วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 13:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 46 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 02:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ด้วยแรงแห่งรัก

เจริญพร ทุกท่าน ช่วงนี้ต้องอินเทรนด์ ต้องทันกระแสหน่อย อาตมาก็ขอพูดในเรื่องของ
ความรัก บางคนบอกว่า เป็นพระจะรู้เรื่องความรักได้ดีเท่ากับสามัญชนธรรมดาได้อย่างไร
โยมทั้งหลาย เรื่องความรักนั้น ทางพระพุทธศาสนาได้สอนไว้ชัดเจน เพราะว่าทุกคนจะอยู่ได้
ก็ต้องอาศัยความรักและเมตตาจิตที่คิดดีต่อกัน แปลกไหมโยม ทำไมคนเราต้องมีรักด้วย ในเมื่อ
เราได้ยินจนหูชาแล้วว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ (ถ้าโยมไม่อยากมีทุกข์ก็ให้ไปแต่ที่ใด อย่าไป
ที่นั่น เพราะที่นั่นมันมีทุกข์ ขอให้โยมไปที่ใดจะได้มีรัก) รู้ทั้งรู้ว่า รักทำให้เกิดทุกข์แต่เราก็ยัง
แสวงหาความรักมาใส่หัวใจอีก มันก็น่าคิด สาเหตุที่คนต้องมีรัก ก็เพราะว่าเราทุกคนล้วนมีหัวใจ
ถ้ามีหัวใจแต่ไม่มีความรักความเมตตาไปหล่อเลี้ยง หัวใจก็จะเหี่ยวเฉา

ด้วยเหตุนี้ คนเราจึงต้องโหยหาความรักอยู่ตลอดเวลา... ที่จริงแล้ว เราได้ความรักมาตั้งแต่เกิด
เป็นความรักที่ประเสริฐที่พ่อแม่ได้มอบให้ เมื่อเริ่มเติบโตเป็นหนุ่มสาว ก็ต้องการใครสักคนมา
ช่วยดูแลหัวใจของเรา อาตมาขอบอกว่า หัวใจนั้นเป็นของเรา อย่าเอาหัวใจไปไว้ที่ฝ่าเท้าของใคร
เพราะทุกก้าวที่เดินเข้าไป เราจะยิ่งเจ็บปวด หมายความว่า รักก็ต้องรักอย่างเข้าใจ อย่ารักแบบ
หัวปักหัวปำ ถ้าเป็นรักแบบนั้น ความช้ำใจก็จะตามมา ก็น่าเห็นใจใครบางคนที่ค้นหาความรัก
ตลอดชีวิต ก็ไม่พบสักทีไม่รู้ว่าไปซ่อนแห่งหนตำบลใด แต่กับใครบางคนไปที่ไหนก็ชนแต่ความรัก
พระพุทธองค์ตรัสว่า ธรรมทั้งหลายเกิดขึ้นแต่เหตุ เมื่อสร้างเหตุแห่งรัก ความรักก็จะตามมา
เมื่อเราสร้างเหตุแห่งความเกลียดชัง จะหวังอะไรกับความรัก

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


แก้ไขล่าสุดโดย ธรรมบุตร เมื่อ 04 พ.ค. 2010, 02:10, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 02:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

คลายร้อนด้วยรอยยิ้ม


ยิ้มเถอะนะหัวใจอย่าได้บึ้ง ยิ้มให้ซึ้งตรึงใจใบหน้าหวาน
ยิ้มไปเถอะยิ้มสู้หมู่ภัยพาล ยิ้มชื่นบานยิ้มนิดชวนติดใจ
ยิ้มปลอบใจตัวเองให้แกร่งกล้า ทุกข์โศกมายิ้มนิดคิดแก้ไข
พี่กับน้องเห็นกันหมั่นยิ้มไว้ คนทั่วไปยิ้มให้กันนั้นแหละดี

เจริญพรท่าน สาธุชนทุกท่าน พบกันเหมือนเดิม ช่วงนี้อากาศร้อนขึ้นมากโยมว่าจริงไหม
โยมว่าประเทศไหนที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนมากที่สุด บางท่านอาจจะบอกว่าประเทศสหรัฐ
อเมริกา ผิดนะโยม บางท่านบอกว่าประเทศจีน ผิดอีกแหละ ประเทศที่ทำให้เกิดโลกร้อน
มากขึ้นไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกโยม ก็ประเทศไทยเรานี่แหละ เพราะว่าคนไทยชอบดึงฟ้าสูง
ให้ลงต่ำ (อ้าวมุขเสี่ยงๆ แบบนี้ไม่ฮาเลยนะโยม ปล่อยให้พระต้องรับผิดชอบคนเดียวเลย)
อากาศมันร้อนขึ้นก็เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ทั้งนั้น เราไม่สามารถที่ห้ามอากาศไม่ให้ร้อนได้
แต่เราสามารถที่จะบังคับใจตนเองให้เย็นได้จริงไหม เขาบอกว่าร้อนอะไรก็ร้อนได้ แต่อย่าร้อนใจ
เหนื่อยอะไรก็เหนื่อยได้ แต่อย่าเหนื่อยใจ เพลียอะไรก็เพลียได้ แต่อย่าเพลียใจ กลุ้มอะไรก็
กลุ้มได้ แต่อย่ากลุ้มใจ หายอะไรก็หายได้แต่อย่าให้หาย...ใจ เอ้า...ไม่หายใจก็ตายสิโยม ไม่ได้
นะโยม เราต้องหายใจเอาไว้ อย่าพึ่งขี้เกียจหายใจนะโยม เพราะว่าการตายไม่ใช่เป็นการพักผ่อน
ชั่วคราวเพราะเมื่อเจออากาศเข้าไปบางคนใจหาย คือหาใจตนเองไม่เจอ บังคับใจตนเองไม่ได้
ทำให้มีปัญหาตามมา ดังนั้นโยมอย่าให้อากาศที่ร้อนเร่ามาเผาใจของคุณโยมให้ร้อนรนจนทน
ไม่ไหว

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 02:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


เปิดใจใส่ธรรม

เอาละโยมปี ใหม่ อาตมาขอมอบธรรมะเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับโยมก็แล้วกัน บางคน
อาจจะถามว่าทำไมต้องให้ธรรมะ ขอบอกแบบตรงๆ คือ ให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง
ถ้าจะให้ทั้งทีก็ให้สิ่งที่ประเสริฐ เพราะว่าธรรมะเป็นทรัพย์ที่ประเสริฐ เป็นอริยทรัพย์ เป็นแสง
สว่างที่ส่องได้ทั้งในที่มืดและที่แจ้ง เมื่อเรามีธรรมะแล้วธรรมะก็จะรักษาผู้ปฏิบัติไม่ให้ตกไปสู่ที่ชั่ว
ธรรมะจะทำให้ผู้ที่ปฏิบัติ มีสติ มองไกล ใฝ่สูง มีสติคือมีสติในการดำเนินชีวิต ไม่ลุอำนาจ
แห่งความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นคนที่ปลงได้ ความสุขก็เกิดขึ้นได้กับโยม มองไกล
คือมองเพื่อความสุขของคนหมู่มาก ดังพุทธองค์ทรงตรัสว่า เราต้องยังประโยชน์ตนและประโยชน์
ท่านให้ถึงพร้อม หมายความว่าทำหน้าที่ตนให้ดี และจุนเจือสังคมด้วยการให้ที่เต็มเปี่ยมด้วยเมตตา
ใฝ่สูง หมายถึงใฝ่ในคุณงามความดี ยกระดับจิตตนเองให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เพราะมนุษย์แปลว่า
ผู้ที่มีใจสูง
มาเข้าเรื่องปีใหม่กันดีกว่าโยม ถ้าให้อาตมามองในเชิงรูปธรรมของขวัญที่มีค่ามากที่สุดคือ ชีวิต
ของเรา ตัวของเรา เป็นของขวัญที่มีค่ามากที่สุดที่พ่อแม่เราได้มอบให้ เป็นของขวัญที่ประเมินค่า
ไม่ได้ หลายคนน้อยใจนะ ปีใหม่ทั้งที วันเกิดทั้งทีพ่อแม่ไม่ได้ให้อะไรเรา ก็น้อยอกน้อยใจ
บอกว่าพ่อแม่ไม่เคยให้อะไรหนูเลย ถ้าเรามองกลับกันละโยม ตาสองข้างท่านให้มา แขนสองข้าง
ท่านให้มา อวัยวะทุกอย่างในร่างกายท่านให้มา ชีวิตทั้งชีวิตท่านให้เรา เมื่อเราเป็นของขวัญของ
พ่อแม่ แล้วเราล่ะให้อะไรท่านหรือยัง?

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 03:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนา ครับ :b1: :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 07:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


เมื่อร้อนรุ่ม...รักซ้อน...ใจร้อนเร่า
เมื่อใจเรา...เร่าร้อน...รักอ่อนไหว
เมื่อรักซ้อน...ร้อนรน...ทนร้อนใจ
ร้อนภายใน..ร้อนมิคลาย...ร้อนใจตน... :b13:

ช่วยแต่ง..ต่อหน่อยได้ไหมค่ะ? :b23:

เอ๊ะ!!!!!...หรือมาผิดห้อง....:b12:

อนุโมทนาค่ะท่าน :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 09:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b20: ขออนุโมทนาสาธุการด้วยค่ะ คุณธรรมบุตร
อ่านแล้วให้รู้สึกผ่อนคลายเลยจ้า :b51: :b53: :b44:

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 10:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

ขออนุโมทนาสาธุการด้วยครับ คุณธรรมบุตร

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2010, 02:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เราจะระงับอารมณ์หดหู่ได้อย่าง ไร................by พระมหาสมปอง

รูปภาพ

เมื่อเห็นธุรกิจที่สร้างมา พังครืนไปตรงหน้า

บอกตรงๆ เลยว่ามันยาก
ที่จะไม่ให้หดหู่ไปกับความสูญเสีย ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา
เราต้องยอมรับความจริงของโลกธรรม 8
คือ มีลาภ เสื่อมลาบ มีก้อย เสื่อมก้อย มีต้มเสื่อมต้ม
(ก็ว่าจะไม่เล่นแล้วนะ แต่จังหวะมันให้)

มาเข้าเรื่องของเรา คือคนเราหนีไม่พ้นโลกธรรม 8
แม้แต่เปาบุ้นจิ้น มียศฐาบรรดาศักดิ์ขนาดไหน
พอมาถึงเมืองไทย ยังต้องกลายเป็นผงซักฟอกเลย

พวกเราคนธรรมดาสามัญคงต้องมีบ้าง
เสื่อมลาภ-เสื่อมยศ ทุกข์-สุข สรรเสริญ-นินทา เป็นธรรมดา

“ไข่มุก” ก็เป็นมะเร็งของหอยชนิดหนึ่ง
อันเกิดจากสิ่งแปลกปลอม ที่เล็ดลอดเข้าไปในตัว
แต่มันก็ต่อสู้จนชนะ และได้สิ่งมีค่ากลับมา

ฉันใดก็ฉันนั้น...
ความล้มเหลวจะมีค่า ก็ต่อเมื่อเราเรียนรู้ที่จะต่อสู้และอดทนเท่านั้น

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2010, 02:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกข์เกิดจาก อะไร...................................โดย พระมหาสมปอง

รูปภาพ

ทุกข์เกิดจาก เหตุและปัจจัย
ทางพระเรียกว่า “อิทัปปัจจยตา”
สิ่งนี้มี เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้ดับ เพราะสิ่งนี้ดับ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันต้องมีเหตุของมัน
มันต้องมีปัจจัยของมัน

ถ้าจะเอาง่ายๆ “ทุกข์เกิดจากใจ”
ชีวิตคนเรา มันต้องมีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา
ทำให้ใจสบาย ทำให้ใจเป็นสุข สนุกกับชีวิตเข้าไว้
มองโลกในแง่ดี เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส
อย่าไปซีเรียสอะไร ถ้าไม่เชื่อ ลองไปถามลิฟท์ดู
เดี๋ยวก็อยู่ชั้น 20 เดี๋ยวก็อยู่ชั้น 2 ขึ้นๆ ลงๆ ทั้งวัน

“เขาว่าหลงทางเสียเวลา หลงสีกาก็เสียผ้าเหลือง
เมื่อประตูบานหนึ่งปิด อีกบานหนึ่งก็จะเปิด
แต่บ่อยครั้งที่เรามัวแต่จ้องประตูบานที่ปิด
จนไม่ทันเห็นว่า มีอีกบานที่เปิดอยู่”




-------------------------------//////--------พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2010, 02:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


.........................................." ขำก้นบาตร"....................................

รูปภาพ

เช้าวันหนึ่ง ในขณะที่โยมกำลังยืนใส่บาตร
พระเห็นว่า โยมใส่รองเท้าอยู่ จึงเอ่ยปากแนะนำ

พระ อาตมาว่า โยมควรถอดรองเท้าใส่บาตรนะ
โยม เอ่อ...จะดีเหรอคะ
พระ ไม่เป็นไรหรอก โยมจะได้ไม่ยืนสูงกว่าพระไงล่ะ

โยมจัดแจงถอดรองเท้ายกขึ้นมา พร้อมกับถามพระว่า

โยม แล้วท่านจะให้อิฉันใส่ข้างเดียวหรือว่าทั้งสองข้างเลยคะ
พระ คืออาตมาหมายถึง ควรถอดรองเท้าเวลาใส่บาตร
ไม่ใช่ถอดรองเท้า แล้วเอามาใส่ในบาตรหนะโยม

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2010, 02:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นิยามคำว่า “ความสุข” ในความหมายของพระ คืออะไร.........พระมหาสมปอง

รูปภาพ

นิยามความสุขของพระคือ
นตฺถิ สนฺติ ปรมํ สุขํ
ความสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี

ความสุขชนิดนี้ ต้องใช้ธรรมะ ใช้เงินซื้อไม่ได้

เงินซื้อข้าวปลาอาหารอย่างดีได้
แต่เงินซื้อสุขภาพที่ดีไม่ได้

เงินซื้อยารักษาโรคได้
แต่เงินซื้ออายุให้ยืนยาวไม่ได้

เงินซื้อบ้านหลังใหญ่ๆ ได้
แต่เงินซื้อความสุขภายในบ้านไม่ได้

เงินซื้ออาวุธได้
แต่เงินซื้อสันติภาพไม่ได้

เงินซื้ออุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกชนิดให้ชีวิตได้
แต่เงินซื้อความสุขไม่ได้

เงินไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิต
เงินให้ได้แต่ความสะดวกสบาย
แต่ธรรมะ ให้ความสุข สงบ เย็น

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2010, 02:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนวัยไหนมีทุกข์มากที่ สุด.......................by พระมหาสมปอง

รูปภาพ

วัยที่มีทุกข์มากที่สุด คือวัยที่ปล่อยชีวิตไปตามดวง
ตามโชคชะตา ตามเคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ปรับตัวไม่ทันกับสังคมไทย ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
มัวหลงยึดวัตถุเป็นสรณะ มากกว่าธรรมะ
ไม่เข้าใจว่า วัตถุให้แค่ความสะดวกสบาย
แต่ธรรมะให้ความสุขสงบเย็น

อยากจะบอกกับทุกๆ วัยว่า
การเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์
การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก คนที่รัก ก็เป็นทุกข์
เพราะสิ่งเหล่านี้ คือสัจธรรม
ความจริงของชีวิตต้องรู้เท่าทันมัน

“ความทุกข์ที่เกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน”

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2010, 02:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อลูกไม่เชื่อ ฟัง...................จาก พระมหาสมปอง (หลวงพี่มาแล้ว เล่ม 2)

รูปภาพ

>>> นมัสการพระอาจาย์เจ้าค่ะ

ทำไมลูกไม่เชื่อฟังดิฉันเลยเจ้าค่ะ แต่ทีกับเพื่อน เพลง โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ มันฟังได้ทั้งวัน


จาก
แม่เซ็ง


<<< มันเป็นเรื่องธรรมดาของเด็ก ๆ อะไรที่ฟังแล้วสบายใจ เขาก็จะฟัง แต่อะไรที่ฟังแล้วสร้างความหงุดหงิด เขาก็จะหลีกเลี่ยง อย่าง เสียงบ่น เสียงดุ เสียงด่า อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่อย่างโยมก็ไม่อยากฟัง (หรือว่าจะฟัง)

อย่างบางบ้าน ลูกกำลังจะออกไปข้างนอก แม่เห็นปั๊ปก็ด่าเลย ด้วยความเคยชิน
“ไอ้ควาย จะไปไหน”
“ไปไถนามั้ง หรือจะให้ควายอยู่บ้านเดียวกับแม่” (เอากับมันซิ)

ดังนั้น ถ้าโยมอยากให้ลูกเชื่อฟัง ตอนเริ่มต้นโมดิฟายตัวเองก่อน ถ้ารู้ว่าลูกเชื่อฟังเพื่อนนัก เราก็ต้องทำตัวเป็นเพื่อนกับเขา พอเขารู้สึกสบายใจที่คุยกับเรา เมื่อมีปัญหาอะไร ก็จะมาปรึกษา คราวนี้มันก็จะง่ายต่อกันแนะนำสั่งสอนแล้ว

หรือโยมจะนำสูตรการเลี้ยงลูกของคนโบราณมาประยุกต์ใช้ก็ได้ สูตรที่ว่าก็คือ
“น้ำใส ใบยอ กอไผ่ ใฝ่ธรรมะ”
น้ำใส หมายความว่า ต้องทำดีให้ลูกดู รับผิดชอบครอบครัว เข้าวัด ทำบุญ รักษาศีล แล้วลูกจะเลียนแบบ

ใบยอ ก็คือ ต้องยอลูกให้เป็น ต้องรู้จักชม ลูกทำดี ๓ ครั้ง ถ้าไม่ชม คราวต่อไปลูกก็เลิกทำ

ส่วน กอไผ่ ก็คือ ถ้าลูกทำผิดต้องมีการอบรมสั่งสอน มีการลงโทษ ตีบ้าง ถ้าจำเป็น ตามคำโบราณที่กล่าวว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี”
แต่ตีด้วยสติ ตีด้วยธรรมะ ตีด้วยความเมตตา อย่าตีด้วยอารมณ์

แล้วอุปกรณ์ในการตีนี่ อาตมาหมายถึง กิ่งไผ่นะ อย่าไปเข้าใจผิดใช้ลำต้นเข้า
เดี๋ยวลูกจะตายเอา


เจริญพร

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2010, 02:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเวลาบ้าง ได้ไหม ........................พระมหาสมปอง [หลวงพี่แล้ว เล่ม ๒]



>>> กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
ลูก ๆ ชอบบ่นว่า ผมไม่มีเวลาให้ ทั้ง ๆ ที่ผมก็ซื้อนาฬิกาให้คนละหลาย ๆ เรือน ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาข้อมือ นาฬิกาแขวน นาฬิกาปลุก หรือแม้กระทั่งนาฬิกาทราย แล้วอย่างนี้ จะมาบอกว่า ไม่มีเวลาให้ได้อย่างไร
จาก
เวลาเหลือเฟือ



<<< ไม่ใช่เวลาอย่างนั้น ลูกเขาหมายถึงเวลาในการอยู่ด้วยกัน ด้วยความรัก ด้วยความเอาใจใส่ ไป ๆ มา ๆ อาตมาก็ชักเป็นห่วงลูกของโยมแล้วซิ เอาเป็นว่า ขอเล่านิทานเพื่อเตือนสติคุณโยมแล้วกัน

ชายหนุ่มเลิกงาน แล้วกลับเข้าบ้านด้วยความอ่อนล้า ก็เห็นลูกชายวัย ๑๐ ขวบ ยืนรออยู่หน้าประตูบ้าน
“ทำไมมายืนอยู่ตรงนี่ล่ะ”
“ผมมีเรื่องจะถามพ่อครับ”
“ไว้ถามในบ้านก็ได้นี่”
“มันเป็นความลับครับ เดี๋ยวแม่จะรู้”
“งั้นถามมาเลย เพราะเดี๋ยวพ่อต้องรีบไปธุระข้างนอกอีก”
“พ่อทำงานได้เงินชั่วโมงละเท่าไร”
“ไม่มากหรอกลูก แต่ก็เลี้ยงดูเราได้”
“เท่าไหร่น่ะครับ ?”
“๑๒๐” ผู้เป็นพ่อตอบ
“ผมขอยืมสัก ๖๐ บาทได้ไหมครับ”
“ทำไมต้องขอยืมด้วย พ่อให้เลยก็ได้ แต่ค่าขนมที่ให้ไป ไม่พอใช้เหรอ”
“พอครับ พอ แต่มันมีเรื่องจำเป็นต้องใช้เงิน”
ผู้เป็นพ่อล้วงกระเป๋ายื่นเงินให้
“อ่ะ เอาไปเลย”
“ขอบคุณครับพ่อ”
“ทีนี้เข้าบ้านกันได้หรือยัง เดี๋ยวพ่อต้องรีบอาบน้ำออกไปธุระข้างนอก”
“พ่อไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นครับ”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
ว่าแล้วลูกชายก็ล้วงตังค์ของตัวเอง ๖๐ บาท กับเงินที่ยืมมาเมื่อกี้ รวมเป็นเงิน ๑๒๐ บาทยื่นให้กับพ่อ พร้อมกล่าวว่า
“ผมขอซื้อเวลาให้พ่ออยู่กับพวกเรา ๑ ชั่วโมงได้ไหมครับ”

ในยุคปัจจุบัน สังคมต้องรีบ และแข่งขันกันตลอดเวลา โยมทั้งหลายอาจลืมให้ความรักความเอาใจใส่กับคนรอบข้าง ลืมที่จะพูดคุยกัน เพราะมัวแต่ทุ่มเวลากับการหาเงิน

เพราะฉะนั้น ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่โยมจะหันมาใส่ใจคนในครอบครัวบ้าง
เพราะความสุขของครอบครัว มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกินอิ่ม มีเงินมีทองใช้สอยอย่างคล่องมือ แต่มันอยู่ที่การได้ความรัก ความอบอุ่นด้วย

วันนี้ โยมให้เวลากับคนใกล้ชิดแล้วหรือยัง
อย่าให้เขาถึงขั้น ต้องเอ่ยปากขอซื้อกันเลย
เจริญพร

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2010, 02:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฟังดี ได้ดี...........................หลวงพี่มาแล้ว เล่ม ๒ (พระมหาสมปอง)



>> กราบนมัสสการค่ะ
ระหว่างที่หนูกำลังท่องศัพท์อังกฤษอยู่ มีศัพท์อยู่ ๒ คำ ที่สร้างความประหลาดให้นั่นก็คือคำว่า “Listen” ที่แปลว่า “ฟัง” กับคำว่า “silent” ที่แปลว่า “เงียบ” เพราะมันเป็นอักษรชุดเดียวกัน เพียงแต่อยู่สลับที่กัน
เขียนมาเล่าเฉย ๆ น่ะค่ะ เห็นว่ามันแปลกดี
จาก
ผู้หญิงอยากเล่า
--------------------------------------------------------------------------------------------------------

<<< เมื่อคุณโยมไม่ถาม อาตมาก็ไม่รู้จะตอบอะไร เอาเป็นว่า เรามาผลักการเล่าแล้วกัน คุณโยมเปิดประเด็นถึงเรื่อง “Listen” ที่แปลว่า “ฟัง” อาตมาก็ขอตามน้ำด้วยคำพระที่ว่า
“สุสฺสูสํ ลภเต ปญฺญํ” ที่แปลว่า
“ฟังด้วยดี ย่อมได้ปัญญา ฟังไม่ดี ก็เกิดปัญหา”

และประโยชน์ของการฟังก็มีมากมาย เช่น

๑.ย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง (หรือใครจะเถียง)
๒.ย่อมเข้าใจชัดยิ่งขึ้น ถึงสิ่งที่ฟังมาแล้ว
๓.บรรเทาความสงสัย
๔.ทำความเห็นถูกต้อง
๕.จิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส
ฯลฯ
แล้วถ้าคุณโยมเรียนรู้ หรือมีการฝึกฝนตัวเองให้เป็นผู้ฟังที่ดี ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ก่อให้เกิดปัญญาด้านต่าง ๆ ตามมาอย่างเป็นลำดับ ตามหลัก สุ จิ ปุ ลิ ที่เป็นคุณสมบัติของปราชญ์มาทุกยุคทุกสมัย อาตมาขอร่ายเป็นกลอน ดังนี้

สุ ตั้งใจฟังให้ดีอย่าขี้เกียจ
จิ คิดให้ละเอียดข้อสงสัย
ปุ ถามเนื้อความที่ข้องใจ
ลิ เขียนไว้เมื่อสงสัยได้เปิดดู

ขอแถมอีกสักบท

บุคคลผู้เมื่อฟัง นำไปคิด
เมื่อคิดแล้ว ไม่เข้าใจก็ให้ถาม
เมื่อได้ความ ก็จดจำไว้นาน ๆ
ปัญญาญาณย่อมบังเกิด บรรเจิดเอย

หลายคนอาจคงสงสัยว่า แล้วการเป็นผู้ฟังที่ดีควรเริ่มต้นอย่างไร ?
ไม่ยากเลยโยม อันดับแรกก็ต้อง “silent” ก่อน
แล้วก็ “Listen” อย่างตั้งอกตั้งใจ (หรือใครจะเถียง)

เจริญพร

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 46 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 23 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร