ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
นวโกวาท : สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=6&t=48099 |
หน้า 2 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | สยามนุภาพ [ 21 ก.ค. 2014, 16:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นวโกวาท : สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส |
ปัญจกะ ประโยชน์เกิดแต่การถือโภคทรัพย์ ๕ อย่าง แสวงหาโภคทรัพย์ได้โดยทางที่ชอบแล้ว ๑. เลี้ยงตัว มารดา บิดา บุตร ภรรยา บ่าวไพร่ ให้ เป็นสุข. ๒. เลี้ยงเพื่อนฝูงให้เป็นสุข. ๓. บำบัดอันตรายที่เกิดแต่เหตุต่าง ๆ. ๔. ทำพลี ๕ อย่าง คือ ก. ญาติพลี สังเคราะห์ญาติ. ข. อติถิพลี ต้องรับแขก. ค. ปุพพเปตพลี ทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย. ฆ. ราชพลี ถวายเป็นหลวง มีภาษีอากรเป็นต้น . ง. เทวตาพลี ทำบุญอุทิศให้เทวดา. ๕. บริจาคทานในสมณะพราหมณ์ผู้ประพฤติชอบ. องฺ. ปญฺจก. ๒๒/๔๘. ศีล ๕ ๑. ปาณาติปาตา เวรมณี เว้นจากทำชีวิตสัตว์ ให้ตกล่วงไป. ๒. อทินนาทานา เวรมณี เว้น จากถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ ด้วยอาการแห่งขโมย. ๓. กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี เว้นจากประพฤติผิด ในกาม. ๔. มุสาวาทา เวรมณี เว้นจากพูดเท็จ. ๕. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี เว้น จากดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่ง ความประมาท. ศีล ๕ ประการนี้ คฤหัสถ์ควรรักษาเป็นนิตย์. องฺ. ปญฺจก. ๒๒/๒๒๖. มิจฉาวณิชชา คือการค้าขายไม่ชอบธรรม ๕ อย่าง ๑. ค้าขายเครื่องประหาร. ๒. ค้าขายมนุษย์. ๓. ค้าขายสัตว์เป็นสำหรับฆ่าเพื่อเป็นอาหาร. ๔. ค้าขายน้ำเมา. ๕. ค้าขายยาพิษ. การค้าขาย ๕ อย่างนี้ เป็นข้อห้ามอุบาสกไม่ ให้ประกอบ. องฺ. ปญฺจก. ๒๒/๒๓๒. สมบัติของอุบาสก ๕ ประการ ๑. ประกอบด้วยศรัทธา. ๒. มีศีลบริสุทธิ์. ๓. ไม่ถือมงคลตื่นข่าว คือเชื่อกรม ไม่เชื่อมงคล. ๔. ไม่แสวงหาเขตบุญนอกพุทธศาสนา. ๕. บำเพ็ญบุญแต่ในพุทธศาสนา. อุบาสกพึงตั้งอยู่ในสมบัติ ๕ ประการ และเว้น จากวิบัติ ๕ ประการซึ่งวิปริตจากสมบัตินั้น. องฺ. ปญฺจก. ๒๒/๒๓๐. |
เจ้าของ: | สยามนุภาพ [ 21 ก.ค. 2014, 17:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นวโกวาท : สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส |
ฉักกะ ทิศ ๖ ๑. ปุรัตถิมทิส คือทิศเบื้องหน้า มารดาบิดา. ๒. ทิกขิณทิส คือทิศเบื้องขวา อาจารย์. ๓. ปัจฉิมทิศ คือทิศเบื้องหลัง บุตรภรรยา. ๔. อุตตรทิส คือทิศเบื้องซ้าย มิตร. ๕. เหฏฐิมทิส คือทิศเบื้องต่ำ บ่าว. ๖. อุปริมทิส คือทิศเบื้องต้น สมณพราหมณ์. ที. ปาฏิ. ๑๑/๒๐๓. ๑. ปุรัตถิมทิส คือทิศเบื้องหน้า มารดาบิดา บุตรพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ (๑) ท่านได้เลี้ยงมาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ. (๒) ทำกิจของท่าน. (๓) ดำรงวงศ์สกุล. (๔) ประพฤติตนให้เป็นคนควรรับทรัพย์มรดก. (๕) เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน. ที. ปาฏิ. ๑๐/๒๐๓. มารดาบิดาได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์บุตร ด้วยสถาน ๕ (๑) ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว. (๒) ให้ตั้งอยู่ในความดี. (๓) ให้ศึกษาศิลปวิทยา. (๔) หาภรรยาที่สมควรให้. (๕) มอบทรัพย์ให้ในสมัย. ที. ปาฏิ. ๑๑/๒๐๓. ๒. ทักขิณทิส คือทิศเบื้องขวา อาจารย์ ศิษย์พึงบำรุง ด้วยสถาน ๕ (๑) ด้วยลุกขึ้นยืนรับ. (๒) ด้วยเข้าไปยืนคอยรับใช้. (๓) ด้วยเชื่อฟัง. (๔) ด้วยอุปัฏฐาก. (๕) ด้วยเรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ. ที. ปาฏิ. ๑๑/๒๐๓. อาจารย์ได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์ศิษย์ ด้วยสถาน ๕ (๑) แนะนำดี. (๒) ให้เรียนดี. (๓) บอกศิลปให้สิ้นเชิง ไม่ปิดบังอำพราง. (๔) ยกย่องให้ปรากฏในเพื่อนฝูง. (๕) ทำความป้องกันในทิศทั้งหลาย (คือ จะไปทางทิศไหนก็ไม่อดอยาก). ที. ปาฏิ. ๑๑/๒๐๔. ๓. ปัจฉิมทิส คือทิศเบื้องหลัง ภรรยา สามีพึงบำรุง ด้วยสถาน ๕ (๑) ด้วยยกย่องนับถือว่าเป็นภรรยา. (๒) ด้วยไม่ดูหมิ่น. (๓) ด้วยไม่ประพฤติล่วงใจ. (๔) ด้วยมอบความเป็นใหญ่ให้. (๕) ด้วยให้เครื่องแต่งตัว. ที. ปาฏิ. ๑๑/๒๐๔. ภรรยาได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์สามี ด้วยสถาน ๕ (๑) จัดการงานดี. (๒) สงเคราะห์คนข้างเคียงของผัวดี. (๓) ไม่ประพฤติล่วงใจผัว. (๔) รักษาทรัพย์ที่ผัวหามาได้ไว้. (๕) ขยันไม่เกียจคร้านในกิจการทั้งปวง. ที. ปาฏิ. ๑๑/๒๐๔. ๔. อุตตรทิส คือทิศเบื้องซ้าย มิตร กุลบุตรพึงบำรุง ด้วยสถาน ๕ (๑) ด้วยให้ปัน. (๒) ด้วยเจรจาถ้อยคำไพเราะ. (๓) ด้วยประพฤติประโยชน์. (๔) ด้วยความเป็นผู้มีตนเสมอ. (๕) ด้วยไม่แกล้งกล่าวให้คลาดจากความเป็นจริง . ที. ปาฏิ. ๑๑/๒๐๔. มิตรได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตร ด้วยสถาน ๕ (๑) รักษามิตรผู้ประมาทแล้ว. (๒) รักษาทรัพย์ของมิตรผู้ประมาทแล้ว. (๓) เมื่อมีภัย เอาเป็นที่พึ่งพำนักได้. (๔) ไม่ละทิ้งในยามวิบัติ. (๕) นับถือตลอดถึงวงศ์ของมิตร. ที. ปาฏิ. ๑๑/๒๐๕. ๕. เหฏฐิมทิส คือทิศเบื้องต่ำ บ่าว นายพึงบำรุง ด้วยสถาน ๕ (๑) ด้วยจัดการงานให้ทำตามสมควรแกกำลัง. (๒) ด้วยให้อาการและรางวัล. (๓) ด้วยรักษาพยาบาลในเวลาเจ็บไข้. (๔) ด้วยแจกของมีรสแปลกประหลาดให้กิน. (๕) ด้วยปล่อยในสมัย. ที. ปาฏิ. ๑๑/๒๐๕. บ่าวได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์นาย ด้วยสถาน ๕ (๑) ลุกขึ้นทำการงานก่อนนาย. (๒) เลิกการงานทีหลังนาย. (๓) ถือเอาแต่ของที่นายให้. (๔) ทำการงานให้ดีขึ้น. (๕) นำคุณของนายไปสรรเสริญในที่นั้น ๆ. ที. ปาฏิ. ๑๑/๒๐๕. ๖. อุปริมทิส คือทิศเบื้องบน สมณะพราหมณ์ กุลบุตรพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ (๑) ด้วยกายกรรม คือทำอะไร ๆ ประกอบ ด้วยเมตตา. (๒) ด้วยจีกรรม คือพูดอะไร ๆ ประกอบ ด้วยเมตตา. (๓) ด้วยมโนกรรม คือคิดอะไร ๆ ประกอบ ด้วยเมตตา. (๔) ด้วยความเป็นผู้ไม่ปิดประตู คือมิได้ห้าม เข้าบ้านเรือน. (๕) ด้วยให้อามิสทาน. ที. ปาฏิ. ๑๑/๒๐๕. สมณะพราหมณ์ได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยสถาน ๖ (๑) ห้ามไม่ให้กระทำความชั่ว. (๒) ให้ตั้งอยู่ในความดี. (๓) อนุเคราะห์ด้วยน้ำใจอันงาม. (๔) ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง. (๕) ทำสิ่งที่เคยฟังแล้วให้แจ่ม. (๖) บอกทางสวรรค์ให้. ที. ปาฏิ. ๑๑/๒๐๖. อบายมุข คือเหตุเครื่องฉิบหาย ๖ (๑) ดื่มน้ำเมา. (๒) เที่ยวกลางคืน. (๓) เที่ยวดูการเล่น. (๔) เล่นการพนัน. (๕) คบคนชั่วเป็นมิตร. (๖) เกียจคร้านทำการงาน. ที. ปาฏิ. ๑๑/๑๙๖. ๑. ดื่มน้ำเมา มีโทษ ๖ (๑) เสียทรัพย์. (๒) ก่อการทะเลาะวิวาท. (๓) เกิดโรค. (๔) ต้องติเตียน. (๕) ไม่รู้จักอาย. (๖) ทอนกำลังปัญญา. ที. ปาฏิ. ๑๑/๑๙๖. ๒. เที่ยวกลางคืน มีโทษ ๖ (๑) ชื่อว่าไม่รักษาตัว. (๒) ชื่อว่าไม่รักษาลูกเมีย. (๓) ชื่อว่าไม่รักษาทรัพย์สมบัติ. (๔) เป็นที่ระแวงของคนทั้งหลาย. (๕) มักถูกใส่ความ. (๖) ได้ความลำบากมาก. ที. ปาฏิ. ๑๑/๑๙๗. ๓. เที่ยวดูการเล่น มีโทษตามวัตถุที่ไปดู ๖ (๑) รำที่ไหนไปที่นั่น. (๒) ขับร้องที่ไหนไปที่นั่น. (๓) ดีดสีตีเป่าที่ไหนไปที่นั่น. (๔) เสภาที่ไหนไปที่นั่น. (๕) เพลงที่ไหนไปที่นั่น. (๖) เถิดเทิงที่ไหนไปที่นั่น. ที. ปาฏิ. ๑๑/๑๙๗. ๔. เล่นการพนัน มีโทษ ๖ (๑) เมื่อชนะย่อมก่อเวร. (๒) เมื่อแพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป. (๓) ทรัพย์ย่อมฉิบหาย. (๔) ไม่มีใครเชื่อถือถ้อยคำ. (๕) เป็นที่หมิ่นประมาทของเพื่อน. (๖) ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย. ที. ปาฏิ. ๑๑/๑๙๗. ๕. คบคนชั่วเป็นมิตร มีโทษตามบุคคลที่คบ ๖ (๑) นำให้เป็นนักเลงการพนัน. (๒) นำให้เป็นนักเลงเจ้าชู้. (๓) นำให้เป็นนักเลงเหล้า. (๔) นำให้เป็นคนลวงเขาด้วยของปลอม. (๕) นำให้เป็นคนลวงเขาซึ่งหน้าง (๖) นำให้เป็นคนหัวไม้. ที. ปาฏิ. ๑๑/๑๙๗. ๖. เกียจคร้านทำการงาน มีโทษ ๖ (๑) มักให้อ้างว่า หนาวนัก แล้วไม่ทำการงาน. (๒) มักให้อ้างว่า ร้อนนัก แล้วไม่ทำการงาน. (๓) มักให้อ้างว่า เวลาเย็นแล้ว แล้วไม่ทำการงาน. (๔) มักให้อ้างว่า ยังเช้าอยู่ แล้วไม่ทำการงาน. (๕) มักให้อ้างว่า หิวนัก แล้วไม่ทำการงาน. (๖) มักให้อ้างว่า ระหายนัก แล้วไม่ทำการงาน. ผู้หวังความเจริญด้วยโภคทรัพย์ พึงเว้นเหตุเครื่องฉิบหาย ๖ ประการนี้เสีย. ที. ปาฏิ. ๑๑/๑๙๗. |
หน้า 2 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |