วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 09:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2008, 18:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


มัชฌิมาปฏิปทาหรือทางสายกลาง

เป็นหัวข้อหนึ่งในปฐมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงในวันอาสาฬหบูชา ซึ่งจะเป็นหลักสำคัญในการปฏิบัติธรรมของทุกคนต่อไปในภายภาคหน้า

ทางสายกลางเป็นทางแห่งปัญญา เพราะหากปราศจากปัญญาแล้ว ย่อมไม่สามารถเดินไปถึงจุดหมายแห่งการพ้นทุกข์ได้ บางท่านเข้าใจผิดว่าทางสายกลางหมายถึง ไม่ดีสุดโต่งและไม่เลวสุดโต่ง ซึ่งไม่ใช่ความเห็นที่ถูกต้อง เพราะเรากำลังพูดถึงกุศลธรรมหรือธรรมฝ่ายดี ย่อมไม่ใช่การทำดีบ้างทำเลวบ้างตามที่บางคนเข้าใจ

ทางสายกลางเป็นการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ไม่ตึงไม่หย่อนเกินไป

เป็นความพอดี ซึ่งจุดของความพอดีสำหรับแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป เพราะแต่ละคนสะสมมาต่างกัน (ทั้งกุศลและอกุศล) เปรียบได้กับนักกีฬาที่ต้องมีโปรแกรมการฝึกฝนที่ต่างกัน เพื่อเสริมจุดแข็งกำจัดจุดอ่อนของแต่ละคน โดยมีเป้าหมายที่เหมือนกันคือ ชัยชนะ หรือการพ้นทุกข์เมื่อพูดถึงการปฏิบัติธรรม การที่เศรษฐีใช้รถยุโรปราคาคันละหลายล้าน ในขณะที่คนรายได้ปานกลางใช้รถญี่ปุ่นราคาไม่ถึงล้าน ก็เป็นตัวอย่างของทางสายกลางหรือความพอดีในทางโลกได้ คือใช้สิ่งอำนวยความสะดวกตามฐานะและความเหมาะสมของแต่ละคน โดยที่ไม่ทำให้ตนหรือผู้อื่นต้องเดือดร้อน

ส่วนในทางธรรมจะเห็นได้ว่า แต่ละคนสะสมปัญญาบุญบารมีมาไม่เท่ากัน รวมทั้งมีอัธยาศัยที่ต่างกัน ใช่ว่าทุกคนสามารถจะรักษาศีลแปดได้ ใช่ว่าความเข้าใจในพระธรรมของทุกคนจะเท่ากัน ใช่ว่าทุกคนที่นั่งสมาธิแล้วจะบรรลุมรรคผลได้ ใช่ว่าทุกคนเหมาะที่จะอยู่ในเพศบรรพชิต ฯลฯ การรู้กำลังของตัวเอง รวมทั้งการรู้อัธยาศัยที่แท้จริงของตน เป็นสิ่งจำเป็นที่แต่ละคนจะต้องรู้ในระหว่างการปฏิบัติธรรม ด้วยการฟังการศึกษาพระธรรม การพิจารณาโดยแยบคาย การรู้จักสังเกต การรู้ว่าจิตขณะใดเป็นกุศล จิตขณะใดเป็นอกุศลเป็นต้น

หากเราไม่รู้จักตัวเองไม่รู้จักพิจารณาโดยแยบคายแล้ว ย่อมเป็นการยากที่ดำเนินไปในทางสายกลางได้ เพราะมักไปทำในสิ่งที่ไม่เหมาะกันตนเอง หรือในสิ่งที่ตนไม่มีความพร้อมนั่นเอง ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้าหรืออาจเกิดความท้อถอยได้ ทางสายกลางจึงเป็นทางที่ทุกคนต้องค้นหาให้พบเอง โดยอยู่ในแนวทางตามที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้แล้ว ทั้งหมดนี้เป็นการสละออกและการละกิเลสทั้งปวงด้วยปัญญาและบารมีที่ถึงพร้อม ซึ่งจะนำไปสู่การพ้นทุกข์หรือพระนิพพานในที่สุด

:b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2009, 13:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 15:28
โพสต์: 307

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 41 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร