วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 15:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง





กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ย. 2019, 21:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

พระธรรมเทศนา
ในพระราชพิธีทักษิณานุปทานเบื้องต้น
แห่งพระราชพิธีฉัตรมงคล


สมเด็จพระญาณสังวร (สุวฑฺฒโน)
วัดบวรนิเวศวิหาร

ถวาย ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
วันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๐


(หมายเหตุ * ถวายครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมวราภรณ์)


:b42: :b42:

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
อิธ ดมทติ เปจฺจ โมทติ กตปุญฺโญ อุภยตฺถ โมทติ
โส โมทติ โส ปโมทติ ทิสฺวา กมฺมวิสุทฺธิมตฺตโนติ.

บัดนี้ จักรับพระราชทานถวายวิสัชนาพระธรรมเทศนา ฉลองพระเดชพระคุณประดับพระปัญญาบารมี อนุรูปแด่พระราชกุศลทักษิณานุปทาน ในเบื้องต้นแห่งพระราชพิธีฉัตรมงคล เฉลิมพระราชสมบัติสิริรัชพรรษาปีนี้ ด้วยว่า วันนี้ ใกล้จักถึงวันประกอบพระราชพิธีฉัตรมงคล เฉลิมพระราชสมบัติสิริรัชพรรษาตามโปราณราชประเพณี สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระกตัญญูกตเวทิตาคุณอันประเสริฐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดการพระราชกุศลทักษิณานุปทานเป็นเบื้องต้น ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยนี้ เจ้าพนักงานผู้เตรียมการได้เชิญพระโกศพระบรมอัฐิประดิษฐานในพระที่นั่งบุษบกมาลา ประกอบด้วยเครื่องบรมอิสริยราชูปโภคพร้อมสรรพ ครั้นแล้ว สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า (ทั้ง ๒ พระองค์) ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ทรงพระราชอุทิศถวายส่วนพระราชกุศลทั้งนี้ เพื่อเป็นผลสัมฤทธิ์พระราชหิตสุข แด่สมเด็จพระบรมราชบูรพการี ความสัมฤทธิ์ผลนี้ พึงมีโดยฐานนิยม สมตามพระพุทธานุสาสนีที่ตรัสไว้ว่า

อยญฺจ โข ทกฺขิณา ทินฺนา สงฺฆมฺหิ สุปติฏฺฐิตา
ทีฆรตฺตํ หิตายสฺส ฐานโส อุปกปฺปติ

แปลความว่า ทักษิณาที่ให้แล้ว ตั้งอยู่ดีแล้วในสงฆ์นี้แล
สำเร็จเพื่อเกื้อกูลแก่ผู้ละไปนั้นโดยฐานะตลอดกาลนาน ดังนี้

สมเด็จพระบรมราชบูรพการีทุกพระองค์ ได้ทรงเป็นพระราชบูรพการีผู้ทรงมหันตคุณูปการในพระบรมราชจักรีวงศ์ เพราะได้ทรงประดิษฐาน ได้ทรงดำรงพระมหาเศวตฉัตรและพระบรมราชวงศ์ โดยสันตติสืบต่อมาโดยลำดับ จึงทรงเป็นพระบรมราชบูรพการีที่พึงถวายความเคารพ ของสมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงดำรงพระมหาเศวตฉัตรเพลิงมไหศวริยราชสมบัติในปัจจุบัน

อนึ่ง สมเด็จพระบรมราชบูรพการีผู้ทรงปกครองประเทศชาติในอดีตสืบมาโดยลำดับนั้น ชื่อว่าได้ทรงเป็นพระราชบูรพการีของประเทศชาติโดยส่วนรวม เพราะได้ทรงเป็นองค์พระประมุขกอบกู้ประเทศชาติ ดำรงประเทศชาติ เกื้อกูลประเทศชาติให้เจริญ ได้ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภ์ ได้ทรงบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และเป็นมิ่งขวัญของอาณาประชาราษฎรประชาราษฎรชาวไทยทั้งชาติในปัจจุบัน ผู้เกิดมามีประเทศชาติเป็นที่รวมกันอยู่เป็นสุขโดยอิสรเสรี มีศาสนาเป็นที่นับถือ มีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะโดยบริสุทธิ์บริบูรณ์ก็เพราะสมเด็จพระบรมราชบูรพการีในรัชสมัยนั้นๆ ได้ทรงปกป้องรักษาไว้ ฉะนั้นจึงทรงดำรงอยู่ในฐานะเป็นพระราชบูรพการีที่พึงเคารพสักการะของประชาชนชาวไทยทั้งชาติ

อันชาวไทยนั้น เมื่อตั้งชาติขึ้นเป็นหลักฐาน ก็มีพระพุทธศาสนาเป็นที่นับถือ มีพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประมุขผู้ปกครองโดยลำดับมา ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จึงเป็นไตรรงค์ คือ องค์ ๓ ที่เป็นนิมิตเครื่องหมายของความเป็นคนไทย หรือประชาชาติไทยโดยสมบูรณ์ทุกสมัย ก็ได้ตรัสไว้ว่า "ราชา มุขํ มนุสฺสานํ" พระราชาเป็นประมุขของหมู่มนุษย์ "ราชา รฏฺฐสฺส ปญฺญาณํ" พระราชาเป็นเครื่องปรากฏของรัฐ และในอัคคัญญสูตร ได้ตรัสอธิบายอรรถของคำว่า ราชา ไว้ว่า "ธมฺเมน ปเรสํ รญฺเชติ" แปลว่า ยังชนทั้งหลายอื่นให้ยินดีชื่นบานโดยธรรม ดังนี้

พระราชาเป็นที่ยินดีชื่นบาน เป็นมิ่งขวัญของหมู่ชนอย่างไร มีตรัสแสดงไว้ในจตุกกนิบาต อังคุตตรนิกาย ด้วยทรงปรารภถึงพระราชาผู้จักรพรรดิ โดยความว่า ข้ออัศจรรย์ในพระราชาผู้จักรพรรดิ คือ ถ้าขัตติยบริษัท พราหมณบริษัท คฤหบดีบริษัท สมณบริษัทเข้าเฝ้า บริษัทนั้นๆ ก็มีใจยินดีด้วยการได้เฝ้าได้เห็น ถ้ามีพระราชดำรัสตรัสด้วย ก็มีใจยินดีด้วยพระราชดำรัส ถ้าทรงนิ่งก็ไม่อิ่ม คือ พากันกระหายอยากจะได้ฟังพระราชดำรัสอีก ดังนี้

สมเด็จพระบรมราชบูรพการีในรัชกาลโดยลำดับ ได้ทรงประกอบมหันตคุณูปการกิจ โดยเอนกประการ เพราะทรงดำรงมั่นอยู่ในราชธรรมจริยาตามนัยพระพุทธศาสโนวาทราชธรรมจริยานั้นๆ ชื่อว่าเป็นบุญ เพราะเป็นกรรมคือการงานที่ดีที่บริสุทธิ์ เป็นเหตุให้เกิดผลเป็นที่บันเทิงสุข ทั้งในปัจจุบัน ทั้งในภายหน้า สมตามพระพุทธภาษิตบทนิกเขปว่า

อิธ โมทติ เปจฺจ โมทติ กตปุญฺโญ อุภยตฺถ โมทติ
โส โมทฺติ โส ปโมทติ ทิสฺวา กมฺมวิสุทฺธิมตฺตโน

แปลว่า ผู้มีบุญอันทำแล้ว ย่อมบันเทิงในโลกนี้ ย่อมบันเทิงในโลกหน้า
ชื่อว่าย่อมบันเทิง ในโลกทั้ง ๒

ผู้มีบุญอันทำแล้วนั้นเห็นความบริสุทธิ์แห่งกรรมของตน
ย่อมบันเทิง ย่อมบันเทิงยิ่ง

ใจความแห่งพระพุทธภาษิตนี้มีว่า ผู้ได้ทำบุญไว้แล้ว เห็นกรรมอันบริสุทธิ์ของตนย่อมบันเทิงสุขตลอดไป คำว่า บุญ แปลว่า ฟอกชำระ มี ๒ คือ บุญที่เป็นเหตุ หมายถึงกรรมที่บริสุทธิ์ เพราะเป็นเครื่องฟอกชำระบาป หรือกรรมที่ตรงกันข้าม และบุญที่เป็นผล หมายถึงผลที่บริสุทธิ์ คือความบันเทิงสุขอันเกิดจากบุญส่วนเหตุ หมายถึงสุขอย่างนี้ พระบรมศาสดาตรัสไว้ว่า "มา ภิกฺขเว ปูญฺญานํ ภายิตฺถ สุขสฺเสตํ อธิวจนํ" แปลความว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย

คำว่าบุญนี้ เป็นชื่อของสุข ดังนี้ และตรัสชื้บุญส่วนเหตุไว้ คือ "ทาน" การให้ การบริจาค ๑ "ศีล" ความประพฤติเป็นปกติเรียบร้อย เพาะงดเว้นจากโทษ หรือ "ทมะ" คือ ความข่มใจให้เกิดความงดเว้นอย่างนั้น ๑ "ภาวนา" คือความอบรมจิตใจให้สงบ และอบรมปัญญา หรือ "สัญญมะ" คือ ความสำรวมจิตใจมิให้ฟุ้งซ่านมิให้มัวเมาลุ่มหลง ๑ ผู้ปฎิบัติดังกล่าวแล้ว ชื่อว่าผู้ได้ทำบุญไว้แล้วย่อมเป็นผู้มีกรรมอันบริสุทธิ์ ตนเอง เมื่อพิจารณาดูกรรมของตน ก็ติเตียนตนเองมิได้ ตรงกันข้าม เมื่อเห็นความบริสุทธิ์แห่งกรรมของตน ย่อมได้ความบันเทิงสุข และผู้รู้อื่นใคร่ครวญแล้วก็ติเตียนมิได้ แต่กลับยกย่องสรรเสริญ ข้อนี้ได้ชื่อว่าเกียรติโดยแท้จริง เพราะเป็นชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ ที่ทั้งตนทั้งผู้อื่นที่เป็นผู้รู้ซึ่งใคร่ครวญแล้วติเตียนมิได้ เหตุฉะนี้ จึงมีพระพุทธภาษิตตรัสไว้ว่า "ธมฺเม ฐิตํ น วิชหาติ กิตฺติ" เกียรติย่อมไม่ละผู้ตั้งอยู่ในธรรม ธรรมในที่นี้มีอรรถหมายถึงธรรมที่เป็นกุศล หรือบุญดังกล่าว จึงตรัสให้ศึกษาเรื่องบุญว่า

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2019, 21:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


ปุญฺญเมว โสสิกฺเขยฺย อายตคฺคํ สุขุทฺรยํ

แปลความว่า ควรศึกษาสำเหนียกบุญที่มีผลเลิศต่อไป มีสุขเป็นกำไร ด้วยประการฉะนี้

สมเด็จพระบรมราชบูรพการีโดยลำดับรัชสมัย ได้ทรงบำเพ็ญบุญไว้แล้วเพราะได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันบริสุทธิ์เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติศาสนาและอาณาประชาราษฎรทั้งปวง เมื่อทอดพระเนตรเห็นกรรมอันบริสุทธิ์ของพระองค์ย่อมทรงบันเทิงสุขในโลกนี้ เสด็จสวรรคตแล้ว ก็ยิ่งทรงบันเทิงสุข และย่อมปรากฏพระกัลยาณเกียรติยืนอยู่คู่ชาติ

สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ทรงพระราชปรารภอภิลักขิตมงคลกาลแห่งพระราชพิธีฉัตรมงคล เฉลิมพระราชสมบัติสิริรัชพรรษา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบการพระราชพิธีทักษิณานุปทาน ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระบรมราชบูรพการโดยพระราชคารวการ ด้วยกำลังพระกตัญญูกตเวทิตาคุณ ทั้งนี้ชื่อว่าได้ทรงแสดงคารวะอปจายนธรรม และทรงปฏิบัติสัปปุริสธรรมตามพระพุทธศาสนโนวาท พระราชกรณีย์ที่ทรงปฏิบัติ ย่อมเป็นเครื่องกางกั้นสรรพพิบัติอนิฏฐผล อำนวยสรรพสมบัติอิฏฐผลแด่สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พร้อมด้วยพระบรมราไชศวรรยาธิปัตย์ ให้สถิตสถาพรเกษมสวัสดี

ขออำนาจพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ที่สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ได้ทรงบำเพ็ญให้ตั้งอยู่ดีแล้วในพระสงฆ์ และทรงอุทิศถวายสมเด็จพระบรมราชบูรพการี ท้งนี้ จงสัมฤทธิ์วิบากสมบัติเป็นไปเพื่อเกื้อกูล เพื่อสุข แด่สมเด็จพระบรมราชบูรพการี สมตามพระบรมราชอุทิศ

ขออานุภาพพระศรีรัตนตรัย อานุภาพพระราชกุศลบารมีบุญญาธิการ และอานุภาพแห่งสมเด็จพระบรมราชบูรพการีที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายทั้งนี้ จงอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พร้อมทั้งสมเด็จพระบรมราชินีนาถและพระบรมราชโอรส พระราชธิดา ให้ทรงพระเจริญด้วยสรรพสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล แผ่พระบรมโพธิสมภารบารมีเป็นที่ร่มเย็น แก่พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท เสวกามาตย์ราชบริพาร สมณชีพราหมณ์ และอาณาประชาราษฏรทั่วไป

รับพระราชทานถวายวิสัชนาพระธรรมเทศนา ฉลองพระเดชพระคุณ ประดับพระปัญญาบารมี ยุติด้วยประการฉะนี้ ขอถวายพระพร.

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร