วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 17:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง





กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2022, 16:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




hand-1925875_1280.png
hand-1925875_1280.png [ 402.22 KiB | เปิดดู 3076 ครั้ง ]
ตำนานรัตนปริตร
รัตนปริตร คือ ปริตรที่กล่าวถึงคุณของพระรัตนตรัย แล้วอ้างคุณนั้นมา
พิทักษ์คุ้มครองให้มีความสวัสดี มีประวัติเล่าว่า ในสมัยหนึ่ง เมืองเวสาลีเกิด
ฝนแล้งขาดแคลนอาหาร มีคนอดอยากล้มตายมากมาย ซากศพถูกโยนทิ้ง
นอกเมือง พวกอมนุษย์ได้กลิ่นศพก็พากันเข้ามาในเมือง ทำอันตรายคนให้ตาย
มากขึ้น และยังเกิดอหิวาตกโรคระบาดอีกด้วยทำให้เมืองเวสาลีประสบภัย ๓ อย่าง
ได้แก่ ทุพภิกขภัย คือ ข้าวยากหมากแพง อมนุสสภัย คือ อมนุษย์ และโรคภัย คือ โรคระบาด

ในขณะนั้นชาวเมืองดำริว่า เมืองนี้ไม่เคยเกิดภัยพิบัติเช่นนี้ถึง ๗ รัชสมัย
จึงกราบทูลเจ้าผู้ครองนครว่า ภัยนี้อาจเกิดจากการที่พระองค์มิได้ทรงธรรม
เจ้าผู้ครองนครจึงรับสั่งให้ชาวเมืองประชุมกันพิจารณาหาความผิดของพระองค์
แต่ชาวเมืองไม่อาจหาพบได้ ทั้งหมดจึงปรึกษากันว่าควรนิมนต์ศาสดาองค์หนึ่ง
มาดับทุกข์ภัยนี้ บางคนกล่าวว่าควรนิมนต์เดียรถีย์ บางคนกล่าวว่าควรนิมนด์
พระพุทธเจ้า ในที่สุดทุกฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่าควรนิมนต์พระพุทธเจ้าให้เสด็จ
มาโปรด ดังนั้น จึงได้ส่งเจ้าลิจฉวีสองพระองค์มาทูลนิมนต์เพื่อระงับภัยพิบัตินั้น

เมื่อพระพุทธองค์เสด็จถึงเมืองเวสาลี พระอินทร์พร้อมด้วยเทพบริวาร
เป็นอันมากได้มาเฝ้าในสถานที่นั้น ทำให้พวกอมนุษย์ต้องหลบหนีออกจากเมือง
หลังจากนั้นพระพุทธองค์ได้ตรัสสอนพระปริตรนี้แก่พระอานนท์ และรับสั่งให้ท่าน
สาธยายรอบเมืองที่มีกำแพงสามชั้นตลอดสามยาม พวกอมนุษย์ที่ยังเหลืออยู่ได้
หลบหนีไปหมด เพราะกลัวอานุภาพพระปริตร ครั้นอมนุษย์หนีไปและโรคระบาด
สงบลงแล้ว ชาวเมืองได้มาประชุมกันที่ศาลากลางเมือง และได้นิมนต์พระพุทธ-
องค์เสด็จมาแสดงธรรม ในเวลานั้นพระพุทธองค์ได้ตรัสรัตนปริตรนี้แก่พุทธบริษัท
ที่มาประชุมกันในที่นั้น

อนึ่ง คาถา ๓ บทสุดท้าย คือคาถาที่ ๑๖-๑๘ เป็นคาถาที่พระอินทร์
ตรัสขึ้นเอง พระพุทธเจ้าทรงกระทำให้ชาวเมืองประสบสุข โดยอ้าง
สัจวาจาที่กล่าวถึงคุณของพระรัตนตรัย เราก็ควรจะกระทำให้ชาวเมืองประสบสุข
โดยอ้างคุณของพระตนตรัยเช่นเดียวกัน ท้าวเธอจึงตรัสคาถาเหล่านั้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2022, 17:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Hand-PNG-Picture.png
Hand-PNG-Picture.png [ 261.12 KiB | เปิดดู 3013 ครั้ง ]
บทขัดรัตนปริตร


ปะณิธานะโต ปัฏฐายะ ตะถาคะตัสสะ ทะสะปาระมิโย,
ทะสะ อุปะปาระมิโย, ทะสะ ปะระมัดถะปาระมิโย, ปัญจะ มะหา
ปะริจจาเค, โลกัตถะจะริยา* ญาตัตถะจะริยา พุทธัตถะจะริยาติ
ติสโส จะริยาโย, ปัจฉิมะภะเว คัพภะโวกกันติง," ชาติง,
อะภินิกขะมะนัง, ปะธานะจะริยัง, โพธิปัลลังเก มาระวิชะยัง
สัพพัญญุตัญญาณัปปะฏิเวธัง, ธัมมะจักกัปปะวัตตะนัง, นะวะ
โลกุตตระธัมเมติ สัพเพปิเม พุทธะคุเณ อาวัชเซตฺวา เวสาลิยา
ตีสุ ปาการันตะเรสุ ติยามะรัตติง ปะริตตัง กะโรนโต อายัสฺมา
อานันทัตเถโร วิยะ การุญญะจิตตัง อุปัฏฐะเปตฺวา
๑. โกฏิสะตะสะหัสเสสุ จักกะวาเฬสุ เทวะตา
ยัสสาณัง ปะฏิดคัณหันติ ยัญจะ เวสาลิยา ปุเร.
๒. โรคามะนุสสะทุพภิกขะ- สัมภูตัง ติวิธัง ภะยัง
ขิปปะมันตะระธาเปสิ ปะริตตัง ตัง ภะณามะเห.


เหล่าเทวดาในแสนโกฏิจักรวาลยอมรับอำนาจของพระปริตร
ที่สามารถขจัดภัย ๓ ประการ คือ ความเจ็บป่วย อมนุษย์ และ
ข้าวยากหมากแพงให้หมดไปโดยพลัน

ขอเราทั้งหลายจงตั้งอยู่ในการุณยจิต ร่วมกันสวดพระบริตร
เหมือนท่านพระอานนท์เจริญพระพุทธคุณ ที่พระตถาคตทรงบำเพ็ญ
นับแต่ทรงตั้งปณิธานทั้งปวงเหล่านี้ คือ บารมี ๑๐ อุปบารมี ๑๐
มัตถบารมี ๑๐ การบริจาคใหญ่ทั้ง ๕ จริยาวัตร " อันจำแนก
เป็นการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อ โลก ญาติ และความเป็นพระพุทธเจ้า
การเสด็จลงสู่พระครรโภทรในภพสุดท้าย การประสูติ การเสด็จ
ออกมหาภิเนษกรมณ์ การบำเพ็ญเพียร การเอาชนะพญามารเหนือ
พระโพธิบัลลังก็ การตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณ การหมุนกงล้อธรรม
และพระโลกุตรธรรม ๙ เมื่อพระอานนท์เจริญพระพุทธคุณคังนี้แล้ว
ได้สาธยายพระปริตรภายในกำแพงทั้ง ๓ ชั้นของเมืองเวสาลี ตลอด
ยามทั้ง ๓ แห่งราตรี

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2022, 05:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Pixabay_thunderstorm-4375844_1280.jpg
Pixabay_thunderstorm-4375844_1280.jpg [ 136.25 KiB | เปิดดู 2931 ครั้ง ]
รัตนปริตร

๑. ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
ภูมมานิ วา ยานิ วะ อันตะลิกเข
สัพเพวะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ
อะโถปี สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง.

ขอเทวดาบนพื้นดินและในอากาศทั้งหลาย ผู้มาประชุมกัน
อยู่ในที่นี้ทั้งหมด จงเป็นผู้เบิกบานใจ รับฟังถ้อยคำด้วยความเคารพเถิด

๒. ตัสุมา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพ
เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ
ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง
ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา.


ดังนั้น ขอเทวดาทั้งปวงจงฟังข้าพเจ้า จงมีเมตตาจิตในหมู่
มนุษย์ เพราะเขาเซ่นพลีกรรมทั้งกลางวันและกลางคืน ท่านจงอย่า
ประมาทคุ้มครองพวกเขาด้วยเถิด

๓. ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา
สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง
นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ
อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเดนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2022, 05:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




water-00085933_normal.png
water-00085933_normal.png [ 214.53 KiB | เปิดดู 2923 ครั้ง ]
ทรัพย์ในโลกนี้ หรือโลกอื่น หรือรัตนะอันประณีตในสวรรค์
มีสิ่งใดที่จะเสมอกับพระตถาคตนั้นไม่มีเลย ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอัน
ประสริฐของพระพุทธเจ้า ด้วยสัจวาจานี้ ขอจงมีความสวัสดี

๔. ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง
ยะทัชณะคา สักุยะมุนี สะมาหิโต
นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ
อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.


พระตากยมุนีผู้มีพระทัยตั้งมั่น ทรงบรรลุธรรมอันสิ้นกิเลส
ปราศจากราคะ ไม่ตาย และประณีต มีสิ่งใดที่จะเสมอด้วยพระธรม
นั้นไม่มีเลย ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอันประเสริฐของพระธรรม ด้วย
สัจวาจานี้ ขอจงมีความสวัสดี

๕. ยัง พุทธะเสฎโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง
สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ
สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ
อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.


พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ทรงสรรเสริญสมาธิอันผ่องแผ้ว
นักปราชญ์ทั้งหลายสรรเสริญสมาธิอันประเสริฐที่ให้ผลทันที มีสิ่งใด
ที่จะเสมอด้วยสมาธินั้นไม่มีเลย ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอันประเสริฐของ
พระธรรม ด้วยสัจวาจานี้ ขอจงมีความสวัสดี

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2022, 06:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




crown-1296670_1280.png
crown-1296670_1280.png [ 54.51 KiB | เปิดดู 2923 ครั้ง ]
๖. เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัตถา
จัดตาริ เอตานี ยุคานิ โหนติ
เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา
เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ
อิทัมปี สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.

พระสาวกของพระสุคตเจ้า ผู้เป็นพระอริยบุคคล ๘ จำ
อันแบ่งเป็น ๔ คู่ ที่สัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญ ท่านเหล่านั้นเป็นผู้
ควรแก่ทักษิณาทาน ทานที่ถวายแก่พระอริยบุคคลเหล่านั้นมีผล
มาก ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอันประเสริฐของพระสงฆ์ ด้วยสัจวาจา
ขอจงมีความสวัสดี

๗. เย สุปปะยุดดา มะนะสา ทัฬเหนะ
นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ
เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ
ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ


พระอรหันต์ผู้บำเพ็ญเพียรด้วยจิตอันเข้มแข็งในพระศาสนา
ของพระโคดม เป็นผู้ปราศจากกิเลส ผู้เข้าถึงอมตธรรม ผู้บรรลุ
พระนิพพาน และผู้เสวยสันติสุขเอง ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอัน
ประเสริฐของพระสงฆ์ ด้วยสัจวาจานี้ ขอจงมีความสวัสดี

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2022, 07:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




hand-png-call-for-help-ewb-reports-0.png
hand-png-call-for-help-ewb-reports-0.png [ 363.24 KiB | เปิดดู 2911 ครั้ง ]
๘. ยะถินทะขีโล ปะฐะวิสตืโต สิยา
จะตุพกิ วาเคหิ อะสัมปะกัมปิโย
ตะกูปะมัง สัปบุริสัง วะทามิ
โย อะริยะสัจจานิ อะเวลจะ ปัสสะติ
อิทัมปิ สังเฆ ระะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.


พระตถาคตตรัสเปรียบสัตบุรุษผู้เห็นแจ้ง เข้าถึงพระอริย
สัจสี่ว่าเหมือนกับเสาใหญ่ปักลงดิน อันไม่ไหวดิงเพราะแรงลมทั้งสี่
ด้าน ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอันประเสริฐของพระสงฆ์ ด้วยสัจวาจานี้
ขอจงมีความสวัสดี

๙. เย อะริยะสัจจานิ วิภาวะยันติ
คัมภีระปัญเญนะ สุเทสิตานิ
กิญจาปิ เต โหนติ ภุสัง ปะมัตตา
นะ เต ภะวัง อัฏฐะมะมาทิยันติ
อิทัม สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.


บุคคลเหล่าใดเจริญอริยสัจสี่ ที่พระพุทธเจ้าผู้ทรงพระปัญญา
อันลึกซึ้งตรัสไว้ดีแล้ว แม้ว่าท่านเหล่านั้นยังเป็นผู้หลงเพลินอย่างมาก
อยู่ แต่ท่านก็จะไม่เกิดในชาติที่แปดอีก ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอัน
ประเสริฐของพระสงฆ์ ด้วยสัจวาจานี้ ขอจงมีความสวัสดี

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2022, 08:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




daemon-1749071_1280.png
daemon-1749071_1280.png [ 257.08 KiB | เปิดดู 2880 ครั้ง ]
๑๐. สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ
ตะยัสสุ ธัมมา ชะหิตา ภะวันดิ
สักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉิตัญจะ
สีลัพพะตัง วาปิ ยะทัตถิ กิญจิ.


ท่านเหล่านั้นคือพระโสดาบัน ผู้ละสังโยชน์ ๓ ประการ
ได้แก่ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา และสีลัพพตปรามาส ละกิเลสอื่นๆ '
ในขณะที่เห็นธรรม

๑๑. จะตูหะปาเยหิ จะ วิปปะมุตโต
ฉัจจาภิฐานานิ อะภัพพะ กาตุง
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.

ท่านเหล่านั้นเป็นผู้พันแล้วจากอบายทั้ง ๔ ไม่กระทำกรรม
อันไม่สมควร ๖ ประการ(คือ อนันตริยกรรม ๕ และการนับถือ
ศาสดาอื่น) ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอันประเสริฐของพระสงฆ์ ด้วย
สัจวาจานี้ ขอจงมีความสวัสดี

๑๒. กิญจาปิ โส กัมมะ กะโรติ ปาปะกัง
กาเยนะ วาจา อุทะ เจตะสา วา
อะภัพพะ โส ตัสสะ ปะฏิจฉะทายะ
อะภัพพะตา ทิฏฐะปะทัสสะ วุตตา
อิทัมปี สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2022, 08:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




skeleton-1940281_1280.png
skeleton-1940281_1280.png [ 70.59 KiB | เปิดดู 2880 ครั้ง ]
แม้ท่านเหล่านั้นยังทำความผิดด้วยกาย วาจา หรือใจอยู่บ้าง
ก็ตาม แต่ท่านก็ไม่ปกปิดความผิดนั้น พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้เห็นพระ
นิพพานเป็นผู้ไม่ปกปิดความผิด ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอันประเสริฐ
ของพระสงฆ์ ด้วยสัจวาจานี้ ขอจงมีความสวัสดี

๑๓. วะนัปปะคุมเพ ยะถะ ผุสสิตัคเค
คิมหานะมาเส ปะฐะมัสมิง คิมเห
ตะถูปะมัง ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ
นิพพานะคามิง ปะระมัง หิตายะ
อิทัมปี พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.


พุ่มไม้ในป่าที่แตกยอดอ่อนในเดือนตันแห่งคิมหันตฤดู มี
ความงามฉันใด พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมให้ถึงพระนิพพาน
เพื่อประโยชน์สูงสุด มีความงามฉันนั้น ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอัน
ประเสริฐของพระพุทธเจ้า ด้วยสัจวาจานี้ ขอจงมีความสวัสดี

๑๔. วะโร วะรัญญ วะระโท วะราหะโร
อะนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ
อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.


พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ทรงรู้แจ้งพระนิพพานอันเลิศ ทรง
ประทานธรรมอันยอดเยี่ยม ทรงแนะนำข้อปฏิบัติที่ดี พระองค์ผู้ไม่
ใครยิ่งกว่า ทรงแสดงธรรมอันสูงสุดแล้ว ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอัน
ประเสริฐของพระพุทธเจ้า ด้วยสัจว่าจานี้ ขอจงมีความสวัสดี

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2022, 09:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




dinosaur-3129391_1280.png
dinosaur-3129391_1280.png [ 272.67 KiB | เปิดดู 2880 ครั้ง ]
๑๕. ขีณัง ปุราณัง นะวะ นัตถิ สัมภะวัง
วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง
เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา
นิพพันติ ธีรา ยะถายัง ปะทีโป
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะนีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.


พระอรหันต์ผู้สิ้นเชื้อแล้ว ไม่ยินดีภพอีกมี จิตหน่ายภะเบื้อง
หน้า สิ้นกรรมเก่า ปราศจากกรรม ใหม่ที่จะส่งไปเกิดอีก ท่านเหล่านั้น
เป็นปราชญ์ ดับสิ้นไปเหมือนประทีปดวงนี้ ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอัน
ประเสริฐของพระสงฆ์ ด้วยสัจวาจานี้ ขอจงมีความสวัสดี

๑๖. ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
ภูมมานิ วา ยานิ วะ อันตะลิกเข
ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง
พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ.

ขอเทวดาบนพื้นดินและในอากาศทั้งหลาย ผู้มาประชุมกันยู่
ในที่นี้ จงร่วมกันนมัสการพระพุทธเจ้าผู้เสด็จไปอย่างงาม อันเทวตา
และมนุษย์ทั้งหลายบูชาแล้ว ขอจงมีความสวัสดี

๑๗. ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
ภูมมานิ วา ยานิ วะ อันตะลิกเข
ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง
ธัมมัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ.


ขอเทวดาบนพื้นดินและในอากาศทั้งหลาย ผู้มาประชุมกันอยู่
ที่นี้ จงร่วมกันนมัสการพระธรรมอันเป็นไปอย่างงาม อันเทวดา
และมนุษย์ทั้งหลายบูชาแล้ว ขอจงมีดวามสวัสสี

๑๘. ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
ภุมมานิ วา ยานิ วะ อันตะลิกเข
ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง
สังฆัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ.


ขอเทวดาบนพื้นดินและในอากาศทั้งหลาย ผู้มาประชุมกันอยู่
ในที่นี้ จงร่วมกันนมัสการพระสงฆ์ผู้ดำเนินไปอย่างงาม อันเทวดา
และมนุษย์ทั้งหลายบูชาแล้ว ขอจงมีความสวัสดี

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร