ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ปริจเฉทที่ ๔ อภิธัมมัตถสังคหะ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=45919 |
หน้า 6 จากทั้งหมด 6 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 10 ส.ค. 2013, 05:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
บุคคล ๑๒ ประเภทของบุคคล ท่านจัดไว้เป็น ๑๒ คือ ปุถุชน ๔ อริยบุคคล ๘ ๑ปุถุชน ๔ ได้แก่ ๑. ทุคคติอเหตุกบุคคล ๒. สุคติอเหตุกบุคคล ๓. ทวิเหตุกบุคคล ๔. ติเหตุกบุคคล อริยบุคคล ๘ ได้แก่ มัคคบุคคล ๔ ๑. โสดาปัตติมัคคบุคคล ๒. สกทาคามิมัคคบุคคล ๓. อนาคามิมัคคบุคคล ๔. อรหัตตมัคคบุคคล ผลบุคคล ๔ ๑. โสดาปัตติผลบุคคล ๒. สกทาคามิผลบุคคล ๓. อนาคามิผลบุคคล ๔. อรหัตตผลบุคคล ทุคคติอเหตุกบุคคล ๑ ได้แก่ บุคคลในอบายภูมิรวม ๔ ภูมิ คือ นรก ๑ ภูมิ เปรต ๑ ภูมิ อสุรกาย ๑ ภูมิ และสัตว์ดิรัจฉาน ๑ ภูมิ สัตว์ทั้ง ๔ นี้ ปฏิสนธิด้วย อุเบกขาสันตีรณอกุสลวิบาก ๑ ดวง สุคติอเหตุกบุคคล ๑ ได้แก่ มนุษย์ผู้ หูหนวก ตาบอด เป็นบ้า เป็นใบ้ พิกลพิการต่าง ๆ ๑ ภูมิ และเทวดาบางจำพวกในชั้นจาตุมหาราชิกา ๑ ภูมิ สัตว์ใน ๒ ภูมินี้ ปฏิสนธิด้วย อุเบกขาสันตีรณ กุสลวิบาก ๑ ดวง ทวิเหตุกบุคคล ๑ ได้แก่ มนุษย์ ๑ ภูมิ เทวดาทั้ง ๖ ภูมิ (รวมเรียกว่า กาม สุคติภูมิ ๗) ผู้ไม่มีปัญญา สัตว์ใน ๗ ภูมินี้ ปฏิสนธิด้วย มหาวิบากญาณวิปปยุตต ๔ ดวง ติเหตุกบุคคล ๙ ได้แก่ ปุถุชน ๑ อริยบุคคล ๘ ปุถุชน ๑ ได้แก่ มนุษย์ ๑ ภูมิ เทวดา ๖ ภูมิ รูปพรหม ๑๐ ภูมิ (เว้น สุทธาวาส ๕ ภูมิ อสัญญสัตต ๑ ภูมิ) และอรูปพรหม ๔ ภูมิ รวมเป็น ๒๑ ภูมิ ด้วยกัน เป็นสัตว์ผู้มีปัญญาทั้งนั้นซึ่งปฏิสนธิด้วย มหาวิบากญาณสัมปยุตต ๔ ดวง มหัคคตวิบาก ๙ ดวง อริยบุคคล ๘ ได้แก่ มัคคบุคคล ๔ ผลบุคคล ๔ ในมนุษย์ ๑ ภูมิ เทวดา ๖ ภูมิ รูปพรหม ๑๕ ภูมิ (เว้น อสัญญสัตต ๑ ภูมิ) และอรูปพรหม ๔ ภูมิ สัตว์ใน ๒๖ ภูมินี้ ปฏิสนธิด้วย มหาวิบากญาณสัมปยุตต ๔ ดวง มหัคคตวิบาก ๙ ดวง |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 10 ส.ค. 2013, 05:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
เพื่อให้เห็นได้ชัดว่า อริยบุคคล ๘ นั้น บุคคลใดมีได้ในภูมิใดบ้าง ขอแสดง ดังนี้ โสดาปัตติมัคคบุคคล ๑ บุคคลนี้มีได้ ๑๗ ภูมิ คือ มนุษย์ ๑ ภูมิ เทวดา ๖ ภูมิ รูปพรหม ๑๐ ภูมิ บุคคลนี้มีไม่ได้ใน ๑๔ ภูมิ คือ อบาย ๔ ภูมิ สุทธาวาส ๕ ภูมิ อสัญญสัตต ๑ ภูมิ อรูปพรหม ๔ ภูมิ โสดาปัตติผลบุคคล ๑ สกทาคามิมัคคบุคคล ๑ สกทาคามิผลบุคคล ๑ อนาคามิมัคคบุคคล ๑ บุคคลทั้ง ๔ นี้ มีได้ใน ๒๑ ภูมิ คือ มนุษย์ ๑ ภูมิ เทวดา ๖ ภูมิ รูปพรหม ๑๐ ภูมิ อรูปพรหม ๔ ภูมิ บุคคลทั้ง ๔ นี้ มีไม่ได้ใน ๑๐ ภูมิ คือ อบาย ๔ ภูมิ สุทธาวาส ๕ ภูมิ อสัญญสัตต ๑ ภูมิ อนาคามิผลบุคคล ๑ อรหัตตมัคคบุคคล ๑ อรหัตตผลบุคคล ๑ บุคคลทั้ง ๓ นี้ มีได้ใน ๒๖ ภูมิ คือ มนุษย์ ๑ ภูมิ เทวดา ๖ ภูมิ รูปพรหม ๑๕ ภูมิ อรูปพรหม ๔ ภูมิ บุคคลทั้ง ๔ นี้ มีไม่ได้ใน ๕ ภูมิ คือ อบาย ๔ ภูมิ อสัญญสัตต ๑ ภูมิ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 10 ส.ค. 2013, 05:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
จิตที่ไม่มีในบุคคลบางจำพวก บุคคลบางจำพวก ไม่มีจิตบางประเภทเลย มีสำนวนเก่าท่านกล่าวไว้ ซึ่งถ้าได้ พิจารณาแล้ว ก็พอจะเข้าใจได้ จึงเห็นว่าควรจะคงสำนวนนั้นไว้ โดยไม่เปลี่ยนแปลง แก้ไขเลย ดังมีข้อความต่อไปนี้ สัตว์ที่เป็นอเหตุก และ ทวิเหตุกนั้น เป็นสัตว์บุญน้อย ไม่ได้สำเร็จกิริยาชวนะ ( ชวนะจิตของพระอรหันต์ ) และ อัปปนาชวนะ ( หมายถึงสัตว์ที่เป็นอเหตุก และ ทวิเหตุกนั้น ไม่สามารถทำฌาน และบรรลุมรรค ผล นิพพานได้ ในชาติที่ปฏิสนธิด้วย อุเบกขาสันตีรณกุสลวิบาก ๑ ดวง และ มหาวิบากญาณวิปปยุตต ๔ ดวง นั้น ) ถึงเกิดในสุคติ จิตที่เป็นกามาวจรวิบากญาณสัมปยุตตก็ไม่มีในสันดาน ถ้าเป็นอเหตุกสัตว์ในทุคคติแล้ว ก็ยิ่งชั่วร้อยเท่าพันทวี แม้แต่จิตที่เป็นมหา วิบากญาณวิปปยุตต ก็ไม่มีในสันดาน ท่านที่เป็นติเหตุกหรือ ไตรเหตุ มีไตรเหตุเกิด พร้อมด้วยปฏิสนธิจิตนั้น ถ้าบำเพ็ญพระกัมมัฏฐาน ก็จะได้สำเร็จเป็นพระขีณาสพ ขาดจากกุสลชวนะ และอกุสลชวนะ มีแต่ กิริยาชวนะ และอรหัตตชวนะ ปุถุชนที่เป็นติเหตุกหรือไตรเหตุ ยังเป็นปุถุชนอยู่ ก็ไม่มีกิริยาชวนะในสันดาน โลภชวนะที่เป็นทิฏฐิสัมปยุตต ๔ ดวง และโมหสัมปยุตตวิจิกิจฉา และกิริยา ชวนะก็ดี ย่อมไม่มีในสันดานแห่งเสกขบุคคลคือ พระโสดาบัน สกทาคามี อนาคามี พระอนาคามีบุคคลนั้น ในสันดานไม่มีปฏิฆชวนะ และกิริยาชวนะ และโลภ ชวนทิฏฐิสัมปยุตต และโมหชวนวิจิกิจฉาสัมปยุตต โลกุตตรชวนะนั้น มีกำหนดเกิดเป็นส่วน ๆ กัน โสดาปัตติชวนะนั้น จำเพาะ มีในสันดาน พระโสดาบัน ครั้นถึงพระสกทาคามีแล้ว โสดาปัตติชวนะก็ขาดไป มีแต่สกทาคามีชวนะ ในสันดาน ครั้นได้อนาคามีแล้ว สกทาคามีชวนะก็ขาดไป มีแต่ อนาคามีชวนะ ครั้นได้อรหัตตแล้ว อนาคามีชวนะก็ขาดไป มีแต่อรหัตตชวนะอยู่ใน สันดาน |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 10 ส.ค. 2013, 05:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
วิถีจิตของบุคคล บุคคลทั้ง ๑๒ (ปุถุชน ๔, อริยบุคคล ๘)นั้น บุคคลใดมี วิถีจิต ได้เท่าใด ท่านได้แสดงไว้ เป็นส่วนรวม ดังมีคาถา สังหคะเป็นคาถาที่ ๙ แสดงไว้ว่า ๙. อเสกฺขานํ จตุจตฺตา- ฬีส เสกฺขาน มุทฺทิเส ฉปญฺญาสาว เสสานํ จตุปญฺญาส สมฺภวา ฯ แปลความว่า อเสกขบุคคล มีวิถีจิต ๔๔ เสกขบุคคล มีวิถีจิต ๕๖ บุคคลนอกนั้น มีวิถีจิต ๕๔ อธิบาย อเสกขบุคคล คือบุคคลที่ไม่ต้องศึกษาอีกแล้ว หมายถึงพระอรหันต์ มีวิถีจิต ๔๔ คือ อเหตุกจิต ๑๘ มหากิริยา ๘ มหาวิบาก ๘ มหัคคตกิริยา ๙ อรหัตตผล ๑ ที่มีวิถีจิต ๔๔ นี้ หมายถึง พระอรหันต์อยู่ในกามภูมิ และได้ฌานทั้งรูปฌาน และอรูปฌานด้วย เสกขบุคคล คือ บุคคลที่ยังต้องศึกษาต่อไปอีก หมายถึง พระโสดาบัน พระสกทาคามี และพระอนาคามี มีวิถีจิต ๕๖ คือ อกุสลจิต ๗ (เว้นทิฏฐิคตสัมปยุตต ๔ วิจิกิจฉา ๑) อเหตุกจิต ๑๗ (เว้นหสิตุปปาทะ) มหากุสล ๘ มหาวิบาก ๘ มหัคคตกุสล ๙ โลกุตตรจิต ๗ (เว้นอรหัตตผล) ที่มีวิถีจิต ๕๖ นี้กล่าวเป็นส่วนรวมทั้ง ๗ บุคคล เว้นแต่อรหัตตผลบุคคล บุคคลเดียวเท่านั้น บุคคลนอกนั้นคือ บุคคลที่นอกจากพระอริยะทั้ง ๘ หมายถึง บุคคลที่ยังเป็น ปุถุชนอยู่ และอยู่ในกามภูมิ มีวิถีจิต ๕๔ คือ อกุสลจิต ๑๒ อเหตุกจิต ๑๗ (เว้นหสิตุปปาทะ) มหากุสล ๘ มหาวิบาก ๘ มหัคคตกุสล ๙ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 11 ส.ค. 2013, 18:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
ขยายความ เพื่อให้เห็นได้ชัดเป็นรายบุคคล ว่าแต่ละบุคคลมี วิถีจิต และประเภทจิตที่ไม่ สามารถจะมีได้นั้นเท่าใด อะไรบ้าง จึงขอแสดงดังต่อไปนี้ ทุคคติบุคคล ได้วิถีจิต ๓๗ ดวง คือ......................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๕๒ ดวง คือ อกุสล ๑๒........................................................หสิตุปปาทะ ๑ อเหตุก ๑๗.......................................................มหาวิบาก ๘ มหากุสล ๘.......................................................มหากิริยา ๘ ....................................................................มหัคคตจิต ๒๗ ....................................................................โลกุตตร ๘ สุคติบุคคล และ ทวิเหตุกบุคคล ได้วิถีจิต ๔๑ ดวง คือ....................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๔๘ ดวง คือ อกุสลจิต ๑๒.............................................หสิตุปปาทะ ๑ อเหตุกจิต ๑๗.............................................มหาวิบากญาณสัมปยุตต ๔ มหากุสลจิต ๘.............................................มหากิริยา ๘ มหาวิบากญาณวิปปยุตต ๔...............................มหัคคตจิต ๒๗ ................................................................โลกุตตร ๘ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 11 ส.ค. 2013, 18:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
ติเหตุกปุถุชน (กามบุคคล) ได้วิถีจิต ๕๔ ดวง คือ.......................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๓๕ ดวง คือ อกุสลจิต ๑๒.................................................หสิตุปปาทะ ๑ อเหตุกจิต ๑๗................................................มหากิริยา ๘ มหากุสลจิต ๘................................................มหัคคตวิบาก ๙ มหาวิบากจิต ๘...............................................มหัคคตกิริยา ๙ มหัคคตกุสลจิต ๙............................................โลกุตตรจิต ๘ โสดาบัน และ สกทาคามิบุคคล (กามบุคคล) ได้วิถีจิต ๕๐ ดวง คือ...........................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๓๙ ดวง คือ โลภทิฏฐิคตวิปปยุตต ๔ ........................................โลภทิฏฐิคตสัมปยุตต ๔ โทสมูลจิต ๒.....................................................วิจิกิจฉาสหคตจิต ๑ อุทธัจจสหคตจิต ๑...............................................หสิตุปปาทะ ๑ อเหตุกจิต ๑๗....................................................มหากิริยา ๘ มหากุสล ๘.......................................................มหัคคตวิบาก ๙ มหาวิบาก ๘......................................................มหัคคตกิริยา ๙ มหัคคตกุสล ๙....................................................โลกุตตรจิต อีก ๗ โสดาปัตติผล หรือ สกทาคามิผล ๑ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 11 ส.ค. 2013, 18:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
อนาคามิบุคคล (กามบุคคล) ได้วิถีจิต ๔๘ ดวง คือ............................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๔๑ ดวง คือ โลภทิฏฐิคตวิปปยุตต ๔.........................................โลภทิฏฐิคตสัมปยุตต ๔ อุทธัจจสหคตจิต ๑...............................................โทสมูลจิต ๒ อเหตุกจิต ๑๗.....................................................วิจิกิจฉาสหคตจิต ๑ มหากุสล ๘........................................................หสิตุปปาทะ ๑ มหาวิบาก ๘.......................................................มหากิริยา ๘ มหัคคตกุสล ๙.....................................................มหัคคตวิบาก ๙ อนาคามิผล ๑......................................................มหัคคตกิริยา ๙ .....................................................................โลกุตตรจิต อีก ๗ อรหัตตบุคคล (กามบุคคล) ได้วิถีจิต ๔๔ ดวง คือ..............................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๔๕ ดวง คือ อเหตุกจิต ๑๘......................................................อกุสล ๑๒ มหาวิบาก ๘........................................................มหากุสล ๘ มหากิริยา ๘........................................................มหัคคตกุสล ๙ มหัคคตกิริยา ๙.....................................................มหัคคตวิบาก ๙ อรหัตตผล ๑.......................................................โลกุตตรจิต อีก ๗ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 11 ส.ค. 2013, 18:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
พรหมปุถุชน ในปฐมฌานภูมิ ๓ ตติยฌานภูมิ ๓ และ จตุตถฌาน เฉพาะ เวหัปผลาภูมิ ๑ ใน ๗ ภูมินี้ มีจิตได้ ๓๙ ดวง คือ..................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๕๐ ดวง คือ โลภมูลจิต ๘......................................................โทสมูลจิต ๒ โมหมูลจิต ๒.......................................................ฆาน ชิวหา กาย ๖ อเหตุกจิต ๑๑......................................................หสิตุปปาทะ ๑ มหากุสล ๘........................................................มหาวิบาก ๘ มหัคคตกุสล ๙....................................................มหากิริยา ๘ ปฐมฌานวิบาก หรือ..............................................มหัคคตวิบาก อีก ๘ จตุตถฌานวิบาก หรือ ๑..........................................มหัคคตกิริยา ๙ ปัญจมฌานวิบาก.................................................โลกุตตรจิต ๘ พรหมปุถุชน ใน ทุติยฌานภูมิ ๓ ใน ๓ ภูมินี้ มีจิตได้ ๔๐ ดวง คือ................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๔๙ ดวง คือ โลภมูลจิต ๘ ....................................................โทสมูลจิต ๒ โมหมูลจิต ๒......................................................ฆาน ชิวหา กาย ๖ อเหตุกจิต ๑๑.....................................................หสิตุปปาทะ ๑ มหากุสล ๘.......................................................มหาวิบาก ๘ มหัคคตกุสล ๙....................................................มหากิริยา ๘ ทุติยฌานวิบาก ๑..................................................มหัคคตวิบาก อีก ๗ ตติยฌานวิบาก ๑..................................................มหัคคตกิริยา ๙ ..................................... ...............................โลกุตตรจิต ๘ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 11 ส.ค. 2013, 19:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
พรหมอนาคามี ใน สุทธาวาส ๕ ภูมิ ใน ๕ ภูมินี้ มีจิตได้ ๓๕ ดวง คือ.........................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๕๔ ดวง คือ โลภทิฏฐิคตวิปปยุตต ๔ ................................................โลภทิฏฐิคตสัมปยุตต ๔ อุทธัจจสหคตจิต ๑.......................................................โทสมูลจิต ๒ อเหตุกจิต ๑๑.............................................................วิจิกิจฉาสหคตจิต ๑ มหากุสล ๘................................................................ฆาน ชิวหา กาย ๖ มหัคคตกุสล ๙............................................................หสิตุปปาทะ ๑ ปัญจมฌานวิบาก ๑.......................................................มหาวิบาก ๘ อนาคามิผล ๑.............................................................มหากิริยา ๘ ...........................................................................,มหัคคตวิบาก อีก ๘ ............................................................................มหัคคตกิริยา ๙ ............................................................................โลกุตตรจิต ๗ พระโสดาบัน พระสกทาคามี และพระอนาคามี ในรูปพรหมชั้นอื่น ๆ คือ ใน ปฐมฌานภูมิ ๓ ในทุติยฌานภูมิ ๓ ในตติยฌานภูมิ ๓ และในจตุตถฌานภูมิ เฉพาะเวหัปผลาภูมิ ๑ รวม ๑๐ ภูมินั้น ก็มีจิตได้ ๓๕ ดวง เท่ากับพรหมอนาคามี ในสุทธาวาสภูมินี้ เพียงแต่ ก. เปลี่ยนปัญจมฌานวิบาก เป็น ปฐมฌานวิบาก ทุติยฌานวิบาก ตติยฌาน วิบาก หรือ จตุตถฌานวิบากให้ตรงตามที่ได้ที่ถึง ข. เปลี่ยน อนาคามิผลเป็น โสดาปัตติผล สกทาคามิผล หรือคงเป็นอนาคามิ ผล ให้ตรงตาม ที่ได้บรรลุอริยผลชั้นนั้น ๆ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 11 ส.ค. 2013, 19:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
พรหมอรหันต์ ในสุทธาวาสภูมิ ๕ ใน ๕ ภูมินี้ มีจิตได้ ๓๑ ดวง คือ...................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๕๘ ดวง คือ อเหตุกจิต ๑๒.......................................................อกุสล ๑๒ มหากิริยา ๘........................................................ฆาน ชิวหา กาย ๖ มหัคคตกิริยา ๙.....................................................มหากุสล ๘ ปัญจมฌานวิบาก ๑.................................................มหาวิบาก ๘ อรหัตตผล ๑.........................................................มหัคคตกุสล ๙ .......................................................................มหัคคตวิบาก อีก ๘ ......................................................................โลกุตตรจิต อีก ๗ พระอรหันต์ในรูปพรหมชั้นอื่น ๆ ก็มีจำนวนจิตเท่ากันนี้ เพียงแต่เปลี่ยน ปัญจมฌานวิบาก เป็น ปฐมฌานวิบาก ทุติยฌานวิบาก ตติยฌานวิบาก หรือ จตุตถ ฌานวิบาก ให้ตรงตามที่ได้ที่ถึง อรูปพรหมปุถุชน ในอากาสานัญจายตนภูมิ ในภูมินี้ มีจิตได้ ๒๔ ดวง คือ........................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๖๕ ดวง คือ โลภมูลจิต ๘.........................................................โทสมูลจิต ๒ โมหมูลจิต ๒..........................................................อเหตุกจิต ๑๗ มโนทวาราวัชชนจิต ๑.................................................มหาวิบาก ๘ มหากุสล ๘............................................................มหากิริยา ๘ อรูปกุสล ๔............................................................รูปาวจรจิต ๑๕ อากาสานัญจายตนวิบาก ๑...........................................อรูปวิบาก อีก ๓ .........................................................................อรูปกิริยา ๔ .........................................................................โลกุตตรจิต ๘ พระโสดาบัน พระสกทาคามี และพระอนาคามี ที่เป็นอากาสานัญจายตน พรหม มีจิตได้เพียง ๒๐ ดวง และประเภทจิตที่ไม่มี ๖๙ ดวง โดยต้องเพิ่มหรือลด ดังนี้ ก. ทางฝ่ายจิตที่มีได้ ต้องเพิ่มโสดาปัตติผล หรือสกทาคามิผล หรืออนาคามิ ผล ขึ้น ๑ ดวง แล้วแต่ว่า บรรลุผลจิตชั้นใด และต้องหักโลภทิฏฐิคตสัมปยุตต ๔ วิจิกิจฉาสหคตจิต ๑ รวม ๕ ดวง ออกเสียด้วย คงเป็น ๒๔+๑-๕ เท่ากับ ๒๐ ดวง ข. ทางฝ่ายประเภทจิตที่ไม่มี ต้องเพิ่มโลภทิฏฐิคตสัมปยุตต๔ วิจิกิจฉาสหคต จิต ๑ รวม ๕ ดวง และต้องลดโลกุตตรจิตออกเสีย ๑ ดวง คงเป็น ๖๕+๕-๑ เท่ากับ ๖๙ ดวง |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 11 ส.ค. 2013, 19:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
อรูปพรหมปุถุชน ในวิญญาณัญจายตนภูมิ ในภูมินี้ มีจิตได้ ๒๓ ดวง คือ...........................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๖๖ ดวง คือ โลภมูลจิต ๘...........................................................โทสมูลจิต ๒ โมหมูลจิต ๒............................................................อเหตุกจิต ๑๗ มโนทวาราวัชชนจิต ๑..................................................มหาวิบาก ๘ มหากุสล ๘.............................................................มหากิริยา ๘ อรูปกุสล ๓..............................................................รูปาวจรจิต ๑๕ วิญญาณัญจายตนวิบาก ๑..............................................อากาสานัญจายตนกุสลจิต ๑ ..........................................................................อรูปวิบาก อีก ๓ ..........................................................................อรูปกิริยา ๔ ..........................................................................โลกุตตรจิต ๘ พระโสดาบัน พระสกทาคามี และ พระอนาคามี ที่เป็นวิญญาณัญจายตน พรหม มีจิตได้เพียง ๑๙ ดวง และประเภทจิตที่ไม่มี ๗๐ ดวง ต้องเพิ่มหรือลด ดังนี้ ก. ทางฝ่ายจิตที่มีได้ ต้องเพิ่มโสดาปัตติผล หรือสกทาคามีผล หรือ อนาคามี ผล ขึ้น ๑ ดวง แล้วแต่ว่าบรรลุผลจิตชั้นใด และต้องหักโลภทิฏฐิคตสัมปยุตต ๔ วิจิกิจฉาสหคตจิต ๑ รวม ๕ ดวง ออกเสียด้วย คงเป็น ๒๓+๑-๕ เท่ากับ ๑๙ ดวง ข. ทางฝ่ายประเภทจิตที่ไม่มี ต้องเพิ่มโลภทิฏฐิคตสัมปยุตต ๔ วิจิกิจฉา สหคตจิต ๑ รวมเพิ่ม ๕ ดวง และต้องลดโลกุตตรจิตออกเสีย ๑ ดวง คงเป็น ๖๖+๕-๑ เท่ากับ ๗๐ ดวง อรูปพรหมปุถุชน ในอากิญจัญญายตนภูมิ ในภูมินี้ มีจิตได้ ๒๒ ดวง คือ..........................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๖๗ ดวง คือ โลภมูลจิต ๘............................................................โทสมูลจิต ๒ โมหมูลจิต ๒.............................................................อเหตุกจิต ๑๗ มโนทวาราวัชชนจิต ๑...................................................มหาวิบาก ๘ มหากุสล ๘..............................................................มหากิริยา ๘ อากิญจัญญายตนกุสล ๑................................................รูปาวจรจิต ๑๕ เนวสัญญานาสัญญายตนกุสล ๑........................................อากาสานัญจายตนกุสล ๑ อากิญจัญญายตนวิบาก ๑...............................................วิญญาณัญจายตนกุสล ๑ ...........................................................................อรูปวิบาก อีก ๓ ...........................................................................อรูปกิริยา ๔ ...........................................................................โลกุตตรจิต ๘ พระเสกขบุคคล ๓ ที่เป็นอากิญจัญญายตนพรหม มีจิตได้เพียง ๑๘ ดวง และประเภทจิตที่ไม่มี ๗๑ ดวง ทั้งนี้ต้องเพิ่มหรือลด ดังนี้ ก. ทางฝ่ายจิตที่มีได้ ต้องเพิ่ม โสดาปัตติผล หรือ สกทาคามิผล หรือ อนาคา มิผล ขึ้น ๑ ดวง แล้วแต่ว่า บรรลุผลจิตชั้นใด และต้องหักโลภทิฏฐิคตสัมปยุตต ๔ วิจิกิจฉาสหคตจิต ๑ รวม ๕ ดวงออกเสียด้วยคงเป็น ๒๒+๑-๕ เท่ากับ ๑๘ ดวง ข. ทางฝ่ายประเภทจิตที่ไม่มี ต้องเพิ่มโลภทิฏฐิคตสัมปยุตต ๔ วิจิกิจฉา สหคตจิต ๑ รวมเพิ่ม ๕ ดวง และต้องลดโลกุตตรจิตออกเสีย ๑ ดวง คงเป็น ๖๗+๕-๑ เท่ากับ ๗๑ ดวง |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 11 ส.ค. 2013, 19:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
อรูปพรหมปุถุชน ในเนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ ในภูมินี้ มีจิตได้ ๒๑ ดวง คือ....................................งงประเภทจิตที่ไม่มี ๖๘ ดวง คือ โลภมูลจิต ๘................................................... โทสมูลจิต ๒ โมหมูลจิต ๒.....................................................อเหตุกจิต ๑๗ มโนทวาราวัชชนจิต ๑...........................................มหาวิบาก ๘ มหากุสล ๘......................................................มหากิริยา ๘ เนวสัญญานาสัญญายตนกุสล ๑................................รูปาวจรจิต ๑๕ เนวสัญญานาสัญญายตนวิบาก ๑...............................อรูปกุสล อีก ๓ ...................................................................อรูปวิบาก อีก ๓ ...................................................................อรูปกิริยา ๔ ...................................................................โลกุตตรจิต ๘ พระเสกขบุคคล ที่เป็น เนวสัญญานาสัญญายตนพรหม มีจิตได้เพียง ๑๗ ดวง เท่านั้น และประเภทจิตที่ไม่มี ๗๒ ดวง ทั้งนี้ต้องเพิ่ม หรือลด ดังนี้ ก. ทางฝ่ายจิตที่มีได้ ต้องเพิ่มโสดาปัตติผล หรือ สกทาคามิผล หรือ อนาคา มิผล ขึ้น ๑ ดวง แล้วแต่ว่าบรรลุผลจิตชั้นใด และต้องหักโลภทิฏฐิคตสัมปยุตต ๔ วิจิกิจฉาสหคตจิต ๑ รวม ๕ ดวง ออกเสียด้วย คงเป็น ๒๑+๑-๕ เท่ากับ ๑๗ ข. ทางฝ่ายประเภทจิตที่ไม่มี ต้องเพิ่มโลภทิฏฐิคตสัมปยุตต ๔ วิจิกิจฉา สหคตจิต ๑ รวมเพิ่ม ๕ ดวง และต้องลดโลกุตตรจิตออกเสีย ๑ ดวง คงเป็น ๖๘+๕-๑ เท่ากับ ๗๒ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 11 ส.ค. 2013, 19:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
พระอรหันต์ ในอากาสานัญจายตนภูมิ มีจิตเกิดได้ ๑๕ ดวง คือ..............................................ประเภทจิตที่ไม่มี ๗๔ ดวง คือ มโนทวาราวัชชนจิต ๑................................................อกุสลจิต ๑๒ มหากิริยา ๘..........................................................อเหตุกจิต ๑๗ อรูปกิริยา ๔...........................................................มหาวิบาก ๘ อากาสานัญจายตนวิบาก ๑...........................................มหากิริยา ๘ อรหัตตผล ๑..........................................................รูปาวจรจิต ๑๕ .........................................................................อรูปกุสล ๔ ........................................................................อรูปวิบาก อีก ๓ ........................................................................โลกุตตรจิต อีก ๗ พระอรหันต์ ในวิญญาณัญจายตนภูมินั้น ประเภทจิตที่เกิดได้ต้องหักอรูปกิริยา คือ อากาสานัญจายตนกิริยา ออกเสีย ๑ และเปลี่ยน อากาสานัญจายตนวิบาก เป็นวิญญาณัญจายตนวิบาก คงเหลือจิตที่เกิดได้ ๑๔ ดวงส่วนประเภทจิตที่ไม่มี ก็ต้องเพิ่มอรูปกิริยา คือ อากาสานัญจายตนกิริยา ๑ รวมเป็น ๗๕ ดวง ด้วยกัน พระอรหันต์ ในอากิญจัญญายตนภูมินั้น ประเภทจิตที่เกิดได้ ต้องหัก อรูป กิริยา คือ อากาสานัญจายตนกิริยา ๑ วิญญาณัญจายตนกิริยา ๑ รวม ๒ ดวง ออกเสีย และเปลี่ยน อากาสานัญจายตนวิบาก เป็นอากิญจัญญายตนวิบากคงเหลือ จิตที่เกิดได้ ๑๓ ดวง ส่วนประเภทจิตที่ไม่มี ก็ต้องเพิ่มอรูปกิริยา คือ อากาสานัญจายตนกิริยา ๑ วิญญาณัญจายตนกิริยา ๑ รวมเพิ่ม ๒ เป็น ๗๖ พระอรหันต์ ในเนวสัญญานาสัญญายตนภูมินั้น ประเภทจิตที่เกิดได้ ต้องหัก อรูปกิริยา คือ อากาสานัญจายตนกิริยา ๑ วิญญาณัญจายตนกิริยา ๑ และ อากิญ จัญญายตนกิริยา ๑ รวม ๓ ดวง ออกเสีย และเปลี่ยนอากาสานัญจายตนวิบาก เป็นเนวสัญญานาสัญญายตนวิบาก คงเหลือจิตที่เกิดได้ ๑๒ ดวง ส่วนประเภทจิตที่ไม่มี ก็ต้องเพิ่มอรูปกิริยา คือ อากาสานัญจายตนกิริยา ๑ วิญญาณัญจายตนกิริยา ๑ และ อากิญจัญญายตนกิริยา ๑ รวมเพิ่ม ๓ จึงเป็น ๗๗ อนึ่ง ที่ต้องลดจิตของอรูปชั้นต่ำออกเสียนั้น เพราะเหตุว่าในอรูปพรหมชั้นสูง ได้ก้าวล่วงอารมณ์ ของอรูปชั้นต่ำเสียแล้ว ดังนั้นอารมณ์ในอรูปชั้นต่ำจึงไม่มี ที่จะได้ เป็นปัจจัยให้แก่อรูปพรหมชั้นสูง |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 11 ส.ค. 2013, 20:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
วิถีจิตตามภูมิ ภูมิ อันเป็นชั้นที่อยู่แห่งสัตว์นั้น ในที่นี้จำแนกเพียง ๓ ภูมิ คือ กามภูมิ ๑ รูปภูมิ ๑ และอรูปภูมิ ๑ เมื่อกล่าวโดยส่วนรวมทั้ง ๓ ภูมิแล้ว ในภูมิใดมีวิถีจิตเกิดได้เท่าใดนั้น มีคาถาสังคหะเป็นคาถาที่ ๑๐ แสดงว่า ๑๐. อสีติ วิถีจิตฺตานิ กาเม รูเป ยถารหํ จตุสฏฺฐี ตถารูเป เทวฺจตฺตาฬีส ลพฺภเร ฯ แปลความว่า กามภูมิ มีวิถีจิต ๘๐ รูปภูมิ มีวิถีจิต ๖๔ อรูปภูมิ มีวิถีจิต ๔๒ มีรายละเอียดดังนี้ กามภูมิ ๑๑ มีวิถีจิต ๘๐ คือ..............................................ไม่มีจิต ๙ ดวง คือ อกุสลจิต ๑๒ ................................................มหัคคตวิบาก ๙ อเหตุกจิต ๑๘ กามาวจรโสภณจิต ๒๔ มหัคคตกุสล ๙ มหัคคตกิริยา ๙ โลกุตตรจิต ๘ รูปภูมิ ๑๕ ภูมิ (เว้นอสัญญสัตตภูมิ) มีวิถีจิต ๖๔ คือ.....................................ไม่มีจิต ๒๕ ดวง คือ โลภมูลจิต ๘.......................................โทสมูลจิต ๒ โมหมูลจิต ๒........................................ฆานวิญญาณจิต ๒ อเหตุกจิต ๑๒......................................ชิวหาวิญญาณจิต ๒ มหากุสล ๘.........................................กายวิญญาณจิต ๒ มหากิริยา ๘........................................มหาวิบาก ๘ มหัคคตกุสล ๙.....................................มหัคคตวิบาก ๙ มหัคคตกิริยา ๙ โลกุตตรจิต ๘ อรูปภูมิ ๔ มีวิถีจิต ๔๒ คือ......................................ไม่มีจิต ๔๗ ดวง คือ โลภมูลจิต ๘.........................................โทสมูลจิต ๒ โมหมูลจิต ๒.........................................อเหตุกจิต ๑๗ มโนทวาราวัชชนจิต ๑...............................มหาวิบากจิต ๘ มหากุสล ๘..........................................รูปาวจรจิต ๑๕ มหากิริยา ๘.........................................อรูปวิบาก ๔ อรูปกุสล ๔.........................................โสดาปัตติมัคคจิต ๑ อรูปกิริยา ๔ โลกุตตรจิต ๗ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 05 ต.ค. 2013, 17:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๔ |
ข้อความส่งท้าย วิถีจิต คือ ลำดับความเป็นไปของจิตตามทวารทั้ง ๖ ย่อมเกิดขึ้นรับอารมณ์ ใหม่ และเป็นไปดังที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ตลอดเวลา ไม่ขาดสายจนตลอดชีวิตแห่งสัตว์ นั้น เมื่อสิ้นสุดวิถีจิตแต่ละวิถี ต้องมีภวังคจิตเกิดมาคั่นไว้ชั่วระยะหนึ่งก่อน แล้ว จึงจะเริ่มเป็น วิถีจิตต่อไปใหม่ ภวังคจิตที่เกิดมาคั่นแต่ละวิถีนี้ มีจำนวนไม่เท่ากัน หลังวิถีจิตแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมเกิดภวังคเพียง ๒ ขณะ พระสารีบุตร ย่อมเกิดเพียง ๑๖ ขณะ แต่ทว่าสัตว์อื่นทั้งหลายนั้นเกิดมากจนไม่อาจ นับได้ อนึ่งสัตว์ที่เกิดในโลกทั้งปวง ถ้าปราศจากประสาทแห่งทวารใดแล้ว ก็ปราศ จากจิตที่เกิดทางทวาร นั้น ๆ สัตว์ที่เกิดเป็นอสัญญสัตตพรหมนั้นไม่มีจิต จิตปวัตติ คือ ความเป็นของ จิตวิถีจิตจึงไม่มี จิตระงับสงบอยู่ถึง ๕๐๐ มหากัปป์ ต่อเมื่อจุติจากอสัญญีภพแล้ว จึงประพฤติเป็นไปในภพทั้ง ๓ อวสานคาถา ปริจเฉทที่ ๔ อิจฺจานุรุทฺธรจิเต อภิธมฺมตฺถสงฺคเห จตุตฺโถ ปริจฺเฉโทยํ สมาเสเนว นิฏฺฐิโต ฯ นี่ปริจเฉทที่ ๔ ( ชื่อ วิถีสังคหวิภาค ) ในปกรณ์ อันรวบรวมซึ่งอรรถแห่งพระอภิธรรม ที่พระอนุรุทธาจารย์ รจนาไว้ จบแล้วโดยย่อเพียงเท่านี้แล ที่มา http://www.thepathofpurity.com |
หน้า 6 จากทั้งหมด 6 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |