วันเวลาปัจจุบัน 17 เม.ย. 2024, 05:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2012, 01:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

เรื่องความหวัง-การประพฤติพรหมจรรย์

ข้อความบางส่วนจาก ภูมิชสูตร มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์

ดูกรภูมิชะ ก็สมณะหรือพราหมณ์พวกใดพวกหนึ่ง
ที่มีทิฐิผิด มีสังกัปปะผิด มีวาจาผิด มีกัมมันตะผิด มีอาชีวะผิด มีวายามะผิด มีสติผิด มีสมาธิผิด
ถ้าแม้ทำความหวังแล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็ไม่สามารถจะบรรลุผล
ถ้าแม้ทำความไม่หวังแล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็ไม่สามารถจะบรรลุผล
ถ้าแม้ทำทั้งความหวังและความไม่หวังแล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็ไม่สามารถจะบรรลุผล
ถ้าแม้ทำความหวังก็มิใช่ความไม่หวังก็มิใช่แล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็ไม่สามารถจะบรรลุผล
นั่นเพราะเหตุไร ดูกรภูมิชะ เพราะเขาไม่สามารถจะบรรลุผลได้โดยอุบายไม่แยบคาย ฯ

ดูกรภูมิชะ ส่วนสมณะหรือพราหมณ์พวกใดพวกหนึ่ง
ที่มีทิฐิชอบ มีสังกัปปะชอบ มีวาจาชอบ มีกัมมันตะชอบ มีอาชีวะชอบ มีวายามะชอบ มีสติชอบ มีสมาธิชอบ
ถ้าแม้ทำความหวังแล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็สามารถบรรลุผล
ถ้าแม้ทำความไม่หวังแล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็สามารถบรรลุผล
ถ้าแม้ทำทั้งความหวังและความไม่หวังแล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็สามารถบรรลุผล
ถ้าแม้ทำความหวังก็มิใช่ความไม่หวังก็มิใช่แล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็สามารถบรรลุผล
นั่นเพราะเหตุไร ดูกรภูมิชะ เพราะเขาสามารถบรรลุผลได้โดยอุบายแยบคาย ฯ

และพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงทำอุปมา
เปรียบเหมือนบุรุษต้องการน้ำมัน
เปรียบเหมือนบุรุษต้องการนมสด
เปรียบเหมือนบุรุษต้องการเนยข้น
เปรียบเหมือนบุรุษต้องการไฟ

ซึ่งผมไม่ได้นำมาลงไว้
แต่พึงทราบเนื้อความในพระสูตรทั้งหมดตามลิงค์นี้
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 609&Z=5818


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 18:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ข้อความบางส่วนจาก ภิกขุสูตร อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต

บุคคล 3 จำพวก

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในหมู่ภิกษุก็มีบุคคลอยู่ ๓ จำพวก ปรากฏฉันนั้นเหมือนกันแล
บุคคล ๓ จำพวกเป็นไฉน คือ
บุคคลผู้หมดหวัง ๑
บุคคลผู้มีหวัง ๑
บุคคลผู้ปราศจากความหวัง ๑


ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลผู้หมดหวังเป็นไฉน
บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นคนทุศีล มีธรรมเลวทราม ไม่สะอาด มีสมาจารที่พึงระลึกด้วยความรังเกียจ
มีการงานปกปิด ไม่ใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ ไม่ใช่พรหมจารี
แต่ปฏิญาณว่าเป็นพรหมจารี เน่าในภายใน ชุ่มด้วยราคะ เป็นดังหยากเยื่อ
เธอได้สดับข่าวว่า ภิกษุชื่อนี้ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่
เธอหาคิดดังนี้ไม่ว่า แม้เราก็จักทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า "บุคคลผู้หมดหวัง" ฯ


ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลผู้มีหวังเป็นไฉน
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล มีกัลยาณธรรม เธอได้สดับข่าวว่า ภิกษุชื่อนี้ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ
ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่
เธอย่อมคิดดังนี้ว่า แม้เราก็จักทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่
สักคราวหนึ่งโดยแท้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า "บุคคลผู้มีหวัง" ฯ


ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ปราศจากความหวังเป็นไฉน
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นพระอรหันตขีณาสพ เธอได้สดับข่าวว่า ภิกษุชื่อนี้ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ
ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่
เธอย่อมไม่คิดดังนี้ว่า ถึงเราก็จักทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ สักคราวหนึ่งโดยแท้
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะความหวังในวิมุติของเธอผู้ยังไม่หลุดพ้นในก่อนนั้นระงับแล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เรียกว่า "บุคคลผู้ปราศจากความหวัง" ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในหมู่ภิกษุ มีบุคคล ๓ จำพวกนี้แล ปรากฏอยู่ ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=1


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 18:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


" พระปัจเจกสัมพุทธเจ้าเป็นผู้ไม่โลภ ไม่โกหก ไม่กระหาย
ไม่มีความลบหลู่ มีบาปธรรมดังรสฝาดและโมหะอันกำจัด
แล้ว ไม่มีความหวังในโลกทั้งปวง พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือน
นอแรด ฉะนั้น. "


ตัณหา ราคะ สาราคะ ฯลฯ อภิชฌา โลภะ อกุศลมูล ท่านกล่าวว่า ความหวัง

ในอุเทศว่า เป็นผู้ไม่มีความหวังในโลกทั้งปวง ดังนี้.

คำว่า ในโลกทั้งปวง คือ ในอบายโลกทั้งปวง ในมนุษยโลกทั้งปวง ในเทวโลกทั้งปวง
ในขันธโลกทั้งปวง ในธาตุโลกทั้งปวง ในอายตนโลกทั้งปวง.

คำว่า เป็นผู้ไม่มีความหวังในโลกทั้งปวง ความว่า เป็นผู้ไม่มีความหวัง คือ เป็นผู้
ไม่มีตัณหา เป็นผู้ไม่มีความกระหายในโลกทั้งปวง เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า เป็นผู้ไม่มีความหวังใน
ในโลกทั้งปวง พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรดฉะนั้น.

ข้อความบางส่วนจาก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2012, 18:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


" ชนเหล่าใดกำจัดเสนามารให้พินาศแล้ว ไม่มีความ
ทุกข์ ไม่มีความหวัง เที่ยวไปอยู่ เรากล่าวชนเหล่านั้นว่า
เป็นมุนี ฯ "


นันทปัญหาที่ ๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 94&Z=11243


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 15 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร