วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 13:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 80 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2009, 20:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




.6.bmp
.6.bmp [ 351.62 KiB | เปิดดู 6138 ครั้ง ]
แมรี่ ป็อปปิ้นส์


ในบ้านหลังหนึ่งที่มีแต่ความวุ่นวายภายในบ้านมีนางแบ๊งส์และนายแบ๊งส์ ซึง่มีลูกทั้งหมด 5 คน
คนโตชื่อเจน และน้องชายคนกลางชื่อ ไมเคิล คนรองลงไปคือ น้องชายฝาแฝดที่ยังเล็กมากชื่อ จอห์นและบาร์บารา กับน้องคนสุดท้ายชื่อแอนนาเบล ซึ่งยังเป็นทารกอยู่

ครอบครัวแบ๊งส์นี้ผ่านการมีพี่เลี้ยงมามากมายซึ่งพี่เลี้ยงทั้งหลายที่เคยมาดูแลเด็กๆนั้นต้องมีเหตุให้ลาออกอันเป็นเพราะว่าทนอยู่กับพวกเด็กๆจอมซนทั้งหลายนั้นไม่ไหวทำให้นายและนางแบ๊งส์หมดความหวังกับการหาพี่เลี้ยงเด็กจนกระทั่งวันหนึ่งเกิดลมพายุที่ไม่แรงนักในวันที่สบายและสงบทำให้ว่าว
ที่ลอยค้างเป็นจุดสีดำๆอยู่บนฟ้านั้นเริ่มเห็นชัดมากขึ้นและมากขึ้นจนกระทั่งเห็นได้ว่านั้นไม่ใช่ว่าว
แต่เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ท่าทางเหมือนลอยมาจากฟากฟ้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านของครอบครัวแบ๊งส์และได้เดินก้าวเข้ามาในบ้านอย่างสงบหญิงสาวผู้นั้นได้มาสมัครเป็นพี่เลี้ยงเด็ก


เธอชื่อแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ ดูภายนอกคือหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งซึ่งผอม มีมือและเท้าใหญ่ มีผมสีดำหวีเรียบนัยน์ตาสีฟ้าเข้มมีแววเข้มงวดและจมูกเชิดรั้นขึ้นเหมือนตุ๊กตาดัชท์ท่าทางของเธอต่อเด็กๆค่อนข้างดุและเจ้าระเบียบกับคนอื่นติดจะถือตัวและประชดประชัน จนดูเหมือนแมรี่ ป๊อปปิ้นส์อารมณ์เสียอยู่ตลอดเวลา แต่เจนและไมเคิลรู้ว่าหัวใจของแมรี่ ป๊อปปิ้นสืมีแต่ความรักความปราณี
แมรี่ได้ทำให้เด็กๆที่ซุกซนนั้นสามารถหยุดเพื่อที่จะฟังแมรี่ได้แม้กระทั่งคนรับใช้ภายในบ้านก็ยังต้องหวาดกลัวและเกรงแมรี่ ด้วยเธอทำอะไรมักมีเหตุผลเสมอและไม่มีใครสามารถเถียงเธอได้เลยเธอมักจะพาเด็กทั้งหมดไปเดินเล่นบ่อยและมักจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นซึ่งเหตุการณ์นั้นน่าจะเป็นเพีจินตนาการมากกว่า



แต่กลับมีหลักฐานว่าจินตนาการนั้นเคยเกิดขึ้นมาจริงๆทำให้พวกเด็กๆนั้นทึ่งในตัวของแมรี่มากและพวกเด็กๆก็ชอบแมรี่มากเช่นเดียวกันเพราะเธอเป็นคนที่น่าคนหาและมีความสนุกสนานอย่างลึกลับนั้นซ่อนอยู่

บางครั้งแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ก็บันดาลให้เด็กทั้งสองเข้าไปเที่ยวในดินแดนในรูปภาพหรือในยามค่ำคืนเด็กทั้งสองได้ยินเสียงเรียกจากถนนให้ไปเที่ยวในปาร์คหน้าบ้านเมื่อทุกคนหลับหมดแล้วปาร์คนั้นจะกลายเป็นดินแดนอีกแห่งหนึ่งเป็นที่ชุมนุมของตัวละครในเทพนิยายหรือไม่ก็ได้รับเชิญไปในงานละครสัตว์บนฟ้าท่ามกลางหมู่เทพและสัตว์แห่งดวงดาวทั้งหลายทุกแห่งเด็กทั้งสองจะเห็นแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ปรากฏตัวขึ้นในงานอย่างแขกพิเศษเต้นรำสนุกสนานหรือเล่นดนตรีอยู่ในงานแต่เมื่อเจนและไมเคิลกลับบ้านเอ่ยถึงเรื่องนี้ แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ไม่เคยรับรู้ว่าเป็นจริง


บางครั้งแมรี่ป๊อปปิ้นส์เล่าเทพนิยายให้เจนและไมเคิลฟังแต่เทพนิยายนั้นไม่ใช่เรื่องอย่างเจ้าชายพบเจ้าหญิงหากแต่เป็นเทพนิยายสมัยใหม่แฝงด้วยหลักจิตวิทยาของยุคปัจจุบันเช่น เรื่อง “เด็กเลี้ยงห่านและคนเลี้ยงหมู”

เป็นเรื่องที่คนที่ไม่ยอมรับสภาพความเป็นจริงของตัวเองซึ่งเป็นหลักธรรมดาของมนุษย์ทำให้เด็กเข้าใจถึงชีวิตตามหลักความเป็นจริงและจินตนาการที่แมรี่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อสอนเด็กๆด้วย



วันหนึ่งก็ต้องหมดเวลาของแมรี่ในการเป็นพี่เลี้ยงให้แก่เด็กไม่ว่าแมรี่จะรักและผูกพันกับพวกเด็กๆมากซักแค่ไหนหรือพวกเด็กๆจะอ้อนวอนซักแค่ไหนแมรี่ก็ยังคงต้องจากไป เธอค่อยๆหายไปกับม้าหมุนที่เธอนั่ง ม้าหมุนนั้นลอยขึ้นไปบนฟ้าด้วยการหมุนที่เร็วจนกระทั่งหายลับตาไปแต่กลับมีดวงดาวที่เกิดจากม้าหมุนนั้นขึ้นมาแทนเป็นดวงดาวที่เจิดจรัสอยู่บนท้องฟ้าเหมือนคาวมเจิดจรัสของแมรี่ ป๊อปปิ้นส์


เธอจากไปโดยทิ้งไว้แต่เพียงสร้อยให้ดูต่างหน้าและที่สำคัญเธอได้ให้บทเรียนที่เธอสอนมากมายและเธอก็ได้ให้จินตนาการแก่พวกเด็กๆ อย่างไม่มีวันลืมเลือน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2009, 12:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




m204882.jpg
m204882.jpg [ 53.99 KiB | เปิดดู 6899 ครั้ง ]
สวัสดีค่ะ คุณวลัยพร :b8:
สบายดีไหมคะ :b16:
ว่าจะมาเยี่ยมหลายวันแล้ว แต่ไม่รู้จะโพสต์ที่บ้านไหนดี
บ้านคุณวลัยพรมีหลายหลังนะคะ
แอบเข้าไปยังไม่น่าจะครบทุกหลังนะคะ :b1:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 19 ก.ย. 2009, 13:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2009, 18:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




8d14c15da9ebbab08a49da6a01f19c6c_web.gif
8d14c15da9ebbab08a49da6a01f19c6c_web.gif [ 90 KiB | เปิดดู 6086 ครั้ง ]

คุณริน cool

ยินดีต้อนรับค่ะ เข้าได้ทุกบ้านเลยนะคะ
ถ้ามีนิทานหรือเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง นำมาโพสได้เลยค่ะ
มองๆอยู่เหมือนกันค่ะ เมื่อคืนก็คิดถึง
เห็นคุณมีความเพียรแล้วรู้สึกชื่นใจค่ะ
มีเพลงนำไปฝากไว้ให้นะคะ smiley

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ย. 2009, 21:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




.11.bmp
.11.bmp [ 225.16 KiB | เปิดดู 6065 ครั้ง ]

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ยังมีดินแดนหนึ่ง ที่เจริญรุ่งเรืองด้วยอารยธรรม
ณ ที่แห่งนี้ยังมีเจ้าหญิงโฉมงาม
เป็นจุดกำเนิดแห่งสุข แล โศกนาฎกรรม

เนื่องด้วยเจ้าหญิง เจริญวัย แลลาวัณย์
พระราชาจึ่งได้จัดสร้างวิหาร แลทำพิธีบวงสรวง
อัญเชิญเทพจิตวิญญาณแห่ง ดิน น้ำ ไฟ แล ลม
มาเพื่อที่จะเป็นเป็นเจ้าบ่าวแห่งนาง

เทพจิตวิญญาณแห่งดินในขณะนั้นกล่าวว่า
"ตอนนี้ แผ่นดินเพิ่งถือกำเนิด เรายังมีภาระมากมาย จึงขอสละสิทธิ์"

ดังนั้น เทพจิตวิญญาณแห่งน้ำ จึงลงมาเพื่อพบกับนาง
แลกล่าวกับนางว่า
"หากเลือกเรา เราจะมอบความฉลาดให้แก่นาง"
นางรับฟังแลตอบว่า
"สำหรับมนุษย์ อย่างข้าแล้ว ความฉลาดที่มากเกินไป ย่อมนำภัยมาสู่ตน"
เทพจิตวิญญาณแห่งน้ำ จึงกลับไป

จากนั้น เทพจิตวิญญาณแห่งไฟ จึงลงมาเพื่อพบนาง
"หากเลือกเรา เราจะมอบความน่าสะพรึงกลัวให้แก่นาง"
นางก็ยังตอบว่า "ความน่ากลัวที่มากเกินไป ก็เป็นภัยเช่นกัน"
เทพจิตวิญญาณแห่งไฟ จึงกลับไป

แล้ว เทพจิตวิญญาณแห่งลม จึงลงมาพบกับนาง
เมื่อพบนาง เทพจิตวิญญาณแห่งลม ได้คุกเข่าลงต่อหน้านาง
แลจูบชายเสื้อนาง พร้อมกับกล่าวว่า
"เราขอมอบความรักแก่ท่าน จนหมดหทัย แลขอรับใช้นางตลอดไป"
นางซาบซึ้งในความรักของเทพจิตวิญญาณแห่งลม จึงกล่าวว่า
"สำหรับมนุษย์อย่าเราแล้ว สิ่งเดียวที่เทียบกับเทพเจ้าได้คือหัวใจรักอันมั่นคง"
นางจึงเลือกเทพแห่งลม ในท้ายที่สุด

พระราชาและประชาชนต่างยินดีในความรักของทั้งสอง
แต่เทพจิตวิญญาณแห่งน้ำ และ เทพจิตวิญญาณแห่งไฟ ไม่พอใจ
เนื่องจากเทพจิตวิญญาณแห่งลม เป็นน้องคนสุดท้อง
แต่ได้เจ้าหญิงไป

จึงได้บันดาลให้เกิดน้ำท่วม และไฟไหม้ผืนแผ่นดินนั้น
เพียงชั่ววาร เมืองทั้งเมือง ก็จบหายไป....

เทพจิตวิญญาณแห่งลม ไม่อาจะทำการใดเพื่อช่วยเหลือเมืองได้
เนื่องจากเป็นน้องสุดท้อง มีพละกำลังไม่มาก

เมื่อเทพจิตวิญญาณแห่งดิน รู้เรื่องก็โกรธเจ้าหญิงเป็นอันมาก
เนื่องจากคิดว่านางเป็นต้นเหตุแห่งความพินาศ..ที่เกิดขึ้น
จึงได้ฆ่า....และสร้างผืนแผ่นดินใหม่ขึ้นจากร่างของนาง...

เทพจิตวิญญาณแห่งลม เสียใจเป็นอย่างยิ่ง
จึงยังคนพัดวนเวียน อยู่ใกล้ๆกับแผ่นดิน
อันเป็นร่างของนางที่เป็นดังดวงใจ
จากนั้นมาจนถึงปัจจุบัน....และต่อไปในอนาคต

........................................





สายลม .... อยู่กับคุณในทุก ๆ ที่ ทุก ๆ เวลา

เหมือนมีความรู้สึกว่า คุณ ถูกโอบกอดด้วย " สายลมแห่งรัก "

อ้อมแขนที่ปราศจากตัวตน แต่อบอุ่นถึงขั้วหัวใจ

ขอแค่เพียงหลับตา และรับรู้ถึงความรัก ความอบอุ่น ผ่านทางสายลมแห่งรัก

เพียงเท่านี้ไม่ว่าคุณ หรือ เค้าคนนั้นจะได้อยู่ด้วยกันหรือไม่

ห่างไกลกันคนละซีกโลก หรือแม้กระทั่งคนละภพภูมิ

คุณก็ยังสามารถสัมผัส " ความรัก" ที่สวยงามได้เสมอ

ไม่ว่าจะห่างไกลกันแค่ไหน หรือ เวลาผ่านไปนานเท่าใดก็ตาม





.....เพราะ " รัก " ยังคงอยู่ในหัวใจของคุณเสมอ.....


.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 21 ก.ย. 2009, 00:21, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ย. 2009, 23:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




castel-rainbow.jpg
castel-rainbow.jpg [ 67.99 KiB | เปิดดู 6025 ครั้ง ]
walaiporn เขียน:

คุณริน cool

ยินดีต้อนรับค่ะ เข้าได้ทุกบ้านเลยนะคะ
ถ้ามีนิทานหรือเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง นำมาโพสได้เลยค่ะ
มองๆอยู่เหมือนกันค่ะ เมื่อคืนก็คิดถึง
เห็นคุณมีความเพียรแล้วรู้สึกชื่นใจค่ะ
มีเพลงนำไปฝากไว้ให้นะคะ smiley




ขอบพระคุณค่ะ :b8:
เพลงฟังสบายจริง ๆ ค่ะ :b16:
รู้สึกเหมือนตัวเบา จะลอยได้ :b16:

ตอนนี้ขอเป็นผู้อ่านไปก่อนนะคะ :b17:

เรื่องข้างบนนี้ซึ้งจังนะคะ :b20:
:b45: ความจริงก็ซึ้งทุกเรื่องค่ะ (จริง ๆ นะคะ) :b45:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 20 ก.ย. 2009, 23:53, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2009, 21:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitledz.bmp
untitledz.bmp [ 198.1 KiB | เปิดดู 5965 ครั้ง ]

ก้อนหินกับดาวตก

~ก้อนหินก้อนหนึ่งอาศัยอยู่ก้อนเดียวท่ามกลางทุ่งดอกทานตะวันกว้างไกลสุดสายตา มันเป็นหินแกรนิตสีเทาหน้าตาธรรมดาจึงถูกพวกดอกทานตะวันหัวเราะเยาะ และพากันกลั่นแกล้งมันด้วยการยื่นใบออกมาบังร่างของมันเอาไว้

~"ก้อนหินหน้าตาธรรมดาอย่างเธอไม่มีใครอยากเจอ หรอก" เจ้าก้อนหินฟังพวกดอกทานตะวันพูดแบบนี้จนจำได้ขึ้นใจ แต่มันไม่สามารถเถียงพวกหล่อนได้

~ทุกคืนเจ้าก้อนหินจะเฝ้ามองดูดวงดาวบนท้องฟ้า ด้วยแววตาเคลิ้มฝัน มันอยากจะมีแสงสีทองแบบดวงดาวบ้าง มันรู้ว่าดวงดาวก็เป็นก้อนหินเหมือนกัน เจ้าก้อนหินตั้งใจว่าสักวันมันจะเดินทางไปยังท้องฟ้า และถามดวงดาวว่าทำอย่างไรมันจึงจะมีแสงสีทองแบบนั้นบ้าง

~จนกระทั่งคืนหนึ่งมีบางสิ่งบางอย่างตกลงมาจากฟ้า เสียงเจ้าสิ่งนั้นกระแทกกับพื้นทำให้มันตกใจตื่น พอลืมตาขึ้นมาก้อนหินก็เจอกับวัตถุประหลาดหน้าตาน่าเกลียด แถมผิวยังสีดำปี๋ มีรูตะปุ่มตะป่ำทั่วร่าง

~"อี๋!!!เธอเป็นตัวอะไรน่ะ หน้าตาน่าเกลียดจัง อัปลักษณ์กว่าเจ้าก้อนหินเสียอีก" ทานตะวันดอกหนึ่งถาม

~"ฉัน...คือดาวตก ฉันมาจากท้องฟ้า" เจ้าตัวอัปลักษณ์พูด

~"เธอมาจากท้องฟ้าเหรอ" เจ้าก้อนหินถาม "ถ้าเช่นนั้น เธอรู้จักกับพวกดวงดาวไหม เธอรู้หรือเปล่า ว่าพวกเขาทำอย่างไรถึงได้มีแสงสีทองสวยงามแบบนั้น ฉันอยากเป็นแบบดวงดาวบ้าง"

~"รู้สิ...ฉันรู้ดีเลยล่ะ เพราะฉันเคยเป็นดวงดาวมาก่อน"

~"เอ๋!!!เธอเป็นดวงดาวเหรอ แต่เธอไม่เห็นมีแสงสีทองเลยนี่นา และตัวเธอก็มีสีดำน่าเกลียดไม่เหมือนพวกดวงดาวแสนสวยเลย"

~"ฉันคือดวงดาวจริงๆ เมื่อก่อนหน้าที่ฉันจะเป็นดวงดาวฉันก็เป็นแค่ก้อนหินเหมือนเธอ แต่ฉันอยากสวยสง่ายิ่งกว่าใครๆ ฉันอยากเปล่งแสงบนท้องฟ้า ฉันจึงไปเป็นดวงดาว แต่ความสวยงามที่เธอเห็นนั้นเป็นแค่สิ่งมายา มันค่อยๆเผาผลาญร่างกายของฉัน เผาผิวของฉันให้เป็นสีดำน่ารังเกียจ ในที่สุดเมื่อแสงนั้นจากไป ตัวฉันก็น่าเกลียดจนฉันไม่สามารถยอมรับร่างที่แท้จริงของฉันได้ ฉันจึงหนีลงมาจากท้องฟ้า และกลายเป็นดาวตกหน้าตาอัปลักษณ์แบบที่เธอเห็น"

............................


อ่านเรื่องนี้แล้วอาจรู้สึกว่ามันเหมือนยังไม่จบ
ใช่...มันยังไม่จบ
เจ้าก้อนหินยังต้องเลือก
ว่ามันจะเป็นแค่ก้อนหินธรรมดาในทุ่งทานตะวันอันกว้างใหญ่
มีชีวิตผ่านไปเรื่อยๆ ในแต่ละวัน ถูกใบของต้นทานตะวันบดบัง
ไม่อาจมองเห็นดวงอาทิตย์ที่ส่องกระจ่างบนฟ้า
ในที่สุดความฝันและความหวังก็เลือนหาย
กลายเป็นสิ่งไร้จิตใจ
เมื่อไร้จิตใจก็ไม่ต่างจากไร้ชีวิต
หรือมันจะเลือกเดินทางสู่ท้องฟ้า
กลายเป็นดวงดาวที่รอวันร่วงหล่น
หรือบางทีมันอาจไปไม่ถึงด้วยซ้ำ
ถ้าคุณเป็นมัน คุณจะเลือกอะไร

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2009, 17:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




0001294.gif
0001294.gif [ 77.85 KiB | เปิดดู 5934 ครั้ง ]
หวัดดีค่ะพี่walaiporn......ค่ะ tongue
เข้ามาอ่านจบแล้วค่ะ..อ่านหนอนน้อยแล้วด้วย..ดีจัง
พี่เป็นเพื่อนกับพี่ปลายฟ้าหรือค่ะ..อ่านที่เขียนโต้ตอบกัน..ดีจังค่ะ

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2009, 18:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




7.bmp
7.bmp [ 92.48 KiB | เปิดดู 5925 ครั้ง ]
ป่าอ้อ เขียน:
หวัดดีค่ะพี่walaiporn......ค่ะ tongue
เข้ามาอ่านจบแล้วค่ะ..อ่านหนอนน้อยแล้วด้วย..ดีจัง
พี่เป็นเพื่อนกับพี่ปลายฟ้าหรือค่ะ..อ่านที่เขียนโต้ตอบกัน..ดีจังค่ะ



cool

จ้าป่าอ้อ .... :b12:

ก็เหมือนป่าอ้อแหละจ้ะ ... เราเริ่มต้นจากมิตรภาพเล็กๆกันก่อนน่ะจ้ะ
แล้วก็มากลายเป็นเพื่อนที่รู้จัยยยยกันค่ะ :b32:
ยินดีต้อนรับป่าอ้อนะจ๊ะ ...
เรียกพี่น้ำก็ได้ค่ะ เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนี่คะ
พี่ฟ้าเล่าเรื่องป่าอ้อให้พี่น้ำฟังแล้วค่ะ
พร้อมๆกับบอกฝากป่าอ้อไว้กับพี่น้ำแล้วค่ะ
พี่น้ำรักเด็กค่ะ .. :b32:
อ้อ!!!! .. ผู้ใหญ่ก็รักค่ะ ... รักทุกๆคนเลยค่ะ :b13:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2009, 18:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หวัดดีอีกครั้งค่ะ...ดีจัง..อ้อจะได้มีเพื่อน..
แล้วพี่ฟ้าไปไหนเหรอ....ค่ะ
แล้วพี่น้ำอยู่ที่เดียวกับพี่น้ำหรือเปล่า..ค่ะ

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2009, 18:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



พี่น้ำส่งข้อความส่วนตัวไปแล้วนะคะ :b12:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2009, 20:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




wlwjrtkrl113602573406nl9.gif
wlwjrtkrl113602573406nl9.gif [ 13.07 KiB | เปิดดู 5884 ครั้ง ]
หวัดดีค่ะ..

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2009, 20:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




.6.bmp
.6.bmp [ 221.85 KiB | เปิดดู 5870 ครั้ง ]

นิทานของพระจันทร์


พระจันทร์เฝ้าถามตัวเองเสมอว่า...เมื่อยามที่เธอลับฟ้าไป...อีกฝากของแสงสว่างที่โผล่ขึ้นมาแทนที่นั้นเป็นใครกัน...จะเป็นพระจันทร์แบบเธอหรือเปล่า....หรือจะเป็นดวงดาวดวงหนึ่ง...เธอสงสัยและอยากรู้เสมอว่าเค้าคนนั้นคือใคร....



และเมื่อความมืดมิดเข้าครอบงำอีกครั้ง...ทุกอย่างดูเงียบสงบ...ทุกสิ่งหยุดเคลื่อนไหว...มีเพียงสายลมที่ไม่เคยหลับอยู่เป็นเพื่อนคุยกับพระจันทร์เสมอ...ในคืนนี้พระจันทร์ตัดสินใจถามเพื่อนรักถึงแสงลึกลับนั่น....



//สายลมเพื่อนรัก...ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอ...



เธอเป็นผู้ที่ไม่เคยหลับใหล...และไปได้ทุกแห่งหน...เธอรู้ไหมว่าเมื่อฉันลับฟ้าไป...ใครกันที่ให้แสงสว่างแทนฉัน//



แน่นอนว่าคำถามนี้...ไม่ยากเลยที่สายลมจะตอบเพราะสายลมมีอยู่ทุกที่ทุกแห่งหน...ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน...สายลมจึงรีบตอบกลับไปในทันที



//พระจันทร์เพื่อนรัก...แสงสว่างนั่นใช่ใครที่ไหน...เค้าคือผู้ให้ชีวิตแก่สรรพสิ่งบนโลก...เค้าทำให้โลกมีชีวิตชีวา...มีสีสันให้เห็น...เค้าทำให้ทุกอย่างบนโลกดูสดใส//



พระจันทร์ข้องใจในคำตอบของเพื่อนรัก



//แล้วสีสันสดใสมันเป็นยังไงกัน?//



สายลมรีบตอบอย่างทันที…โดยไม่ทันได้นึกใส่ใจความรู้สึกของเพื่อนรัก



//ก็ไม่มืดมิดเหมือนตอนนี้ไงหล่ะ....//



ไม่ทันที่จะได้รู้ว่าเค้าคนนั้นเป็นใคร...สายลมก็พัดไปที่อื่นซะก่อน



....พระจันทร์คิดถึงคำว่า...สีสันสดใส...ว่ามันคืออะไร...มันทำให้บนโลกมีความสุขได้จริงๆเหรอ...



ขณะที่พระจันทร์...กำลังครุ่นคิดอยู่...เธอก็ได้ยินเสียงบางอย่าง



และนั่นก็คือ...ต้นหญ้าบนภูเขา



//เอ๊ะ...นี่เธอไม่นอนหรือ...//



พระจันทร์ถามต้นหญ้าต้นน้อยนั้น....



//ฉันนะเหรอ...ก็นอนไม่หลับนะสิ...เธอบ่นพึมพำ...ฉันเลยนอนไม่หลับเลย//



//เอ่อ....ขอโทษนะ//



พระจันทร์ขอโทษต้นหญ้าน้อยด้วยความจริงใจ



และเธอก็ตัดสินใจถามถึงแสงนั่นอีกครั้ง....



//ต้นหญ้า...ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอ....เธออยู่บนโลกนี้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยใช่ไหม//



//ก็ใช่นะสิ//



//แล้วตอนกลางวันเนี่ย....ใครกันเหรอที่ให้สีสันกับโลกใบนี้//



ต้นหญ้าคิดอยู่พักหนึ่งก็ตอบว่า



//อ้อ....เค้าคือพระอาทิตย์....เค้าเป็นผู้ให้ชีวิตกับต้นไม้ใบหญ้าอย่างฉัน...เค้าทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกดำเนินไป...//



ต้นหญ้าบรรยายความดีต่างๆนาๆของพระอาทิตย์ให้กับพระจันทร์ฟัง....



พระจันทร์เองเมื่อได้ยินก็ทำให้เธอหลงรักพระอาทิตย์เข้าอย่างจัง...และบอกกับตัวเองว่า...สักวันเธอจะต้องเจอกับพระอาทิตย์ให้ได้



และแล้วค่ำคืนนี้ก็ผ่านพ้นไป....พระอาทิตย์ก็โผล่ออกมาทำหน้าที่ของตัวเองเช่นทุกวัน..โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝากของแสงสว่างนั่นกำลังพร่ำเพ้อรำพันถึงเขาอยู่....ดูเหมือนว่าเค้าไม่มีทางจะรู้เลยด้วยซ้ำไป...ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองไปเช่นเคย.....



ด้านพระจันทร์เมื่อความมืดกลับมาอีกครั้งเธอก็ออกมาทำหน้าที่เช่นเคย...เธอในวันนี้เธอตัดสินใจที่จะไม่ลับขอบฟ้าไป...ถ้าหากเธอไม่ได้เจอกับพระอาทิตย์ที่เป็นที่รัก....



เมื่อเวลาผ่านไป...แสงแห่งอรุณก็กำลังโผล่ขึ้นมาอีกฟากของขอบฟ้า...พระจันทร์ฝืนตัวเองที่จะอยู่รอดูผู้เป็นที่รัก....แต่ทว่ามันจะสำเร็จไปได้อย่างไรกัน....



ค่ำคืนแห่งความเจ็บปวดเข้าเกาะกุมหัวใจของพระจันทร์...เธอเจ็บปวดและแสนจะทรมานที่ไม่สามารถจะพบผู้เป็นที่รักได้...แต่นั่นก็คือความจริง...ที่ต้องเป็นไปตามธรรมดาอยู่แล้ว...ทำให้แต่ละค่ำคืนมีแต่ความมืดมิด...เพราะพระจันทร์ไม่สามารถออกมาทำหน้าที่ของตัวเองได้...ได้แต่จมอยู่กับความทุกข์ที่เต็มหัวใจ...หลับใหลอยู่ในห้วงแห่งรัตติกาลหลีกเหลี่ยงที่จะพบปะใครๆ...ทุกค่ำคืนจึงมืดสนนิดเดือดร้อนไปถึงท้องฟ้าผู้ยิ่งใหญ่...ต้องมาจัดการปัญหานี้....



//พระจันทร์เอ๋ย...เหตุใดเจ้าจึงไม่ทำหน้าที่ของตัวเองเล่า//



//ข้าแต่ท้องฟ้าผู้ยิ่งใหญ่...ข้าน้อยทรมานจิตใจยิ่งนักจนมิอาจจะทำอะไรได้...ข้าน้อยรู้สึกหมดหวัง...ตัวข้าน้อยนี้ช่างไม่มีความสามารถเลย//



//พระจันทร์เอ๋ยเจ้ามีปัญหาสิ่งใดก็จงเล่าแก่ข้าฟังเถิด...อย่าเก็บไว้แต่เพียงผู้เดียวเลย//



พระจันทร์ได้ยินเช่นนั้นก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ท้องฟ้าฟัง



//โธ่เอ๊ย...พระจันทร์น้อยเจ้าช่างอ่อนไหวเหลือเกิน...การที่เจ้าไม่สามารถพบกับพระอาทิตย์ได้มันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว...เจ้าจงคิดดูให้ดีทุกสิ่งถูกกำหนดไว้แล้ว...เจ้าอาจจะเจ็บปวดไปบ้าง...แต่หากลองคิดดูอีกด้าน...อย่างน้อยเจ้ากับพระอาทิตย์ก็อยู่บนท้องฟ้านี้เหมือนกัน...ถึงแม้เจ้าจะได้เห็นเพียงแค่แสงรำไรของเค้า...ได้เห็นเค้าเพียงไกลๆ...ก็ใช่ว่าไม่มีเค้าอยู่เจ้ายังสัมผัสและรับรู้ได้ว่ามีเค้าอยู่บนท้องฟ้านี้เช่นกัน...ถึงแม้จะไม่ได้พบกับเค้าใช่ว่าเจ้าจะรักเค้าไม่ได้หนิ...แล้วเจ้ายังจะเศร้าอีกเหรอเปล่า..//



//ข้าแต่ท้องฟ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่ท่านกล่าวมานั่นถูกต้องแล้ว...แต่ทว่าพระจันทร์อย่างข้าไม่สามารถทำให้โลกสดใสได้//



//พระจันทร์น้อยเอ๋ย...ความสามารถของเจ้าไม่ได้ต่างจากพระอาทิตย์เลยสักนิด...เพราะแสงแห่งเจ้าก็คือแสงแห่งพระอาทิตย์...ที่เจ้ามีแสงสว่างได้ก็เพราะแสงของพระอาทิตย์เพราะฉะนั้นความสามารถของเจ้าไม่ได้ต่างจากพระอาทิตย์เลยนะ....//



พระจันทร์ได้ยินดังนั้นก็ดีใจ...และภูมิใจที่เธอได้รักพระอาทิตย์ดวงนี้



//พระจันทร์เอ๋ยทีนี้เจ้าจะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองได้หรือยังหละ...//



//ข้าน้อยรู้แล้วว่าจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด...ถึงแม้ว่าจะไม่มีทางได้พบกับพระอาทิตย์ก็ตามแต่ข้าน้อยรู้เสมอว่าพระอาทิตย์จะอยุ่กับข้าน้อยเสมอ...เพราะแสงของข้าน้อยก็คือแสงแห่งพระอาทิตย์นั่นเอง...//



....หลังจากนั้นพระจันทร์ก็ตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองเสมอมา...แต่ทว่า..ก่อนลับขอบฟ้า...เธอจะเฝ้ามองอีกฟากของขอบฟ้าเสมอ...และดีใจทุกครั้งแม้จะได้เห็นเพียงแค่แสงรำไรของผู้เป็นที่รักก็ตามที....

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 23:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitled2.bmp
untitled2.bmp [ 269.71 KiB | เปิดดู 5696 ครั้ง ]
เม็ดทรายสีม่วง

กาลครั้ง หนึ่งนานมาแล้ว…เมื่อครั้งที่ท้องทะเลยังไม่มีคลื่น ทรายเม็ดน้อยหลายต่อหลายเม็ด
นอนเรียงรายอยู่ใต้น้ำอย่างมีความสุข พวกมันรู้ดีว่า ไม่มีที่ไหนเหมาะสำหรับพวกมันเท่ากับที่นี่
เม็ดทรายเกิดมาเพื่อคู่กับท้องทะเล ทุกอย่างถูกกำหนดไว้อย่างนั้น และเม็ดทรายทุกเม็ดก็ยินดี
ให้เป็นเช่นนั้น เว้นแต่เม็ดทรายสี ม่วง มันไม่มีความสุขกับการเป็นทรายในท้องทะเลแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว

"ฉันอยากเป็นดาว" ทรายสีม่วงรำพึง "ไม่มีประโยชน์ที่ฉันจะนอนอยู่ใต้ท้องทะเลตลอดกาล"

เม็ดทรายสีม่วงมองผ่านผิวน้ำไปยังท้องฟ้ากว้างใหญ่ บนนั้นมีดาวนับร้อยกะพริบ พราวแสงแวววาว

" ดวงดาวมีค่าต่อทุกสิ่งบนโลก เป็นแสงส่องทิศทางให้กับนักเดินทาง เป็นดวงตาของคนรัก
ยามห่างไกล เป็นวิญญาณของคนสำคัญที่จากไป และเป็นสิ่งมีค่าของจักรวาล"

"นอนเสียเถิดทรายสีม่วง อย่าเพ้อเจ้อนักเลย" เม็ดทรายสีน้ำตาลอ่อนเอ่ย "ถึงอย่างไรเม็ดทราย
ก็เป็นเม็ดทราย พวกเราเหมาะกับท้องทะเลเท่านั้น"

"เธอพูดอย่างเม็ดทรายที่ไม่มีความฝัน" เม็ดทรายสีม่วงตัดพ้อ "แต่ฉันมีความฝัน"

" ฉันไม่เห็นว่าความฝันจะทำให้เรามีความสุขตรงไหน เราเกิดมาเป็นเม็ดทราย ความสุข
ของเราคือการนอนอยู่นิ่ง ๆ ภายใต้ท้องทะเล ไม่ใช้การล่องลอยอย่างไร้จุดหมายบน ท้องฟ้า"

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 10 พ.ย. 2009, 23:48, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 23:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitled2.bmp
untitled2.bmp [ 468.8 KiB | เปิดดู 5701 ครั้ง ]

"เธออ่อนแอเกินไป" เม็ดทรายสีม่วงเอ่ย " เธอไม่มีวันกล้าหาญมากขึ้นกว่านี้แน่ แต่ฉัน
จะไม่มีวันเป็นแบบเธอ ลาก่อนนะเม็ด ทรายสีน้ำตาลอ่อน ฉันอยากเป็นดาว และฉันก็ต้องได้เป็น"

เม็ดทรายสีม่วงค่อย ๆ เคลื่อนตัวจากท้องทะเลลอยล่องขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างแผ่วเบา

"เธอกำลังจะไปไหนหรือ เม็ดทรายสีม่วง" ท้องทะเลผู้โอบอุ้มเม็ดทรายสีม่วงมาตลอดชีวิตเอ่ยถาม

"ท้องฟ้า" เม็ดทรายสีม่วงตอบ "ฉันจะไปเป็นดาว"

ท้องทะเลนิ่งงัน แต่หัวใจของมันเต้นไหวอย่างรุนแรง
"ฉันทำผิดพลาดหรือเม็ดทรายสีม่วง หรือว่าฉันอ่อนโยนต่อเธอไม่พอ" ท้องทะเลสะอื้น

" ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เธออ่อนโยนที่สุดในชีวิตฉัน แต่ฉันมีความฝัน ฉันอยากยิ่งใหญ่และ
มีค่าเหมือนดวงดาว ถ้าเธอรักฉัน เธอต้องช่วยฉันนะ" เม็ดทรายสีม่วงอ้อนวอน

ท้อง ทะเลยังคงสะอื้นเบา ๆ ตลอดเวลา มันโอบอุ้มเม็ดทรายสีม่วงมาด้วยความรัก มันมีความสุข
จนลืมว่า วันหนึ่งเม็ดทรายสีม่วงอาจต้องจากมันไป แต่ในที่สุด…ท้องทะเลก็ตัดสินใจ
ทอดตัวยาวไปไกลแสนไกล จนปรากฏเส้นยาวสีขาวซึ่งจรดท้องฟ้าและผืนน้ำเข้าด้วยกัน

"ที่เส้นขอบฟ้า…เธอจะไปถึงท้องฟ้าได้" มันเอ่ย "ลาก่อนนะเม็ดทรายสีม่วง
ฉันอาจดูแลเธอไม่ได้ตลอดชีวิต แต่ฉันก็จะรักเธอตลอดชีวิต" "ขอบคุณมากนะ ฉันก็รักเธอ"

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 23:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitled2.bmp
untitled2.bmp [ 124.8 KiB | เปิดดู 5702 ครั้ง ]

เม็ดทรายสีม่วงเอ่ยและเคลื่อนตัวลอยไปเรื่อย ๆ ผ่านวัน ผ่านคืน จนในที่สุดมันก็ไปถึงเส้นขอบฟ้า
แล้วเม็ดทรายสีม่วงล่วงลอยไปบนท้องฟ้า ลอยไปจนถึงหมู่ดาวสว่างไสว

"สวัสดีดวงดาว" เม็ดทรายสีม่วงเอ่ยทักทาย
"สวัสดีจ้ะ เธอเป็นใครหรือ?" ดาวดวงหนึ่งเอ่ยถาม
"ฉันคือเม็ดทรายสีม่วง ขอฉันเป็นดวงดาวกับเธอนะ" เม็ดทรายเอ่ย
"แต่เธอไม่มีแสงสว่าง…" ดาวกระซิบ
"แค่ให้ฉันได้เป็นดาวก็พอ ฉันยินดีเป็นดาวที่มืดมนที่สุดบนท้องฟ้า" มันยังคง อ้อนวอน

ดวง ดาวไม่พูดอะไรต่อไป เพียงแต่กะพริบแสงอีกครั้ง เม็ดทรายสีม่วงจึงเคลื่อนตัวไปอยู่ข้าง ๆ
ดวงดาว มันพยายามกะพริบแสงให้เหมือนดวงดาว รอฟังเสียงอธิษฐานจากผู้คน รอที่จะชี้นำทาง
ให้แก่นักเดินทาง รอที่จะเป็นดวงตาคนรักของใครสักคนหนึ่ง และรอเป็นดวงวิญญาณให้ใครสักคนคิดถึง

แต่เม็ดทรายก็คือเม็ดทราย มันมืดมนจนเกินไป ไม่มีใครใส่ใจ หรือแม้แต่มองเห็นมัน

"ฉันเป็นดาวไม่ได้จริง ๆ" เม็ดทรายสีม่วงร้องไห้ "ฉันเป็นได้แค่เม็ดทรายที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น"
"เธอได้เป็นดวงดาวแล้ว เม็ดทรายสีม่วง" ดวงดาวปลอบโยน "ความฝันของฉันไร้ค่า"
เม็ดทรายสีม่วงยังคงสะอื้นต่อไป "ฉันดั้นด้นเดินทางมาไกล แต่ฉันกลับผิดหวัง
ฉันเพียงอยากเป็นดวงดาวที่มีค่าต่อผู้คนเท่านั้น"

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 80 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร