วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 00:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พรุ่งนี้อาจไม่มีเขา
พระไพศาล วิสาโล


หลังจากที่ “หมวย” เรียนจบพยาบาลได้ไม่นาน ป้าก็ป่วยหนักและมารักษาตัวที่โรงพยาบาลที่เธอทำงานอยู่

ป้าผู้นี้มีบุญคุณกับเธอมาก เพราะได้ดูแลเธอแทนแม่จนเธอเรียนจบชั้นมัธยม หลังจากที่ย้ายไปเรียนจังหวัดอื่น เธอแทบไม่ได้พบหน้าป้าอีกเลยจนกระทั่งป้าล้มป่วย แต่ช่วงที่ป้ารักษาตัวที่ห้องไอซียูนั้น เธอมีเวลาไปเยี่ยมป้าน้อยมาก เพราะงานรัดตัว ตั้งใจว่าวันเสาร์-วันอาทิตย์จะไปเยี่ยม แต่แล้วเพื่อนๆ ก็ชวนเธอไปเที่ยวพัทยา เธออยากเล่นน้ำทะเลอยู่แล้ว จึงตัดสินใจไปเที่ยวกับเพื่อน คิดว่าเช้าวันจันทร์ไปเยี่ยมก็ยังไม่สาย แต่พอเธอกลับถึงบ้านค่ำวันอาทิตย์ก็ได้ข่าวว่าป้าเสียชีวิตแล้ว ผ่านมานับสิบปีแล้วเธอก็ยังรู้สึกผิดที่ไม่ได้ไปดูแลป้า ทั้งๆที่เป็นพยาบาลดูแลคนอื่นได้มากมาย แต่กลับไม่มีเวลาให้กับผู้มีพระคุณ

ตอนเรียนมัธยม “สมใจ” สนิทสนมกับ “ชัย” มาก แต่เมื่อเรียนจบทั้งสองก็แยกย้ายกันไปเรียนมหาวิทยาลัยคนละแห่ง มีช่วงหนึ่งที่ชัยโทรศัพท์มาคุยกับเธอแทบทุกคืน แต่ละครั้งคุยนานมาก คืนหนึ่งเธอรู้สึกเพลีย อยากพักผ่อน แต่ชัยก็ยังไม่เลิกคุย เธอรำคาญจึงพูดตัดบทแต่เขาก็ยังคุยต่อ เธอจึงต่อว่าเขาด้วยความโมโหแล้ววางหู วันรุ่งขึ้นขณะที่เธอกำลังเดินเข้าห้องเรียนแม่ของชัยก็โทรศัพท์มา บอกว่าชัยเสียชีวิตแล้วจากอุบัติเหตุรถยนต์หลังจากคุยกับเธอได้ไม่นาน เธอตกใจและรู้สึกเสียใจมาก ที่พูดไม่ดีกับชัยเมื่อคืน มันเป็นเสมือนบาดแผลในใจที่ยังอยู่จนทุกวันนี้

ทั้งหมวยและสมใจพูดตรงกันว่า หากรู้ว่าคนที่เธอรักจะต้องจากไปอย่างกะทันหันเช่นนั้น เธอจะไม่ทำอย่างที่ได้ทำไป หมวยจะใช้เวลาอยู่กับป้าให้นานที่สุดและอย่างดีที่สุด ส่วนสมใจก็จะพูดคุยกับชัยด้วยความใส่ใจและอย่างนุ่มนวล แต่ในโลกนี้มีใครบ้างที่สามารถรู้อนาคตล่วงหน้า

ความตายของคนที่เรารักมักมาถึงอย่างไม่คาดฝัน มันพร้อมจะมาได้ทุกเวลาและไม่เลือกว่าจะเกิดกับผู้ใหญ่หรือเด็ก ใครที่มองข้ามความจริงข้อนี้จะต้องพบกับความเสียใจอย่างสุดซึ้ง มิใช่เพียงเพราะคนรักจากไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเขาได้พลั้งเผลอทำสิ่งที่ไม่สมควร (หรือไม่ได้ทำในสิ่งที่สมควร) กับผู้ที่จากไป โดยไม่มีโอกาสได้ขอโทษหรือแก้ตัวเลย สิบปีอาจนานพอที่จะเยียวยาความเศร้าใจที่สูญเสียคนรักไป แต่ยากจะลบเลือนความรู้สึกผิดที่ได้ทำสิ่งไม่สมควรกับคนรัก

หากไม่อยากมีบาดแผลในใจก็ควรปฏิบัติต่อคนที่เรารักอย่างดีที่สุด อ่อนโยนและใส่ใจกับความรู้สึกของเขาให้มากๆ แต่ปัญหาก็คือ ยิ่งเราสนิทสนมคุ้นเคยกับใคร เราก็ยิ่งคำนึงถึงความรู้สึกของเขาน้อยลง และทำตามอารมณ์ของเรามากขึ้น (ตรงกันข้ามกับคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยเรามักจะสุภาพและนุ่มนวลกับเขามากกว่า) ผลก็คือเรามักจะลืมตัว ทำสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควรกับเขา

ความลืมตัวเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ช่วยไม่ได้เผลอทำสิ่งที่ไม่สมควรกับคนที่เรารัก นั่นคือ การเตือนใจตนเองเสมอ ว่าพรุ่งนี้เขากับเราอาจจะต้องพรากจากกัน วันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายที่เขากับเราจะได้อยู่ด้วยกัน ขณะที่เขากำลังอยู่ต่อหน้าเราตอนนี้ อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะได้ทำสิ่งดีๆ ให้แก่เขา

การเตือนใจเช่นนี้จะกระตุ้นเตือนให้เราปฏิบัติต่อเขาอย่างนุ่มนวล ไม่ทำตามอำเภอใจ รับฟังและใส่ใจกับความรู้สึกของเขามากขึ้น เมื่อเราทำอย่างดีที่สุดกับเขา หากใครเกิดมีอันเป็นไปในวันข้าหน้า ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องรู้สึกผิดต่อกัน จะว่าไปแล้วการเตือนใจเช่นนี้ ไม่ควรทำเฉพาะกับคนที่เรารักเท่านั้น แต่ควรทำกับทุกคนที่เรารู้จักหรือติดต่อสัมพันธ์ด้วย

คราวหนึ่ง “เขมนันทะ” ได้จาริกไปประเทศพม่าและได้รู้จักกับพระไทยในรูปหนึ่ง เมื่อไปถึง เจดีย์ชเวดากอง ท่านได้ชวนเขมานั่นทะถ่ายรูปคู่กัน แต่เขมานันทะนั้นไม่ชอบธรรมเนียมแบบนี้จึงเดินหนี แต่พระไทยใหญ่ขอร้องให้เขาไปถ่ายรูปด้วย คำพูดประโยคเดียวของท่านที่ทำให้เขมานันทะเปลี่ยนใจก็คือ “ชีวิตนี้เราอาจได้พบกันเพียงครั้งเดียว” เขาจึงยอมถ่ายรูปด้วยหลังจากเขมานันทะกลับมาเมืองไทยไม่นาน ก็มีจดหมายมาแจ้งข่าวว่าพระไทยใหญ่รูปนั้นมรณภาพแล้ว เขาเล่าในเวลาต่อมาว่า คำพูดประโยคนั้นสะเทือนอารมณ์ของตนมาก เพราะทำให้ได้คิดว่า คนเราเอาแต่แบ่งแยกเป็นเราเป็นเขา มัวแต่แก่งแย่งผลประโยชน์กัน จนลืมไปว่าคนที่อยู่ต่อหน้าเราอาจได้พบกันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

การปฏิบัติต่อผู้คนที่เข้ามาในชีวิตของเรา ราวกับว่าเขาอาจพลัดพรากจากเราไปในวันพรุ่งนี้ ไม่เพียงช่วยป้องกันมิให้เกิดบาดแผลในใจเราในวันข้างหน้าเท่านั้น หากยังช่วยสร้างสุขให้แก่เราในวันนี้ อันเป็นผลจากสัมพันธภาพที่ราบรื่นและงดงาม ทั้งกับคนใกล้และครอบครัว ยิ่งกว่านั้น ยังทำให้ทุกวันที่คนรักยังอยู่กับเรา เป็นวันที่มีความหมายยิ่งกว่าเดิม วันนี้จะกลายเป็นพิเศษ เพราะวันพรุ่งนี้อาจไม่มีเขาอยู่กับเราก็ได้

หญิงผู้หนึ่งเล่าว่า เพียงแค่ได้เห็นสามีและลูกๆ ทุกคนพร้อมหน้าที่บ้าน เธอก็มีความสุขอย่างยิ่งแล้ว เพราะเธอไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้จะมีโอกาสแบบนี้อีกหรือไม่ สำหรับเธอไม่มีอะไรที่ทำให้มีความสุขเท่านี้อีกแล้ว

ความสุขนั้นไม่ได้อยู่ไกลและไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าให้เหนื่อยยาก เพราะแท้จริงความสุขนั้นมีอยู่กับเราในขณะนี้แล้ว นั่นคือการที่คนรักยังอยู่กับเรา และให้โอกาสเราได้ทำความดีกับเขาอย่างเต็มที่ อย่ามองข้ามความสุขอย่างนี้ และอย่าปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือเราไป

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2010, 07:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2010, 09:32
โพสต์: 45

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาด้วยครับ
:b8: :b8: :b20: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2010, 08:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


มีเพื่อนชายรุ่นน้องคนหนึ่ง
เขาจะติดเรามาก เวลาเรียนในห้องเรียน หรืออบรม
นอกสถานที่ก็จะตามติด...จนได้เข้ากลุ่มเดียวกัน
ไม่ว่าจะทำอะไร...ดูเขาจะชื่นชม....และศรัทธาเราจริงๆ
พอเรียนจบต่างคนต่างก็ไปทำงาน...มีคนนี้คนเดียวที่
ยังคงติดต่อมา...เสมอๆ... :b41:

มีอยู่วันหนึ่งเขามาหา...เขาพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง
แต่เราก็หงุดหงิด...เพราะกำลังมีปัญหาทางครอบครัว
เหมือนกัน....บอกได้เลยว่ารู้สึกรำคาญเขามากๆ
เขาพูดด้วยก็พูดกับเขาแบบไม่ค่อยแต็มใจ....
อยู่มาไม่ถึงเดือน...ได้ทราบข่าวเขาแขวนคอตาย
มีความรู้สึกเสียใจมากๆ...นึกถึงหน้าเขาตอนที่เขา
มาหาเรา....เขาคงต้องการคำปลอบใจ...ต้องการ
กำลังใจ...จากคนที่เขาศรัทธาและคิดว่าน่าจะเข้าใจ
เขาได้ดีที่สุด....... :b5:

แต่เรามองไม่เห็น....เพราะปล่อยให้ความทุกข์มาบดบังทุกอย่าง
ถ้าวันนั้นเราคุยกับเขาดีๆ....วางปัญหาของตัวเองลง....
แล้วให้โอกาสเขาได้ระบายสิ่งที่อยุ่ในใจเขาออกมาบ้าง
เหตุการณ์อาจจะไม่หนักหนาขนาดนั้นก็ได้....เขาคง
ตั้งใจมาหา...คนที่เขาคิดว่าพอจะให้คำแนะนำที่ดีสำหรับเขา
แต่เขาต้องผิดหวัง...กลับไป....เหมือนซ้ำเติมเขาทางอ้อม
บางทีคำพูดไม่กี่คำ..อาจจะทำให้อะไรๆ เปลี่ยนแปลง
ไปในทางที่ดีได้....จากวันนั้น...จนถึงวันนี้เกือบสิบปี
ไม่เคยลืมเรื่องนี้ติดอยู่ในใจมาตลอดเหมือนกัน....เสียดาย
ชีวิตคนที่กำลังหลงทางคนหนึ่ง.....ทั้งเสียดาย..และเสียใจ.. :b7:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 68 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron