วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 14:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง





กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2022, 05:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Sky-Transparent-PNG.png
Sky-Transparent-PNG.png [ 533.57 KiB | เปิดดู 2572 ครั้ง ]
:b41:
ตำนานเมตตปริตร


เมตตปริตร คือ ปริตรที่กล่าวถึงการเจริญเมตตา มีประวัติว่า สมัยหนี่ง
เมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่วัดพระเชตวัน กรุงสาวัตถี มีภิกษุ ๕๐๐ รูปเรียน
กรรมฐานจากพระพุทธองค์แล้วเดินทางไปแสวงหาสถานที่ปฏิบัติธรรม พวกท่าน
ได้มาถึงโพรสณฑ์แห่งหนึ่ง ปรึกษากันว่าสถานที่นี้หมาะสมแก่การเจริญสมณธรรม
จึงตกลงใจอยู่จำพรรษาในที่นั้น ชาวบ้านก็มีจิตศรัทธาสร้างกุฏิถวายให้พำนักรูป
ละหนึ่งหลัง และอุปัฏฐากด้วยปัจจัยสี่มิให้ขาดแคลน

เมื่อฝนตกพวกท่านจะเจริญกรรมฐานที่กุฏิ ครั้นฝนไม่ตกก็จะมาปฏิบัติ
ที่โดนไม้ รุกขเทวดาที่สิงสถิตอยู่ที่ตันไม้ไม่สามารถอยู่ในวิมานได้ เพราะผู้ทรง
ศีลมาอยู่ไต้วิมานของตน จึงต้องพาบุตรธิดาลงมาอยู่บนพื้น เบื้องแรกคิดว่า
พวกภิกษุคงจะอยู่ชั่วคราว ก็ทนรอดูอยู่ชั่วคราว แต่เมื่อรู้ว่ามาจำพรรษาตลอด
ไตรมาส จึงเกิดความไม่พอใจ คิดจะขับไล่ให้กลับไปในระหว่างพรรษา ฉะนั้น
จึงพยายามหลอกหลอนด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น สำแดงรูปร่างที่น่ากลัว ร้องเสียงโหยหวน
ทำให้ได้รับกลิ่นเหม็นต่างๆ
พวกภิกษุหวาดหวั่นตกใจต่ออารมณ์ที่น่ากลัวเหล่านั้น ไม่สามารถจะ
ปฏิบัติธรรมได้โดยสะดวก จึงปรึกษากันว่าพวกเราไม่ควรจะอยู่ในสถานที่นี้ แต่
ควรที่จะกลับไปจำพรรษาหลังในสถานที่อื่น และได้เดินทางกลับโดยไม่บอกลา
ชาวบ้าน เมื่อมาถึงวัดพระเขตวันได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้วกราบทูลเรื่องนี้ แต่
พระพุทธองค์ทรงเล็งเห็นว่าสถานที่เดิมเหมาะสมกับภิกษุเหล่านี้มากกว่าที่อื่น
จึงทรงแนะนำให้พวกท่านกลับไปสถานที่นั้น พร้อมกับตรัสสอนเมตตปริตรเพื่อ
เจริญเมตตาแก่รุกขเทวดา

เมื่อพวกภิกษุได้เรียนเมตตปริตรจากพระพุทธเจ้าแล้ว จึงเดินทางกลับ
ไปยังสถานที่เดิม ก่อนจะเข้าสู่ราวป่า พวกท่านได้เจริญเมตตาโดยสาธยาย
พระปริตรนี้ อานุภาพแห่งเมตตาทำให้รุกขเทวดามีจิตอ่อนโยน มีไมตรี จึงไม่
เบียดเบียนเหมือนก่อน ทั้งยังช่วยปรนนิบัติและคุ้มครองภัยอื่นๆ อีกด้วย ภิกษุ
เหล่านั้นได้พากเพียรเจริญมตตาภาวนา แล้วเจริญวิปัสสนาภาวนาต่อมา โดยใช้
เมตตาเป็นบาทแห่งวิปัสสนา ทุกรูปได้บรรลุอรหัตผลภายในพรรษานั้น*

เมตตปริตรในหนังสือนี้มีข้อความต่างจากบทสวดมนต์ฉบับไทยและฉบับ
สิงหลในบางที่ โดยผู้แปลเลือกไช้ฉบับพม่าที่เรียกว่า ฉบับฉัฏฐสังดีติ (ฉบับ
สังดายนาครั้งที่ ๖) ซึ่งเป็นฉบับที่พระภิกษุในนิกายเถรวาท ๕ ประเทศ คือ ไทย
ลังกา พม่า ลาว และเขมร ได้ร่วมกันสังดายนาที่ประเทศสหภาพพม่าเมื่อ พ.ศ.
๒๕๐๐ และมีมติเป็นสมานฉันท์ร่วมกัน

เมตตปริตรนี้เป็นดีติคาถาที่จัดอยู่ในหมวดมาตราพฤติ ฉบับพม่าเป็น
ฉบับที่ถูกต้องตามกฎนั้น แต่ฉบับไทยกับฉบับสิงหลไม่ตรงตามฉันทลักษณ์และหลัก
ไวยากรณ์บาลี (ดูคำอธิบายในบทเพิ่มเติมท้ายเล่ม) อนึ่ง ท่านอาจารย์ธัมมานันท
มหาเถระ อัครมหาบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดท่ามะโอ จังหวัดลำปาง ได้เล่าว่าแม้
พระเถระชาวสิงหลผู้เชี่ยวชาญภาษาบาลี คือท่านพระพุทธทัตตเถระ อัครมหา-
บัณฑิต วัดอัดคาราม จังหวัดบาลังโกดา ประเทศศรีลังกา ก็เคยปรารภเมื่อ พ.ศ.
๒๕๐๖ กับท่านอาจารย์ว่า เมตตปริตรฉบับพม่าถูกต้องกว่าฉบับอื่นๆ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2022, 07:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




19-black-clouds-png-11566406402hq6zr8nikl.png
19-black-clouds-png-11566406402hq6zr8nikl.png [ 486.7 KiB | เปิดดู 2572 ครั้ง ]
บทขัดเมตตปริตร


๑. ยัสสานุภาวะโต ยักขา เนวะ ทัสเสนติภิงสะนัง
ยัมหิ เจวานุยุญชันโต รัจตินทิวะมะตันทิโต
๒. สุขัง สุปะติ สุดโด จะ ปาปัง กิญจิ นะ ปัสสะติ
เอวะมาทิคุณูเปตัง ปะริตตัง ตัง ภะณามะ เห.

เหล่าเทวดาย่อมไม่แสดงสิ่งที่น่ากลัว เพราะอานุภาพของ
พระปริตรใด อนึ่ง บุคคลผู้ไม่เกียจคร้าน เจริญพระปริตรใดทั้งกลางวัน
และกลางคืนย่อมหลับสบาย เมื่อหลับย่อมไม่ฝันร้าย ขอเราทั้งหลาย
จงสวดพระปริตรนั้น อันประกอบด้วยคุณอย่างนี้เป็นตันเถิด

เมตตปริตร

๑. กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ
ยันตะ สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะ
สักโก อุชู จะ สุหุชู จะ
สูวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะดิมานี.


ภิกษุผู้ฉลาดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ประสงค์จะบรรลุแดนสงบ
พ็งอบรมสิกขาสาม ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้อาจหาญ เป็นคนตรง แน่วแน่
ว่าง่าย อ่อนโยน ไม่ถือตัว

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2022, 09:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




326067869044211.png
326067869044211.png [ 459.77 KiB | เปิดดู 2567 ครั้ง ]
๒. สันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ
อัปปะกิจโจ จะ สัลละทุกะวุตติ
สันตินทฺริโย จะ นิปะโก จะ
อัปปะคัพโภ กุเลสฺวะนะนุคิทโธ.


พึงเป็นผู้สันโดษ เลี้ยงง่าย มีกิจธุระน้อย คำเนินชีวิตเรียบง่าย
มีอินทรีย์สงบ มีปัญญารักษาตน มีการสำรวมกายวาจาใจ ไม่พัวพัน
กับสกุลทั้งหลาย

๓. นะ จะ ขุททะมาจะเร กิญจิ
เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุง
สุขิโน วะ เขมิโน โหนตุ
สัพพะสัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา.


ไม่พึงประพฤติสิ่งเล็กน้อยอะไรๆ ที่จะเป็นเหตุให้ผู้รู้ตำหนิ
[พีงแม่เมตตาว่า] ขอสัตร์ทั้งปรง จงเป็นผู้มีความสุขกาย สุขใจ
ปลอดจากภัยทั้งปวงเถิด

๔. เย เกจิ ปาณะภูตัตถิ
ตะสา วา ถาระรา ระนะระเสสา
ทีฆา วา เย วะ มะหันตา
มัชฌิมา รัสสะกา อะณุกะถูลา

สัตว์ทั้งหลายที่มีความหวาดกลัวก็ดี ที่มั่นคงก็ดี ทั้งหมด
ทั้งที่มีกายยาว ใหญ่ ปานกลาง สั้น ละเอียด หรือหยาบ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2022, 09:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




พระธรรมโมลี.png
พระธรรมโมลี.png [ 494.95 KiB | เปิดดู 2567 ครั้ง ]
๕. ทิฏฐา วา เย วะ อะทิฏฐา
เย วะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเร
ภูตา วะ สัมภะเวสี วะ
สัพพะสัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา.


ทั้งที่เคยเห็นหรือไม่เคยเห็น อยู่ไกลหรือใกล้ ที่เกิดแล้ว
หรือที่กำลังแสวงหาที่เกิด" สัตว์ทั้งปวงเหล่านั้น จงมีความสุข
สุขใจเถิด

๖. นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ
นาติมัญเญถะ กัตถะจิ นะ กัญจิ
พฺยาโรสะนา ปะฏิฆะสัญญะ
นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจเฉยยะ.

บุคคลไม่พึงหลอกลวงกัน ไม่พึงดูหมิ่นใครในที่ไหน ไม่ที
ปรารถนาทุกข์แก่กันและกัน ด้วยการเบียดเบียน หรือด้วยใจมุ่งรัาย

๗. มาตา ยะถา นิยัง ปุดตะ-
มายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข
เอวัมปิ สัพพะภูเตสุ
มานะสัง ภาวะเย อะปะริมาณัง.


มารดาถนอมบุตรคนเดียวของตนด้วยชีวิต ฉันใด บุคคลพีง
เจริญเมตตาจิตไม่มีประมาณในสัตว์ทั้งปวง ฉันนั้น

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2022, 09:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




audio-img.png
audio-img.png [ 333.83 KiB | เปิดดู 2567 ครั้ง ]
๘. เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิ
มานะสัง ภาวะเย อะปะริมาณัง
อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ
อะสัมพาธัง อะเวระมะสะปัตตัง.

บุคคลพึงเจริญเมตตาจิต อันไม่มีประมาณ ไม่มีขอบเขต ไม่มี
เวร ไม่มีตัดรู ในสัตว์โลกทั้งหมด ทั้งในอรูปภูมิเบื้องบน รูปภูมิ
เบื้องกลาง และกามาวจรภูมิเบื้องต่ำ

๙. ติฏฐัง จะรัง นิสินโน วะ
สะยาโน ยาระตาสละ วิตะมิทโธ
เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ
พฺร้หฺมะเมตัง วิหาระมิธะ มาหุ


เมื่อยืน เดิน นั่ง หรือนอน พึงเป็นผู้ปราศจากความง่วง
ตั้งสติอย่างนี้ไว้ พระพุทธเจ้าทั้งหลายตรัสการปฏิบัติเช่นนี้ว่าเป็น
ความประพฤติอันประเสริฐในพระศาสนานี้

๑๐.ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ
สีละวา หัสสะเนนะ สัมปันโน
กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง
นะ หิ ชาตุคคัพภะเสยยะ ปุนะเรติ.


บุคคลผู้นั้นจะไม่กล้ำกรายความเห็นผิด เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยศีล
ถึงพร้อมด้วยความเห็นชอบ เมื่อขจัดความยินดีในกามได้แล้ว ย่อม
ไม่เข้าถึงการเกิดในครรภ์อีกอย่างแน่แท้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร