ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ธรรมะระงับความโกรธ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=31160
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 27 เม.ย. 2010, 18:55 ]
หัวข้อกระทู้:  ธรรมะระงับความโกรธ

รูปภาพ

:b8: :b8: :b8:

ธรรมะระงับความโกรธ
โดย
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย


อุบายในการระงับความโกรธ
ประการแรก อดทน อย่าให้โกรธมันใช้มือไปทุบคนโน้น ตีคนนี้ อย่าให้โกรธมันใช้ปากไปด่าคนโน้น ด่าคนนี้ ใช้ความอดทนในเมื่อเรายังไม่มีอุบาย ทีนี้อุบายถ้าเราจะใช้ ก็พิจารณาถึงอกเขาอกเรา โกรธแล้วเราไม่ฆ่า ไม่เบียดเบียน ไม่ข่มเหง ไม่รังแก แม้ในใจโกรธอยู่ แต่ไม่ทำสิ่งนั้นลงไป มันก็ไม่มีบาปมีกรรมอะไร ในเมื่อโกรธมันไปจนสุดฤทธิ์แล้ว มันก็หมดไปเองเมื่อเรายังไม่มีอุบาย ถ้าเรามีอุบายพิจารณาว่าความโกรธมันเป็นทุกข์อย่างนี้ๆ เราไม่ควรโกรธเลย เอาแค่นี้ก็ได้ แต่ประการสำคัญที่สุด โกรธแล้วต้องระวัง อดกลั้น อย่าเผลอไปทำความผิดพลาดอย่างรุนแรงขึ้นมา เมื่อทำผิดพลาดลงไปแล้วจะเสียใจภายหลัง เช่น พ่อแม่โกรธลูกคว้าไม้เรียวมาเฆี่ยนมันอย่างไม่นับจนหนังมันแตกเป็นริ้วเป็นรอยเลือดสาด ในขณะที่เราทำอยู่นั้น เราอาจจะคิดว่าเราได้ทำอะไรสมที่โกรธแล้ว แต่เมื่อโกรธมันหายไปแล้ว อะไรมันจะเกิดขึ้น ความเสียใจภายหลัง เดี๋ยวก็นั่งร้องไห้กอดเขา “เราไม่น่าทำเลย”

วิธีการใช้ประโยชน์จากความโกรธ
กิเลสอันเป็นเค้ามูลที่เรียกว่า อกุศลมูล มันก็มีอยู่ 3 อย่างคือ โลภะ ความโลภ โทสะ ความโกรธ โมหะ ความหลง ทั้ง 3 อย่างนี้มันเป็นกิเลสที่เป็นเค้าเป็นมูล ทำให้เกิดบาปอกุศลต่างๆ แต่ในเมื่อเรามาพิจารณากันให้ละเอียดลึกซึ้งลงไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้ ทั้งสิ่งที่เรานิยมชมชอบว่าเป็นของดี หรือตำหนิประฌามว่าเป็นของไม่ดี ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ทั้งนั้น เพราะฉะนั้น กิเลสก็เป็นสิ่งที่เป็นกลางๆ ฝรั่งเขาเข้าใจเช่นนั้นว่า ความโกรธนี่ก็เป็นประโยชน์ที่จะกระตุ้นเตือนให้เขาคิดหาทำอะไรที่จะหนีความทุกข์ ความเดือดร้อนนั้นๆ ได้ เช่นอย่างโกรธความทุกข์ยากลำบากที่ต้องเดินด้วยเท้าเปล่าเหมือนอย่างสมัยโบราณ เขาโกรธความลำบาก เขาก็มาสร้างยานยนต์พาหนะอะไรขึ้นมาได้ เช่นอย่างพระพุทธเจ้าโกรธกิเลสทั้งหลาย ก็อยากหนีกิเลส ก็บำเพ็ญบารมีเพื่อได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า อันนี้เรามาพิจารณาอย่างนี้ จึงสรุปได้ความว่า กิเลส โลภ โกรธ หลง ทั้งหลายนี่ มันเป็นเหมือนกับไฟ ไฟเป็นของร้อน เป็นอันตรายมหาศาล แต่คนที่รู้จักใช้ไฟให้เกิดประโยชน์ด้วยความระมัดระวังมีสติสัมปชัญญะ ไฟก็เป็นประโยชน์แก่มนุษย์อย่างมหาศาล เช่นสามารถใช้เป็นแรงผลักดันจรวดไปลงดวงจันทร์ได้

เพราะฉะนั้น ทั่วๆ ไปนี่ กิเลส ถ้าคนฉลาดที่จะเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เก็บเอาไว้ให้มันคอยกระตุ้นเตือนใจ ให้เกิดความทะเยอทะยานในความอยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น คนเราทุกคน สิ่งที่เราต้องการก็มี ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และอำนาจ และสิ่งดังกล่าวนี้เรามีสิทธิเสรีภาพในการแสวงหา แต่ว่าการแสวงหาต้องมีขอบเขต เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงสอนให้เราใช้กิเลสให้เกิดประโยชน์โดยความเป็นธรรม ท่านจึงเอาศีล 5 มาเป็นหลักตีเส้นตายเอาไว้ ถ้าใครจะหาผลประโยชน์ให้ถูกต้องด้วยศีลธรรม ไม่เบียดเบียนเขา ให้ยึดศีล 5 เป็นหลัก ความหมั่น ความขยัน ความโกรธ เราอาจจะเอาเป็นกำลังในการกระตุ้นเตือนใจของเราให้เกิดทะเยอทะยานในการหนีให้พ้นจากสิ่งที่เราไม่ชอบ ก็เป็นการใช้ประโยชน์ได้

การปฏิบัติเพื่อระงับความโกรธ

1. ให้ระลึกถึงโทษของความโกรธ ว่าความโกรธนั้นให้โทษประการต่าง ๆ หาคุณมิได้เลย ผู้ไม่โกรธตอบผู้โกรธตนก่อน ผู้นั้นได้ชื่อว่า ชนะสงครามที่ชนะได้ยาก

2. ให้ระลึกถึงความดีของเขา เพราะแต่ละคนย่อมมีทั้งความดีและความไม่ดีอยู่ในตัว ถ้าหาความดีไม่ได้จริง ๆ ก็ให้นึกสงสารเขาว่าต่อไปจะต้องประสบผลร้าย จากการประพฤติไม่ดีอย่างนี้

3. ให้คิดถึงความจริงที่ว่า การโกรธคือการทำให้ตัวเองทุกข์ คนที่โกรธแล้วเป็นสุขไม่มีในโลก

4. ให้พิจารณาว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน กรรมที่เกิดจากความโกรธ จะทำให้ตัวเองตกต่ำลงไปอีก

5. ให้พิจารณาพระจริยาวัตรในปางก่อนของพระศาสดาว่า พระพุทธเจ้าของเรานั้น กว่าจะตรัสรู้ ก็ได้ทรงบำเพ็ญบารมีทั้งหลายตลอดเวลายาวนาน ได้ทรงบำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่น โดยยอมเสียสละแม้แต่พระชนม์ชีพของพระองค์เอง เมื่อทรงถูกข่มเหงกลั่นแกล้ง เบียดเบียนด้วยวิธีการต่าง ๆ ก็ไม่ทรงแค้นเคือง ทรงเอาดีเข้าตอบ ถึงแม้เขาจะตั้งตัวเป็นศัตรู

6. พิจารณาอานิสงส์ของเมตตา ความโกรธมีโทษก่อผลร้ายมากมายฉันใด เมตตาก็มีคุณก่อให้เกิดผลดีมากฉันนั้น ผู้มีเมตตาย่อมสามารถเอาชนะใจคนอื่น ซึ่งเป็นชัยชนะที่เด็ดขาด ไม่กลับแพ้ ผู้ตั้งอยู่ในเมตตาชื่อว่าทำประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 27 เม.ย. 2010, 19:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมะระงับความโกรธ

tongue :b8: ขออนุโมทนาสาธุการด้วยค่ะ ท่านวรานนท์ :b20: smiley

เจ้าของ:  ธรรมบุตร [ 28 เม.ย. 2010, 01:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมะระงับความโกรธ

:b8: อนุโมทนาสาธุด้วยคนครับ ท่านวรานนท์ :b8: รูปภาพ

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 28 เม.ย. 2010, 16:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมะระงับความโกรธ

สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...ท่านวรานนท์

:b48: ธรรมะสวัสดีวันพระค่ะ :b48:

เจ้าของ:  TrueLife [ 28 เม.ย. 2010, 17:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมะระงับความโกรธ

:b8: อนุโมทนา สาธุ ด้วยคะ :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/