วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 11:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2022, 18:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




begger-png-4-300x200.png
begger-png-4-300x200.png [ 59.07 KiB | เปิดดู 317 ครั้ง ]
๗๔

ในเทสนาหาระนั้น พระผู้มีพระภาคทรงแสดงนิสสรณะแก่อุคฆฏิตัญญูชน
ทรงแสดงโทษและนิสสรณะแก่วิปจิตัญญูชน ทรงแสดงอัสสาทะ โทษ และนิสสรณะแก่เนยยชน
[บุคคลที่พอจะสอนให้บรรลุธรรมได้เรียกว่า เวไนยยชน แบ่งออกเป็น ๓ จำพวก]

๑. อุคฆติตัญญู ผู้บรรลุเร็วด้วยการฟังอุเทสคือหัวข้อ เขาก็บรรลุธรรมได้ ด้วยการฟังนิสสรณะ
๒. วิปจิตัญญู ผู้บรรลุช้าด้วยการฟังนิเทศ คือ คำอธิบายโดยสังเขป เขาก็สามารถบรรลุธรรมได้
ด้วยการฟังโทษและนิสสรณะ
๓. เนยยะ ผู้อาจบรรลุธรรมได้ด้วยการฟังปฏินิเทส คือ คำอธิบายโดยพิสดาร และมีโยนิโสมนสิการ
เจริญภาวนา พร้อมด้วยการคบหากัลยาณมิตรที่แนะนำการปฏิบัติธรรม เขาสามารถบรรลุธรรมได้
ด้วยการฟัง อัสสาทะ โทษ และนิสสรณะ

เหตุที่ไม่ได้กล่าวถึงบุคคลจำพวกที่ ๔ คือ ปทปรมะ เพราะบุคคลดังกล่าวไม่อาจบรรลุธรรมได้
ขอยกตัวอย่างคาถาที่อัปติสสมาณพฟังจากพระอัสสชิว่า

เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุํ ตถาคโต อาห
เตสญฺจ โย นิโรโธ เอวํวาที มหาสมโณ

ธรรมเหล่าใดมีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตตรัสเหตุของธรรมเหล่านั้น
และตรัสความดับไปของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะทรงมีวาทะเช่นนี้

คำว่า เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา(ธรรมเหล่าใดมีเหตุเป็นแดนเกิด)แสดงโทษคือสังขาร
ที่มีในภูมิ ๓ พร้อมด้วย อัสสาทะ คือสภาวะทำให้เหล่าสัตว์ยินดี อันได้แก่ตัณหา

คำว่า เตสญฺจ โย นิโรธ (ความดับไปของธรรมเหล่านั้น)แสดงนิสสรณะ คือ สภาวะสลัดออก
จากทุกข์อันได้แก่พระนิพพาน ในอัสสาทะ โทษ และนิสสรณะเหล่านั้น จำแนกเป็นอริยสัจ ๔ คือ
๑. ทุกขสัจ คือ สังขารที่มีในภูมิ ๓
๒. สมุทยสัจ คือ ตัณหา
๓. นิโรธสัจ คือ พระนิพพาน

ในคาถานี้มิได้กล่าวอุบาย คือ ปฏิปทาอันได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่ควรบำเพ็ญเพื่อการบรรลุ มรรค
แต่อุปติสสมาณพเข้าใจวิธีเจริญสติปัฏฐานและอริยมรรคมีองค์ ๘ ได้ด้วยบารมีของอัครมหาสาวก
ที่ตนเคยสั่งสมไว้หลายแสนกัป จึงเจริญสติระลึกรู้สภาวธรรมปัจจุบัน แล้วได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน

จะเห็นได้ว่าคาถานี้กล่าวถึงนิสสรณะพร้อมด้วยอัสสาทะและโทษ ส่วนจุดมุ่งหมาย
อุบาย และการชักชวน กล่าวไว้โดยอ้อม

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ม.ค. 2022, 05:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


ในเรื่องนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสปฏิปทาไว้ ๔ คือ
- ผู้มีตัณหาจริตมีปัญญาไม่แก่กล้า(เนยยะ)ย่อมหลุดพ้นด้วยปฏิปทาอันลำบาก (ปฏิบัติลำบาก)
แต่บรรลุเร็ว ด้วยสตินทรีย์อันอาศัยสติปัฏฐาน
- ผู้มีตัณหาจริตปัญญากล้า(วิปจิตัญญู)ย่อมหลุดพ้นด้วยปฏิปทาอันลำบาก แต่บรรลุเร็วด้วยสมาธินทรีย์อันอาศัยฌาน
- ผู้มีทิฏฐิจริตปัญญาไม่กล้า(วิปจิตัญญู)ย่อมหลุดพ้นด้วยปฏิปทาอันสะดวก(ปฏิบัติสะดวก) แต่บรรลุช้า
ด้วยวิริยินทรีย์อันอาศัยสัมมัปปธาน
- ผู้มีทิฏฐิจริตปัญญาแก่กล้า(อุคฆฏิตัญญู)ย่อมหลุดพ้นด้วยปฏิปทาอันสะดวก แต่บรรลุเร็ว
ด้วยปัญญินทรีย์อันอาศัยสัจจะ

ปฏิปทามี ๔ อย่าง กล่าวไว้ในคัมภีร์เนตติอรรถกถา คือ

๑. ทุกขปฏิปทาทันธาภิญญา ปฏิปทาที่ปฏิบัติยากบรรลุช้า หมายถึง ปฏิปทาของผู้ที่ข่มนิวนณ์ได้โดย
ลำบาก และบรรลุฌานช้า(ฝ่ายสมถะ)หรือหมายถึง ปฏิปทาของผู้ที่กำหนดรู้รูปนามได้โดยลำบาก และบรรลุมรรคช้า(ฝ่ายวิปัสสนา)

๒. ทุกขปฏิปทาขิปปาภิญญา ปฏิปทาที่ปฏิบัติยากบรรลุเร็ว หมายถึง ปฏิปทาของผู้ที่ข่มนิวนณ์ได้โดย
สะดวกและบรรลุฌานเร็ว(ฝ่ายสมถะ)หรือหมายถึง ปฏิปทาของผู้ที่กำหนดรู้รูปนามได้โดยลำบาก และบรรลุมรรคเร็ว(ฝ่ายวิปัสสนา)

๓. สุขปฏิปทาทันธาภิญญา ปฏิปทาที่ปฏิบัติง่ายบรรลุช้า หมายถึง ปฏิปทาของผู้ที่ข่มนิวนณ์ได้โดย
สะดวกและบรรลุฌานช้า(ฝ่ายสมถะ)หรือหมายถึง ปฏิปทาของผู้ที่กำหนดรู้รูปนามได้โดยสะดวก และบรรลุมรรคช้า(ฝ่ายวิปัสสนา)

๔. สุขปฏิปทาขิปปาภิญญา ปฏิปทาที่ปฏิบัติง่ายบรรลุเร็ว หมายถึง ปฏิปทาของผู้ที่ข่มนิวนณ์ได้โดย
สะดวกและบรรลุฌานเร็ว(ฝ่ายสมถะ)หรือหมายถึง ปฏิปทาของผู้ที่กำหนดรู้รูปนามได้โดยสะดวก และบรรลุมรรคเร็ว(ฝ่ายวิปัสสนา)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 34 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร