วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 02:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 08:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ม.ค. 2007, 21:52
โพสต์: 348

ที่อยู่: บุรีรัมย์

 ข้อมูลส่วนตัว


ถนนสายนี้ไปไหน

วันนี้ ชวนสารถีคู่ใจ ออกจากวัดตั้งแต่เช้า ไปเทศน์งานหล่อพระประธาน ที่หล่อด้วยคอนกรีต ขนาดหน้าตักกว้าง ๑๐ ศอก หรือประมาณ ๕ เมตร ของวัดแห่งหนึ่งซึ่งชื่อเรียกค่อนข้างยากตั้งตามชื่อหมู่บ้านว่า “วัดป่าบ้านบะระแนะ” ที่อยู่ลึกเข้าไปจนเกือบติดเขตชายแดนไทยกัมพูชา เจ้าภาพเขานิมนต์ไว้ร่วมเดือนแล้ว โดยให้ไปร่วมฉันเพล เพลเสร็จแล้วเทศน์ การเดินทางค่อนข้างลำบากเพราะถนนปูด้วยลูกรังเป็นบางช่วง บางช่วงก็เป็นแค่คันดินรูปถนนเฉย ๆ ถนนจึงขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ ยากที่จะหลบหลีกได้ จึงต้องคลานรถไม่เกินเกียร์สาม สองข้างทางถูกคลุมด้วยป่ายางพาราที่ทึบบนโปร่งล่างดูเขียวขจีสุดตา ถนนหากเงยมองขึ้นบนจะเห็นกิ่งยางพาราทอดเกยครอบคร่อมมาจรดกัน จนคล้ายว่าเรากำลังขับรถลอดถ้ำสีเขียวยาวไกล จวนเที่ยงยังไม่มีวี่แววว่าเราจะได้เจอหมู่บ้านเป้าหมาย ความหิวเริ่มทักทาย ด้วยความเคยชินฉันวันละหนแค่ช่วงเช้า ครั้งนี้เกรงใจเจ้าภาพกลัวว่าเมื่อไปถึงที่ฉันเพลแล้วจะไปนั่งเฉย ๆ หรือฉันน้อย หากเจ้าภาพถาม อาหารไม่อร่อยหรือ เดี๋ยวต้องตอบคำถามว่า อร่อยหรือไม่อร่อยให้เจ้าภาพลำบากใจ จึงงดฉันเช้า กะว่าจะไป ฉันเพลเต็มที่ที่วัดเจ้าภาพทีเดียว รถยิ่งเร่งเครื่อง หนทางยิ่งวนลึกเข้าป่าใหญ่จนพ้นเขตสวนยางของชาวบ้าน คิดในใจว่าหลงทาง แน่ แต่ไม่อยากท้วงติงคุณพี่สารถีที่ตั้งอกตั้งใจขับโดยไม่สนว่าถนนมันจะพารถไปไหน ให้แกเสียอารมณ์

เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ก็มาเทศน์ที่บ้านที่ว่านี้แหละ กับพี่สารถีท่านนี้ ตอนนั้นไม่มีรถยนต์ อาศัยจักรยานยนต์ ของ พี่สารถี ที่พึ่งได้มาใหม่ ๆ หมาด ๆ จากกรุงเทพ ที่พี่แก ไปเป็นลูกจ้างชั่วคราวของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ที่คอยตั้งด่านดักจับรถผิดกฎหมาย พี่แกหุ่นให้ หน้าตาดี ใครไม่รู้นึกว่า แกเป็น สารวัตรใหญ่ ความจริงแกอ่านหนังสือไม่ออกสักตัว ด้วยความที่หุ่นแกให้นี่แหละตำรวจจึงเรียกใช้โดยให้แกแต่งตัวครึ่งท่อน คอยเป็นผู้หยิบนั่นฉวยนี่ เสิร์ฟน้ำ วิ่งซื้อของหรือตามแต่เขาจะใช้ ส่วนตำรวจจริง ก็ปฏิบัติหน้าที่ ตามที่เราเห็นคุ้นตาอยู่แบบเดียวกับปัจจุบัน ครานั้นแกเล่าว่ามีจักรยานยนต์ ยามาฮา คอนคอร์ด ถูกยึดหลายคัน รอเจ้าของหาหลักฐานมารับไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนั้นจึงอนุญาตให้พี่แกยืมรถมาใช้เป็นการส่วนตัว แกเลยขี่กลับมาเยี่ยมบ้าน พอดีเราเองเพิ่งมาอยู่วัดบ้านนี้ใหม่ ๆ ความที่ยังไม่รู้จัก มักคุ้นกับใคร พี่แกเอารถมาเจิม เลยถือโอกาสตีสนิท ชวนให้แกไปส่งที่หมู่บ้านดังกล่าวเพื่อบรรยายธรรม ให้นักเรียนฟัง เนื่องในงานทำบุญตักบาตรการเปิดโรงเรียนสร้างใหม่อย่างเป็นทางการ ถามแกว่า เคยไปไหม แกบอกว่าเคย และ หลายครั้งแล้วด้วย เพราะ แกมีญาติ ๆ อยู่ที่หมู่บ้านนั้นหลายครอบครัว

การเดินทางครั้งนั้นเริ่มขึ้นในช่วงบ่าย เป็นการเดินทางล่วงหน้าหนึ่งวัน เพื่อให้ทัน
กับการบรรยายธรรมในช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น ถนนหนทางยังไม่มีเป็นรูปเป็นร่างเหมือนปัจจุบัน เป็นเพียงทางรถที่ชาวบ้านเรียกว่า “รถอีแต๊กแต๊ก” คือรถพ่วงลากด้วยรถไถนาแบบเดินตาม ของชาวบ้านในละแวกนั้น ที่ใช้ทำการเกษตร ถนนจึงสลับระหว่างไร่มันสำปะหลัง กับป่าทึบน่ากลัวเพราะอยู่ติดชายแดน และ อุดมไปด้วยสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ท่านพี่สารถี ก้มหน้าก้มตาขี่จักรยานยนต์อย่างสบายใจ จนเรามั่นใจว่าอย่างไรเสียคงถึงที่หมายไม่เกินค่ำแน่นอน เพราะเจ้าภาพบอกว่าระยะทางน่าจะประมาณ หกสิบ กิโลเมตร ถนนเลื้อยเข้าป่าทึบยังไง แก ก็ไม่สน ขี่อย่างเดียว จนกระทั่งรถกระตุก สองสามทีแล้วเครื่องดับ น้ำมันหมด
“ เอาละสิ ค่ำแล้ว หลงทาง” เราพูดกับพี่สารถีกึ่ง ๆ รำพึงคนเดียว
พี่สารถี บอกว่า “เรามาถูกทางแล้ว เดินไปข้างหน้าอีกไม่เกินครึ่งกิโล ก็ถึงหมู่บ้านที่เราจะไปแล้วหลวงพี่”
แกเป็นคนจูงรถ เราเป็นคนช่วยดันเวลารถติดหล่มทราย หรือ หลุมลึก ป่าธรรมชาติเริ่มทึบขึ้นเรื่อย ๆ ถนนเริ่มแคบลง จนกลายเป็นทางเดินของคน ๆ เดียว ในที่สุดแม้แต่รอยคนเดินก็ไม่มี กลายเป็นทางตันซะแล้ว แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์เริ่มหรี่ลง ใกล้ ๆ เราปรากฏจั่วสีขาว โผล่จากกอหญ้าคาที่คลุมอยู่พอแวบ ๆ ไหว ๆ เมื่อแหวกออกดู จึงรู้ว่าเป็นหลักซิเมนต์คล้ายหลักบอกระยะทาง ข้างถนนทั่วไป แต่ใหญ่กว่า สองด้านตรงข้ามกัน สลักลึกลงบนเนื้อคอนกรีตด้วยภาษาไทย และ ภาษาเขมร “สุดเขตประเทศยาม” อีกด้านสลักเป็นภาษาเขมร และไทย “สุดเขตประเทศกัมพูชา”
พี่สารถีเราเหงื่อท่วมตัว “หลงทางแล้วหลวงพี่ เอาไงดีหละ” แกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ อืมม... ไม่เป็นไร งั้น... เรากลับ” เราเองก็กลัวจนเกือบเก็บอาการไม่อยู่เหมือนกัน แต่ซ่อนไว้ด้วยการ ดัน ท้ายรถจักรยานยนต์ให้หมุนกลับ “จูงเร็ว ๆ นะ ให้พ้นป่าทึบนี้ก่อน ไหนบอกว่าเคยมาไง”
พี่สารถีไม่ตอบ ได้แต่จูงรถกึ่งเดินกึ่งวิ่งจนเราต้องวิ่งตาม ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงพวกเราจึงทะลุป่าที่ทึบมาถึงลานโล่งสุดตาด้วยรอยไถที่เตรียมไว้ปลูกมันสำปะหลัง
ความมืดโรยตัวแล้ว พี่สารถีละมือจากการจับแฮนด์รถจักรยานยนต์ ดูนาฬิกาข้อมือ พึมพำ เสียงสั่น “เกือบทุ่มแล้วหลวงพี่ ไปทางไหนดีหละ”
“ไม่รู้สิ นั่งพักก่อน เห็นไร่มันแล้วหมู่บ้านน่าจะอยู่ไม่ไกล เงียบ ๆ คอยฟังเสียงไก่ขัน หรือ เสียงหมาเห่า แล้วเราค่อยหาวิธีไปตามทิศนั้นก็แล้วกัน อีกสักครู่พอเดือนขึ้นเลยปลายไม้ทางเดินอาจสว่างกว่านี้” เราตอบเหมือนปลอบใจให้แกคลายกังวล ทั้ง ๆ ที่เราเองอาจกังวลมากกว่า
“นั่นไงโยมพี่ฟังสิ เสียงเครื่องขยาย แว่วมาแล้ว สงสัยเป็นหมู่บ้านที่พวกเราจะไป”
“ครับ ครับ งั้นเราไปตามเสียงนั้น จูงรถลัดไร่มันนี่เลยกันหลง”
“อืมม ๆ เอาไงเอากัน แม้ไม่ใช่หมู่บ้านเป้าหมายก็ยังดีกว่าหลงทางวนอยู่ในป่า หรือลงเขมรเป็นไหน ๆ ถ้าไม่ใช่ อย่างน้อยเราก็ได้เติมน้ำมัน แล้วถามทางเขา” เราตอบด้วยความหวัง

ความกลัวคลายลงแล้ว ต่างคนต่างช่วยกันคนหนึ่งจูง คนหนึ่งดันให้รถจักรยานยนต์ที่เคยเป็นพาหนะอำนวยความสะดวกให้เรา แต่ บัดนี้เรากลับเป็นพาหนะอำนวยความสะดวกให้มันบ้าง ไต่ข้ามความขรุขระของก้อนขี้ไถ และ มีบางครั้งต้องหามข้ามคลองเล็ก ๆ ลัดเลาะสู่หมู่บ้าน อย่างทุลักทุเล โชคดีที่เป็นหมู่บ้านเป้าหมาย แม้จะมาถึงเกือบรุ่งสางของคืนนั้นก็ตาม
“เป็นไงหลวงพี่เงียบเชียว กลัวผมพาหลงทางอีกเหรอ เชื่อมือผมสิ เราเคยมาแล้ว แม้จะนาน หลายสิบปีก็ตาม คงเปลี่ยนแปลงไม่มากนักหรอก ข้ามเนินนี้ก็ถึงแล้ว” พี่สารถี พูดขึ้น เป็นการเปิดการสนทนาครั้งแรกของสองเรานับแต่ออกจากวัด
“แน่นะ อาตมาหิวข้าว อีกสามสิบนาทีก็เที่ยง”
“ครับแน่นอน เชื่อผม ระดับนี้แล้ว”

ทางเริ่มคดเคี้ยว แคบลง วกวนเข้าป่าลึก จนแทบไม่มีรอยรถ ใด ๆ กดทับ หาทางกลับรถก็ไม่ได้ จะถอยก็ไกล เอาหละสิ พี่สารถีตั้งอกตั้งใจขับเหมือนไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับความหิวของเรา จนกระทั่งเที่ยงตรง รถพาเราทะลุป่าทึบออกมาสู่ลานโล่ง กระท่อมหลายหลังเรียงรายถูกทิ้งร้าง อาคารคอนกรีตถาวรชั้นเดียวสีกระดำกระด่าง ทอดยาวคล้ายห้องแถว ถูกทิ้งร้างเช่นกัน พี่สารถีจอดรถ พวกเราลงจากรถ
พี่สารถีเหงื่อท่วมตัว “หลงทางแล้วหลวงพี่ เอาไงดีหละ”
คำถามเดิม ทำหน้าตาเหมือนเดิม เหมือนเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนอีกแล้ว เราไม่ตอบได้แต่หันซ้ายหันขวามองไปรอบ ๆ จนเจอป้ายไม้อัดขนาดใหญ่ สีลอกเกือบหมดแล้วแต่ก็ยังพออ่านออกอยู่บ้างเขียนด้วยภาษา เขมร อังกฤษ และ ไทย “จุดแลกเปลี่ยนสินค้าไทยกัมพูชา” ตลาดชายแดนที่ถูกสั่งปิดเมื่อหลายปีมาแล้วนั่นเอง
“อืม.. ไม่เป็นไร โยมพี่ หาทางกลับรถ เถอะ เดี๋ยวหลงไปมากกว่านี้”
พวกเราคลานรถกลับมาทางเดิมผ่านแยกหลายแยกตามล็อกสวนยางของแต่ละเจ้า ไม่มีวี่แววว่าจะเจอหมู่บ้าน เวลาก็ใกล้บ่ายเต็มที หาคนผ่านมาพอได้ถามก็ไม่มี เบอร์โทรศัพท์เจ้าภาพก็ไม่ได้ขอไว้ ต่างคนต่างหลง จนมาจนใจเมื่อรถเครื่องดับบนสันเขื่อนเพราะน้ำมัน หมด
“ตายแล้วพวกเรา เอาไงดี” พี่สารถีรำพึงถามอย่างเจี๋ยมเจี้ยมเพราะกลัวเราดุ
“ไม่เป็นไรโยมพี่ คอยตรงนี้แหละทำอะไรไม่ได้แล้ว รอคนผ่านมาก็แล้วกัน”

พอดีมีโยมผู้ชายแก่ ๆ คนหนึ่งเดินตรงมา บนบ่าแบกปืนอัดลมสำหรับล่าสัตว์ มือหิ้วกระต่ายตัวหนึ่งที่ยังมีเลือดหยด ตามทางที่แกเดินมาจนถึงพวกเรา ด้วยความดีใจ เราจึงร้องถามแกดัง ๆ ว่า
“โยมตา ๆ ถนนสายนี้ไปไหน”

แกรีบวางอาวุธประจำกาย และซากกระต่ายป่าที่หิ้วอยู่ลงไว้ข้าง ๆ นั่งคุกเข่าลงกราบอย่างนอบน้อมแล้วประนมมือตอบอย่างสุภาพ
“ขอรับหลวงพ่อ ถนนสายนี้ตั้งแต่ทางการสร้างเสร็จเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ผมไม่เคยเห็นมันไปไหนเลยขอรับ มันยังคงอยู่ของมันอย่างนี้จนปัจจุบัน” แกตอบหน้าตาเฉย
แล้วลุกหยิบสัมภาระของแกเดินจากไป โดยไม่สนว่าพวกเรา จะหัวเราะหรือร้องไห้ กับสถานการณ์ในขณะนี้.
..................................................
สิริมงคล ๐๗/๐๖/๕๓


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 10:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 15:09
โพสต์: 122

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: ขออนุโมทนาครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2010, 17:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ม.ค. 2007, 21:52
โพสต์: 348

ที่อยู่: บุรีรัมย์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: สาธุ คุณ ดนบิตะ smiley


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 26 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร