วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 08:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 15:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


เรื่องที่ 9 เซ็นเนื้อเซ็นกระดูก




รูปภาพ





:b41: :b41: :b41: :b41: เมื่อท่านโพธิธรรมอยู่ในประเทศจีนนานถึง ๙ ปี ท่านก็อยากจะกลับอินเดีย ทีนี้ไหนๆ
จะกลับทั้งที อยากจะลองสอบดูว่า บรรดาศิษย์ต่างๆ ที่สอนไว้ที่นี่ ใครจะรู้อะไรกี่มากน้อย ก็เลยเรียก
มาประชุม ถามทำนองเป็นการสอบไล่ว่า ธรรมะที่แท้จริงนั้นคืออะไร ข้อสอบมีเพียงสั้นๆว่า "ธรรมะที่แท้จริง นั้นคืออะไร?"
ศิษย์ชั้นหัวหน้าศิษย์ ที่เรียกว่า ศิษย์ชั้นมีปัญญา เฉียบแหลม ชื่อ ดูโฟกุ ก็พูดขึ้นว่า
"ที่อยู่เหนือการยอมรับ และอยู่เหนือการปฏิเสธ นั้นแหละ คือ ธรรมะ ที่แท้จริง"
คำตอบอย่างนี้ ก็ถูกมากแล้ว ถ้าผู้ใดฟังไม่เข้าใจเรื่องนี้ พึงจัดตัวเองว่า เป็นผู้ที่ยังไม่รู้ธรรมะได้เลย
ไม่รู้ธรรมะอะไรเลยก็ว่าได้ ถ้าไม่รู้จัก สิ่งที่เหนือการยอมรับ และการปฏิเสธ ท่านอาจารย์ ก็บอกว่า "เอ้า! ถูก! แกได้ หนังของฉันไป"
นี้หมายถึง หนังที่หุ้มชั้นนอก ไม่ใช่เนื้อ ไม่ใช่กระดูก คือ ชั้นหนังแท้ๆ เสร็จแล้ว คนนี้ นั่งลง
นางชีคนที่ชื่อ โซจิ ก็ยืนขึ้นแล้วบอกว่า "สิ่งที่เห็นครั้งเดียว แล้วเป็นเห็นหมด เห็นตลอดกาล นั่นแหละ คือธรรมะแท้จริง"
ท่านอาจารย์ ก็บอกว่า " เอ้า! ถูก! แกได้ เนื้อของฉันไป" คือมันถูกกว่าคนทีแรก จึงได้เนื้อไป แล้วเขาก็นั่งลง
คนที่สาม ยืนขึ้น ตอบว่า "ที่ไม่มีอะไรเลย นั่นแหละ คือ ธรรมะ"
เขาใช้คำว่า ไม่มีอะไรเลย เท่านั้น แต่เราขยายความออกไปก็ได้ว่า ไม่มีอะไรที่ถือเป็นตัวตนเลย นั่นแหละคือธรรมะแท้จริง
อาจารย์ ก็บอกว่า "ถูก! แกได้ กระดูกของฉันไป" คือ ลึกถึงชั้นกระดูก
ศิษย์อีกคนหนึ่ง เป็นศิษย์ก้นกุฎิ ชื่อ เอก้า ยืนขึ้น หุบปากนิ่ง แล้วยังเม้มลึกเข้าไป ซึ่งแสดงว่า นิ่งอย่างที่สุด เป็นการแสดงแก่อาจารย์ว่า นี่แหละ คือ ธรรมะ การที่ต้อง หุบปาก อย่างนี้แหละ คือธรรมะ อาจารย์ ก็ว่า "เออ! แกได้ เยื่อในกระดูก ของฉันไป"


:b13: :b13: :b13: :b13: :b13: :b13: :b13: :b13: :b13: :b13:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 17:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


เรื่องที่ 10 เพื่อจิตใจงดงาม



รูปภาพ




:b45: :b45: :b45: ดึกสงัด ขโมยคนหนึ่ง ถือมีดย่องเข้าไปในอาราม ข่มขู่อาจารย์เซ็นชีหลี่ว่า "เอาเงินออกมาเสียดี ๆ ไม่อย่างนั้นจะฆ่าเสีย"อาจารย์เซ็นชีหลี่กล่าวว่า "อย่ามารบกวน อาตมาทำสมาธิภาวนา เงินอยู่ในลิ้นชัก ไปหยิบเอง!" ขโมยคนนั้นรีบไปค้นที่ลิ้นชัก เก็บเอาเงินไปหมด ขณะที่จะจากไปอาจารย์เซ็นชีหลี่กล่าวว่า "อย่าเอาไปหมดนะ เหลือไว้หน่อยให้อาตมาซื้อดอกไม้ไหว้พระพรุ่งนี้" ขโมยจึงทิ้งเงินเล็กน้อยไว้ในลิ้นชัก พอหันหลังจะจากไปอาจารย์เซ็นชีหลี่ก็กล่าวอีกว่า "ไม่ขอบคุณสักคำหรือ?" ขโมยจึงกล่าวขอบคุณก่อนสาวเท้าจากไป หลังจากนั้น ขโมยผู้นี้ได้ก่อคดีขึ้นอีก กระทั่งถูกมือปราบจับตัวไว้ได้ ขโมยให้การว่าเคยปล้นเงินของอาจารย์เซ็นชีหลี่ขณะที่มือปราบเรียกตัวอาจารย์เซ็นชีหลี่ไปให้การชี้ตัวจำเลย อาจารย์ชีหลี่กลับให้การว่า "เขาไม่ใช่ขโมย เขาไม่ได้ปล้นอาตมา อาตมาให้เงินเขาเอง เขาขอบคุณอาตมาแล้ว" คำให้การของอาจารย์เซ็นชีหลี่ช่วยให้ขโมยผู้นี้ได้ลดหย่อนผ่อนโทษ เมื่อขโมยผู้นี้พ้นโทษจึงปลงผมออกบวชขอเป็นศิษย์จากอาจารย์เซ็นชีหลี่อย่างซาบซึ้งตื้นตันและยินยอมพร้อมใจ เห็นได้ชัดว่าอาจารย์เซ็นชีหลี่เป็นอาจารย์เซนที่แท้จริง ท่านมิเพียงละกิเลส บำเพ็ญธรรม เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากสังสารวัฏเท่านั้นยังชักนำผู้อื่นสู่หนทางหลุดพ้นด้วยจิตใจเมตตาการุณย์ เปี่ยมด้วยปฏิภาณและสติปัญญาอันเฉียบแหลม
คนเราถ้าช่วยตัวเองให้อยู่สุขสบายได้แล้ว ควรจะช่วยเหลือผู้อื่นด้วย เพราะการช่วยเหลือผู้อื่นก็เท่ากับสร้างบุญกุศลให้ตัวเอง ถึงไม่ได้หวังผลตอบแทนก็ตาม


ที่มา : http://dharma-gateway.com/misc/misc-zen-index-page.htm

:b51: :b51: :b51: :b51: :b51: :b51: :b51: :b51: :b51: :b51: :b51: :b51:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 17:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


เรื่องที่ 11 เมื่อโชอันตื่น



รูปภาพ




:b30: :b30: :b30: เมื่อหลายร้อยปีก่อน มีเรื่องเล่าที่กล่าวถึงโชอันชาวเมืองเกียวโต ผู้ซึ่งในบั้นปลายได้บวชเป็นพระในนิกายโซโตะเซน เล่ากันว่าตั้งแต่โชอันยังเป็นเด็กเล็ก ๆ คนทั้งเมืองเกียวโตก็รู้จักโชอันกันถ้วนทั่ว ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพราะโชอันเป็นลูกโทนของเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองนั้น หรือว่าพ่อของโชอันจะเป็นคนใจบุญสุนทานโอบอ้อมอารีที่สุดในเมืองนั้น และไม่ใช่เพียงว่าโชอันเป็นเด็กที่ฉลาดกว่าเด็กทั้งหมดในวัยใกล้เคียงกันทั้งไม่ใช่ว่าเพราะโชอันเป็นเด็กที่เรียบร้อยและมีจริยาวัตรงดงามที่สุดคนหนึ่งในเมืองเกียวโตแต่ทว่าสิ่งที่ทำให้คนรู้จักโชอันดีเป็นพิเศษอยู่ที่ความล้มเหลวในกิจการงานในทุก ๆ ด้านของโชอัน จนสุดท้ายเขาจำต้องหนีหายไปจากเกียวโตตั้งแต่ก่อนวัยกลางคน ไม่มีใครนึกฝันว่าในที่สุดโชอันผู้ล้มเหลวในชีวิตไม่เป็นท่า จะกลายเป็นพระผู้รอบรู้ปฏิบัติเซน ที่มีชื่อเสียงด้านปัญญากระเดื่องดังไปทั่วญี่ปุ่น ไม่มีใครคิดว่าเขาจะกลับมาเกียวโตอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้หายหน้าหายตาไปหลายสิบปีกลับมาในฐานะของปรมาจารย์ผู้บรรลุธรรม ทั้ง ๆ ที่ก่อนนี้โชอันคือผู้ล้มเหลวโดยแท้ความล้มเหลวของโชอันนั้นเป็นเรื่องที่ชาวเมืองเกียวโตทุกคนรู้กันทั่ว และบางคนถึงกับนำเอาเกร็ดชีวิตของโชอันไปอุปมาอุปไมยสอนลูกสอนหลาน ถึงความหายนะของโชอันที่เป็นผลของความไม่เอาไหนอย่างไม่น่าเชื่อ โชอันที่เป็นคนฉลาดที่สุดกลับบริหารทรัพย์สินสมบัติไม่เป็น หลังจากที่ท่านเศรษฐีผู้เป็นพ่อตายไป โชอันไม่ดื่มเหล้าเล่นการพนันหรือเสเพล กลับสามารถทำให้ทรัพย์สินเงินทองต้องมลายสูญหายไปจนหมดสิ้นอย่างรวดเร็วจากการบริหารงานธุรกิจของเขา
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่โชอันหมดตัวลง บรรดาลูกจ้างและคนในบ้านแทบทุกคนของโชอันพากันได้ดี หลายคนกลายเป็นเศรษฐีย่อย ๆ อีกหลายคนมีศักดิ์ศรีมีฐานะดีกว่าเดิม หรืออย่างน้อยก็พอมีพอกินไม่ต้องอาศัยหรือเป็นลูกจ้างใครอีกต่อไป นั่นล้วนเป็นผลดีผลพลอยได้จากโชอันทั้งสิ้น
ความล้มเหลวในทางเกียรติยศชื่อเสียงยิ่งไม่น่าเชื่อ แม้ว่าชาวบ้านทุกคนจะรู้จักโชอัน หลายคนได้อาศัยใบบุญของเศรษฐีที่เป็นพ่อ แต่ด้วยนิสัยยินยอมประนีประนอมของเขา ทำให้ไม่มีใครอยากเสนอตำแหน่งหน้าที่อันทรงเกียรติไม่ว่าอย่างหนึ่งอย่างใดให้กับโชอันตำแหน่งสำคัญ ๆ กลับไปได้กับคนที่เรียนหนังสือตกแล้วตกอีก จนอาจารย์ท้อใจ หรือไม่ก็ได้กับคนตลบตะแลงขี้คุยขี้เหล้า ร้ายกว่านั้น ตำแหน่งที่เกี่ยวกับความปลอดภัยและความยุติธรรม กลับไปได้กับนักเลงหัวไม้ซามูไรเศษสวะอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้ง ๆ ที่มีหญิงสาวทรงรูปโฉมฐานะและตระกูลดีหลายคนในเมือง ที่เพียงแต่โชอันสนใจบ้างหรือใช้ความพยายามบ้างแม้เพียงสักเล็กน้อย ก็จะมีโอกาสได้มาครอบครองอย่างแน่นอน แต่โชอันไม่รู้ว่าไปทำอย่างไรจึงพลาดไปทั้งหมด ปล่อยให้พวกนักเลงคนขี้คุยรวมทั้งลูกน้องลูกจ้างของโชอันเองคว้าเอาไปครองกันจนหมดสิ้น ดังนั้นหลังจากที่โชอันกลับมาและเปิดสำนักโซโตะเซน หลายคนจึงสนใจที่จะเรียนรู้ หรือว่าความสำเร็จของการแสวงหาความจริงจะได้มาก็ด้วยความล้มเหลวซ้ำซ้อนที่ปวดร้าว เมื่อหลายคนถาม โชอันจึงเล่าให้ฟังว่า เขาก็ไม่รู้ว่าอะไรคือความสำเร็จและเขาไม่สนใจตรงนั้น โชอันเพียงบอกว่า เขารู้เพียงว่าเขาได้ตื่นขึ้นจากความฝันที่ไม่ใช่ความฝันเท่านั้นโชอันบรรยายเป็นโคลงที่มีห้าบท ตามแนวที่ดัดแปลงมาจากร่ายของเดอเมลโลดังนี้ :"ข้าเดินท่องเที่ยวอดมื้อกินมื้อมาสิบเจ็ดปี ท่องเที่ยวหาความสำเร็จในโลกกว้าง พายุฝน เมฆที่มืดครึ้ม ฟ้าแลบฟ้าคะนอง ภาพที่ซ้อนภาพ ที่แท้ - เบื้องหลังคือฟ้าสีครามตะวันสีทอง" "ข้าจำได้ว่าข้าเดินเข้าไปในถ้ำที่ลึกและมืดสนิท ข้าทรุดตัวลงนั่งที่มุมหนึ่ง คนเดียวแท้ ๆ ข้าครุ่นคนึงถึงเรื่องของชีวิต ข้าครุ่นคะนึงถึงชีวิตที่เส็งเคร็ง ล้มเหลว ไร้ค่า ไร้ความหมาย" "ข้าเห็นดอกไม้บนต้นไม้หลายต้นริมทางเดิน แต่ก็เห็นเมล็ดพันธุ์อีกมากกว่ามาก ที่ไม่สามารถเติบโตเป็นต้นได้ หน่ออีกมากที่โตไม่ทันกับถูกเหยียบ ถูกสัตว์แทะวัวแพะกัดกิน แดดร้อนเฉาตาย" "ข้าเห็นไข่แมลงไข่นกไข่ต่าง ๆ มากมาย โตเป็นตัวแล้วก็ถูกกัดกินตายไป บ้างไม่ทันโตก็ฝ่อตกแตกตายไป ไข่เต่าทะเลเป็นพันเหลือเพียงหนึ่ง เพียงเพื่อหนึ่ง - พันหมื่นต้องเสียสละ"
"ข้าเห็นคนมากหลายแย่งชิงกันเพื่อเพียงหนึ่ง แย่งชิงกันเป็นนักแสดงนางงามเป็นดารา แย่งชิงเป็นใหญ่...ขอข้าก่อนเป็นหัวหน้า แย่งชิงเป็นผู้แทนรัฐมนตรีมหาเสนา แย่งกันเป็นนักปราชญ์เป็นศาสดา"
"ข้าผ่านวันชั่วโมงที่ไร้ความหมายหลากหลาย คำพูดที่ไร้ค่าหลากหลาย ความคิดพลังงานไร้ผลที่หลากหลาย แผนงานโครงการที่ไร้ความหมาย เจ็บไข้เจ็บใจคือ...ความโง่ที่หามาเอง" "ข้านึกถึงโอกาสทองแสงแห่งความสำเร็จ เกียรติยศศักดิ์ศรีที่ข้าทิ้งมันไป ความงามความยิ่งใหญ่ที่ไม่สนใจ ละทิ้งไปทั้งที่ควรหาควรได้ นึกถึงสัญญาที่ข้าไม่เคยรักษามัน" "ทั้งหมดและเดี๋ยวนี้...ข้าเข้าใจและวางเฉย ไม่เสียดายเสียใจหรือรู้สึกผิด ธรรมชาติหลากหลายไม่เท่ากัน ลำไผ่มียาวมีสั้น...ทุกตอนทุกขั้นคือความหมาย หนึ่งหรือหมื่นหรือพัน...ต่างกันที่ความหมาย...


:b38: :b38: :b38: :b38: :b38: :b38: :b38: :b38: :b38: :b38: :b38:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 08:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุคร๊าบบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2010, 10:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 16:42
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว




sufa5.jpg
sufa5.jpg [ 48.04 KiB | เปิดดู 3744 ครั้ง ]
อนุโมทนาสาธุครับผม


นำภาพมาเสริมครับ
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 20 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร