"
กายเคลื่อนไหว "รู้" แล้วก็ผ่านไป
ทุกขเวทนามาก็ "รู้" ให้มันผ่านไป
ถ้าไม่ผ่าน ให้ "มีสติรู้"
แล้วก็ "แก้ไข" ทุกข์ทางกาย
แก้ไขอย่าง "มีสติ"

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ผู้มองโลก

ถ้าอยากให้ชีวิตเราดี มีความสุข ก็มองในแง่บวกไว้
ถ้าอยากให้ชีวิตเรามีแต่ความทุกข์ ก็มองในแง่ลบไว้
ถ้าอยากให้ชีวิตเราดี ไม่ทุกข์ ก็ต้องมองโลกตามความเป็นจริง
และเข้าไปเกี่ยวข้องกับโลกด้วยความที่ถูกต้องตามสมมุติ
เป็นเพียง "ผู้ดูโลก"
เราก็จะไม่ไปเป็นทุกข์กับโลกที่ขึ้นๆ ลงๆ
เราก็จะไม่เป็นผู้คุ้มดีคุ้มร้าย
ท่านจึงบอกว่าในโลกนี้มีแต่คนบ้า
แต่ผู้มีสติ มีปัญญา เขาจะเป็นเพียงผู้มองโลก

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


เพื่อไม่ทุกข์ดีกว่า

พวกเราตั้งจุดมุ่งหมายเอาไว้ผิด
ไปคาดหวังว่า จะให้ชีวิตเป็นสุข
ความสุขที่นี่ยังไม่ปลอดภัยนะ
ความสุขเป็นที่ตั้งของความยึดมั่นถือมั่น
ความสุขมันยังไม่เที่ยง
เวลามันสุขหายไป เราก็เป็นทุกข์อีก
ลองเปลี่ยนเป็น "ชีวิตเราเกิดมาเพื่อความไม่ทุกข์" ดีไม๊ ?
ความสุขที่เกิดจากความไม่ทุกข์นี่มันบอกไม่ถูกเลยนะ
เป็นความสุขแบบเย็น สบาย สงบภายใน
งั้น ! เราเอาความไม่ทุกข์จะดีกว่า

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอเป็น ให้ถูก

มีภาษิตอยู่บทหนึ่งว่า
ผู้ที่ขอ เป็นผู้ที่น่ารังเกียจสำหรับผู้ให้
ผู้ที่ให้ เป็นบุคคลที่น่ารักสำหรับผู้ขอ
การให้ที่ไม่น่ารังเกียจคือ การให้อภัย
การขอที่ไม่น่ารังเกียจคือ ขอโทษ
การให้อภัยจึงเป็นบุญเป็นทานที่ไม่ต้องเสียทรัพย์

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ปัญหาพาเบิกบาน

ปัญหาทำให้จิตเราเบิกบานได้
การได้รู้ความจริงของสิ่งนั้นทำให้ใจเรามีความสุข
ความสงสัยทำให้ใจเราเป็นทุกข์
พอได้คำตอบ นั่นงา...ว่าแล้ว !
ใจมันก็เบิกบาน ด้วยการวางใจเป็น

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


เพียงผ่านมา

คนมีธรรมะ เขามองปัญหาอย่าง
มองเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา
มองด้วยใจที่เป็นกลาง
เสมือนเรื่องราวเรื่องหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
และในไม่ช้ามันก็จะผ่านออกไป
ไม่มีสิ่งไหนที่มันคงที่คงทนถาวร

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


สองหน้าที่

คนเรานั้นมีหน้าที่ที่จะต้องทำอยู่สองอย่าง
คืองานภายนอกกับงานภายใน
ภายนอกคือ ทำหน้าที่ที่เราสมมุติ
กำลังปฏิบัติอยู่ให้ถูกต้องให้ดีที่สุด
แต่ภายในนั้น ต้องเป็นปกติ ไม่ทุกข์ไว้ก่อน
เราจะได้ทั้งงานข้างนอกและข้างใน
วิธีการคือ มีสติรู้เท่าทันไว้ก่อน

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


เดิมพันชีวิต

การเจริญสติไปกับการเคลื่อนไหวนี่ ทำง่ายๆ
ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร ไม่ต้องหลับตา ไม่ต้องบริกรรมใดๆ
และที่สำคัญคือ ไม่ต้องใช้ความคิดด้วย
ทำได้ทุกคนเลย เพราะหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา
ถือเป็นหลักสากล ไม่เลือกชาติ ศาสนา เพศ วัย ชั้น วรรณะ
เวลาเราปฏิบัตินี่ เราไม่ได้ใช้ความคิด
แต่มันก็มีความคิดเกิดขึ้นได้เหมือนกัน
เราก็ไม่ตามความคิด เราเพียงแต่รู้เฉยๆ
ทำใหม่ๆ นี่สติยังไม่ค่อยมี เรายังปล่อยจิตปล่อยใจออกนอกอารมณ์กรรมฐาน
แต่พอเรามีสติเกิดขึ้น สตินี่แหละสามารถดึงเรากลับมาสู่อารมณ์กรรมฐาน
มันก็เกิดการชักกะเย่อกันอยู่อย่างนี้ ระหว่างความคิดลากเอาไป สติดึงกลับมา
มันเป็นประสบการณ์ บางครั้งพอเราทำไปมันเกิดความง่วง มันเป็นเรื่องธรรมดา
เรามีวิธีการแก้ไข คือ พลิกมือให้เร็วขึ้น แรงขึ้น เป็นการปลุกสติให้มันมากขึ้น
กรรมฐานนี่จะล้มลุกคลุกคลาน ต้องตั้งต้นใหม่อยู่เรื่อย ให้อดทนไปก่อน
พอเราเกิดความเคยชินแล้ว เดี๋ยวมันก็เป็นไปเอง ไม่คิดท้อแท้
มันท้อไม่ได้หรอก มันท้อแล้วกลับไปเป็นทุกข์เหมือนเดิม
เดิมพันมันสูงอยู่ตรงนี้แหละ

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ชีวิตจิตใจต้องไปด้วยกัน

การเห็นอารมณ์เนืองๆ คือ การฝึกสติ
ทำให้เรารู้เท่าทันจิตใจตัวเอง
สามารถเอาชนะใจเราได้ด้วยการมีสติรู้เท่าทัน
แล้วยังสามารถไปรู้เท่าทันจิตใจคนอื่นได้ด้วย
ทำให้สมัครสมานสามัคคี ไม่ขัดแย้งกัน
ที่ขัดแย้งกันเพราะเราไม่รู้จัก ไม่เข้าใจเขา
ถ้าฝึกสติแล้วเราจะเข้าใจคนอื่น
อาจจะมีความแตกต่างทางความคิด โดยไม่มีความแตกแยก
คนที่เจริญสติในชีวิตประจำวันบ่อยๆ จะมองโลกในแง่ดีนะ
มองโลกในแง่ของความเป็นจริง
และจะสามารถเปลี่ยนชีวิตจากร้ายให้กลายเป็นดีได้
เพราะมีคุณธรรมประจำชีวิต ประจำจิตประจำใจ

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


เมตตา กรุณาพาสุข

จิตที่เมตตา ย่อมตรงกันข้ามกับจิตที่อาฆาตพยาบาทเคียดแค้น
จิตที่เมตตา มีลักษณะของความเย็นอกเย็นใจ สดชื่นเบิกบาน
"เมตตา" เป็นแค่ความรู้สึกของจิต เพียงแค่นี้จิตก็สบายแล้ว
แต่ยิ่งมี "ความกรุณา" ยื่นมือไปช่วยเหลือเขาด้วยแล้ว
นั่นถือว่าสุขเพิ่มขึ้นอีกคน เมตตาเราสุขคนเดียว
เมื่อได้กรุณาช่วยคนอื่น เขาก็ได้สัมผัสสุขกับเราด้วย
ให้พุ่งใจไปที่เหตุ เราไม่ต้องไปคำนึงถึงผลหรืออุปสรรคหรอก
เราแค่มีความสุขที่ได้ทำให้สิ่งที่มีคุณค่าสำหรับเรา
ผลที่ได้เป็นเพียงผลพลอยได้
เรื่องของผลมันจะเป็นอย่างไร
ขึ้นอยู่กับว่า เหตุที่เราทำนั้น
ถูกต้อง สมบูรณ์ และก็ต้องมากเพียงพอหรือเปล่า
การทำอะไรด้วยใจที่สบาย ผลก็มักจะสำเร็จ

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2013, 23:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2004, 19:46
โพสต์: 2305

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


สติรู้...ผู้ชนะทุกข์

มือหรือรูปที่มันกำลังหงายกำลังคว่ำนั่นแหละ
อันนี้ คือ ก้อนทุกข์ แล้วใครเป็นผู้รู้?
สตินี่ล่ะ "เป็นผู้รู้รูป" ในก้อนทุกข์ที่กำลังหงายกำลังคว่ำนี่
ขอให้ "รู้เฉยๆ" อย่า-เข้าไปอยู่-ในอาการ-ของมือ-ที่กำลัง-พลิกหงายหรือคว่ำ
นี่เท่ากับเรากำลังกำหนด "รู้ทุกข์" แล้ว
และดูซิว่า สติที่เรากำหนดรู้ทุกข์อยู่ที่กายกำลังเคลื่อนไหว
เป็นเหตุให้เรา "ละ" สมุทัย คือ ตัวตัณหาหรือตัวอุปาทาน
ที่เราหลงยึดติดว่ามือที่กำลังเคลื่อนไหวเป็นเรา-เป็นของตัวเรา
จิตที่เป็น "ปกติ" มี "สติรู้" อยู่นี่ จะเป็น "นิโรธ"
นิโรธนี่ ไม่ใช่เป็นการไปดับทุกข์นะ
ทุกข์น่ะ...เราไม่ต้องไปดับหรอก
มี "สติ-ด้วยจิต-ที่เป็นปกติ" นี่ ทุกข์-ไม่เกิด-ก็แล้วกัน
แล้วใครเล่าเป็นผู้ "กำหนดรู้ทุกข์" และ "ละ" สมุทัย
ก็คือ "สติที่เรากำหนดรู้" อยู่ในปัจจุบันนั่นล่ะ
เป็น "มรรค" อยู่ในตัว
มีพร้อมสรรพในอริยสัจสี่
ดังนั้น เราอย่าไปรังเกียจความทุกข์ที่เกิดขึ้นที่กายที่ใจเรา
ทุกข์นั่นแหละดี มีทุกข์ทำให้เกิดการ "เห็นทุกข์"
และนำไปสู่ "การดับทุกข์" ได้ในที่สุด

.....................................................
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 81 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 18 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร