วันเวลาปัจจุบัน 30 มี.ค. 2024, 10:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 18:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 18:15
โพสต์: 9

ที่อยู่: มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ

 ข้อมูลส่วนตัว www


พุทธทาส

๏คำว่าความโลภ ความโกรธ ความหลงนี้ที่จริงแล้วเป็นเรื่องของคนทุกคนจะต้องรู้
ถ้าไม่รู้จักและควบคุมมันไม่ได้ก็ต้องเป็นทุกข์เพราะความโลภ โกรธ หลงนั่นเอง

๏เมื่อเกิดความอยาก ก็ต้องสนองตามความอยากนั้น
และเมื่อไม่ได้ตามความอยากก็โกรธจนเกิดไฟเผาลนจิตใจ
ทีนี้ถ้าไม่รู้ว่าจะแก้มันอย่างไรก็คือโมหะความหลง นี่กิเลสมันวนเวียนเนื่องกันอยู่อย่างนี้

๏กิเลสมันเกิดได้ง่ายๆถ้าเราปล่อยให้มันเกิดขึ้นบ่อยๆ
เช่น เมื่อโลภครั้งหนึ่งมันก็เก็บไว้หน่วยหนึ่ง เมื่อสะสมมากเข้ามันก็เคยชิน
ที่จะแสดงความโลภออกมาได้ง่าย ความโกรธกับความหลงก็เช่นเดียวกัน



๏พระพุทธเจ้าตรัสว่าบิดามารดาเป็นปุพพาจารย์ คือเป็นอาจารย์คนแรกของบุตร
ถ้าสอนดีอบรมดี มันก็ง่ายที่เด็กคนนั้นจะเติบโตขึ้นมาเป็นคนดี
เพราะมีพื้นฐานของจิตใจมาในทางที่ดี

๏ขอให้สนใจเรื่องของจิตใจที่ควรเป็นไปในความถูกต้องที่เรียกว่าบุญ
อย่าให้เป็นไปในความผิดพลาดที่เรียกว่าบาป
เด็กสมัยนี้หัวเราะเยาะคำว่าบุญว่าบาป ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

๏ธรรมะ คือระบบการปฏิบัติที่ถูกต้องแก่ความรอดทั้งทางกายและทางจิต
ในทุกขั้นตอนตามวิวัฒนาการของชีวิตทั้งเพื่อตนเองและผู้อื่น

๏พวกเราที่อยู่กันที่นี่เราพูดว่าการทำงานก็เพื่อเอาเหงื่อมาล้างความเห็นแก่ตัว
การทำงานเป็นการปฏิบัติธรรมและมันจะทำลายความเห็นแก่ตัวได้เอง

๏การศึกษาถ้าไม่ลงมือทำไม่เป็นการศึกษาหรอก
ให้เรียนจบมหาวิทยาลัย แต่ถ้าความรู้เหล่านั้นไม่มาเปลี่ยนเป็นการกระทำแล้ว
นั่นยังไม่ใช่การศึกษา

๏พระพุทธเจ้าท่านบูชาหน้าที่มาก
แม้จะอยู่ที่ไหนท่านก็ทำหน้าที่ของท่านครบวงจรในแต่ละวัน
คือตั้งแต่หัวรุ่งเช้าไปโปรดสัตว์ให้ได้รับธรรมะ จนถึงดึกดื่นเที่ยงคืนกว่าจะพักผ่อน

๏คำว่าบุญหมายถึงสิ่งซึ่งเป็นเครื่องชำระชะล้างบาป
การทำบุญหวังให้สวยให้รวยให้ได้สวรรค์วิมานที่เต็มไปด้วยกามารมณ์เหล่านี้
มันเป็นการชำระชะล้างบาปหรือเปล่า?


ป.อ.ปยุตโต

๏พุทธศาสนาสอนให้เราเป็นสุขและให้รู้ทันความทุกข์
ฉะนั้นพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งความสุขไม่ใช่ศาสนาแห่งความทุกข์
แต่เผชิญหน้ากับความทุกข์ด้วยปัญญา

๏ศาสนาพราหมณ์ถือว่าเทพเจ้านั้นสูงสุดเป็นผู้บันดาลทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามอำนาจ
พุทธศาสนาสอนใหม่บอกว่าชาวพุทธถือธรรมะเป็นใหญ่ มนุษย์กับเทวดาจะชนะกันก็ที่ธรรมะ

๏คนเราควรใช้ชีวิตด้วยปัญญาแม้แต่เรื่องการกินก็ควรรู้ว่าเรากินเพื่ออะไร
วัตถุประสงค์ที่แท้นี่เรากินเพื่ออะไรต้องตอบให้ได้นะ
ถ้าตอบไม่ได้ท่านเรียกว่ากินด้วยโมหะ

๏พุทธศาสนาไม่ได้สอนให้คนหวังพึ่งพิงฤทธิปาฏิหาริย์
แต่สอนให้พยายามทำให้ได้ด้วยตนเอง
คือพยายามพัฒนาตนเองจนพึ่งพาตนเองได้

๏พุทธศาสนาถือธรรมเป็นใหญ่ ซึ่งตรงข้ามกับลัทธิที่มีมาก่อนพระพุทธเจ้าเกิดขึ้น
ลัทธิเหล่านั้นถือเทพเป็นใหญ่จึงต้องเซ่นบวงสรวงคอยแต่จะให้เทวดามาช่วย

๏มีภาษิตว่า ความเพียรของมนุษย์เทวดาก็กีดกันไม่ได้
ก็หมายความว่า พุทธศาสนาไม่ให้ยอมแพ้แก่โชคชะตา
ให้ใช้ความเพียรพยายามด้วยปัญญา แล้วจะเอาชนะโชคชะตาได้

๏เราต้องการผลก็ต้องทำเหตุ จะให้อะไรๆมันลอยเข้ามาเองได้อย่างไร
เหมือนกับเราอยากสอบได้แต่ไม่เคยดูหนังสือ
ได้แต่ไปอ้อนวอนอย่างเดียวเชื่อได้ว่าไม่มีทางสอบได้

๏ความอดทนมีคุณลักษณะเปรียบเหมือนผืนแผ่นดินที่มีความหนักแน่น
รับได้ทั้งของดีและของเสีย และเหมือนช้างศึกที่ฝ่าฟันไปในสนามรบ
ไม่หวาดหวั่นจนบรรลุถึงจุดหมายที่ต้องการได้

๏เงินทองนี่เป็นสิ่งสมมติ ที่มนุษย์มีความฉลาดในการบัญญัติมันขึ้นมา
ให้รับรู้ร่วมกันว่ามันมีค่าเท่าไร แต่มนุษย์ไม่ควรมาติดอยู่แต่สมมตินี้มากเกินไป
จนทำให้เข้าไม่ถึงความจริงของธรรมะ

๏การแสดงความเห็นมันต้องมาคู่กับการหาความรู้
ถ้าไม่มีความรู้ก็จะแสดงไปตามความชอบใจหรือไม่ชอบใจของตัว
มันก็จะไม่ใช่ความคิดเห็นที่เกิดจากความรู้ความเข้าใจ




ว.วชิรเมธี

๏ชีวิตคนต้องไปให้ถึงสามสิ่งนี้คือ รู้ ตื่น เบิกบาน
รู้คือรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ตื่นคือตื่นจากโลภโกรธหลง
พอออกจากโลภโกรธหลงได้ชีวิตมันก็เบิกบานมีชีวิตชีวา

๏ธรรมะนั้นเป็นของบริสุทธิ์ เราต้องทำตัวเองให้สะอาดบริสุทธิ์พร้อมที่จะรองรับธรรมะ
ทำใจให้สงบให้นิ่ง เปิดใจให้สว่างเบาสบาย แล้วสติปัญญาก็จะเกิดตามมาเอง

๏ธรรมทุกข้อเหมือนดอกไม้ที่ร้อยในพวงมาลัยเดียวกัน
เราแตะดอกไหนจะสะเทือนไปทุกดอก ปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน
เมื่อเราปฏิบัติให้ถูกต้องแล้ว ธรรมทุกข้อจะเชื่อมโยงถึงกันหมด

๏มีสักกี่คนในโลกนี้ที่ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา
ไม่วิ่งตามยุคสมัย ไม่วิ่งตามแฟชั่น
ไม่เห่อตามสิ่งไร้สาระ เหมือนเช่นในหลวงของเรา

๏การบริโภคแบบคุณค่าแท้คือบริโภคที่ประโยชน์ของมันตรงๆ
และบริโภคแบบหลงในคุณค่าเทียมในแบรนด์เนม
เมืองไทยเราตอนนี้หลงใหลกันอยู่กับคุณค่าเทียมมากกว่าคุณค่าแท้

๏การคิดให้ดีคือคิดแล้วกุศลธรรมเจริญ อกุศลธรรมเสื่อม
หมายความว่าคิดแล้วความดีงามเพิ่มขึ้น ฉลาดขึ้น
คิดแล้วเอาไปใช้งานได้จริง เป็นประโยชน์ทั้งกับตัวเองและผู้อื่น

๏เราไม่ต้องรอให้เป็นคนที่พร้อมทุกสิ่งทุกอย่างหรอก
แต่ขอให้เราสร้างสภาพแวดล้อมให้ตัวเราเองเป็นสภาพแวดล้อมแห่งธรรมะเถิด

๏เวลาเราจะทำความดีอะไรสักอย่างเราจะมีเหตุผลอยู่ชุดหนึ่งเพื่อเราจะได้ไม่ต้องทำ
คือคำว่าปุถุชนก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่ต้องอะไรมากมายหรอก

๏อบายมุข คือประตูแห่งความเสื่อมของชีวิตคนเรา
ทั้งๆที่รู้ว่าทางนี้คือทางแห่งความเสื่อม แต่คนก็ยังแห่กันไปมากมาย

๏คำว่า เอาเถอะใครๆ เขาก็ทำกันไม่ต้องคิดมากหรอก
นี่แหละเป็นเหตุผลของฝ่ายมารที่จะชักชวนเราไปในทางเสื่อมระวังให้ดีๆ

ข้อความทั้งหมดจากบริการ ธรรมะใกล้มือ เดือนมิถุนายน 2552 ครับ
ถ้าอยากได้ขอความดีๆ แบบนี้ทุกเช้า สามารถสมัครรับเป็น sms ได้ที่หมายเลข *292*278# แล้วกดโทรออก เฉพาะผู้ใช้ AIS เท่านั้นครับ (ฟรีแบบไม่มีเงื่อนไข) และสามารถ download เสียง และสมัครรับในรูปแบบ e-mail ได้ที่ http://www.dhamma4u.com/ ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2009, 21:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2009, 21:25
โพสต์: 191


 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุๆๆๆๆๆๆ



:b20: :b20: :b20: :b20: :b20:

.....................................................
ศัตรูของคนเราที่แท้จริงแล้ว คือ โลภ โกรธ หลง
ต้องแก้ด้วยมี ศีล สมาธิ ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 07:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ...............


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 09:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 21:32
โพสต์: 82

ที่อยู่: นครศรีธรรมราช

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: อนุโมทนาสาธุ ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 09:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.พ. 2009, 02:06
โพสต์: 811

อายุ: 0
ที่อยู่: มหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


๏พุทธศาสนาไม่ได้สอนให้คนหวังพึ่งพิงฤทธิปาฏิหาริย์
แต่สอนให้พยายามทำให้ได้ด้วยตนเอง
คือพยายามพัฒนาตนเองจนพึ่งพาตนเองได้

๏เวลาเราจะทำความดีอะไรสักอย่างเราจะมีเหตุผลอยู่ชุดหนึ่งเพื่อเราจะได้ไม่ต้องทำ
คือคำว่าปุถุชนก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่ต้องอะไรมากมายหรอก


อนุโมทนาด้วยครับ
ธรรมะสวัสดีครับ

.....................................................
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันถูกต้องอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด (หลวงพ่อชา สุภัทโท)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 22 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร