วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 02:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2008, 11:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มี.ค. 2005, 04:18
โพสต์: 1877


 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

พระพุทธศาสนา สอนเรื่องโลกเป็นทุกข์...?
พระธรรมเมธาภรณ์ (ระแบบ ฐิตญาโณ)
วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร


• พระพุทธศาสนา สอนเรื่องโลกเป็นทุกข์...
จะมิเป็นการสอนให้คนมองโลกในแง่ร้าย
และทำให้ใจไม่สบายไปหรือเปล่า ?


ไม่เป็นเช่นนั้นหรอก

การสอนให้รู้จักความเป็นทุกข์แห่งสรรพสิ่งนั้น
เป็นการแสดงความจริงที่มีอยู่เป็นอยู่


เหมือนกับคนไปอยู่ในถิ่นที่อากาศร้อนจัด
เราบอกเขาว่า อากาศที่นี่ร้อนจัดนะ

แทนที่จะเป็นการทำให้เขาไม่สบายใจ
หรือมองสถานที่นั้นไปในทำนองไม่น่าอยู่ ไม่น่าอาศัยแล้ว
ทำให้คนนั้นสามารถเตรียมกายเตีรยมใจเผชิญกับความร้อน
ซึ่งตนจะต้องประสบแน่นอน

ในขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยให้คนนั้น
ได้หาวิธีหลีกหนีความร้อน
ด้วยการสร้างที่อยู่อาศัย ใช้สิ่งช่วยขจัดความร้อนเป็นต้น


บอกอย่างนี้เป็นการผลดีหรือผลเสียแก่คนฟังเล่า?

การที่ทางพระพุทธศาสนาได้แสดงว่า
โลกนี้เต็มไปด้วยความทุกข์นานาประการ
ว่ากันเต็มที่แล้ว ท่านแสดงว่า

“ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นดับไป
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ”


ซึ่งเหมือนกับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่ว่า

“ในโลกนี้มีแต่ความร้อน
การที่เรารู้สึกว่าเราเย็นนั้น เป็นเพราะความร้อนลดนั้นเอง
แม้จะลดลงไปเลยศูนย์ก็ถือว่า
เป็นความร้อนลด หาใช่ความเย็นไม่”


ปัญหาเรื่องความทุกข์นั้น
ที่เราหลงประเด็นกันมาก
คือคนส่วนมากตัดสินคำว่า

“ทุกข์” ว่าทุกข์ ก็คือ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ

ดังนั้นจึงมองไม่ค่อยจะเห็นว่า คนเราเป็นทุกข์จริงหรือ?

ตามหลักพระพุทธศาสนานั้น
ความทุกข์ที่เข้าใจกันนั้น
เป็นอาการของเวทนา ประการหนึ่งเท่านั้นเอง

คือเป็นส่วนหนึ่งแห่งความหมายว่าทุกข์เท่านั้น
ท่านได้ให้นิยามความหมายของคำว่าทุกข์
ที่ปรากฏแก่สรรพสัตว์และสรรพสิ่งว่า

“มีความเกิดขึ้น และมีความเสื่อมไป เป็นธรรมดา
ดำรงอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ มีการเบียดเบียนให้เร่าร้อน”


ความหมายของทุกข์ในอริยสัจ
ซึ่งเจาะจงเอาความทุกข์ที่ปรากฏแก่สิ่งมีชีวิต
คือ สิ่งที่เรียกว่าทุกข์นั้นปรากฏตัวให้เกห็นในรูปของ

“เบียดเบียน แต่ละอย่างนั้นเกิดขึ้นด้วยปัจจัยปรุงแต่ง เร่าร้อน
มีการแปรปรวนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”


ด้วยความหมายนี้เอง

จะพบว่าแม้ความสุข ที่คนรู้สึกว่าตนเป็นสุขนั้น
เป็นอาการของความทุกข์อย่างหนึ่ง เพราะอะไร?


“เพราะความสุขนั้น
เกิดขึ้นด้วยปัจจัยปรุงแต่ง หาได้เกิดขึ้นลอยๆ ไม่
เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะทำหน้าที่เบียดเบียนความทุกข์ให้เบาลง

แต่ความสุขก็แปรปรวนเปลี่ยนแปลง
อาจเป็นสุขเพิ่มขึ้นหรือสุขน้อยลง”


การสอนเรื่องทุกข์ จึงเป็นการบอกล่าวความจริงให้ทราบกันไว้
ตามที่เป็นจริงอย่างไรเท่านั้นเอง


ที่สำคัญที่สุดคือ คำที่เป็นภาษาอื่นนั้น
ผู้ศึกษาควรศึกษาความหมายของภาษานั้นๆ ให้เข้าใจ

คำว่า ทุกข์ เป็นภาษาบาลี
ควรทำความเข้าใจให้ทราบว่า
คำนี้ท่านนิยามความหมายไว้อย่างไร
เมื่อทราบได้แล้ว จะมีความเข้าใจในเจตนารมย์แห่งคำสอน
ที่มีคำนั้นๆ ปรากฏได้ชัดเจนขึ้น


รูปภาพ

(ที่มา : ตอบปัญหาทางพระพุทธศาสนา-๒ โดย พระโสภณคณาภรณ์ (ระแบบ ฐิตญาโณ)
วัดบวรนิเวศวิหาร, พิมพ์เผยแพร่เพื่อเป็นธรรมบรรณาการ พ.ศ. ๒๕๒๒, หน้า ๗๙-๘๒)


:b8: :b8: :b8:

หมายเหตุ : บทความเรื่องนี้เขียนไว้เมื่อครั้ง
พระธรรมเมธาภรณ์ (ระแบบ ฐิตญาโณ) ยังดำรงสมณศักดิ์ที่พระโสภณคณาภรณ์

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=15691

:b47: รวมคำสอน “พระธรรมเมธาภรณ์ (ระแบบ ฐิตญาโณ)”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=47886

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 22:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2009, 18:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 16:30
โพสต์: 133

อายุ: 0
ที่อยู่: Uttaradit

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
" สติปัญญา เราใช้ปัญญาอยู่เสมอก็จริง แต่สตินั้นแท้จริงแล้ว เรานำออกมาใช้น้อยนัก ทั้งที่สตินั้นมีคุณค่าแก่ชีวิต มีคุณค่าอย่างเหลือที่จะประมาณ "


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร