วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 18:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

พระกรรมฐานประสบอุบัติเหตุ
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
:b47: :b44: :b47:

เหตุการณ์ครั้งสำคัญคราวหนึ่งยังความโศกสลดอาลัยอาวรณ์แก่พุทธศาสนิกชนชาวไทยโดยเฉพาะแวดวงกรรมฐานอย่างมาก คือ เหตุการณ์เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ ที่เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นเหตุให้พระกรรมฐานและประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องถึงแก่กรรม

คุณหญิงไขศรี ณ ศีลวันต์ ผู้ซึ่งเป็นศิษย์องค์หลวงตา (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) คนหนึ่ง เป็นพระอาจารย์วิชาคณิตศาสตร์ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และเป็นภริยา ดร.เชาวน์ ณ ศีลวันต์ องคมนตรี ตลอดจนเป็นลูกศิษย์ครูบาอาจารย์กรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลายองค์ อาทิ หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นต้น

ในหนังสืออนุสรณ์คุณหญิงไขศรี ณ ศีลวันต์ กล่าวถึงการเดินทางไปกราบนมัสการและสนทนาธรรมกับพระเถระสายหลวงปู่มั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตของคุณหญิงคือปี พ.ศ. ๒๕๑๒ และได้เข้ากราบองค์หลวงตาและพักอยู่ที่วัดป่าบ้านตาดเป็นสถานที่แรก องค์หลวงตายังเมตตาพาไปพบหลวงปู่ขาว ที่วัดถ้ำกลองเพลอีกด้วย หลังจากนั้นองค์หลวงตายังเป็นพระกรรมฐานองค์แรกที่เมตตามาฉันที่บ้านคุณหญิง องค์หลวงตาเมตตาอบรมธรรมะแก่คุณหญิงเสมอมาจวบจนวาระสุดท้าย ก่อนจะประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบินเสียชีวิตคราวเดียวกับพระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม พระอาจารย์วัน อุตฺตโม พระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโฐ พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร และพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม

เหตุการณ์ในวาระสุดท้ายแห่งชีวิต คุณหญิงได้เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ ซึ่งปกติระยะนั้นองค์หลวงตาท่านจะไม่ลงอบรมธรรมะแก่ฆราวาสเพราะธาตุขันธ์ไม่สู้จะสมบูรณ์นัก แต่ตลอดช่วง ๗ วันที่คุณหญิงมาพักอยู่ที่วัดป่าบ้านตาด ท่านได้เรียกคุณหญิงมาสนทนาธรรมะปฏิบัติที่กุฏิหลายครั้งและแต่ละครั้งเป็นเวลานาน และเป็นการสนทนาโดยเฉพาะไม่มีผู้อื่นนอกจากมีเด็กชาวบ้านตาดมานั่งเป็นเพื่อนตามพระวินัย ยังความสงสัยและแปลกใจเป็นอันมากแก่บรรดาผู้มาพักปฏิบัติธรรมในช่วงนั้น เพราะมิใช่วิสัยปกติขององค์หลวงตาที่จะปฏิบัติเช่นนี้กับผู้ใด

และโดยเฉพาะในวันกลับคือเช้าวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ องค์หลวงตาก็ยังมีเมตตาพูดคุยสนทนาธรรมกันจนกระทั่งจวนจะถึงเวลาเครื่องบินออก การสนทนาจึงยุติ ซึ่งก็ไม่เคยปรากฏเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาก่อนเช่นกัน คือในระยะที่ผ่านมาองค์หลวงตามักให้ออกจากวัดมารอที่สนามบินก่อนเป็นเวลานาน แต่คราวนี้จวนเจียนเวลามาก ในเช้าวันนั้นคุณหญิงได้กราบเรียนถามองค์หลวงตาว่า “ถ้าคุณหญิงตายไปแล้วจะมีโอกาสได้พบอาจารย์ดีๆ อีกไหม?”

ท่านได้ตอบเป็นทำนองว่า “ในชาติปัจจุบันนี้เราได้ภาวนามุ่งทำแต่ความดี ฉะนั้นความดีนี่แหละจะเป็นครูบาอาจารย์ของเราในวันหน้า”

และคำกล่าวนี้เป็นธรรมครั้งสุดท้ายขององค์หลวงตาที่มอบให้แก่คุณหญิง เนื่องจากการเดินทางในวันนั้นมีทัศนวิสัยไม่เอื้ออำนวย เกิดพายุฝนจนเป็นเหตุให้เครื่องบินตกที่บริเวณทุ่งนา จังหวัดปทุมธานี อุบัติเหตุร้ายแรงนี้ทราบถึงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ทรงมีพระกรุณาธิคุณและพระกตัญญูกตเวทิตาคุณเสด็จมาดูศพพระอาจารย์ของพระองค์ให้แน่พระทัยด้วยพระองค์เอง ในครั้งนั้นทูลกระหม่อมทรงยกมือของคุณหญิงขึ้นมาทอดพระเนตรอย่างใกล้ชิด แล้วรับสั่งว่า “ใช่อาจารย์แน่” จากนั้นทรงจัดการศพด้วยพระองค์เองซึ่งเป็นพระอิริยาบถที่อ่อนโยนมิได้ทรงแสดงความรังเกียจเลย ทรงปฏิบัติเยี่ยงศิษย์พึงกระทำต่อครูบาอาจารย์ เป็นที่น่าซาบซึ้งและประทับใจแก่บรรดาผู้อยู่ในที่นั้นเป็นยิ่งนัก ทุกคนอดไม่ได้ที่จะน้ำตาซึมด้วยความตื้นตันใจ


อุบัติเหตุครั้งนั้นนับเป็นการสูญเสียศิษย์คนสำคัญขององค์หลวงตา ที่เป็นกำลังสำคัญของพระศาสนา ทั้งฝ่ายพระและฆราวาสไปพร้อมๆ กันเลยทีเดียว องค์หลวงตากล่าวถึงพระอาจารย์สิงห์ทอง และพระอาจารย์สุพัฒน์ ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดของท่านไว้ ดังนี้

“...ท่านจวนก็เหมือนกัน มีอยู่สององค์ ท่านจวนตกเครื่องบิน ท่านสิงห์ทองตกเครื่องบิน อัฐิกลายเป็นพระธาตุสององค์ ตกเครื่องบินไปงานอะไรไม่รู้ อุปคุต (พระอาจารย์สุพัฒน์) ท่านฝันแม่นยำมากนะ ที่ท่านจะไปตายคราวนี้ คือท่านฝันกลางคืนนี้จนตื่นเต้นตกใจเสียใจ

‘แล้วกัน ทำไมถึงฝันร้ายขนาดนี้ ไปเกาะไหนก็พัง ไม่เคยฝันอย่างนี้เลย ฝันร้ายกาจไม่มีชิ้นดีเลย ไม่ใช่จะเอาเราไปตกเครื่องบินตายเหรอ’

ท่านพูดอย่างนั้นเลย แล้วเขามานิมนต์ให้ไปในงานนี้กับความฝันมันเข้ากันได้แล้ว ท่านเลยหาที่เกาะ ไปนิมนต์อาจารย์สิงห์ทอง ถ้าท่านสิงห์ทองไปเราถึงจะไป เกาะตรงนั้นนะ ถ้าท่านไม่ไปเราก็ไม่ไป เขาไปนิมนต์ท่านสิงห์ทอง ท่านสิงห์ทองรับเขาแล้วก็พังไปเลย

‘ถ้าหากว่าท่านสิงห์ทองไม่ไปท่านจะไม่ไป ชีวิตท่านก็จะยังอยู่’


เลยตายในระยะนั้น ท่านฝันแปลกประหลาดมาก พอตื่นขึ้นมานี้ดูอาการโศกเศร้าเหงาหงอย มันฝันร้ายเหลือเกิน ท่านว่าอย่างนั้นนะ แต่ท่านไม่พูดเรื่องฝันร้ายว่าเป็นอย่างไรๆ แต่มันฝันร้ายไม่มีชิ้นดีเลย ท่านบอกอย่างนั้น มีแต่ล้มพังทั้งนั้น พอดีเขาก็มานิมนต์ท่านก็ไปเกาะท่านสิงห์ทอง ท่านสิงห์ทองไปเราก็จะไป พอดีไปนิมนต์ท่านสิงห์ทองท่านก็รับเขา เรียกว่าเกาะแล้วพังเลย ตายด้วยกันทั้งสอง

ท่านอุปคุตนี่สำคัญ ท่านฝันไม่ดีเลยท่านว่า เขามานิมนต์โดยลำพังท่าน ท่านจะไม่รับท่านบอก ทีนี้เพราะความเคารพกันเกี่ยวกับท่านสิงห์ทองท่านรับ แล้วท่านเลยต้องรับไปด้วย แล้วก็ไปตายด้วยกัน...”

เกี่ยวกับลักษณะการนิพพานของพระอรหันต์นั้น องค์หลวงตากล่าวไว้ ดังนี้

“...จิตที่ทำลายสมมุติหมดโดยสิ้นเชิงแล้ว อะไรเวทนาไหนจะไปแทรก นี่เราถึงได้กล้าพูดว่า พระอรหันต์ตาย ตายเมื่อไร ตายที่ไหน ตายเรื่องอะไร ด้วยเหตุผลกลไกอะไรก็ตาม ก็จิตพระอรหันต์ล้วนๆ ว่างั้นเลย ท่านไม่มีปัญหาอะไรกับสมมุติคือการตาย กิริยาแห่งการตายต่างๆ นั้นเป็นเรื่องสมมุติทั้งหมด ความบริสุทธิ์เต็มภูมิ จึงไม่วิตกวิจารเรื่องการเป็นการตาย..

แล้วคำว่าบริสุทธิ์แล้วนั้น จะมีกาลสถานที่เวล่ำเวลาที่ไหนเป็นกำหนดกฎเกณฑ์ เป็นที่ให้เกิดสัญญาอารมณ์กับท่าน นิพพานท่าไหนจะดี หรือนิพพานท่าไหนจะเสียที หรือตายท่าไหนดีท่าไหนไม่ดีท่านไม่มี ตายท่าไหนก็คือพระอรหันต์ตาย เอ้า เราพูดเรื่องตาย จะตายด้วยอุบัติเหตุอะไรก็ตาม ตายด้วยการเจ็บไข้ได้ป่วยอะไรก็ตาม จะเข้าสมาธิสมาบัติหรือไม่เข้าก็ตาม ไม่มีสิ่งใดสำคัญทั้งนั้น ไม่มีอันใดที่จะลบล้างความบริสุทธิ์นั้นได้เลย ท่านเป็นพระอรหันต์อยู่เต็มตัวทุกกาลสถานที่อิริยาบถ..

เพราะการตายนี้เป็นไปตามวิบากขันธ์ บางองค์ก็จะตายด้วยความสงบของธาตุขันธ์ บางองค์ก็จะไม่สงบจะดีดจะดิ้นเป็นประเภทต่างๆ ตามวิบากกรรมที่เป็นมาต่างๆ กัน แต่จิตนั้นบริสุทธิ์แล้วจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง ขันธ์จะตายแบบไหนก็ตาม จะตายดิ้นเหมือนหมาบ้าก็ตาม เรื่องขันธ์มันดิ้นของมันต่างหาก จิตที่บริสุทธิ์แล้วไปดิ้นหาอะไร นั่นมันเป็นคนละฝั่งละฝาอยู่นั่น เห็นกันชัดๆ อย่างนั้น

อำนาจแห่งวิบากกรรมมีมาอย่างไรที่เคยสร้างเคยเป็นมาแล้ว บางท่านบางองค์ก็สงบไปธรรมดาๆ บางท่านบางองค์ก็มีดีดมีดิ้นเป็นไปธรรมดา เพราะวิบากกรรมอันนี้แก้ไม่ตกในเรื่องกรรม เกี่ยวกับเรื่องวิบากขันธ์สมมุติอันนี้ แล้วสิ่งเหล่านี้มันก็ตามได้แค่ขันธ์เท่านั้น ไม่ตามไปในหัวใจที่บริสุทธิ์ได้นี่นะ เพราะฉะนั้นท่านจึงไม่มีได้มีเสียกับสิ่งเหล่านี้...”


รูปภาพ
คุณหญิงไขศรี ณ ศีลวันต์
ภรรยาของ ดร.เชาว์ ณ ศีลวันต์ องคมนตรี
กำลังถวายเครื่องไทยทานแด่พระอาจารย์วัน อุตฺตโม,
พระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโฐ, พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร,
พระอาจารย์หนู สุจิตฺโต และพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม

บันทึกภาพที่บ้าน ดร.เชาว์ ณ ศีลวันต์ องคมนตรี
เมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๒๕๑๕

ต่อมา พระอาจารย์วัน อุตฺตโม, พระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโฐ,
พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร, พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม
และคุณหญิงไขศรี ณ ศีลวันต์ ก็ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก
ที่ท้องนาทุ่งรังสิต เขตหมู่ที่ ๔ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๓

:b49: :b49: หมายเหตุ : นอกจากนี้ยังมี พระอาจารย์บุญ ชินวํโส,
พระอาจารย์บุญเพ็ง เขมาภิรโต, พระอาจารย์จันดี เขมปญฺโญ
และพระอาจารย์ไพบูลย์ สุมงฺคโล ที่รับนิมนต์
มาที่บ้าน ดร.เชาว์ ณ ศีลวันต์ องคมนตรี ในคราวเดียวกันนี้ด้วย


รูปภาพ
พระอาจารย์วัน อุตฺตโม, พระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโฐ
และพระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร
บันทึกภาพที่บ้าน ดร.เชาว์ ณ ศีลวันต์ องคมนตรี
เมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๒๕๑๕


พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร ท่านเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจ
จากองค์หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน มาก
มักได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่บางอย่างแทน เช่น
ให้เป็นประธานด้านบรรพชิตในการดำเนินงานศพของหลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ
ณ วัดป่าหนองแซง (วัดราษฎรสงเคราะห์) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
ซึ่งท่านก็สามารถทำหน้าที่ได้เรียบร้อยทุกประการ องค์หลวงตาเคยกล่าวกับ
พระอาจารย์สิงห์ทองว่า “นี่เวลาผมตายนะให้ท่านเผาศพผม ใครอย่ามายุ่ง
ผมจะมอบศพให้ท่านทำ เวลาท่านตาย ผมจะเผาศพท่าน”
ด้วยเหตุนี้เองเมื่อพระอาจารย์สิงห์ทองได้ถึงแก่มรณภาพไปก่อน
องค์หลวงตาจึงต้องมาเป็นประธานจัดงานศพให้

⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱

:b8: :b8: :b8: คัดลอกเนื้อหามาจาก...หนังสือญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์
เรียบเรียงจากเทศนาธรรมของท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เป็นหนังสืออนุสรณ์เนื่องในงานพระราชทานเพลิงถวายแด่พระสรีระสังขาร
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 18:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

บุพกรรมในกาลก่อนที่ทำให้
พระอริยเจ้าทั้ง ๕ องค์ต้องเครื่องบินตก

เล่าเรื่องโดย หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง

:b47: :b44: :b47:

หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร เมตตาเล่าให้ฟังถึงบุพกรรมในกาลก่อน ที่ทำให้พระอริยเจ้าพระป่ากัมมัฏฐานศิษย์สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ทั้ง ๕ องค์ (คือ หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม วัดสิริสาลวัน จ.หนองบัวลำภู, พระอาจารย์วัน อุตฺตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม จ.สกลนคร, พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ วัดเจติยาคิรีวิหาร จ.บึงกาฬ, พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร วัดป่าแก้วชุมพล จ.สกลนคร และ พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม วัดป่าประสิทธิ์สามัคคี จ.สกลนคร) ต้องประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก กระทั่งเป็นเหตุทำให้ถึงแก่มรณภาพลงพร้อมกัน

ในอดีตชาติที่นานเนมาแล้ว ท่านทั้ง ๕ เกิดในสกุลชาวนาที่ยากจน ต้องขวนขวายหาเลี้ยงชีพไปวันๆ ทั้งห้าคนเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยกันมา เมื่อยังเด็กได้จูงควายออกไปเลี้ยงพร้อมกัน ผูกควายกันแล้วก็พากันเล่นและออกหากบเขียดไปเป็นอาหารประสาจน

