วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 15:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2022, 15:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Beggar-Poeple-PNG-File.png
Beggar-Poeple-PNG-File.png [ 291.21 KiB | เปิดดู 1272 ครั้ง ]
แนวการกำหนดพิจารณาของพระสาวก

เอกเทสเมวาดิ สกอตฺตภาเว สงฺขาเร อนวเสสโต ปริคฺคเหตุญฺจ สมฺมสิตุญฺจ
อสกฺโกนฺโต อตฺตโน อภินีหารสมุทาคตณาณพลานุรูป๋ เอกเทสเมว ปริคฺคเหตฺวา
สมฺมสนฺโต ฯเปฯ ตสฺมา สสนฺตานคเต สพฺพธมฺเม ปรสนฺตานคเต จ เตสํ
สนฺตานวิภาค่ อกตฺวา พหิทธาภาวสามญฺญโต สมฺมสติ, อยํ สาวกานํ สมฺมสนจาโร.

(ม.ฎี. ๗/๒๗๔)

ข้อความว่า เอกเทสเมว พึงทราบว่า โยคีนั้นเมื่อไม่สามารถที่จะกำหนดพิจารณา
สังขารทั้งหลายในอัตตภาพของตนได้อย่างทั่วถึง จึงได้ทำการกำหนดพิจารณา
เฉพาะบางส่วนเท่านั้น โดยสมควรแก่กำลังแห่งญาณปัญญาที่ได้มาด้วยการสร้าง
บารมีของตน ฯลฯ ดังนั้น โยคีย่อมสามารถที่จะพิจารณาสภาวธรรมทั้งปวงที่เกิด
ชื้นในชันธสันดานของตน ส่วนสภาวธรรมที่เกิดขึ้นในขันธสันดานของบุคคลอื่นนั้น
โยคีสามารถที่จะนำมาพิจารณาร่วมโดยความเป็นพหิทธธรรมที่เหมือนกัน โดยไม่
ต้องกระทำการ แยกแยะว่าเป็นขันธสั่นดานภายในภายนอกของบุคคลเหล่านั้น ก็
อัชฌัตตธรรมและพหิทธธรรมตามที่กล่าวมานี้ได้ชื่อว่าเป็นสัมมสนจาระกล่าวคือ
เป็นที่หรือเป็นวิสัยแห่งการกำหนดพิจารณา สำหรับพระสาวกทั้งหลาย

ด้วยเหตุนี้แล โยคีจึงไม่ควรที่จะแสวงหาหรือจินตนาการหาพหิทธธรรมแล้ว
นำมากำหนดพิจารณา เพราะว่าการที่ตั้งใจแสวงหารูปเสียงเป็นต้นซึ่งเป็นอารมณ์
ภายนอกมากำหนดนั้นจะทำให้โยคีผู้นั้นเกิดอุทธัจจะความฟุ้งซ่านได้ ก็ความฟุ้งซ่าน
นั้นจะทำให้โยคีไม่สามารถกำหนดทัน เป็นเหตุให้สมาธิและปัญญาทั้งหลายไม่
สามารถที่จะแก่กล้าได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น แม้จะใช้เวลานาน เช่น หนึ่งเดือน เป็นต้น
ก็อาจจะไม่ได้บรรลุธรรมวิเศษใดๆก็ได้ในขณะที่คนมีสุตะมากพยายามที่จะพิจารณา
โดยคิดตามสุตะกล่าวคือประสบการณ์หรือความรู้ที่ตนเคยได้ยินได้ฟังมา ก็จะทำให้
ไม่สามารถได้ปัจจักขญณ สมาธิและปัญญาของโยคีผู้นั้น ก็จะไม่แก่กล้าเช่นกัน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2022, 15:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




begger-png-4-300x200.png
begger-png-4-300x200.png [ 59.07 KiB | เปิดดู 1271 ครั้ง ]
ดังนั้น หากพหิทธธรรมผ่านปรากฎโดยธรรมชาติในอารมณ์ทั้ง ๖ ไซร้ โยคีก็ควร
จะน้อมมาพิจารณาได้ แต่ที่สำคัญโยคีจะต้องมีความเพียรพยายามเพื่อจะทำการ
กำหนดพิจารณาเฉพาะอัชฌัตตธรรมเป็นหลัก เพียงแค่การได้กำหนด
อัชมัตตธรรมนั้น โยคีก็ได้เป็นผู้ชื่อว่าเป็นผู้ทำกิจการกำหนดนามรูปทั้งหมดสำเร็จ
แล้วนั่นเทียว ดังที่ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคมหาฎีกาท่านได้กล่าวยืนยันไว้ว่า

อชฺฌตฺตํ วา ทิ วิปสฺสนาภินิเวโส โหตุ พหิทฺธา วา, อชฺฌตฺตสิทฺธิยํ ปน
ลกฺขณโต สพฺพมฺปิ นามรูป อนวเสสโต ปริคฺคหิตเมว โหติ.

(วิสุทธิ ฎี. ๒/๓๖๘)

การเริ่มต้นกำหนดพิจารณาวิปัสสนานั้น ไม่ว่าจะเป็นไปในอัชฌัตตสันดาน
หรือพหิทธสันดาน ก็ตาม ย่อมสามารถกระทำได้. แต่ที่สำคัญ เมื่อโยคีได้ทำการ
หนดพิจาณาในอัชฌัตตสันดานหรือขันธสันดานของตนสำเร็จแล้ว ก็ได้
ผู้กำหนดพิจารณานามรูปทั้งหมดทั้งปวงโดยไม่มีส่วนเหลือนั่นเทียว ไม่ว่าทั้งโดย
สภาวลักษณะหรือสามัญญลักษณะ ก็ตาม

(คำว่า ลกฺขณโต ในที่นี้ นำจะหมายถึง เป็นการสำเร็จการกำหนดพิจารณา โดยลักขณนัย หมายความว่า
โยคีกำหนดวิปัสสนาอย่างใดอย่างหนึ่งโดยตรง ส่วนนามรูป ที่เหลือแม้จะไม่ได้กำหนดก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้
นดไโดยวิธีที่เรียกว่าลักขณนัย ซึ่งเป็นวิธีการแสงโดยนำธรรมบางอย่างมาแสดงพอ
ส่วนธรรมอื่นๆที่ไม่ได้แสดงก็เป็นอันสำเร็จไปในตัว : ผู้แปล]

ในขณะที่โยคีเริ่มต้นเจริญวิปัสสนาอยู่นั้นไม่ว่าจะเป็นการกำหนดพิจารณาใน
อัชฌัตตสันดานหรือในพหิทธสันดาน ก็ตาม หากโยคีสามารถกำหนดรูปและนามที่
เป็นอัชฌัตตธรรมได้ทุกขณะที่อัชฌัตตธรรมนั้นเกิดขึ้นแล้วไซร้ก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้รู้หรือ
พิจารณารูปทั้งปวงเช่นกัน หมายความว่า สามารถที่จะได้ชื่อว่าเป็นผู้รู้พหิทธรรม
โดยสภาวลักษณะและสามัญญลักษณะได้เหมือนกับที่ตนเองรู้อัชฌัตตธรรมโดยตรง

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร