ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=39095 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 27 ก.ค. 2011, 15:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
• เขาภาวนาเพื่อให้ละ ไม่ใช่ภาวนาเพื่อให้เอา • ก่อนที่จะพูดอะไร ให้ถามตัวเองว่าที่จะพูดนี้จำเป็นหรือเปล่า ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าพูด นี่เป็นขั้นต้นของการอบรมใจ เพราะถ้าเราควบคุมปากตัวเองไม่ได้ เราจะควบคุมใจได้อย่างไร • ไปกี่วัดกี่วัด รวมแล้วก็วัดเดียวนั่นหละคือ วัดตัวเรา • คนเราต้องบ้าภาวนา จึงจะภาวนาได้ดี เวลาภาวนาอย่าไปกลัวว่า ภาวนาแล้วจะเป็นนั่นเป็นนี่ เพราะเป็นของแก้กันได้ ให้กลัวอย่างเดียวว่า จะภาวนาไม่เป็น • ให้ภาวนา อย่ามัวแต่ง่วงนอน นอนกันมาไม่รู้กี่ชาติแล้ว ไม่รู้จักอิ่มสักที มัวแต่เป็นผู้ประมาท ไม่รู้จักมนุษย์สมบัติเอาไว้ ระวังจะเหลือไม่เท่าเก่า • สักวันหนึ่งความตายจะมาถึงเรา มาบีบบังคับให้เราปล่อยทุกสิ่งทุกอย่าง ฉะนั้น เราต้องหัดปล่อยวางล่วงหน้า ให้มันเคย ไม่อย่างนั้น พอถึงเวลาไปจะลำบาก • เมื่อคิดที่พุทโธแล้วไม่ต้องลังเลว่า จะนั่งไม่ได้ดี ถ้าตั้งใจจริงแล้วมันต้องได้ สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเป็นมารผจญ เขาเล่นละครอะไรๆ เราก็ไปดู ไม่ใช่ว่าไปเล่นกับเขาด้วย • เวลาเราทำงานอะไรอยู่ ถ้าเราสังเกตว่าใจเราเสีย ก็ให้หยุดทันที แล้วกลับมาดูใจของตนเอง เราต้องรักษาใจของเราไว้เป็นงานอันดับแรก • คนอื่นเขาด่าเรา เขาก็ลืมไป แต่เราไปเก็บมาคิด เหมือนเขาคายเศษอาหารทิ้งไปแล้ว เราไปเก็บมากิน แล้วจะว่าใครโง่ • มันไม่มีใครเจ็บ มันไม่มีใครตาย นั่นแหละ ตรงนั้นแหละ มันมีอยู่แล้วทุกคน เหมือนเราคว่ำมืออยู่ เราก็หงายมือเสีย แต่ผู้ที่มีปัญญาเท่านั้นที่จะทำได้ ถ้าโง่ก็ไม่เห็น ก็ไม่ได้ ไม่พ้นเกิด พ้นตาย • ปฏิบัติยังไม่เข้าขั้นแล้วอย่าไปเที่ยวสอนเขา มันมีโทษนะ ที่จริงไปถูกเขาเผยแพร่มากกว่า สอนไปสอนมากลายเป็นปฏิกูลน่ากิน อสุภะน่ากอด • ของดีจริงไม่ต้องโฆษณา คนชอบขายความดีของตัวเอง ที่จริงขายความโง่ของตัวเองมากกว่า คมให้มีในฝัก ให้ถึงเวลาที่จะต้องใช้จริงๆ จึงคอยชักออกมา จะได้ไม่เสียคม • คนเราเวลานั่งภาวนา กว่าใจจะสงบได้ก็ต้องใช้เวลานาน แต่พอจะออกจากที่นั่งก็ทิ้งเลย อย่างนี้เรียกว่า เวลาขึ้นบ้านก็ขึ้นบันใด เวลาลงก็กระโดดลงหน้าต่าง • ต้องหมั่นมีสติ หมั่นพิจารณาร่างกายจนเป็นกระดูกจนร่วงลงไปกอง แล้วเผาให้เกลี้ยงไปเลย ถามตัวเองซิ มีตัวตนไหม อะไรทำให้ทุกข์ ทำให้เจ็บปวด มีตัวเราไหม