วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 02:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ม.ค. 2014, 14:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2013, 19:15
โพสต์: 109

แนวปฏิบัติ: มีสติทุกอริยาบท
งานอดิเรก: ปฎิบัติธรรม ฟังธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ความไม่ประมาท
ชื่อเล่น: ธรรม
อายุ: 0
ที่อยู่: วัฎฎะสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชย์สมบัติอยู่ในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เป็นเศรษฐีนามว่า วิสัยหะ มีทรัพย์สมบัติ ๘๐ โกฏิ ได้เป็นผู้ประกอบด้วยศีล ๕ มีอัธยาศัยในทางทาน ยินดียิ่งในทาน พระโพธิสัตว์นั้นให้สร้างโรงทานในที่ ๖ แห่ง คือ ที่ประตูเมืองทั้ง ๔ ประตู ท่ามกลางพระนครและที่ประตูนิเวศน์ของตน แล้วทำการให้ทานอยู่เป็นนิตย์ บริจาคทรัพย์วันละหกแสน ทุกวัน

เมื่อพระโพธิสัตว์นั้นให้ทาน กระทำชมพูทวีปทั้งสิ้นให้มีงอนไถอันยกขึ้นแล้ว (คือไม่ต้องทำไร่ไถนา รับเอาแต่ทานไปเลี้ยงชีพ) ภพของท้าวสักกะก็กัมปนาทหวั่นไหวด้วยอานุภาพของการให้ทาน บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ของท้าวเทวราชแสดงอาการร้อน ท้าวสักกะทรงดำริว่า ใครหนอ ประสงค์จะให้เราเคลื่อนไปจากที่นี้ จึงทรงพิจารณาใคร่ครวญอยู่ ทรงเห็นท่านมหาเศรษฐี จึงทรงพระดำริว่า วิสัยหเศรษฐีนี้แผ่ไปกว้างขวางยิ่งนัก ให้ทานกระทำชมพูทวีปทั้งสิ้นให้ไม่ต้องทำไร่ไถนา ชรอย จักให้เราเคลื่อนจากที่แล้วเป็นท้าวสักกะเสียเองด้วยทานนี้ เราจักทำทรัพย์ของเขาให้ฉิบหายเสีย กระทำเศรษฐีนั่นให้เป็นคนขัดสนจน ให้ทานไม่ได้ จึงบันดาลทรัพย์ทั้งปวง แม้แต่ข้าวเปลือก น้ำมัน น้ำผึ้ง และน้ำอ้อยเป็นต้น จนชั้นที่สุดแม้ทาสและกรรมกรให้อันตรธานหายไป

พวกคนผู้จัดทานมาบอกท่านเศรษฐีว่า ข้าแต่นาย โรงทานขาดหายไป พวกข้าพเจ้าไม่เห็นอะไร ๆ ในที่ที่เก็บไว้ ท่านเศรษฐีกล่าวว่า พวกท่านจงนำทรัพย์สำหรับจับจ่ายไปจากที่นี้ อย่าตัดขาดทานเสียเลย แล้วเรียกภรรยามาพูดว่า นางผู้เจริญ เธอจงให้ทานดำเนินไป ภรรยานั้นค้นหาจนทั่วเรือนไม่พบแม้แต่กึ่งมาสก จึงกล่าวว่า ข้าแต่นายดิฉันไม่เห็นอะไร ๆ อื่น ยกเว้นผ้าที่เราทั้งหลายนุ่งห่มอยู่ ว่างเปล่าไปทั่วทั้งเรือน

ท่านเศรษฐีให้เปิดประตูห้องเก็บรัตนะ ๗ ก็ไม่เห็นอะไร ๆ แม้ทาสและกรรมกรอื่น ๆ ก็ไม่ปรากฏ ยกเว้นเศรษฐีกับภรรยา มหาสัตว์เรียกภรรยามาอีกแล้วกล่าวว่า นางผู้เจริญ เราไม่อาจตัดขาดการให้ทาน เธอจงค้นหาให้ทั่วนิเวศน์ พิจารณาดูของบางอย่าง

ขณะนั้น คนหาบหญ้าคนหนึ่ง ทิ้งเคียว คาน และเชือกมัดหญ้าไว้ระหว่างประตูแล้วหนีไป ภรรยาของ เศรษฐีเห็นดังนั้น จึงได้นำมาให้โดยพูดว่า ข้าแต่นาย ดิฉัน ไม่เห็นของอย่างอื่น เว้นแต่สิ่งนี้

พระมหาสัตว์กล่าวว่า นางผู้เจริญ ธรรมดาหญ้า เราไม่เคยเกี่ยวตลอดกาลมีประมาณเท่านี้ แต่วันนี้ เราจักเกี่ยวหญ้า นำมาขายแล้วให้ทานตามสมควร เพราะกลัวการให้ทานจะขาด จึงถือเอาเคียว คาน และเชือกออกจากพระนครไปยังที่มีหญ้าแล้วเกี่ยวหญ้าคิดว่า หญ้าฟ่อนหนึ่งจักเป็นของพวกเรา และจักให้ทานด้วยหญ้าฟ่อนหนึ่ง จึงมัดหญ้าเป็น ๒ ฟ่อน คล้องที่คานถือเอาไปขายที่ประตูเมือง ได้มาสกมาแล้วได้ให้ส่วนหนึ่งแก่พวกยาจก แต่พวกยาจกมีมากด้วยกัน เมื่อพวกเขาร้องขอว่า ให้ข้าพเจ้าบ้าง จึงได้ให้ส่วนแม้นอกนี้ไปอีก วันนั้น จึงไม่มีอาหารพร้อมทั้งภรรยา ให้เวลาล่วงผ่านไป โดยทำนองนี้ ล่วงไป ๖ วัน

ครั้นวันที่ ๗ เมื่อ เศรษฐีนั้นกำลังนำหญ้ามา ความที่เป็นผู้อดอาหารมา ๗ วัน ทั้งเป็นสุขุมาลชาติ พอเมื่อเจอแสงอาทิตย์กระทบหน้าผาก นัยน์ตาทั้งสองข้างก็พร่าพราย เศรษฐีนั้นไม่อาจดำรงสติไว้ได้ จึงล้มทับหญ้าลงไป ท้าวสักกะเสด็จเที่ยวตรวจดูกิริยาอาการของเศรษฐีนั้นอยู่ ทันใดนั้น ท้าวเธอเสด็จมาประทับยืนในอากาศ ตรัสกล่าวคาถาว่า

ดูกรพ่อวิสัยหะท่านวิสัยหะผู้เจริญ เมื่อก่อน แต่กาลนี้ เมื่อทรัพย์ในเรือนของท่านยังมีอยู่ ท่านได้ให้ทาน ทำสกลชมพูทวีปทั้งสิ้นให้ไม่ต้องหาเลี้ยงชีพแล้ว และเมื่อท่านนั้นให้ทานอยู่อย่างนี้ ความเสื่อมโภคะจึงได้มีขึ้น แต่ถ้าเบื้องหน้าแต่นี้ ท่านจะเลิกการให้ทานเสีย และเมื่อท่านประหยัดโภคะไว้ โภคะทั้งหลายจะพึงมีอยู่เหมือนอย่างเดิม ถ้าท่านให้สัญญาว่า ตั้งแต่นี้ไปจักไม่ให้ทาน เราจักให้โภคะทั้งหลายแก่ท่าน

พระมหาสัตว์ได้ฟังดำรัสของท้าวสักกะนั้นแล้วจึงถามว่า ท่านเป็นใคร ท้าวสักกะตรัสว่าเราเป็นท้าวสักกะ พระโพธิสัตว์กล่าวว่า ธรรมดาท้าวสักกะ พระองค์เองให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ บำเพ็ญวัตรบท ๗ ประการ จึงถึงความเป็นท้าวสักกะ แต่พระองค์ทรงห้ามการให้ทานอันเป็นเหตุแห่งความเป็นใหญ่ของพระองค์ ทรง ทำวัตรจรรยาอันมิใช่ของอารยชน แล้วได้กล่าวคาถาว่า

ข้าแต่ท้าวสหัสสเนตร พระอริยะทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้นกล่าวไว้ว่า อริยชนผู้มีอาจาระอันบริสุทธิ์ ถึงจะขัดสนแร้นแค้น ก็ไม่ควรทำบาปกรรมอันลามกนั้น ถ้าเราทิ้งศรัทธาในการให้ทาน เพราะเหตุที่ต้องการบริโภคทรัพย์ใด ขอทรัพย์นั้นอย่าได้มีแก่เรา คือ เราไม่ต้องการทรัพย์นั้น รถคันหนึ่ง แล่นไปโดยทางใด แม้รถคันอื่นก็แล่นไปโดยทางนั้น เพราะนี้เป็นทางเดินของรถ วัตรที่เราเคยบำเพ็ญมาในอดีตก็เช่นกัน เมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ ก็จงดำเนินไปเถิด คืออย่าหยุดอยู่เลย เราแม้จะเป็นคนหาบหญ้าอย่างนี้ ก็จักให้ทานตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่ เพราะเหตุไร ? เพราะเราจะไม่ละลืมการให้ทาน เพราะฉะนั้น เราจักให้ทานเหมือนอย่างเดิม

ท้าวสักกะเมื่อไม่อาจทรงห้ามวิสัยหะเศรษฐีนั้น จึงตรัสถามว่า ท่านให้ทานเพื่อประโยชน์อะไร ?

วิสัยหะเศรษฐีทูลว่า ข้าพระบาทมิได้ปรารถนาความเป็นท้าวสักกะ หรือความเป็นพระพรหม แต่ปรารถนา พระสัพพัญญุตญาณ จึงให้ทาน

ท้าวสักกะได้ทรงสดับคำของวิสัยหะนั้นแล้วดีพระทัยจึงเอาพระหัตถ์ลูบหลัง เมื่อพระโพธิสัตว์พอถูก ท้าวสักกะทรงลูบหลังในขณะนั้นนั่นเองสรีระทั้งสิ้นก็เต็มบริบูรณ์ และด้วยอานุภาพของท้าวสักกะทรัพย์สมบัติทั้งหมดของพระโพธิสัตว์นั้นก็กลับเป็นไปตามปกติอย่างเดิม ท้าวสักกะตรัสว่าท่านมหาเศรษฐี นับแต่นี้ไป ท่านจงสละทรัพย์ ๑๒ แสน ให้ทานทุกวันเถิด แล้วประทานทรัพย์หาประมาณมิได้ไว้ในเรือนของพระโพธิสัตว์นั้น ทรงส่งพระโพธิสัตว์แล้ว เสด็จไปเทวสถานของพระองค์

พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว ทรงประชุม ชาดกว่า ภรรยาของเศรษฐีในครั้งนั้น ได้เป็นมารดาพระราหุล ส่วน วิสัยหเศรษฐี ได้เป็นเราตถาคต ฉะนี้แล

ศึกษาเพิ่มเติม :
http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... b=27&i=658

.....................................................
ขอน้อม กาย วาจา จิต บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในกาลทุกเมื่อ
ในทุกทุกขณะจิต ไม่ว่าจะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณังคัจฉามิ

https://www.facebook.com/Dhammalungta


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2014, 09:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: rolleyes ขออนุโมทนาค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2014, 08:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 10:07
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุครับ ติดตามผลงานคุณปราชญ์บ้านนอก ตลอดนะครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2015, 15:58 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2876


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 12 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร