อ้างอิงจาก หนังสือ วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร พระสงฆ์จี้กงอรรถกถาอธบาย อมรทองสุก แปลและเรียบเรียง
เริ่มกันเลยนะครับ

๑. เหตุปัจจัยแห่งการประชุมธรรม

ดังที่เราได้สดับมา สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ เมือง สาวัตถี ที่เชตวนารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี พร้อมด้วยภิกษุหมู่ใหญ่ ๑,๒๔๐ รูป

เวลานั้นเป็นเวลาฉันภัตตาของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงครองจีวร ทรงบาตร และเสด็จสู่มหานครสาวัตถีบิณฑบาต อยู่ในเมืองนี้ บิณฑบาตโดยลำดับจนครบจำนวน ครั้นแล้วเสด็จกลับมายังเชตวนาราม ฉันภัตกิจเสร็จ เก็บบาตรจีวร ชำระพระบาท จัดแต่งอาสนะแล้วประทับนั่ง

๒.ศุโภบัติ อาราธนา

ขณะนั้นพระสุภูติที่อยู่ท่ามกลางประชุมสงฆ์ ได้ลุกขึ้นจากอาสนะ เฉวียงจีวรเปลือยแขนบนไหล่ขวา คุกเข่าขวาลงพื้น ประคองอัญชลีพลางกราบทูลถามพระพุทธองค์ว่า " หาได้ยากหนักหนา ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตถาคตทรงคุ้มครองห่วงใยอันดีต่อเหล่าพระโพธิสัตว์ ทรงอบรมสั่งสอนอันดีต่อเหล่าพระโพธิสัตว์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อกุลบุตรบังเกิดอนุตรสัมมาสัมโพธิจิตแล้ว ควรดำรงให้คงอยู่อย่างไร และควรสยบจิตนี้อย่างไร "

พระพุทธองค์ตรัสว่า " เจริญพร เจริญพร สุภูติ ดังที่เธอกล่าว ตถาคตทรงคุ้มครองห่วงใยอันดีต่อเหล่าโพธิสัตว์ และทรงอบรมสั่งสอนอันดีต่อเหล่าพระโพธิสัตว์ เธอจงตั้งใจฟังเราจะแสดงแก่เธอ "

" กุลบุตร กุลธิดาเมื่อบังเกิดอนุตรสัมมาสัมโพธิจิตแล้วควรดำรงจิตของตนให้คงอยู่เช่นนั้น และควรสยบจิตของตนเช่นนั้น

" สาธุ พระสุคต ข้าพระองค์มีความปลาบปลื้มยินดีเฝ้าคอยสดับอยู่"

ค่อยมาต่อพรุ่งนี้นะครับ
โปรดติดตามตอนต่อไป

สงสัยติดสุขสิบขั้นอยู่ จึงไม่มาต่อ

เฟลมเอ๋ยตัวเธอนี่ช่างโง่เขลา ถูกกิเลสเผาอยู่ทุกวัน

๓.

พระพุทธองค์ตรัสแก่สุภูติว่า " เหล่าพระโพธิสัตว์ มหาสัตว์ควรสยบในเช่นนั้น. สรรพสัตว์ทั้งปวง ไม่ว่าเกิดจากอัณฑชะก็ดี เกิดจากชลาพุชะก็ดี เกิดจากสังเสทชะก็ดี เกิดจากอุปปติกะก็ดี จักมีรูปก็ดี ไม่มีรูปก็ดี มีสัญญาก็ดี ไร้สัญญาก็ดี หรือจักมิมีสัญญาก็ดี มิไร้สัญญาก็ดี เราล้วนชักนำเข้าสู่ อนุปาทิเสสนิพพานแล้ว ทำการดับโปรด ด้วยการโปรดสรรพสัตว์ที่มิอาจมีประมาณนี้ ความจริงแล้วหาได้มีสรรพสัตว์ใดๆ ได้รับการโปรดเลยไม่เพราะเหตุใด"

"สุภูติ หากพระโพธิสัตว์มีอาตมะลักษณะ บุคคละลักษณะ สัตวลักษณะ ชีวะลักษณะ ก็จะมิใช่พระโพธิสัตว์

๔. ดำเนินแยบยลไร้ดำรง

" อนึ่ง สุภูติ ในธรรมนั้นพระโพธิสัตว์ควรบริจาคทานโดยไร้การดำรง กล่าวคือ จักบริจาคทานโดยไร้ดำรงในรูป ไร้ดำรงในเสียง กลิ่น รส สัมมผัส และธรรมารมณ์ สุภูติ พระโพธิสัตว์ควรบริจาคทานเช่นนี้โดยไร้การดำรงในลักษณะ เพราะเหตุใด หากพระโพธิสัตว์ไร้ดำรงในลักษณะบริจาค บุญวาสนาที่ได้รับก็จักมิอาจคำนวณได้เลย "

" สุภูติ ในความหมายนี้เป็นเช่นไร ทิศบูรพาอันว่าเปล่า สามารถคะเนได้หรือไม่ "
" ไม่แล ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า "
" สุภูติ ทิศทักษิณ ประจิม อุดร อาคเนย์ อีสาน พายับ หรดี ตลอดจนความว่างเปล่าในบนล่างสารทิศ สามารถคะเนได้หรือไม่ "
" ไม่แล ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า "
" สุภูติ พระโพธิสัตว์ไร้ดำรงในลักษณะบริจาคทาน บุญวาสนาที่ได้ย่อมไม่อาจคะเนได้ดุจกัน สุภูติ พระโพธิสัตว์พึงดำรงตามคำสอนเช่นนี้แล "

บางท่านที่ยังไม่เคยอ่านพระสูตรนี้ พอมาอ่านแล้วอาจจะอึ้ง(ทึกทักเอาเองรึเปล่าเรา) ไม่ต้องตกใจนะครับผมก็เป็น แต่บางท่านอ่านแล้วไม่ตกใจ ก็อนุโมทนาด้วยครับ ท่านเป็นคนที่หาได้ยากจริงๆ พระสูตรนี้เป็นสูตรที่มาจากทางมหายาน ไปร้านหนังสือแล้วหยิบมาอ่าน อ่านปุ๊บก็ตกใจปั๊บ ทั้งงุนงง สับสน บอกได้คำเดียวว่ายาก

ผมอ่านพระสูตรนี้แล้วทำให้ผมเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น

ป.ล. จริงๆพระพุทธศาสนาไม่ควรแบ่งแยกนิกาย แต่ควรแสวงหาจุดร่วม จุดร่วมนี้คืออะไร ก็คือพุทธวจนะ หรือพระธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นคำพระพุทธเจ้าหรือไม่ ก็ต้องใช้หลักมหาปเทสสี่ คำของพระพุทธเจ้าย่อมเข้ากันได้เป็นหนึ่งเดียวไม่ขัดแย้งกันเอง

เจริญในธรรม

คุณ มัท รู้ด้วยหรือ ว่า ท่านจี้กง ปราถนาพุทธภูมิ
ไม่เบาทีเดียวเลยคุณมัท
ทำลิงค์หรือโพสมาให้อ่านหน่อยสิครับ

ซำบายดีหรือท่าน...ไม่ได้สนทนากันตั้งนาน
จะให้ข้าพเจ้าเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนทำไม
รอท่าน Flame มาโพสต์ขยายความดีกว่า...รอหน่อยนะ

ท่าน Flame หายไปไหนเอ่ย รออ่านอยู่
หากไม่มาโพสต์ต่อ ข้าพเจ้าอาจกระทำการยึดกระทู้นี้ในเร็ววันนะ...เจ้าคะ

คุณมัทจะยึดกระทู้หรือครับ
น่ากลัวจริง
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาผมงานยุ่งมากครับ
แทบไม่ได้หลับได้นอน
ทำอะไรติดขัดไปหมด สงสัยถูกวิบากกรรมเล่นงาน
แต่ผลสุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดีครับ
สุขภาพช่วงนี้ก็ไม่ค่อยปกติ เหมือนหัวมันหนักอาจเป็นเพราะนอนน้อยก็ได้
คุณมัทจะโพสก่อนก็ได้ครับ กระทู้จะได้ต่อเนื่องและเป็นประโยชน์แก่ผู้ฟัง


ธรรมสวัสดีครับ

ระหว่างรอท่าน Flame มาโพสต์ต่อ
ข้าพเจ้าขอคั่นรายการด้วยกระทู้นี้เพื่อประโยชน์แก่ท่านผู้อ่าน
ที่สนใจเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ (โดยเฉพาะทางมหายาน)...ไปพลางก่อนนะคะ



แนวทางแห่งพระโพธิสัตว์ตามคติของมหายาน
viewtopic.php?f=26&t=37889