ดูให้ถึงแก่นแท้ของธรรมชาติพิจารณาไปจนไม่มีอะไรของเราสักอย่าง • มันไม่มีใครเจ็บ มันไม่มีใครตาย นั่นแหละ ตรงนั้นแหละ มันมีอยู่แล้วทุกคน เหมือนเราคว่ำมืออยู่ เราก็หงายมือเสีย แต่ผู้ที่มีปัญญาเท่านั้นที่จะทำได้ ถ้าโง่ก็ไม่เห็น ก็ไม่ได้ ไม่พ้นเกิด พ้นตาย • พระธรรมถามว่า วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่... แล้วเราจะตอบท่านว่ายังไง • เราเกิดมานับอสงไขยไม่ถ้วน ถ้าจะเอากระดูกที่เราเคยตายเกิดมากองไว้ ก็จะโตกว่าเขาพระสุเมรุ น้ำในแม่น้ำมหาสมุทรน้อยใหญ่ทั้งหลายนะ ก็ยังน้อยกว่าน้ำตาที่เคยหลั่งรินเพราะความทุกข์ทั้งหลายเสียอีก • อะไรๆ ก็ขึ้นอยู่กับความสังเกตของเรา ถ้าความสังเกตของเรายังหยาบๆ เราจะได้แต่ของหยาบๆ การภาวนาของเราก็จะไม่มีทางเจริญก้าวหน้าไปได้ • ต้องหมั่นมีสติ หมั่นพิจารณาร่างกายจนเป็นเป็นกระดูกจนร่วงลงไปกอง แล้วเผาให้เกลี้ยงไปเลย ถามตัวเองซิ มีตัวตนไหม อะไรทำให้ทุกข์ ทำให้เจ็บปวด มีตัวเราไหม ดูให้ถึงแก่นแท้ของธรรมชาติพิจารณาไปจนไม่มีอะไรของเราสักอย่าง • ผู้รู้แล้วจะไม่ทุกข์ ผู้ไม่รู้เท่านั้นเป็นทุกข์ ทุกข์มันก็มีอยู่กับทุกคน ไม่มีใครไม่มีหรอก ตราบใดที่ยังมีขันธ์ ๕ อยู่ ทุกข์ก็ต้องมี แต่ถ้าเรารู้แล้ว เราจะอยู่อย่างสบาย • ผู้มีปัญญา เมื่อเห็นเช่นนี้ ย่อมเกิดความสลดสังเวชในภพชาติ ไม่ยินดีในการเกิด มีจิตมุ่งตรงต่อนิพพานอย่างเดียว • คนทั้งหลายเขาก็อยู่กับทุกข์ๆ ๆ ทั้งนั้น แต่ไม่รู้จักทุกข์ จึงพ้นจากทุกข์ไม่ได้ • มัวแต่ตัดรากถอนโคน ระวังลูกมันจะหล่นลงมางอกอีก • ใจจะคิดจะปรุงอะไรก็ปรุงได้ แต่อย่าหลง • การกำหนดทุกข์ ก็ต้องเอาให้ละเอียด ต้องเอาถึงขนาดแค่ลืมตาปุ๊บ รูปมากระทบก็รู้ว่าทุกข์แล้ว |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 27 ก.ค. 2011, 15:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
• นิพพานนั้นเป็นเรื่องละเอียด ต้องใช้ปัญญาเอามากๆ ไม่ใช่ของจะถึงด้วยแรงอยาก ถ้าเป็นของที่จะถึงด้วยแรงอยาก พวกเราคงจะตรัสรู้กันหมดแล้วทั้งโลก • เมื่อรู้แล้ว ก็ให้อยู่เหนือรู้ • อย่าทำแต่ถูกใจ ต้องทำให้ถึงใจ • ผู้มีปัญญาย่อมใช้อะไรๆ ให้เป็นประโยชน์ได้ทั้งนั้น • จิตเปรียบเหมือนพระราชา อารมณ์ทั้งหลายเปรียบเหมือนเสนา เราอย่าเป็นพระราชาที่หูเบา • ไปกี่วัดกี่วัด รวมแล้วก็วัดเดียวนั่นแหละคือ วัดตัวเรา • ใจจะคิดจะปรุงอะไรก็ปรุงได้ แต่อย่าหลง • การภาวนาของเราต้องมีปีติเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ไม่อย่างนั้น ทำไปๆ มันจะเหี่ยวแห้ง • จิตเห็นจิตตามความเป็นจริง เขาก็วางของเขาเอง • อยู่บนที่สูงแล้ว ก็สามารถมองเห็นอะไรๆ ได้หมด • ถึงความเห็นของเราจะถูก แต่ถ้าเรายึดเข้าไว้มันก็ผิด • คนเราถ้าทำดีแล้วติดดีก็ไปไม่รอด เมื่อใจยังมีติดภพชาติยังมีอยู่ • ทำดีให้มันถูกตัวดี อย่าให้มันดีแต่กิริยา • การภาวนาก็คือการฝึกตาย เพื่อเราจะได้ตายเป็น • ธรรมะ เราอ่านมามากแล้ว ฟังมานานแล้ว เราก็ว่าเราเข้าใจ แต่มันถึงใจ ดีจริงหรือยัง • การภาวนาต้องทิ้งเป็นขั้นๆ เหมือนเขายิงจรวจในอวกาศพอพ้นจากโลกแล้ว กระสวยอวกาศก็ต้องทิ้งยานแม่ จึงจะไปถึงโลกพระจันทร์ได้ • ของจริงจึงอยู่กับเรา ถ้าเราทำจริงเราจะได้ของจริง ถ้าเราทำไม่จริงเราจะได้แต่ของปลอม • เราเป็นผู้ปฏิบัติธรรม ไม่ต้องไปอัศจรรย์ใครทั้งนั้น ว่าเขาดีวิเศษวิโสแค่ไหน จะทำอะไรก็ต้องมีหลัก • ท่านผู้รู้ทั้งหลาย เราไม่ต้องไปเที่ยวกราบท่านหรอก เป็นการลำบากเปล่าๆ ทั้งสองฝ่าย ให้กราบท่านในใจดีกว่า เรากราบท่านในใจนั่นแหละเราถึงท่านแล้ว • ของจริงขึ้นอยู่กับเรา ถ้าเราทำจริงเราจะได้ของจริง ถ้าเราทำไม่จริงเราจะได้แต่ของปลอม • ลูกศิษย์คนหนึ่งเป็นคนช่างถาม สงสัยอะไรก็ถามท่านพ่ออยู่เรื่อย เรื่องภาวนาบ้าง ปัญหาชีวิตบ้าง บางครั้งท่านก็ตอบดีๆ บางครั้งท่านก็ย้อนถามว่า “ทำไมจะต้องให้มีคนป้อนให้ถึงปากอยู่ตลอดเวลา ให้คิดเอาเองบ้างซิ” • ท่านพ่อเคยปรารภเรื่องคนที่ต้องให้ครูบาอาจารย์แก้ปัญหาในชีวิตทุกอย่างว่า “เหมือนลูกหมาพอมีขี้ติดตูดอยู่นิดหนึ่งก็ต้องรีบวิ่งไปหาแม่ ไม่รู้จักล้างตัวเองบ้าง อย่างนี้เรียกว่า ลูกแหง่เลี้ยงไม่โตสักที” • คนติดครูบาอาจารย์ก็เหมือนแมลงหวี่มาตอม ไล่เท่าไรๆ ก็ไม่ยอมไป • พวกภาวนาที่อยู่ใกล้ครูบาอาจารย์ แต่ไม่รู้จักท่าน ก็เหมือนทัพพีอยู่ในหม้อแกง ไม่มีโอกาสรู้รสของแกงว่า เปรี้ยว เผ็ด มันอย่างไร • คนหลายอาจารย์ ที่จริงไม่มีอาจารย์เลย • ศิษย์หลายคน ในเมื่อรับความเมตตาจากท่านพ่อ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดกับท่านว่า รักท่าน เคารพท่าน เหมือนพ่อบังเกิดเกล้า บางครั้งท่านก็ย้อนถามว่า “จริงอย่างที่พูดหรือเปล่า ถ้าจริงก็อย่าลืมลมซิ รักพ่อจริงอย่าทิ้งลมนะลูก” • มีลูกศิษย์คนหนึ่งมาขอรูปเล็กๆ ของท่านพ่อเพื่อห้อยไว้ที่คอ ท่านก็บอกว่า “ไม่ต้องห้อยรูปครูบาอาจารย์หรอก ไม่ต้องไปบอกว่าใครเป็นอาจารย์ รู้ไว้ที่ใจก็พอ” • อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง • จะดูคนอื่น ต้องดูที่เจตนาเขา • เราจะให้คนอื่นเขาดี เราต้องดูว่า ดีของเขามีอยู่แค่ไหน ถ้าดีของเขามีอยู่แค่นั้น เราจะให้เขาดีกว่านั้น เราก็โง่ • ใครจะดีอย่างไรจะชั่วอย่างไร ก็เรื่องของเขา เราดูเรื่องของเราดีกว่า • ศิษย์คนหนึ่งเล่าให้ท่านพ่อฟังถึงปัญหาทั้งหลายแหล่ ที่เข้ามาเรื่อยๆ ในที่ทำงาน ตัวเองก็อยากจะลาออก อยู่เงียบๆ แต่ก็ลาไม่ได้ ท่านพ่อจึงแนะนำว่า “ในเมื่อเราต้องอยู่กับมันเรา ต้องรู้จักให้อยู่เหนือมันเราจึงจะอยู่ได้” • เราทำงาน อย่าให้งานทำเรา • ศิษย์อีกคนหนึ่งมาบ่นกับท่านพ่อว่า ทั้งในบ้าน ทั้งในที่ทำงาน ตัวองต้องเจอแต่ปัญหาหนักๆ แทบเป็นแทบตายทั้งนั้น ท่านจึงบอกว่า “เราเป็นคนจริง จึงต้องเจอของจริง” • เจออุปสรรคอะไร เราก็ต้องสู้ ถ้าเรายอมแพ้เอาง่ายๆ เราจะต้องแพ้อยู่เรื่อย • ข้างในเราก็ต้องแกร่ง มีอะไรมากระทบ เราจะได้ไม่หวั่นไหว • ให้พกหิน อย่าพกนุ่น • ลูกศิษย์บางคนเมื่อภาวนาแล้ว เกิดมีความรู้ความเห็นถึงอดีตชาติของตนเองและผู้อื่น รู้สึกตื่นเต้นจึงนำมาเล่าถวายให้ท่านพ่อฟัง ท่านเตือนว่า “ภพชาติที่ผ่านมายังไปยินดีกันอยู่หรือ คนโง่เท่านั้นที่เข้าไปติด เราตาย-เราเกิดมานับอสงไขยไม่ถ้วน ถ้าจะเอากระดูกที่เราเคยเกิดตายมากองไว้ ก็จะโตยิ่งกว่าเขาพระสุเมรุ น้ำในแม่น้ำมหาสมุทรน้อยใหญ่ทั้งหลายนะ ก็ยังน้อยกว่าน้ำตาของเราที่เคยหลั่งรินเพราะความทุกข์ทั้งหลายเสียอีก ผู้มีปัญญาเมื่อเห็นเช่นนี้ย่อมเกิดความสลดสังเวชในภพชาติ ไม่ยินดีในการเกิด มีจิตมุ่งตรงต่อพระนิพพานอย่างเดียว” |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 27 ก.ค. 2011, 15:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
• หูเราก็มี ๒ หู ปากก็มีปากเดียว แสดงว่าเราต้องฟังให้มาก ต้องพูดให้น้อย • ศิษย์ที่เป็นคนช่างพูดเคยถูกท่านพ่อเตือนว่า “อย่าให้ลมออกมากนะ ลมออกมากได้อะไรขึ้นมา มีแต่เรื่อง ให้กำหนดลมเข้าจะดีกว่า” • ท่านพ่อได้ยินศิษย์สองคนนั่งคุยกัน คนหนึ่งถามปัญหาอีกคนหนึ่งตอบโดยเริ่มต้น “เข้าใจว่า คงจะ...” แต่ท่านพ่อก็ตัดบททันที “ถ้าไม่รู้ก็ตอบว่าไม่รู้ก็หมดเรื่อง เขาขอความรู้เราก็ให้ความเดามันจะถูกที่ไหน” • เรามีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างภาวนา เราไม่ต้องไปเล่าให้ใครฟังนอกจากอาจารย์ของเรา เรามีอะไรจะไปอวดเขาทำไม เป็นกิเลสไม่ใช่หรือ • ลูกศิษย์อีกคนหนึ่งรู้ตัวว่า เป็นผู้ที่พูดจาไม่ค่อยเรียบร้อย จึงถามท่านพ่อว่า ข้อนี้จะเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติใจไหม ท่านตอบว่า “อย่าไปข้องใจกับกิริยาภายนอก ให้ภายในใจของเราดีเป็นสำคัญ” • เวลากินข้าวให้ใจอยู่กับลม แล้วพิจารณาดูว่า เรากินเพื่ออะไร ถ้าเรามัวแต่กินเพื่อเอร็ดอร่อย อาหารที่กินเข้าไปนั้นให้โทษกับเราได้ • สร้างพระไว้ในใจของเรา ได้บุญยิ่งกว่าสร้างพระข้างนอก • วันหนึ่งท่านพ่อชี้หญ้าที่ขึ้นรกบริเวณกุฏิท่านให้โยมคนหนึ่งดู แล้วถามเขาว่า “หญ้าปากคอกโยมไม่เอาหรือ” • อีกครั้งหนึ่งท่านพ่อพาลูกศิษย์จากกรุงเทพฯ ขึ้นไปทำความสะอาด บริเวณพระเจดีย์ พอดีเจอเศษขยะที่ใครไม่ทราบทิ้งไว้บนนั้น ลูกศิษย์คนหนึ่งจึงบ่นว่า “แหมไม่น่าจะมีใครขาดความเคารพถึงขนาดนี้” แต่ท่านพ่อบอกว่า “อย่าไปว่าเขานะ ถ้าเขาไม่ได้ทิ้งของไว้พวกเราจะไม่มีโอกาสเอาบุญ” • ทำดีให้มันถูกตัวดี อย่าให้มันดีแต่กิริยา • มีคนมาปรารภกับท่านพ่อว่า อยากจะทำบุญวันเกิด ท่านก็บอกว่า “ทำไมต้องทำวันเกิด ทำวันอื่นไม่เป็นบุญหรือ คิดอยากจะทำบุญเมื่อไร ก็ให้รีบทำวันนั้น อย่าไปรอวันเกิด กว่าจะถึงวันเกิด เราอาจจะถึงวันตายนั่นแหละ” • อีกคนหนึ่งบอกกับท่านพ่อว่า จะทำบุญฉลองวันเกิด ท่านก็ตอบว่า “ฉลองมันทำไม วันเกิดก็คือวันตายนั่นแหละ” • มัวแต่นึกถึงวันเกิด ให้นึกถึงวันตายเสียบ้าง • คนเราทุกคนก็อยู่ในบัญชีตาย พอเกิดมาเราก็เข้าคิวรอเขาประหารชีวิต จะถึงตัวเราเมื่อไรก็ไม่มีใครรู้ ฉะนั้น เราจะประมาทไม่ได้ ต้องรีบสร้างความดีของเราให้ถึงพร้อม • มีลูกศิษย์ต่างชาติมาปฏิบัติธรรมกับท่านพ่อใหม่ๆ ถามถึงเรื่องชาติก่อน-ชาติหน้า ว่ามีจริงหรือไม่ ท่านตอบว่า “คนเราจะปฏิบัติธรรม พระพุทธเจ้าสอนให้เชื่ออย่างเดียว คือเชื่อกรรม นอกจากนั้นจะเชื่อหรือไม่ก็ไม่สำคัญ” • ท่านพ่อเคยปรารภคนที่ไม่สนใจนั่งภาวนา แต่ยินดีช่วยงานก่อสร้างในวัด ว่า “บุญเบาๆ เขาไม่ชอบ ต้องหาบุญหนักๆ ให้เขาทำ จึงจะถึงใจเขา” • ทำดีให้มันถูกตัวดี อย่าให้มันดีแต่กิริยา • บางครั้งเวลาลูกศิษย์นั่งภาวนาหรือทำการบุญใดๆ ท่านพ่อจะสอนให้อธิษฐานใจไว้ก่อน แต่คำที่สอนให้อธิษฐานนั้น จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางครั้งท่านจะสอนให้อธิษฐานตามแบบฉบับของพระเจ้าอโศกว่า “เกิดชาติหน้า ขอให้มีความสามารถในตัวของตัวเอง นั่นก็พอ” • บางครั้งท่านจะสอนว่า “อย่าไปอธิษฐานอะไรให้มากมาย เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้เกิดตามพระพุทธศาสนาก็แล้วกัน” • แต่ไม่ใช่ว่า ท่านพ่อจะสอนลูกศิษย์ทุกคนให้อธิษฐานใจเวลาทำบุญ ศิษย์คนหนึ่งเคยกราบเรียนท่านว่า เวลาทำบุญจิตรู้สึกเฉยๆ ไม่นึกอยากจะขออะไรทั้งสิ้น ท่านก็บอกว่า “ถ้าจิตมันเต็มแล้ว ไม่ต้องขอก็ได้ เหมือนเราทานข้าวมันก็ต้องอิ่ม ถึงจะขอหรือไม่ขอให้มันอิ่ม อย่างไรมันก็ต้องอิ่ม” • โยมคนหนึ่งมาวัดธรรมสถิตเป็นครั้งแรก กำหนดจะอยู่ถือศีล-ภาวนา เป็นเวลา ๒ อาทิตย์ ท่านพ่อก็เตือนว่า “ฆราวาสออกจากบ้าน ก็เหมือนสมภารออกจากวัด จะไปหาความสะดวกสบายไม่ได้นะ” • ในระหว่างการก่อสร้างเจดีย์ที่วัดธรรมสถิตย์ มีช่วงหนึ่งที่ลูกศิษย์ที่ไปช่วยงานก่อสร้างเกิดทะเลาะกัน ลูกศิษย์คนหนึ่งที่ไม่พอใจในเหตุการณ์ ไปรายงานท่านพ่อ ซึ่งขณะนั้นพักอยู่ที่วัดมกุฎฯ พอเขารายงานเสร็จ ท่านพ่อก็ถามว่าฯ “รู้จักหินไหม” “รู้จักค่ะ” “รู้จักเพชรไหม” “รู้จักค่ะ” “แล้วทำไมไม่เลือกเก็บเพชรล่ะ เก็บมันทำไมหิน” • ถ้าใจเรามั่นใจคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พวกที่เขาเล่นของไสยศาสตร์ จะทำอะไรเราไม่ได้ • ท่านพ่อเคยปรารภนักปฏิบัติที่ยังนับถือคนเข้าทรงว่า “ถ้าต้องการให้การปฏิบัติได้ผลดีต้องอธิษฐานว่า จะขอถือองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอย่างเดียว อย่างอื่นไม่ใช่ที่พึ่ง |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 27 ก.ค. 2011, 15:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
คัดลอกเนื้อหามาจาก... (๑) หนังสือ...ยาใจ วัดธรรมสถิต ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง (๒) หนังสือ...ผลไม้ในสวนธรรม หนังสือที่รวบรวมพุทธวจนะของพระพุทธเจ้า และหลักคำสอนย่อๆ ของพระอริยสงฆ์ มีต่อค่ะ ประวัติและปฏิปทา “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=27449 รวมคำสอน “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=47090 ประมวลภาพ “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=21515 |
เจ้าของ: | O.wan [ 27 ก.ค. 2011, 18:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
จะคอยอ่านต่อนะคะ |
เจ้าของ: | bluebird [ 18 ส.ค. 2011, 15:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
เจ้าของ: | ดาราวรรณ [ 21 ส.ค. 2016, 21:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
กราบสาธุๆๆ |
เจ้าของ: | ลูกหว้า [ 11 ม.ค. 2017, 09:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
เจ้าของ: | อุบาสกน้อย [ 27 ก.พ. 2018, 09:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
ขออนุโมทนาสาธุนะครับ |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 23 มี.ค. 2019, 07:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
เจ้าของ: | Duangtip [ 10 ต.ค. 2019, 17:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ |
เจ้าของ: | AAAA [ 21 เม.ย. 2020, 17:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ |
เจ้าของ: | sirinpho [ 23 ธ.ค. 2021, 20:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สาระธรรมคำสอนสุดยอด !!...ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |