ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

“เดียรถีย์” ผู้มีลัทธิดังท่าน้ำ (พระธรรมกิตติวงศ์)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=20195
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  มิตรตัวน้อย [ 22 ม.ค. 2009, 14:29 ]
หัวข้อกระทู้:  “เดียรถีย์” ผู้มีลัทธิดังท่าน้ำ (พระธรรมกิตติวงศ์)

รูปภาพ
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช)


เดียรถีย์

(อ่านว่า เดียระถี) แปลว่า ผู้มีลัทธิดังท่าน้ำอันเป็นที่ข้าม หรือ “ข้ามน้ำผิดท่า”
หมายถึง นักบวชนอกศาสนาในอินเดียสมัยพุทธกาล
(ที่แปลว่า “ข้ามน้ำผิดท่า” นั้นอุปมาถึงบุคคลผู้ออกบวชหวังความพ้นทุกข์
แต่กลับแสวงหาทางที่ผิดหรือศรัทธาปฏิบัติในลัทธิความเชื่อที่มิใช่พระพุทธศาสนา
อันเปรียบเหมือนผู้ที่ข้ามแม่น้ำไปขึ้นท่าน้ำที่ไม่ดี ทำให้เสียประโยชน์อันพึงได้ไป)

เดียรถีย์ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อัญเดียรถีย์ หมายถึง
พวกที่มี “ลัทธิ” ความเชื่อถืออย่างอื่น นอกจาก “พระพุทธศาสนา”

เดียรถีย์ สมัย พุทธกาล มีหลายพวก เช่น ปริพาชก นิครนถ์ ดาบส อเจลก (ชีเปลือย)

ปัจจุบันคำนี้ถูกนำมาใช้เรียก ผู้ทำนอกเรื่อง หรือ นอกรีตนอกรอย
ประพฤตินอก “ธรรม” นอก “พระวินัย” ว่า พวกเดียรถีย์
ซึ่งถือเป็นคำดูถูกหรือคำด่า

โดย พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต
พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ.2548

เจริญธรรม

:b8: :b12:

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 22 ม.ค. 2009, 18:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: “เดียรถีย์” ผู้มีลัทธิดังท่าน้ำ (พระธรรมกิตติวงศ์)

สาธุ สาธุ สาธุ

อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ...คุณมิตรตัวน้อย

ธรรมะสวัสดีค่ะ

:b1: :b16: :b48:

เจ้าของ:  AAAA [ 23 ม.ค. 2009, 17:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: “เดียรถีย์” ผู้มีลัทธิดังท่าน้ำ (พระธรรมกิตติวงศ์)

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 23 ม.ค. 2009, 19:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: “เดียรถีย์” ผู้มีลัทธิดังท่าน้ำ (พระธรรมกิตติวงศ์)

โมทนาสาธุด้วยนะคะคุณมิตรตัวน้อย :b8: :b4: :b12:

เจ้าของ:  มิตรตัวน้อย [ 02 ก.พ. 2009, 16:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: “เดียรถีย์” ผู้มีลัทธิดังท่าน้ำ (พระธรรมกิตติวงศ์)

สวัสดีครับ คุณลูกโป่ง คุณ AAAและคุณกุหลาบสีชา

ครั้งพุทธกาล เมื่อพระองค์ออกบิณฑบาต “เดียรถีย์” จะเดินตามหลังพระพุทธ ผู้คนนึกว่าเป็นพุทธบริษัทของพระองค์จึงให้ข้าว ปลา อาหาร แท้จริงแล้ว “เดียรถีย์” นี้หากินด้วย การนำคำสอนของพระองค์ ปนเปด้วยคำสอนของเจ้าลัทธิต่าง ๆ ในสมัยนั้น

สมัยนี้บางครั้งเขาก็คิดเอาเอง พร้อมกับนำคำสอนของศาสนาอื่น ๆ มาปลอมปน พร้อมสำนวน โวหาร เหยียบย่ำให้ “ธรรม” ของพระองค์ที่ตรัสไว้เป็น “สวากขาโต สวาขาตธรรม”ด้อยค่า ด้อยความหมายลง ยกความคิด ความเห็นของตนให้เหนือกว่า “ธรรมที่ตรัสไว้ชอบแล้ว” เสมอ

เหตุใด “เดียรถีย์” เหล่านี้ จึงยังคงอยู่และหากินกับศาสนาพุทธได้ จะได้ยกคำกล่าวของท่าน สัญชัย อาจารย์ของท่านพระสารีบุตรและพระโมคัลลานะ ตอนถูกชวนให้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ที่ว่า

“พวกท่านไปเถิด ข้าพเจ้าพิจารณาแล้วว่า คนในโลกนี้ โง่ มากกว่า ฉลาด”

เจริญธรรม

:b8: :b12:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/