ทีนี้ ๑ ใน ๕ เกิดไปเห็นรังนกเข้า ก็ช่วยกันหาไม้เขี่ยรังนกให้ตกลงมาเพื่อหวังเอาไข่นกไปกิน แต่เมื่อรังนกตกลงมากลับกลายเป็นลูกนก ๓ ตัวแล้วตายสิ้น ไม่ใช่ไข่นกดังที่เข้าใจ


ด้วยวิบากกรรมอันนี้ส่งผลให้ท่านทั้ง ๕ ต้องตกจากที่สูงมามรณภาพ

ในเครื่องบินลำนั้นมีคุณหญิงท่านหนึ่งกลับจากไปปฏิบัติธรรมกับท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ มาด้วย ท่านเลยมาสิ้นชีวิตพร้อมกัน


ในอดีต ขณะที่เด็กชายทั้ง ๕ กำลังเขี่ยรังนกอยู่นั้น เด็กหญิงลูกชาวนาผู้เป็นน้องสาวของ ๑ ใน ๕ คนก็มายืนเชียร์อยู่ข้างๆ “จะหล่นแล้ว...จะหล่นแล้ว”

โดยเธอไม่ได้ลงมือทำ

เด็กหญิงในภพนั้นคือคุณหญิงในภพนี้
(น่าจะหมายถึง คุณหญิงไขศรี ณ ศีลวันต์ ภรรยาของ ดร.เชาว์ ณ ศีลวันต์ องคมนตรี ซึ่งได้เสียชีวิตเพราะประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกในครั้งนี้ด้วย - สาวิกาน้อย)

ก็เพียงมีจิตคิดยินดีในการประกอบอกุศลกรรมของผู้อื่น วิบากนั้นยังส่งผลมาให้เกิดในภพชาติเดียวกัน บันดาลให้ไปตกเครื่องบินพร้อมกัน

แล้วถ้าทำเองเล่า


ถึงตรงนี้ หลวงปู่หลุยก็สั่งว่า อย่าไปยินดีในการทำชั่วของคนอื่น เพราะเราจะมีส่วนในบาปนั้นด้วย แต่ให้ยินดีในการประกอบคุณงามความดีของตนและของคนอื่น เพราะจะได้แต่บุญโดยฝ่ายเดียว

รูปภาพ
ซากเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุเครื่องตก
ณ ท้องนาทุ่งรังสิต เขตหมู่ที่ ๔ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
อุบัติเหตุเครื่องบินตกในคราครั้งนี้เป็นเหตุทำให้
พระอริยเจ้าทั้ง ๕ องค์ได้ถึงแก่มรณภาพลงพร้อมกัน


ภาพจาก...หนังสือสู้ไม่ถอย ประวัติและคติธรรม
องค์หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มี.ค. 2016, 18:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ครูบาอาจารย์พูดคุยกันทางจิต

หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม
กับเหตุการณ์เครื่องบินตกที่ท้องนาทุ่งรังสิต จ.ปทุมธานี
กระทั่งเป็นเหตุทำให้พระป่ากัมมัฏฐานรวม ๕ รูปถึงแก่มรณภาพ
ลางบอกเหตุก่อนฟ้าสาง เครื่องบินตกครั้งประวัติศาสตร์ !!

:b47: :b44: :b47:

กาลสมัยที่หลวงปู่ (หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย) ได้มาพักที่วัดเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๒๒-๒๕๒๓ เนื่องจากเป็นช่วงที่ทางราชการได้ทำการขยายเส้นทางถนนสุขุมวิท และเส้นทางแกลง-บ้านบึงอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ทำให้การเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แต่ละครั้งไม่สะดวก จึงเปลี่ยนเส้นทางมาใช้เส้นทางสายจันทบุรี-สระแก้ว-นครนายก หากในช่วงที่มีกิจนิมนต์ติดต่อกันหลายวัน ก็ต้องพักแรมวัดใดวัดหนึ่งที่อยู่ชานเมือง หลวงปู่ได้เลือกมาพักที่วัดเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี เพราะเห็นว่าจะได้มีเวลาภาวนามากหน่อย เพราะเป็นสถานที่สงบ สงัด วิเวกดีมาก และในระหว่างนี้ก็มีเหตุการณ์ที่ลืมไม่ได้เกิดขึ้นที่วัดเขาอีโต้ เท่าที่จำได้มีอยู่ด้วยกันสามเรื่อง จึงขอนำมาลงไว้เป็นเครื่องเตือนความจำของเหล่าศิษยานุศิษย์ต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับหลวงปู่เกิดขึ้นที่วัดเขาอีโต้ (เรื่องไหนเกิดก่อน-หลังจำไม่ได้ ขออภัยด้วย)

ครั้งหนึ่งหลวงปู่ได้รับกิจนิมนต์ให้เข้าไปในพระราชพิธี พร้อมกับครูบาอาจารย์ทางภาคอีสานหลายรูป ในวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๒๓ แต่ในคืนวันที่ ๒๖ ขณะที่หลวงปู่พักภาวนาอยู่ภายในกลดข้างหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ค่อนรุ่งของวันที่ ๒๗ หลวงปู่ออกมาจากกลดซึ่งผิดจากเวลาปกติ พระเณรที่ติดตามไปด้วยกันทั้งหมด ๘ รูป เมื่อได้ยินเสียงหลวงปู่กระแอม ทุกรูปแปลกใจคิดว่า หลวงปู่อาพาธท้องเดินหรือมีเหตุอะไร จึงรีบมาที่กลดหลวงปู่ทั้งหมดทุกรูป หลวงปู่นั่งลงบนตั่งเล็กๆ ตัวหนึ่งที่หลวงปู่ใช้นั่งเป็นประจำ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบของเขาอีโต้...แล้วก็เงียบ !...พระทุกรูปต่างก็เงียบเพื่อรอรับฟังว่า ครูบาอาจารย์จะปรารภอะไร แต่หลวงปู่ก็นั่งเงียบ !...ไม่ปรารภใดๆ พระอุปัฏฐากจึงกราบเรียนว่า ขอโอกาส ท่านอาจารย์ไม่สบายหรือครับผม จึงลุกออกมากลางดึกเช่นนี้...เงียบ !...หลวงปู่นั่งสงบไม่ตอบใดๆ ทั้งสิ้น เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง...หลวงปู่จึงเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบนั้นว่า...“ครูบาอาจารย์ของเราจะสิ้นอีก ๕ รูปในวันนี้ !...” พระเณรที่ห้อมล้อมหลวงปู่ไม่มีใครปริปากใดๆ ต่างองค์ต่างตกตลึง ท่ามกลางอากาศที่เย็นยะเยือกของเขาอีโต้ สงบเงียบ !...หลวงปู่ปรารภต่อไปอีกว่า...“วงการพระกรรมฐานเราต้องสูญเสียครูบาอาจารย์พร้อมๆ กันถึง ๕ รูป เพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันนี้..ล้วนแต่เป็นที่เคารพนับถือของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินอีกด้วย แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมหนีกรรมไม่พ้น มันเป็นเรื่องวิบากกรรมที่ท่านจะต้องมาตายพร้อมกันเช่นนี้ ตายอย่างแหลกเหลวแทบหาร่างไม่พบเลยทีเดียว...”

ทุกรูปที่นั่งฟังหลวงปู่ปรารภก็เงียบ ! อีกเช่นเคย เพียงแต่รอฟังว่า หลวงปู่จะปรารภถึงชื่อใครบ้าง ? และเป็นอะไร ? ที่ไหน ? แล้วจะให้ทำอย่างไรบ้างเท่านั้น !...หลวงปู่นิ่งอยู่ครู่ใหญ่จึงปรารภต่ออีกว่า..ท่านเคยทำกรรมร่วมกันมาก็หนีไม่พ้น สมัยพุทธกาลขนาดพระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ พระโมคคัลลาน์เป็นถึงพระอัครสาวกเบื้องซ้าย เป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธาศักดานุภาพมากกว่าใครในสมัยนั้น ไปนรกได้ ไปสวรรค์ได้ แต่ผลสุดท้ายที่จะนิพพานกับมาถูกโจรทุบจนกระดูกแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี ตายไม่สมเกียรติของพระอัครสาวกเลย พระโมคคัลลาน์ท่านหนีทุกอย่างได้ แต่ท่านจะหนีกรรมไม่พ้น สมัยนั้นพระพุทธเจ้าก็ยังถูกโจมตีจากคณาจารย์เจ้าลัทธิต่างๆ เหมือนกัน ครูบาอาจารย์ของเราท่านก็หนีกรรมไม่พ้นเช่นกัน... หลวงปู่เทศน์แล้วก็หยุด สงบเงียบ...เหมือนกับหยุดพิจารณา หรือหยุดปลงนั่นเอง..พวกเราซึ่งเป็นศิษย์นั่งฟังจนแสงเงินแสงทองเริ่มจับขอบฟ้าแล้ว จึงนำน้ำล้างหน้า ยาสีฟัน เข้ามาถวายหลวงปู่ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน...จนบัดนี้หลวงปู่ก็ยังไม่พูดว่าใครเป็นอะไร ? ที่ไหน ?...ปกติทุกวันหลวงปู่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในเวลาแปดโมงเช้าทุกครั้ง แต่วันนี้หลังจากหลวงปู่ล้างหน้าเสร็จหลวงปู่ก็เข้าที่เดินจงกรมภาวนาต่อ เหมือนหลวงปู่รอเวลาอะไรสักอย่าง ครู่ใหญ่ๆ ผ่านไป หลวงปู่ก็เรียกพระอุปัฏฐากเอาจีวรห่มคลุมเตรียมเดินทาง พระอุปัฏฐากสังเกตว่าหลวงปู่มีความวิตกกังวลเรื่องบางอย่าง จึงกราบเรียนว่า..ขอโอกาสครับ ท่านอาจารย์จะเดินทางตอนนี้หรือครับ ?...หลวงปู่ตอบ...อืม !...ไปกันเถอะ ไปดูแลครูบาอาจารย์ก่อน เดี๋ยวจะไม่ทัน ท่านมาบอกลาผมเมื่อคืน หลวงปู่บุญมา ท่านอาจารย์วัน ท่านอาจารย์จวน ท่านอาจารย์สิงห์ทอง ท่านอาจารย์สุพัฒน์ ท่านจะนิพพานในอีกไม่ช้านี้ ไปเถอะเดี๋ยวไม่ทัน...พระเณรทั้งแปดรูปจึงเพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เองว่าครูบาอาจารย์ท่านพูดคุยล่ำลากันทางจิตเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อค่อนรุ่งแล้ว...แต่ยังเป็นปริศนาว่าท่านจะสิ้นด้วยเหตุอันใดหรือ จึงจะพร้อมกันทีเดียวถึง ๕ รูป และจะฉีกร่างให้แหลกอย่างที่หลวงปู่ปรารภอย่างนี้ !...พระเณรทั้งแปดรูปชักเริ่มเป็นห่วงครูบาอาจารย์ที่จะสิ้นวันนี้เสียแล้ว ต่างรูปต่างก็คอยที่จะไปถึงยังสถานที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด

วันนี้จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น วันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๒๓ ขณะที่กำลังเดินไปขึ้นรถที่ติดเครื่องรออยู่ พระเณรเดินตามหลวงปู่ยังไม่ทันถึงรถ หลวงปู่หยุดกะทันหัน บอกว่า ไม่ทันแล้ว !...แล้วก็ก้าวเท้าขึ้นรถ หลวงปู่สั่งคนรถว่าวันนี้ไปทางคลองหก ทุกวันจะใช้เส้นทางนครนายก-กรุงเทพฯ ขณะที่รถยนต์วิ่งมาถึงตัวจังหวัดปราจีนบุรี เสียงวิทยุที่คนขับเปิดไว้เป็นปกติอยู่แล้วนั้น ก็ประกาศข่าวด่วนว่า เครื่องบินโดยสารแอฟโร ๔ ของบริษัทการบินไทย ประสบอุบัติเหตุตกก่อนถึงกรุงเทพฯ ๒๐ กิโลเมตร ณ กลางทุ่งนารังสิต บริเวณคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีผู้เสียชีวิตเกือบหมด...ในจำนวนนี้มีพระสงฆ์มรณภาพ ๗ รูป เป็นพระสายป่า ๕ รูป คือ ๑. พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (พระอาจารย์วัน อุตฺตโม) ๒. หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม ๓. พระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโฐ ๔. พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร ๕. พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม...รถวิ่งมาถึงคลองหก มองเห็นชาวบ้านสับสนอลหม่าน วิ่งบ้าง เดินบ้าง ตำรวจทหารแน่นทั้งสองข้างทาง ควันขาวๆ โพยพรุ่งอยู่กลางท้องนาด้านหน้า หลวงปู่ให้คนขับจอดรถแล้วหลวงปู่เดินตรงไปที่ซากเครื่องบินที่ตกกระจัดกระจายอยู่นั้น ท่ามกลางไทยมุงที่แน่นขนัด

หลวงปู่และพระเณรทั้งหมดได้ช่วยกันเก็บอัฐบริขารของครูบาอาจารย์ออกมาวางไว้ในสถานที่อันเหมาะสมให้เรียบร้อย หลวงปู่ปรารภขณะที่หยิบชิ้นส่วนของครูบาอาจารย์ว่า ท่านอาจารย์วัน ท่านอาจารย์จวนมาบอกเมื่อคืนว่าให้ช่วยมาเก็บธาตุขันธ์ให้ท่านด้วย รับปากท่านไว้เมื่อคืน...” หลวงปู่หยิบชิ้นส่วนของครูบาอาจารย์มารวมไว้เป็นส่วนๆ เก็บชิ้นส่วนและอัฐบริขารของครูบาอาจารย์เสร็จ เจ้าหน้าที่ก็มาถึง...จึงให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ดำเนินงานต่อไป ตกกลางคืนหลวงปู่ก็พาไปกราบนมัสการศพครูบาอาจารย์ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน...ขณะที่นั่งรอเวลาอยู่นั้น หลวงปู่ต้องตอบคำถามทั้งพระทั้งโยมที่นำปัญหาอย่างที่หลวงปู่ปรารภไว้ที่วัดเขาอีโต้ตั้งแต่แรกนั้น มาตอบให้ทุกคนเข้าใจว่า...ไม่มีใครในโลกนี้หนีกรรมได้ วิบากกรรมของท่านหมดแล้ว ไม่ต้องห่วง ให้ห่วงตัวเราเองนี้ให้มาก ทำตัวเราเองให้ดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง...หลวงปู่ปรารภกับพระอุปัฏฐากว่า “สมเด็จฯ ท่านเสียพระทัยมาก ผมเพิ่งเห็นน้ำตาท่านหลั่งไหลมากก็คราวนี้แหละ...” ข้าพเจ้าก็สังเกตตาม จึงได้เห็นพระเนตรของพระองค์ปูดบวม พระพักตร์ร่วงโรย เศร้าโศกอย่างที่หลวงปู่ปรารภ เรื่องนี้จึงนับได้ว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นครูบาอาจารย์ท่านอยู่ห่างไกลกันคนละภาค แต่เมื่อถึงคราวที่ท่านจะต้องแตกกายทำลายขันธ์ ท่านยังส่งกระแสจิตสั่งความบอกลาซึ่งกันและกันได้ ซึ่งในคราวครั้งนั้นบรรดาพระภิกษุผู้เป็นสักขีพยานรับทราบเหตุการณ์ค่อนรุ่งของคืนดังกล่าวรวม ๘ รูปด้วยกัน...


:b8: คัดลอกเนื้อหามาจาก...ตอน อภิญญาที่เขาอีโต้ ปราจีนบุรี
หนังสือชีวประวัติพระวิสุทธิญาณเถร (หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย) ฉบับสมบูรณ์
วัดเขาสุกิม ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=52105

⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱⊰⊱

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2016, 17:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม

รูปภาพ
พระอาจารย์วัน อุตฺตโม (พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร)

รูปภาพ
พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ

รูปภาพ
พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร

รูปภาพ
พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม
:b49: :b50: :b49:

๏ ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=25700

๏ ประวัติและปฏิปทา “พระอาจารย์วัน อุตฺตโม”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=25699

๏ ประวัติและปฏิปทา “พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=23167

๏ ประวัติและปฏิปทา “พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=22237

๏ ประวัติและปฏิปทา “พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม”

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20859

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2016, 13:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
ยกกลับมาเล่าต่อ สู่พี่น้องกัลยาณมิตร
ว่าชีวิตนี้ยากจะรักษาถ้าเหตุปัจจัยมันบังคับมา พระอริยเจ้าก็ยังต้องไป อนัตตาจริงๆ
smiley


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 24 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron